[Review] HyperX Cloud MIX หูฟังเกมมิ่งที่ใช้งานได้ทั้งพีซี มือถือ และเครื่องเล่นเกมยอดนิยมได้อย่างครบครันในชิ้นเดียว

หนึ่งในอุปกรณ์เสริมของเหล่าเกมเมอร์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะสายเกมพีซีและคอนโซลก็คือหูฟังเกมมิ่ง ด้วยคุณสมบัติในด้านคุณภาพเสียงที่เหมาะสมกับการเล่นเกมมากกว่าหูฟังสำหรับการฟังเพลง รวมถึงรูปลักษณ์ และฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ในตัวที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้ดีขึ้น แต่ในปัจจุบัน เทรนด์การเล่นเกมในปัจจุบันก็มีสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตเข้ามาเป็นหนึ่งอุปกรณ์สำคัญสำหรับการเล่นเกมด้วยเช่น จึงทำให้กลุ่มที่ต้องการเล่นเกมแบบจริงจังบนมือถือก็ต้องมองหาหูฟังดี ๆ ซักคู่มาใช้งานควบคู่กัน แต่บางทีการนำหูฟังเกมมิ่งของพีซีมาใช้งานก็อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ ด้วยสายที่มักจะยาวเกินไป รุ่นที่เป็นแบบไร้สายก็มักจะต้องใช้ตัวรับสัญญาณโดยเฉพาะ ซึ่งก็ไม่สะดวกกับการใช้ร่วมกับมือถือที่ต้องเน้นความคล่องตัวมากกว่า

HyperX Cloud MIX

ซึ่งปัญหาข้อนี้ ทาง HyperX เองก็พร้อมที่จะตอบโจทย์ความต้องการของเหล่าเกมเมอร์ทุกกลุ่มในตลาด ด้วยการส่งหูฟังเกมมิ่งรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง HyperX Cloud MIX ที่เป็นหูฟังสุดครบครันในแง่ของการเชื่อมต่อ สามารถใช้งานได้ทั้งแบบผ่านสายแจ็ค 3.5 มม. และการใช้งานแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth ซึ่งเท่ากับว่าสามารถใช้งานได้ทั้งกับคอมพิวเตอร์ เครื่องเกมคอนโซล ไปจนถึงมือถือ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ฟังเพลง/เล่นเกมต่าง ๆ ที่รองรับการเล่นเสียงผ่านทาง Bluetooth ได้

ทำให้ HyperX Cloud MIX เป็นหูฟังที่พร้อมใช้งานได้ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะใช้งานที่บ้าน ใช้งานระหว่างเดินทาง หรือใช้ขณะทำงานได้ในชิ้นเดียว

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 1

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 3

กล่องของ HyperX Cloud MIX ก็มาเป็นสีขาว-แดงตามสไตล์ของ HyperX โดยรอบด้านของตัวกล่องก็มีข้อมูลระบุฟีเจอร์เด่น ๆ ชัดเจนเลย ทั้งในส่วนของรูปแบบการเชื่อมต่อที่รองรับทั้งแบบมีสายและไร้สายผ่าน Bluetooth แบตเตอรี่ใช้งานได้กว่า 20 ชั่วโมง รวมถึงอุปกรณ์ที่รองรับซึ่งครบครันทั้งพีซี เครื่องเกมและมือถือ

สเปคและคุณสมบัติของ HyperX Cloud MIX

  • ไดรเวอร์หูฟังแบบไดนามิก พร้อมแม่เหล็กนีโอดีเนียมขนาด 40 มม.
  • รองรับความถี่เสียง 10Hz-40,000Hz
  • ความต้านทาน 40 โอห์ม
  • รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสายผ่านแจ็ค 3.5 มม. และแบบไร้สายผ่าน Bluetooth 4.2
  • รองรับเสียงมาตรฐานระดับ Hi-Res
  • น้ำหนักเฉพาะหูฟัง 260 กรัม
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุดประมาณ 20 ชั่วโมง ชาร์จไฟผ่านพอร์ต Micro USB
  • มีไมโครโฟนสองจุด: ไมค์ในตัว และไมค์แบบก้านแยก
  • ไมโครโฟนในตัวรองรับความถี่เสียง 50Hz-8,000Hz
  • ไมโครโฟนก้านแยกแบบสามารถถอดออกจากหูฟังได้ พร้อมระบบตัดสัญญาณรบกวน
  • ไมโครโฟนก้านแยกรองรับความถี่เสียง 50Hz-18,000Hz
  • ราคา 6,490 บาท

