[Hands On] Honor 10 เรือธงจากแบรนด์ Honor กล้องคู่ AI ชิป AI พร้อมรอม 128 GB !!

Honor (อ่านว่า ออเนอร์) เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนจากจีนถือว่ากำลังมาแรงอีกแบรนด์หนึ่ง ซึ่งกำลังขยายฐานตลาดไปเรื่อย ๆ โดยเริ่มจากทางยุโรปก่อน จนถึงตอนนี้ได้ขยายถึงทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงในประเทศไทยด้วย ก่อนหน้านี้ Honor ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนในไทยไปแล้วประมาณ 3-4 รุ่น ชูจุดเด่นในด้านความคุ้มค่าเหมือนกับสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนรุ่นอื่น ๆ และในวันนี้เองก็ได้เปิดตัวเพิ่มใน ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนสเปคระดับเรือธง เจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่น นั่นก็คือ Honor 10 ตามไปดูรายละเอียดสเปคและการออกแบบได้ที่ตัวเครื่องด้านล่างได้เลยครับ

รายละเอียดสเปค Honor 10

• หน้าจอ IPS 5.84 นิ้ว FullView Display 19:9 ความละเอียด Full HD+ 2280 x 1080
• ขนาดตัวเครื่อง 149.6 x 71.2 x 7.7 มม. หนัก 153 กรัม
• ชิปประมวลผล AI Octa-core (4×2.4 GHz Cortex-A73 & 4×1.8 GHz Cortex-A53)
• RAM 4 GB
• ความจุ 128 GB
• กล้องหลังคู่ ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล  + 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8 + LED แฟลช
• กล้องหน้า ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล
• แบตเตอรี่ความจุ 3400 mAh
• Android 8.1 + EMUI 8.1
• สีที่วางจำหน่ายในไทยคือสี Phantom Blue และ Midnight Black ส่วนสี Grey และ Phantom Green อาจจะตามมาทีหลัง
• เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 พร้อมกับประกาศราคาวางจำหน่ายในไทย

สำหรับการออกแบบตัวเครื่องนั้นก็คล้าย ๆ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอแบบ FullView Display ที่อัตราส่วน 19 : 9 มีติ่งบนหน้าจอเพื่อเป็นที่อยู่ของ เซ็นเซอร์, ลำโพงสนทนา และกล้องหน้า โดยจัดเป็นระเบียงอย่างดีทำให้ติ่งมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก

ส่วนด้านล่างตัวเครื่องจะมีการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ ที่เห็นนั้นไม่ใช่ปุ่มนะครับ เป็นหน้าจอเรียบชิ้นเดียวที่มีสัญลักษณ์เป็นวงรีเอาไว้สแกนลายนิ้วมือ โดยตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเป็นแบบ Ultrasonic ไม่ได้แยกเป็นปุ่มต่างหาก

ด้านหลังตัวเครื่องชูจุดเด่นด้วยวัสดุกระจกผิวเคลือบ 15 ชั้น ที่สะท้อนแสงออโรร่าที่กระทบแสงแล้วเป็นคลื่นที่สวยงามมาก ด้านหลังตัวเครื่องมีเพียงกล้องคู่พร้อมกับ LED Flash พร้อมกับสัญลักษณ์ที่เป็นหนึ่งในจุดเด่นคือ AI Camera นอกนั้นด้านหลังก็จะเรียบเนียนแสดงวัสดุสวย ๆ โดยการผลิตกระจกด้านหลังทาง Honor แจ้งว่าใช้เวลาผลิตเท่ากับระยะเวลาที่ใช้ในการผลิตสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องเลยทีเดียว ซึ่งตัวเครื่องได้เราได้มา Hands On เป็นสี Phantom Blue ซึ่งเป็นผสมสีระหว่างสีน้ำเงิน และสีม่วง หากมองดี ๆ ในภาพจะมองเห็นสีม่วงแซม ๆ หน่อย

ส่วนด้านขวาของตัวเครื่องก็จะเป็นปุ่ม Power และ ปุ่มเพิ่มเสียง ลดเสียง

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องก็จะมีลำโพงขับเสียง ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ตเชื่อมต่อเป็น USB Type C พร้อมฟีเจอร์ Honor  SuperCharge ที่สามารถชาร์จแบต 50 % ใน 25 นาที

หนึ่งในฟีเจอร์หลักคือตัวกล้อง Dual Camera ความละเอียด 24 ล้านพิกเซลและ 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/1.8 ซึ่งมีความละเอียดสูงสุดในช่วงสมาร์ทโฟนราคาใกล้เคียงกัน โดยชูจุดเด่นเรื่องกล้องระบบ AI ที่มาช่วยทำให้การถ่ายภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งกล้อง AI นั้นถูกขับเคลื่อนโดยหน่วยประมวลผลพิเศษ NPU ที่สามารถแยกภาพกว่า 500 ประเภทใน 22 หมวดหมู่ในขณะถ่ายแบบเรียลไทม์ ทำให้ภาพที่ออกมานั้นมีคุณภาพที่ใกล้เคียงกับกล้อง DSLR ซึ่งโหมด AI นั้นจะทำการเรียนรู้ภาพว่าเป็นภาพหมวดไหนและปรับคุณภาพให้ภาพถ่ายอัตโนมัติโดยจะขึ้นเป็นรูปบนหน้าจอให้เห็นว่าถ่ายหมวดอะไรอยู่ตามภาพด้านล่างเลยครับ

AI ตรวจภาพแล้วทราบทันทีว่าเป็นอาหาร จึงปรับเป็นโหมดอาหารให้อัตโนมัติสังเกตได้จากไอคอนรูปช้อน ส้อม

ไอคอนรูปดอกไม้

ไอคอนภาพวิว ซึ่งทั้งหมดแล้วมีมากถึง 22 หมวดที่ AI สามารถตรวจจับได้ ถือว่าเป็น AI ที่ชาญฉลาดช่วยให้การถ่ายภาพได้ดีขึ้นครับ

ส่วนกล้องหน้าก็จัดเต็มเช่นเดียวกันโดยความละเอียดสูงสุด 24 ล้านพิกเซลพร้อมกับลูกเล่นครบครันอย่างเช่น 3D Lighting Effects ที่สามารถปรับแสงได้เหมือนถ่ายในสตูดิโอ

สำหรับประเทศไทยวางจำหน่ายสองสี ได้แก่ สี Phantom Blue และ Midnight Black ส่วนอีกสองสีรอดูอีกทีว่าจะเข้ามาด้วยหรือเปล่า ส่วนราคารอประกาศอย่างเป็นทางในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ พร้อมรีวิวฉบับเต็มครับ