HyperX Cloud Earbuds สิ่งหนึ่งที่เหล่าเกมเมอร์หรือผู้ที่ชอบความบันเทิงแบบพกติดตัว มักจะมีติดตัวไว้ เพื่อสนุกกับการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลงและการสนทนา ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของหูฟัง ที่ปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย หลายรูปแบบ ซึ่งไม่ได้จำกัดว่าจะมีสายหรือไร้สายก็ตาม แม้ว่าทุกวันนี้หูฟังในแบบ True Wireless หรือ TWS จะได้รับความนิยม ด้วยการที่พกพาสะดวก มีให้เลือกหลายแบบ จะ In-ear หรือ Ear buds ก็ตาม แต่หลายคนก็ยังคงชื่นชอบความ Normal ที่เป็นหูฟังแบบมีสายขั้นพื้นฐาน เพราะเรื่องของการตอบสนอง ความคล่องตัว และยังประหยัดพลังงาน ไม่ต้องกลัวว่าแบตจะหมดกลางทาง หรือบางคนก็กังวลเรื่องการหล่นหาย ถ้าใช้แบบไร้สาย ก็ทำให้ผู้ใช้จำนวนไม่น้อย ยังคงชื่นชอบหูฟังแบบใช้สายนี้ และทาง HyperX หนึ่งในผู้ผลิตเกมมิ่งเกียร์ระดับโลก ก็มีตัวเลือกอย่าง HyperX Cloud Earbuds มาให้กับผู้ใช้ได้เลือก กับสีชมพูใหม่ล่าสุดที่เป็นเทรนด์ของปี 2022 นี้
HyperX Cloud Earbuds เป็นหูฟังแบบมีสาย ในสไตล์ของ Earbuds ที่หลายคนชื่นชอบ เพราะให้ทั้งความกระชับ และคล้องคอ พกพาได้สะดวก ตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มผู้ใช้โมบาย ไม่ว่าจะเป็น การเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง หรือการสนทนา บนสมาร์ทโฟน โน๊ตบุ๊คหรือแท็ปเล็ต ไปจนถึงเครื่องเล่นเกมพกพาอย่าง Nintendo Switch ด้วยการเชื่อมต่อผ่านแจ๊ค 3.5mm ซึ่งจะต่างจากหูฟังในกลุ่มอื่นๆ ที่เป็นแบบ Over-ear เพราะให้ความสะดวก กระชับ เคลื่อนไหวได้ง่ายกว่า ทำให้คอเกมบนสมาร์ทโฟน หรือเกมเมอร์สายพกพาสนุกได้ทุกที่
พร้อมการคอนโทรลผ่านสายได้ทันที ไม่ว่าจะ Play/ Pause รับ-วางสาย ก็สะดวก เรียกว่าสลับโหมดการใช้งานรวดเร็ว ให้เสียงที่คมชัด กับความกระชับและนุ่มนวลที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ กับชุด Ear plug ซึ่งเป็นซิลิโคนแบบนิ่มๆ ที่มีมาให้เลือกถึง 3 ขนาด เข้ากันได้กับช่องหูของผู้ใช้ในแบบต่างๆ และตัวล็อกที่ทำให้กระชับเข้ากับใบหูแน่นขึ้น ไดรเวอร์ซึ่งเป็นแบบนีโอดายเมียม 14mm ก็เป็นตัวที่จะช่วยให้เสียงคมชัด เก็บรายละเอียดได้ดี กับสีสันใหม่ สีชมพู เข้ากับธีมการเล่นเกมของใครหลายคน นอกเหนือจากสี แดง และเหลืองที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้
HyperX Cloud Earbuds
สเปคและคุณสมบัติของ HyperX Cloud Earbuds
- Color: Pink
- Driver: Dynamic 14mm with neodymium magnets
- Frequency response: 20Hz–20,000Hz
- Impedance: 65 Ω
- Sound pressure level: 116dBSPL/mW at 1kHz
- T.H.D.: < 2%
- Weight: 19g
- Cable type and length: 4 pole, 1.2m
- In-Line Microphone
- Element: Electret condenser microphone
- Polar pattern: Omni-directional
