Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»iOS Platform»iOS 13 อาจมาพร้อม dark mode แบบเป็นทางการ และการปาดหน้าจอเพื่อ undo
    iOS Platform

    iOS 13 อาจมาพร้อม dark mode แบบเป็นทางการ และการปาดหน้าจอเพื่อ undo

    ZeroSystemBy ZeroSystem17 เมษายน 2019
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    ตามปกติแล้ว Apple มักจะเปิดตัว iOS รุ่นใหม่ในงาน WWDC ช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี ก่อนจะเปิดให้ใช้งานจริง และอัพเดตได้ในช่วงเดือนตุลาคม พร้อมกับการวางจำหน่าย iPhone รุ่นหลักประจำแต่ละปี โดยในปีนี้ก็เป็นคิวของ iOS 13 ที่จะออกมาให้ได้ใช้งานกัน

    ในตอนนี้มีรายงานคร่าว ๆ เกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ที่อาจมาพร้อมกับ iOS 13 ออกมาให้ได้ลุ้นกันแล้วครับ มาดูกันไปทีละข้อเลยแล้วกัน

    1. การแสดงผลแบบ dark mode

    เครื่องที่รองรับ: iPhone / iPad

    นับเป็นสิ่งที่มีหลายคนรอมานาน เนื่องจาก dark mode เป็นการปรับสีสันการแสดงผลของระบบปฏิบัติการ รวมถึงแอปพลิเคชันหลักบางตัวให้เป็นโทนสีเข้ม ๆ ซึ่งสบายตากับการใช้งานมากกว่าการใช้พื้นหลังสีขาว รวมถึงยังลดการใช้พลังงานลง ในกรณีที่จอของอุปกรณ์เป็นจอแบบ LED เช่นใน iPhone X, iPhone XS และ iPhone XS Max อีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ Apple เองก็เปิดให้ใช้งาน dark mode บนระบบปฏิบัติการ macOS ของตนเองไปแล้ว ทำให้เป็นไปได้ว่า Apple อาจจะเปิดตัว dark mode สำหรับอุปกรณ์พกพาใน iOS 13 ก็เป็นได้

    2. ระบบ multitasking ที่ดีขึ้น

    เครื่องที่รองรับ: iPad

    สำหรับการทำงานแบบ multitasking ที่สามารถเปิดมากกว่า 1 แอปมาใช้งานพร้อมกันบนหน้าจอ iPad ได้ ก็อาจจะได้รับการปรับปรุงให้ทำงานได้ดีขึ้น เป็นอิสระยิ่งขึ้น โดยอาจมาพร้อมความสามารถในการเคลื่อนย้ายหน้าจอแต่ละแอปไปแปะไว้กับส่วนต่าง ๆ ของขอบจอได้อย่างอิสระ ให้ความรู้สึกเหมือนกับแต่ละแอปเป็นการ์ดหนึ่งใบ โดยมีลักษณะการย้ายการ์ดคล้ายกับการย้ายหน้าจอโปรแกรมในคอมพิวเตอร์เลย

    นอกจากนี้ การ์ดแต่ละใบยังอาจจะสามารถนำมาซ้อนทับกันได้ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการหน้าต่างของแต่ละแอปได้ง่ายยิ่งขึ้น

    3. การ undo ที่ง่ายยิ่งขึ้น

    เครื่องที่รองรับ: iPad

    ปกติแล้ว การ undo บน iOS จะใช้การเขย่าเครื่อง ซึ่งบางครั้งก็ไม่สะดวก (แถมบางท่านยังไม่รู้ด้วยว่าสามารถทำได้) แต่ใน iOS 13 อาจจะมีการเพิ่ม gesture สำหรับการ undo บน iPad โดยใช้ปลายนิ้ว 3 นิ้วแตะพร้อมกันบนคีย์บอร์ด จากนั้นปาดนิ้วไปทางซ้ายเพื่อ undo หรือปาดไปทางขวาเพื่อ redo

    4. ปรับปรุง Safari ให้เรนเดอร์ในโหมด desktop โดยอัตโนมัติเมื่อจำเป็น

    เครื่องที่รองรับ: iPad

    Safari บน iOS 13 สำหรับ iPad อาจจะมาพร้อมระบบปรับการแสดงผลหน้าเว็บเป็นแบบ desktop ให้โดยอัตโนมัติเมื่อจำเป็น เพื่อป้องกันการแสดงผลหน้าจอที่ผิดพลาด ซึ่งอาจเกิดจากการที่ตัวเว็บไซต์ตรวจพบว่าเป็น iOS แล้วแสดงผลในรูปแบบสำหรับ iPhone ทั้งที่จริงแล้ว อุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่คือ iPad ทำให้หน้าเว็บที่ปรากฏขึ้นมา มีการแสดงผลที่ไม่เหมาะสมกับจอของอุปกรณ์ ตัวอย่างเช่น หน้าเว็บไซต์ของ YouTube เป็นต้น

