ในที่สุดคะแนน DxOMark สำหรับกล้องหลังของ iPhone 11 Pro Max ก็ออกมาจนได้ครับ โดยคะแนนเฉลี่ยรวมคือ 117 คะแนน ซึ่งเฉือนชนะ Huawei P30 Pro ไปได้ 1 คะแนน แต่ยังตามหลัง Mate 30 Pro อยู่ถึง 4 คะแนน
โดยถ้าแยกคะแนนของการถ่ายภาพนิ่งและถ่ายวิดีโอออกมา ก็จะได้ตามภาพด้านล่างนี้ครับ
ซึ่งทาง DxOMark ได้สรุปข้อดีข้อด้อยของกล้องหลัง iPhone 11 Pro Max ที่น่าสนใจไว้ดังนี้
ข้อดี
- รายละเอียดในภาพทำได้ดีในแทบทุกสภาพแสง
- ระดับความสว่าง และไดนามิกเรนจ์ของวัตถุในภาพจัดอยู่ในระดับที่ดีในแทบทุกสภาพแสง
- ออโต้โฟกัสทำได้เร็วและแม่นยำ
- สีสันภาพสดใส
- เลนส์อัลตร้าไวด์ทำได้ดี ทั้งในแง่รายละเอียด ไดนามิกเรนจ์ และการจัดการ CA (พวกติดสีม่วงตามขอบเหลื่อมของวัตถุในภาพ)
- ภาพจากเลนส์ซูมทำได้ดี ทั้งในระยะกลางและระยะใกล้
ข้อด้อย
- ในภาพยังมี noise อยู่ แม้ว่าจะถ่ายในที่มีแสงจัดก็ตาม
- รายละเอียดของภาพบางส่วนสูญหายไป เมื่อซูมภาพในระยะไกล
- รายละเอียดของภาพที่ถ่ายโดยใช้แฟลชไม่ครบถ้วน
- ภาพติดโทนเหลืองเมื่อถ่ายในที่มีแสงโทนอุ่นอ่อน ๆ
ส่วนด้านวิดีโอก็โดยรวมแล้วทำได้ดีทั้งด้านไดนามิกเรนจ์ รายละเอียด noise สีสัน และก็ระบบกันสั่นที่ดี ส่วนข้อด้อยก็เช่น มีอาการ jelly effect ที่เกิดจากการลดกันสั่นของภาพอยู่บ้างเมื่อถ่ายวิดีโอในขณะที่เดิน และค่า white balance ที่ไม่ค่อยเสถียรเมื่อถ่ายวิดีโอในที่ร่ม
ถ้าหากนำคะแนนภาพถ่ายของ iPhone 11 Pro Max ไปเทียบกับมือถือรุ่นอื่นที่น่าสนใจก็ประมาณนี้ครับ
เทียบกับ Huawei Mate 30 Pro
ด้านที่ทำได้ดีใกล้เคียงกัน – Exposure / Color / Autofocus / Artifacts
ด้านที่ iPhone 11 Pro Max ทำได้ดีกว่า – Wide
เทียบกับ Huawei P30 Pro
ด้านที่ทำได้ดีใกล้เคียงกัน – Exposure / Color / Autofocus
ด้านที่ iPhone 11 Pro Max ทำได้ดีกว่า – Texture / Artifacts / Wide
เทียบกับ Google Pixel 4
ด้านที่ทำได้ดีใกล้เคียงกัน – Exposure / Color / Autofocus
ด้านที่ iPhone 11 Pro Max ทำได้ดีกว่า – Texture / Noise / Artifacts / Bokeh ส่วน Wide อันนี้ Pixel 4 ไม่มีคะแนน เนื่องจากไม่มีกล้องอัลตร้าไวด์
ส่วนด้านล่างนี้ก็เป็นตัวอย่างภาพบางส่วนจากการทดสอบของ DxOMark นะครับ ส่วนภาพเต็ม ๆ ทั้งหมด สามารถเข้าไปดูต่อได้จากในเว็บไซต์ DxOMark ตรงที่มาของข่าวด้านล่างได้เลย
ที่มา: DxOMark