- Frequency response: 100Hz-6,300 Hz
- Sensitivity: -42dBV (0dB=1V/Pa,1kHz)
Unbox
หน้ากล่องก็เรียกว่ามาคนละแนวกับ HyperX Cloud Earbuds ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ที่เป็นกล่อง 2 ชั้น เพราะรุ่นนี้ใช้แพ๊คเกจใสแบบง่าย ด้านหลังมีกราฟิกของตัวหูฟังสีชมพูมาให้เห็น พร้อมกับกล่องใส่หูฟังมาอย่างชัดเจน และใช้โทนสีดำ-ขาวเป็นหลัก มีรายละเอียดเกี่ยวกับหูฟังมาเล็กน้อย เช่น แจ๊คต่อ 3.5mm และรองรับพีซี เครื่องเล่นเกมคอนโซลและโมบาย รวมถึงการรับประกัน 2 ปี
ด้านหลังแพ๊คเกจเป็นกระดาษแข็ง ให้ข้อมูลสำคัญอย่าง ชุดคอนโทรลที่มีมาให้ในสาย และ Ear plug ที่มีมาให้ 3 ขนาดด้วยกัน
เมื่อแกะแพ๊คเกจออกมา จะเห็นกล่องสีดำดูพรีเมียม ขนาดกระทัดรัด มีโลโก้ HyperX ด้านหน้า ใช้การรูดซิปสำหรับเปิดและปิดกล่อง
เมื่อเปิดกล่องสีดำออกมา ด้านในจะมีหูฟัง HyperX Cloud Earbuds วางอยู่ด้านใน ซึ่งผู้ใช้สามารถนำชุดนี้พกพาไปใช้งานได้ในทุกที ขนาดเล็กกว่าฝ่ามืออีกด้วย ใส่กระเป๋าทำงาน หรือกระเป๋าเป้ ก็สะดวกทีเดียว
ด้านในกล่องนอกจากจะมีเอกสารแนะนำการใช้งานแล้ว ก็ยังมีสิ่งที่เป็นไฮไลต์ก็คือ ส่วนที่เป็น Ear tips ที่เป็นซิลิโคนขนาดต่างๆ ให้ผู้ใช้เลือกใส่ตามขนาดของหูแต่ละคน ซึ่งถอดเปลี่ยนได้ง่ายครับ เพราะมีแค่สลักอันเล็กๆ เกี่ยวเอาไว้ ถอดเปลี่ยนง่ายดาย
และสุดท้ายก็คือ ตัวหูฟัง HyperX Cloud Earbuds ที่มีมาในกล่อง สีชมพูออกแนวพาสเทลเล็กน้อย ไม่ได้เป็นโทนสีที่จัดจ้าน เหมือนกับสีแดงที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่โดยส่วนตัวมองว่า สีแนวนี้ จะเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต่างๆ เรียกว่าใช้ได้ในหลายโอกาสทีเดียว
Design
มาดูกันที่ขนาดบ้าง ถ้าใครกังวลเรื่องของไซส์ที่จะใหญ่มั้ย เพราะเป็นสายของเกมมิ่ง บอกเลยว่า ถ้าคุณได้สัมผัสอาจจะเปลี่ยนความคิดไปเลย เพราะขนาดประมาณนิ้วชี้ปกติเลยครับ อาจจะใหญ่กว่าหูฟังในตระกูล True Wireless อยู่บ้าง แต่ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะมี Ear tips เพิ่มอีกชิ้นเสริมเข้ามา แต่ก็ถือว่าสวมใส่ง่าย พกพาก็สะดวก
จากภาพที่เห็นนี้ คือขนาดของ Ear tips ขนาดกลางที่เราติดตั้งเข้าไป ซึ่งถือว่าเป็นไซส์ที่พอเหมาะกับคนเอเซียทั่วไป ให้ความกระชับดีทีเดียว
การติดตั้ง Ear tips ก็ง่ายมากๆ ถอดเปลี่ยนเองได้ ไม่ยุ่งยาก และไม่ต้องกังวลว่าจะติดผิดด้าน เพราะตัวล็อคทำเอาไว้เฉพาะอยู่แล้ว
ซูมให้ดูบริเวณหูฟังแบบใกล้ๆ จะเป็นสีออกเทาเข้ม และช่องเล็กๆ ที่จะใช้เป็นตัวล็อกเข้ากับช่องหู และปลายจะเป็นส่วนที่เสียงเข้าไปยังหูของเรา เรื่องความนุ่มนวล ผมให้ 9/10 เลยนะ เพราะอารมณ์เหมือนกับหูฟัง In-Ear ไม่แน่นเท่า แต่ก็สวมใส่สบาย
