หัวเว่ยขยับขึ้นเป็นอันดับ 83 จากอันดับ 129 จากการสำรวจ 500 แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยนิตยสารฟอร์จูน นิตยสารด้านธุรกิจรายใหญ่ของโลก ด้วยรายได้กว่า 78.51 พันล้านดอลลาร์ และนับเป็นครั้งแรกของหัวเว่ยที่ได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งใน 100 แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย
ทุกๆปี นิตยสารฟอร์จูนจัด500 อันดับ แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยพิจรณาจากรายได้และขนาดของธุรกิจของแต่ละแบรนด์ในลิตส์เป็นหลัก การที่แบรนด์ได้รับการจัดอันดับให้อยู่บนลิตส์ของนิตยสารฟอร์จูนนั้นจัดว่าเป็น “Ultimate List” หรือลิตส์สูงสุด ที่ทุกๆแบรนด์อยากจะได้รับการจัดอันดับให้เข้ามาอยู่ เพราะการที่ได้เข้ามาอยู่ใน 500 แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยนิตยสารฟอร์จูน ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นว่าแบรนด์นั้นๆเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ แต่ยังแสดงให้ถึงความสามารถในการแข่งขันของแบรนด์บนตลาดโลก ที่สามารถข้ามผ่านความหลากหลายด้านวัฒนธรรมและอาณาเขตทางภูมิศาสตร์อีกด้วย
นอกจาก 500 อันดับแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกแล้ว หัวเว่ยติดท็อปลิสต์ในการจัดอันดับจากรายงานการสำรวจแบรนด์ระดับโลกที่ดีที่สุดประจำปีอีกมากมาย หัวเว่ยเป็นแบรนด์สัญชาติจีนแบรนด์เดียวที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “แบรนด์ที่มีคุณค่ามากที่สุดในโลก” โดยนิตยสารฟอร์บส์, ชื่อของหัวเว่ยได้รับการยอมรับและได้อันดับ 49 ใน BrandZ Top 100 Most Valuable Global Brands, และขยับขึ้นถึง 7 อันดับบน the Brand Finance 2017 Global 500 list of the top most valuable brands in the world ความสำเร็จในการสร้างแบรนด์นี้ยังเห็นได้จากยอดขายทั่วโลก ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความชื่นชอบที่ผู้ใช้มีต่อสมาร์ทโฟนหัวเว่ย
สำหรับกลุ่ม คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (CBG)ซึ่งเป็นหนึ่งในสามธุรกิจหลัก หัวเว่ยยังรักษาการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและเดินหน้าที่จะเป็นแบรนด์เทคโนโลยีนที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่งเห็นได้จากการสำรวจของสำนักวิจัยระดับโลก เช่น IDC, SA, และ Trendforce หัวเว่ยมีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนโลกเป็นอันดับ 3 ในไตรมาส 1 และยังคงอันดับ 1 ในประเทศจีนด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงอย่าง พี ซีรี่ย์ (P Serie) และ เมท ซีรี่ย์ (Mate Series) ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์หัวเว่ยยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนโลกอย่างต่อเนื่องต่อไป