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 4 Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 5

เมื่อแกะกล่องมา อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องก็ได้แก่

  • ตัวหูฟัง HyperX Cloud MIX
  • ไมค์แบบก้านแยก
  • เอกสารคู่มือการใช้งาน และเอกสารอื่น ๆ อีกเล็กน้อย

ส่วนในกล่องสี่เหลี่ยมก็จะมีสายเชื่อมต่อที่ให้มา 3 เส้น และก็ถุงผ้าสำหรับเก็บหูฟัง

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 6 Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 7

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 29

สายที่ให้มาทั้ง 3 เส้นก็มีดังนี้

  • สาย 3.5 มม. – 3.5 มม. สำหรับเสียบหูฟังกับอุปกรณ์อื่นโดยตรง ความยาวสาย 1.3 ม.
  • สายพ่วงพีซีเพื่อเพิ่มความยาว (ช่อง 3.5 มม. – สาย 3.5 มม. แยกเป็นสายหูฟังกับสายไมค์) ความยาวสาย 2 ม.
  • สาย Micro USB สำหรับชาร์จไฟ ความยาวสาย 0.5 ม.

โดยสายเส้นแรกนั้นจะมีรีโมทควบคุมเสียงมาให้ด้วยครับ ถ้าต้องการปรับระดับเสียงก็สามารถทำได้โดยการหมุนวงล้อด้านข้าง ส่วนสวิทช์จะใช้สำหรับเปิด/ปิดไมค์

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 8

ส่วนของหูฟัง เองก็จะเป็นหูฟังทรง over ear ที่เป็นทรงยอดนิยมสำหรับหูฟังเกมมิ่ง ด้วยคุณสมบัติทั้งในด้านการให้สเตจเสียงที่เหมาะสำหรับการเล่นเกม และก็ความสบายเมื่อต้องใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ

อีกข้อที่สัมผัสได้ก็คือน้ำหนักที่ค่อนข้างเบาครับ โครงของตัวหูฟังนั้นทำมาจากอลูมิเนียมที่มีทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา ทำให้เหมาะทั้งกับการใช้งานและการพกพา

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 17

วัสดุที่ใช้บุด้านในก็จะเป็นเมมโมรี่โฟมที่ให้สัมผัสนุ่ม และสามารถปิดใบหูได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย ส่วนตัวครอบด้านนอกก็เป็นพลาสติกพร้อมสกรีนโลโก้ HyperX ทั้งสองด้าน

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 24

ตัวก้านสามารถปรับระดับตามลักษณะของศีรษะผู้ใช้งานได้สบาย ๆ

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 19

ก้านหูฟังส่วนนอกด้านบนก็จะมีโลโก้ HyperX บุด้วยโฟมทั้งด้านในและด้านนอก ทำให้ไม่เจ็บศีรษะในตอนใช้งาน

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 14

ตัวหูฟังฝั่งซ้ายจะมีจุดสำคัญได้แก่ ปุ่มมัลติฟังก์ชันสำหรับการใช้งาน Bluetooth ที่ด้านบน ตรงกลางเป็นช่องเสียบแจ็ค 3.5 มม. สำหรับการใช้งานแบบมีสาย ส่วนด้านล่างสุดก็เป็นช่องเสียบก้านไมค์ที่ให้มาในกล่อง

โดยปุ่มมัลติฟังก์ชันนั้น หลัก ๆ แล้วจะใช้ในการเปลี่ยนเพลงเมื่อใช้งานผ่านการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ครับ