มาถึงตัวสายกันบ้าง จุดแรกจะเป็นตัวคอนโทรลที่อยู่บริเวณด้านบนของสาย ใกล้กับหูฟังทางด้านซ้าย ซึ่งเป็นจุดที่ใช้ค่อนข้างง่ายทีเดียว สายจะเป็นแบบสายแบน ทำให้เก็บง่าย ไม่พันกันเหมือนกับสายกลม และมีตัวร่นเก็บความยาวของสายมาให้ด้วย ปรับเลื่อนได้ตามสะดวกตามการใช้งาน ตัวคอนโทรลนี้เป็นสีเดียวกับ Ear tips
และจุดเด่นคือ เป็นหัวต่อแบบ 90 องศา ซึ่งเข้าได้กับอุปกรณ์ที่ใช้ได้มากมายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊ค มือถือ หรือ Nintendo Switch เป็นจุดสำคัญที่ทำให้การจับถือขณะเล่นเกมได้สะดวก ไม่เกะกะ ขณะที่ใช้มือถือในแบบแนวนอน
Performance
ในแง่ของการใช้งาน HyperX Cloud Earbuds ครั้งนี้ เราลองใช้กันหลายๆ อุปกรณ์ เพื่อให้ครอบคลุมมากที่สุด ตั้งแต่เครื่องเล่นเกม Nintendo Switch มาจนถึงสมาร์ทโฟน ที่ยังมีช่องแจ๊ค 3.5mm และใช้ร่วมกับโน๊ตบุ๊ค ซึ่งเป็นตัวแทนของเครื่องพีซี
ว่ากันที่เรื่องการสวมใส่กันก่อน บางคนอาจจะกังวลว่าถ้าเป็นสาวร่างเล็กแบบนี้ จะใส่ได้ถนัดหรือไม่ บอกเลยครับว่า น้องเตยเป็นสาวตัวเล็ก ยังใส่ได้สบาย แต่อาจจะต้องเปลี่ยน Ear tips ให้เป็นขนาดเล็กสุด ที่ระบุด้านในว่า “Small” ก็สวมใส่ได้กระชับสบายแล้ว แถมยังใช้เพลินแบบที่จะไม่คืนเอาง่ายๆ ซะด้วย สีชมพูดูเหมาะกับสาวๆ จริงๆ ครับ
กับการเล่นเกมบน Nintendo Switch ที่มีเกม Pokémon อันแสนโปรดปรานของน้องเค้าเลย จากรายละเอียดที่น้องพูดถึงความชื่นชอบหลักอยู่ที่ การสวมสบาย ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะ Ear tips ที่นิ่ม และยังมีให้เลือกหลายขนาด อย่างน้อยก็มีให้เลือกเข้ากับหูได้เหมาะกว่า เรื่องเสียงเอฟเฟกต์ก็มาได้ชัดจัดเต็ม อาจจะขาดในเรื่องของมิติอยู่บ้าง แต่ก็ทดแทนด้วยความคมชัดของเสียงให้สนุกได้กับหลายๆ เกม แต่ที่สำคัญคือ ถ้าจะเน้นไปที่ความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง สนุกครบรสเลย
ส่วนในการเล่นเกมบนมือถือ ยังจัดว่าให้ความสนุกสนานได้ตามสไตล์ ซึ่งจุดเด่นที่ชัดเจนในเรื่องของเสียงกลางที่แน่น ก็ยังมีเรื่องเสียงสนทนาที่มีความคมชัดสดใส กับอีกฝั่ง ปลายสาย ก็ได้ยินเสียงของเราอย่างชัดเจน แม้จะมีเสียงรบกวนโดยรอบอยู่บ้าง แต่คุณภาพเสียงที่ได้จัดว่าดี ทำให้การคุยสาย ประชุม หรือการรับคำสั่งจากทีม ในช่วงที่จัดตี้ลุยกัน ก็ไม่พลาดการติดต่อ
ในแง่ของการเล่นเกม ผมมองว่าหูฟัง Cloud Earbuds รุ่นนี้มีความจัดจ้านในการเล่น รวมถึงการให้รายละเอียดและการสนทนาที่คมชัด รองรับการใช้งานร่วมกับโมบาย สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต รวมถึงเครื่องเล่นเกมคอนโซลได้อย่างสนุก และผมว่าความกระชับ พกพาง่าย หูฟังรุ่นนี้ให้คุณเคลื่อนไหว ออกแอ็คชั่นในการเล่นเกมได้อย่างสนุกทีเดียว
มาลองในแง่ของความบันเทิงกันบ้าง หลายคนอาจจะมองว่า หูฟังเล่นเกม มักจะให้เสียงเอฟเฟกต์ดี บึ้มบั้มเหมาะกับการดูหนังประเภทแอ็คชั่น แข่งรถ หรือไซไฟ แต่บอกเลยครับว่า การดูหนังประเภทดราม่าหรือภาพยนตร์แนว Musical ก็เป็นอีกสไตล์ที่เข้ากับหูฟังนี้ได้ดี เช่นเดียวกับการฟังเพลง ที่แม้สเตจเสียงไม่ได้กว้าง แต่เก็บรายละเอียดได้ดี มีเสียงนักร้องเด่นขึ้นมา ก็ทำให้คุณสามารถบันเทิงได้ตลอดทั้งวัน จนกว่าแบตมือถือจะหมด
แต่ก็จะมีบางรายละเอียดสำหรับผู้ใช้ ที่อาจจะไม่ชินกับหูฟัง Earbuds อย่างนี้ แนะนำว่าให้ลองปรับใช้ หามุมที่เสียบในหูแล้วกระชับ ขยับตัวได้สบาย เพราะฟิลลิ่งขณะที่คุณเสียบเอาไว้หลวมๆ กับการเสียบแน่น ต่างกันพอสมควรครับ เรื่องของความแน่นของเสียงและความคมชัดจะดีขึ้นอย่างมาก หากคุณสวมได้กระชับ ถูกวิธี
เรื่องของแจ๊คหัวต่อ 90 องศาค่อนข้างเหมาะเจาะกับการใช้งานในหลายๆ ด้าน และเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ดี ไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟนหรือเครื่องเล่นเกมคอนโซลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโน๊ตบุ๊ค ที่คุณจะรู้สึกได้เลยว่า ไม่เกะกะในการใช้งานแม้แต่น้อย ยิ่งเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีช่องหูฟังอยู่ทางขวามือด้วยแล้ว คุณจะยังใช้เมาส์ได้อย่างสะดวกมือ แม้กระทั่งการเล่นเกม แบบไม่มีสายมาเกะกะ
การใช้งานบนโน๊ตบุ๊ค โดยเฉพาะคนที่ใช้สำหรับการประชุมออนไลน์ หรือการสนทนาอย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น หูฟังสามารถตัดเสียงรอบข้างได้ดีในระดับหนึ่ง ปลายสายได้ยินเสียงผู้พูดชัดเจนเช่นเดียวกัน คุณสามารถใช้คอนโทรลบนสาย รับ-วางสายสะดวกง่ายดาย ติดอยู่ตรงการกด 2 ครั้ง เพื่อเป็นการเลื่อนไปเล่นเพลงหรือวีดีโอถัดไป จะไม่สามารถใช้ได้ เพราะทำได้บนอุปกรณ์โมบายเท่านั้น
Conclusion
มาสรุปการใช้งาน HyperX Cloud Earbuds รุ่นนี้กันดีกว่า ในแง่ของความสะดวกสบาย ผมให้ 8/10 ครับ ที่หักไป คงเป็นเรื่องข้อจำกัดเล็กน้อย ในแง่ของการใช้งานที่ยังเป็นสาย บางครั้งห้อยคอ หรือออกไป Outing ข้างนอกอาจไม่สะดวก จัดเก็บไม่ง่ายเท่าหูฟัง TWS แต่ก็ทดแทนด้วยข้อดีอย่าง สายที่ทนทาน ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตจะหมด ใช้ได้ยาวๆ เหมาะกับการเดินทางเป็นอย่างยิ่ง เพิ่มความเป็นส่วนตัว ด้วยไมค์ที่ให้เสียงคมชัดสดใส และซิลิโคนที่เป็น Ear tips นิ่มใส่สบาย อีกทั้งมีหลายขนาดให้เลือก การเล่นเกมก็เต็มอิ่ม เพราะเอฟเฟกต์มาแบบเน้นๆ แม้จะไม่เข้มเท่าหูฟังเกมมิ่งรุ่นพี่ๆ ในตระกูล Cloud แต่ก็ได้เรื่องความกระชับ เสียงในเกมไม่อึดอัด รวมถึงเข้าได้กับเกมในหลายๆ แบบ ไม่ว่าจะเป็น Action, Racing หรือ RTS คุณสามารถสื่อสารกับเพื่อนๆ ในเกมได้อย่างชัดเจน แม้จะเป็นสีชมพู แต่ก็ไม่ได้สีจี๊ดจ๊าด ออกแนวพาสเทล จึงเหมาะอย่างยิ่งทั้งบรรดาเกมเมอร์สาวๆ หรือเหล่าฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ ที่ต้องการหูฟังสไตล์ซอฟท์ๆ เอาไว้เล่นยามพักผ่อน อีกทั้งสนนราคาประมาณ 1,490 บาทเท่านั้น เป็นมิตรกับเงินในกระเป๋า จับต้องได้ง่ายกว่า การรับประกันระดับ HyperX จึงมั่นใจได้ในการใช้งาน