    5. ระบบจัดการ font ที่ได้รับการปรับปรุงให้สะดวกยิ่งขึ้น

    เครื่องที่รองรับ: iPhone / iPad

    iOS 13 อาจมาพร้อมระบบจัดการ font ของระบบที่ดีขึ้น ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องติดตั้ง profile เพิ่มเติมเพื่อติดตั้ง font อีกต่อไป โดยอาจจะมีเมนูสำหรับติดตั้ง font โดยเฉพาะให้ทางนักพัฒนาได้ใช้งาน รวมถึง iOS อาจจะมีระบบแจ้งเตือนเมื่อพบ font ใหม่ ในระหว่างที่เปิดไฟล์เอกสารอีกด้วย

    6. แอป Mail ที่มีระบบช่วยจัดระเบียบตามเนื้อหาของอีเมล

    เครื่องที่รองรับ: iPhone / iPad

    แอป Mail อาจจะได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ ด้วยการเพิ่มระบบคัดแยกอีเมลตามเนื้อหาข้อความ เช่น กลุ่มเมลที่เกี่ยวกับโปรโมชันพิเศษ กลุ่มเมลที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว กลุ่มเมลที่มีเนื้อหาไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ เป็นต้น รวมถึงยังอาจสามารถจัดอีเมลที่ต้องการเข้าสู่คิวของเมลที่จะเก็บไว้อ่านทีหลังได้อีกด้วย

    7. รูปแบบการเลือกไอเท็มมากกว่า 1 อย่างที่ใช้งานได้ง่ายขึ้นอีก

    เครื่องที่รองรับ: iPhone / iPad

    iOS 13 อาจมาพร้อม gesture แบบใหม่ ๆ ที่ใช้สำหรับเลือกไอเท็มบนหน้าจอมากกว่า 1 อย่าง เช่น การเลือกรูปหลายรูปจากในแกลเลอรี่ รวมถึงอาจสามารถลากหลายนิ้วพร้อมกันบนรายการ เพื่อเลือกไอเท็มที่ต้องการได้ ซึ่งคงต้องรอดูกันอีกทีว่าจะออกมาเป็นรูปแบบใด (ถ้ามาจริง)

    8. ฟีเจอร์ยิบย่อยอื่น ๆ

    สำหรับฟีเจอร์อื่นที่อาจมาพร้อมกับ iOS 13 ก็เช่น

    • แอป Reminders ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่
    • หน้าจอแสดงการปรับระดับเสียงแบบใหม่
    • ระบบการตรวจจับคำสั่งเสียงของ Siri ที่ดีขึ้น
    • ระบบการพิมพ์คำตามเสียงพูดที่ดีขึ้น รองรับได้หลายภาษายิ่งขึ้น

    ที่มา: 9to5mac

    Apple iOS
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ZeroSystem

    Related Posts

    เช็คราคาเปลี่ยนแบต iPad ทุกรุ่นในปี 2025 แต่ละรุ่นมีราคาแบตและค่าบริการเท่าไหร่ เปลี่ยนที่ไหนได้บ้างเช็คเลย!

    23 พฤษภาคม 2025

    ลือ Apple พับแผนพัฒนา Apple Watch ติดกล้อง ที่จะเปิดตัวในปี 2027 แล้ว

    23 พฤษภาคม 2025

    Q1’25 ตลาดหูฟังไร้สายยังโตต่อเนื่อง AirPods ยังครองเบอร์ 1 ส่วนแบ่งตลาด

    22 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    เช็คราคาเปลี่ยนแบต iPad ทุกรุ่นในปี 2025 แต่ละรุ่นมีราคาแบตและค่าบริการเท่าไหร่ เปลี่ยนที่ไหนได้บ้างเช็คเลย!

    23 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 10 โทรศัพท์เล่นเกมไม่เกิน 10000 บาทปี 2025 สเปคแรง เล่นเกมได้ไหลลื่นในราคาคุ้มๆ

    23 พฤษภาคม 2025

    ทุบสถิติโลก! realme GT 7 ทำลายสถิติ Guinness World Record ดูหนังมาราธอนต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ไร้สะดุด!

    23 พฤษภาคม 2025

    เปิดตัว Xiaomi 15S Pro และ Pad 7 Ultra ใช้ชิปที่ Xiaomi ออกแบบเองเป็นครั้งแรก

    23 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X