  • กด 1 ครั้ง เพื่อเล่น/หยุดเพลงชั่วคราว หรือใช้กดโทรออก
  • กด 2 ครั้งติดกัน เพื่อเลื่อนไปฟังเพลงถัดไป

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 13

ส่วนหูฟังด้านขวาก็จะมีจุดที่สำคัญ ๆ ได้แก่ ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงที่อยู่ด้านบนสุด ถัดมาเป็นไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่อ/การชาร์จแบตเตอรี่ ถัดมาก็เป็นปุ่มเปิด/ปิด และปิดท้ายด้วยพอร์ต Micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ในตัวหูฟัง

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 30

เมื่อเสียบสายชาร์จ ก็จะมีไฟสีส้มติดขึ้นมา ส่วนปริมาณแบตเตอรี่นั้น ตัวหูฟังจะแจ้งตอนที่เปิดหูฟังขึ้นมาครับ ว่าในขณะนั้นแบตเตอรี่เหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 22

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 15

เมื่อประกอบก้านไมค์เข้าไปกับ HyperX Cloud MIX ก็จะให้ลุคที่ดูเป็นหูฟังเกมมิ่งขึ้นมาทันที โดยก้านไมค์สามารถดัดโค้งได้ตามต้องการ

ในการเริ่มใช้งานนั้น สามารถทำได้โดยกดปุ่ม Power ประมาณ 2 วินาที หูฟังก็จะเปิดขึ้นมา พร้อมกับแจ้งด้วยว่าแบตเตอรี่เหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์ โดยในการใช้งานแบบ Bluetooth ถ้าหากตัวหูฟังเคยเชื่อมต่อกับมือถือ หรืออุปกรณ์อื่นอยู่แล้ว การเชื่อมต่อก็จะทำให้โดยอัตโนมัติทันที

แต่ถ้าหากเป็นการใช้งานครั้งแรก หรือต้องการจับคู่ ผ่าน Bluetooth กับอุปกรณ์อื่น ก็มีขั้นตอนที่ไม่ยากเท่าไหร่ โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. หูฟังต้องยังปิดอยู่
  2. กดปุ่ม Power ค้างไว้ 5 วินาที
  3. ไฟ LED จะกระพริบเป็นสีส้ม-น้ำเงินสลับกันไปมา พร้อมทำการจับคู่ได้ทันที
  4. ทำการเชื่อมต่อจากมือถือ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อื่นที่ต้องการ

เมื่อทำการเชื่อมต่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไฟ LED ที่ตัวหูฟังจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินกระพริบทุก ๆ 5 วินาที

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 25

ในการเล่นเกม อันดับแรกผมลองทดสอบด้วยเกม PUBG Mobile บน iPad ซึ่งผลที่ได้ก็ถือว่าทำได้ดีสำหรับหูฟังเกมมิ่งที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เลย มิติเสียงกว้าง ช่วยระบุทิศทางของเสียงปืน เสียงฝีเท้าในเกมได้ดี อาการดีเลย์นั้นน้อยมาก ใช้เล่นเกมได้สบาย

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 26 Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 20

ส่วนการใช้งาน กับเครื่องเกมคอนโซลก็จะเป็นการใช้ผ่านสายเชื่อมต่อเป็นหลักครับ อย่างในกรณีของ Nintendo Switch ก็คือสามารถเสียบสาย 3.5 มม. เส้นเดียวต่อตรงจากหูฟังมาที่เครื่องเกมได้โดยตรง ส่วนในเครื่อง PlayStation 4 ก็ทำได้โดยการเสียบสาย 3.5 มม. เส้นเดิมเข้ากับพอร์ต 3.5 มม. ที่จอยได้ทันที หรือจะไปเสียบเข้ากับทีวีก็ได้ตามสะดวกเลย การควบคุมระดับเสียงผ่านรีโมทสามารถใช้งานได้แบบไม่ติดขัดอะไร

สำหรับการใช้งานกับเครื่องพีซี ถ้าจะให้ดีที่สุดก็แนะนำว่าควรใช้สายต่อที่ให้มาในกล่อง เพื่อเพิ่มความยาวสาย และเพื่อการแยกสัญญาณเสียงระหว่างหูฟังกับไมค์ด้วยจะดีที่สุดครับ ตอนเริ่มใช้งานครั้งแรกก็ไม่จำเป็นต้องติดตั้งไดรเวอร์แต่อย่างใด เสียบแล้วใช้งานได้ทันที

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 32

ด้านของการสวมใส่ ให้ความรู้สึกที่ไม่อึดอัดในตอนใช้งาน เนื่องจากตัวเมมโมรีโฟมนั้นโอบใบหูเอาไว้ได้หมดพอดี ไม่มีส่วนที่กดทับแต่อย่างใด ตัวของหูฟังเองก็มีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา ช่วยให้สามารถใส่ใช้งานเป็นเวลานานได้โดยไม่เมื่อยมากนัก ไม่ว่าจะใส่เล่นเกม หรือจะใส่ฟังเพลงระหว่างเดินทางก็ทำได้สบาย แต่ก็แนะนำว่าควรจะถอดออกมาเช็ดเหงื่อและผ่อนคลายใบหูซักชั่วโมงละครั้งก็จะดีครับ เพื่อรักษาทั้งสุขภาพหู และสุขภาพของผิวสัมผัสตัวโฟมให้ใช้งานได้นาน ๆ

ด้านคุณภาพเสียงนั้น ให้เสียงที่มีมวลพอสมควร โดยรวมแล้วแต่ละโทนออกมาเป็นแบบกลาง ๆ ไม่มีโทนไหนโดดจนเกินไป เหมาะกับทั้งกับใช้เล่นเกม ดูหนัง หรือจะฟังเพลงก็ยังไหว แต่ปลายเสียงอาจจะไม่คมเท่ากับพวกหูฟังสำหรับการฟังเพลงโดยเฉพาะ ส่วนเรื่องการจำลองทิศทางเสียงนั้นทำได้ดีเลย ซ้าย ขวา หน้า หลังมาครบ

ปิดท้ายด้วยเรื่องของแบตเตอรี่ อันนี้ยอมรับเลยว่า HyperX ทำออกมาได้ดี สามารถใช้งานได้ยาวนานมากจริง ๆ สามารถใช้ใส่ฟังเพลงระหว่างเดินทาง ใส่ฟังเพลงเพลิน ๆ ขณะทำงาน จนกลับถึงบ้านก็ใส่เพื่อเล่นเกมอีกซักนิดก่อนนอนได้เลย การชาร์จก็สะดวก สามารถใช้สาย Micro USB เส้นไหนก็ได้มาชาร์จได้ทันที จะเสียบชาร์จกับคอม หรือจะชาร์จกับอะแดปเตอร์มือถือที่มีอยู่ก็ได้

Review HyperX Cloud MIX SpecPhone 16

โดยรวมแล้ว HyperX Cloud MIX เป็นหูฟังเกมมิ่งที่ลงตัวกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบได้เป็นอย่างดี ทั้งการใช้เล่นเกมบนคอมพิวเตอร์ เครื่องเกมคอนโซล มือถือ แท็บเล็ต รวมถึงยังสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สบาย ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth และแบบสาย 3.5 มม. ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คุณภาพเสียงที่ให้นั้นก็จัดว่าอยู่ในระดับสมดุล ใช้ได้ดีทั้งกับการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง เรียกว่าครบครันทุกความบันเทิงอย่างแท้จริง

ส่วนในด้านราคา 6,490 บาทนั้น แม้ว่าอาจจะแรงไปหน่อยสำหรับกลุ่มหูฟังเกมมิ่ง แต่ถ้ามองว่าเป็นหูฟังตัวเดียวที่ใช้ได้กับแทบทุกอุปกรณ์ ลดความวุ่นวายในการใช้งานหูฟัง 2-3 คู่ตามประเภทอุปกรณ์และการใช้งานลง ส่วนตัวผมก็มองว่า HyperX Cloud MIX เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอยู่เหมือนกันครับ เรียกได้ว่าเป็นหูฟังตัวเดียวเที่ยวทั่วไทยก็ได้สบาย ๆ เลย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก