ในงาน Thailand Mobile Expo 2013 (TME 2013) ครั้งนี้ นอกเหนือไปจากพาเหรดสมาร์ทโฟน Android ที่แต่ละแบรนด์ขนกันมาวางจำหน่ายในงาน พร้อมโปรโมชันและของแถมต่างๆ มากมายแล้ว ก็ยังมีการนำสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวไปมาวางจำหน่ายด้วย ซึ่งทางเราก็ไปจัดการ hands-on มาให้ได้ชมกันครับ โดยคัดมาเฉพาะบางรุ่นที่น่าสนใจ จะมีรุ่นใดบ้าง ไปชมกันเลย
BlackBerry Z10
เริ่มด้วย BlackBerry Z10 ครับ โดยเป็นเพียงเครื่องเดโมมาตั้งให้ได้ลองเล่นกันในงานเท่านั้น ยังไม่เปิดวางจำหน่ายหรือรับจองแต่อย่างใด ซึ่งจากเท่าที่ลองสัมผัสดู งานประกอบโดยรวมนั้นดีมากทีเดียว ดูเนี้ยบ สวยงามแบบเรียบๆ น้ำหนักค่อนข้างเบาครับ
ส่วนหน้าของตัวเครื่องไม่มีปุ่มกดเลย เนื่องจากใช้ปุ่มแบบสัมผัสบนจอทั้งหมด หน้าจอสีสวยงาม ความละเอียด 1280 x 768 คมชัด ด้านบนของตัวเครื่องมีแต่เพียงลำโพงสนทนาเท่านั้น
ด้านหลังใช้วัสดุเป็นพลาสติกแบบผสมชนิดพิเศษ มีพื้นผิวเป็นเป็นจุดๆ ช่วยทำให้จับเครื่องได้กระชับพอสมควร ตรงกลางฝาหลังมีโลโก้ของ BlackBerry ติดอยู่ ส่วนด้านบนมีกล้องถ่ายรูปพร้อมแฟลช
ส่วนด้านข้างของ BlackBerry Z10 นั้น ฝั่งขวามีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านซ้ายมีช่อง micro USB สำหรับชาร์จไฟและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ด้านบนมีปุ่มล็อคจออยู่ตรงกลางเครื่อง ใกล้ๆ กันทางฝั่งซ้ายเป็นช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวน อีกช่องหนึ่งนั้นเป็นช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 mm ปิดท้ายด้วยด้านล่างที่ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใดๆ ครับ
ด้านของสเปกเท่าที่มีแสดงอยู่ในเครื่องก็คือมีพื้นที่ภายใน 16 GB เหลือพื้นที่ว่าง (น่าจะยังไม่ได้ลงแอพเสริมใดๆ) อยู่ 10.7 GB มีแรม 2 GB ครับ การใช้งานนั้น หลักๆ เน้นการปาดหน้าจอเพื่อเข้าถึงหน้าจอต่างๆ ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการเรียนรู้การใช้งานซักเล็กน้อย
ลองเทียบกับ iPhone 5 ดูครับ ขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยเอง
i-mobile IQ6
i-mobile IQ6 เป็นสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องที่ได้รับความนิยมในงานเป็นอย่างสูง เนื่องด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้วความละเอียด 1280 x 720 แต่ราคาเปิดมาแค่เพียง 8,490 บาทเท่านั้นเอง งานประกอบก็จัดว่าแน่นหนาและดูดีกว่าสมาร์ทโฟนของ i-mobile เองรุ่นอื่นหลายๆ ตัว ดีจนน่าสนใจเลยทีเดียว จุดเด่นที่เห็นได้ชัดก็คือหน้าจอที่ให้ภาพคมชัดมากครับ
ด้านหลังตัวเครื่องมีกล้องถ่ายรูปความละเอียด 12 MP ที่นูนขึ้นมาเหนือฝาหลังติดตั้งอยู่ ส่วนท้ายมีลำโพง
ฝั่งซ้ายของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ติดๆ กันนั้นเป็นปุ่มถ่ายรูป ด้านขวามีเพียงปุ่มล็อคหน้าจอ ส่วนด้านล่างไม่มีช่องเชื่อมต่อใดๆ ด้านบนของคัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังและช่อง micro USB
การใช้งานทั่วๆ ไปก็จัดว่าใช้งานได้ดี แต่ในการ transition ของหน้าจอในบางครั้งอาจจะไม่ลื่นและมีกระตุกบ้างครับ
Samsung Galaxy S3 mini
Samsung Galaxy S3 mini เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในงานนี้ ด้วยหน้าตาที่ออกมาเหมือนกับ Samsung Galaxy S III เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า และมีการปรับเปลี่ยนสเปกภายใน ทำให้ราคาลงมาเหลืออยู่ที่ 10,900 บาท จุดเด่นที่เห็นได้ชัดก็คือหน้าจอที่ให้ภาพสีสวยสดมากๆ เนื่องจากเป็นจอแบบ Super AMOLED ของ Samsung นั่นเอง ปุ่มการใช้งานก็มีปุ่มแบบกดแค่ปุ่มโฮมปุ่มเดียว ส่วนปุ่มเมนูและปุ่ม back เป็นปุ่มแบบสัมผัสบนตัวเครื่องเช่นเดิม (มีไฟ LED เรืองแสงขึ้นมาขณะใช้งานด้วย)
ฝาหลังเป็นพลาสติก มีการจัดวางที่แตกต่างจาก S III เล็กน้อย นั่นคือตำแหน่งของแฟลชที่ย้ายลงมาอยู่ด้านล่างของกล้องแทน
ฝั่งขวาของเครื่องมีปุ่มล็อคหน้าจอ ฝั่งขวามีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ส่วนด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ใกล้ๆ กันนั้นเป็นช่องสำหรับแงะฝาหลังออก ส่วนด้านล่างมีช่องรับเสียงของไมค์และช่อง micro USB ครับ
Samsung Galaxy S3 mini มาพร้อมกับ Android 4.1.2 ครับ การใช้งานทั่วไปจัดว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลย
Samsung ATIV S
สมาร์ทโฟนแพลตฟอร์ม Windows Phone 8 ที่เปิดวางจำหน่ายในงาน TME 2013 นี้เป็นครั้งแรกนั่นคือ Samsung ATIV S ที่มีให้ลองเล่นก่อนซื้อได้ด้วย หน้าตาของ Samsung ATIV S จะดูคล้ายกับไลน์ของ Samsung Galaxy Note แต่ต่างที่หน้าจอมีขนาดลดลงมาเหลือ 4.8 นิ้ว พร้อมกับสีของเครื่องที่มาในโทนสีเทาเมทัลลิค โดยจุดที่ทำให้แตกต่างจากสมาร์ทโฟน Windows Phone 8 รุ่นอื่นๆ ในตลาดก็คือปุ่มโฮมที่เป็นปุ่มกดจริงๆ ครับ พร้อมกับสเปกที่จัดเต็ม ไม่ว่าจะจอความละเอียดระดับ HD กล้องหลัง 8 MP และยังรองรับการใช้งาน microSD อีกด้วย เปิดมาในราคา 17,900 บาท
ฝาหลังมาเป็นสีเทาเมทัลลิค พื้นผิวเป็นลายคล้ายๆ กับมีการขัดโลหะมา งานประกอบโดยรวมอยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียว
ด้านซ้ายของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านขวามีปุ่มถ่ายรูปและปุ่มล็อคหน้าจอ ส่วนด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรกับช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวน และด้านล่างของเครื่องนั้นมีช่องรับเสียงของไมค์สนทนาและช่อง micro USB
Samsung Galaxy GRAND
มาถึงสมาร์ทโฟนที่คาดว่าน่าจะเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในงาน TME 2013 ครับ นั่นคือ Samsung Galaxy GRAND ที่มีจุดเด่นคือหน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 ทำให้สามารถมองตัวอักษร/ไอคอนได้ง่าย สเปกโดยรวมที่จัดว่ากำลังดีสำหรับการใช้งาน แบตเตอรี่ความจุมากถึง 2100mAh และปิดท้ายด้วยราคากระชากใจที่เพียง 11,900 บาทเท่านั้น
จากที่ได้ลองเล่นดู การใช้งานโดยรวมนั้นก็พอลื่นดีครับ หน้าจอขนาดใหญ่ สามารถอ่านหนังสือได้สะดวก (ในภาพตัวอย่างเป็นขนาดตัวอักษรขนาดใหญ่สุด)
ฝาหลังของเครื่องมาในหน้าตาแบบเดียวกับรุ่นอื่นๆ ของ Samsung ครับ
ด้านขวาของเครื่องมีปุ่มล็อคหน้าจอ ด้านซ้ายมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านบนมีเพียงช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างมีช่องรับเสียงของไมค์และช่อง micro USB เท่านั้น
ส่วนภาพล่างสุดเป็นการนำ Samsung Galaxy GRAND มาเทียบกับ Nexus 4 ที่มีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้วครับ
มาดูมือถือรุ่นเล็กในสาย Windows Phone อย่าง Nokia Lumia 620 กันบ้าง หน้าตาก็มาในแบบเรียบๆ ตามแบบของ Nokia Lumia รุ่นก่อนหน้าครับ แต่หน้าจอลดลงมาเหลือขนาด 3.8 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 เปิดราคามาอยู่ที่ 8,250 บาทเท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทดลองใช้งาน Windows Phone มากทีเดียว
ฝาหลังของ Nokia Lumia 620 นั้นเป็นส่วนที่มีสีสันแวววาวที่สุดของเครื่องครับ แถมยังมีหลายสีให้เลือกได้ตามความชอบด้วย
ฝั่่งซ้ายของเครื่องไม่มีปุ่มใดๆ อยู่เลย ฝั่งขวามีทั้งปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ปุ่มล็อคหน้าจอและปุ่มถ่ายภาพ ด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และด้านล่างมีช่อง micro USB ครับ
Oppo Find 5
Oppo Find 5 ก็เป็นมือถืออีกรุ่นที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเป็นสมาร์ทโฟนจอ 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD แต่ราคาเปิดมาแค่เพียง 16,990 บาทเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่ยังเป็นแค่การจองและมัดจำไว้ก่อนครับ โดยผู้ที่สั่งจองจะเริ่มได้รับของในช่วงต้นเดือนมีนาคมครับ
เท่าที่ลองใช้งาน พบว่าจอ Oppo Find 5 ให้ภาพที่สวยงามคมชัดมากๆ การเปลี่ยนหน้าจอ (transition) มีกระตุกบ้างเล็กน้อยในบางครั้ง แต่โดยรวมแล้วน่าพอใจทีเดียว
ฝาหลังของ Oppo Find 5 เป็นสีขาวตัดกับด้านหน้าเครื่องอย่างสิ้นเชิง (ดูเหมือนเทรนด์หน้าตามือถือในปีนี้จะเป็นแบบนี้กันหลายรุ่นเลย) มีกล้องถ่ายรูปอยู่ด้านบนสุดๆ ใกล้ๆ เป็นแฟลชที่มีหลอดไฟภายในถึงสองดวง ส่วนที่เป็นจุดสีดำๆ นั้นคือช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวน ด้านล่างเป็นช่องกระจายเสียงของลำโพงภายในตัวเครื่อง
ฝั่งขวาของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านซ้ายมีปุ่มล็อคหน้าจอ ส่วนด้านบนก็มีเพียงช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ด้านล่างมีไมค์รับเสียงและพอร์ต micro USB ที่อยู่เฉียงไปทางด้านขวาของเครื่อง
ลองจับมาเทียบกับ iPhone 5 ที่มีจอขนาด 4 นิ้วดูครับ
Oppo Find Way
Oppo Find Way ก็เป็นรุ่นที่เปิดจำหน่ายในงานนี้เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน ด้วยราคา 11,900 บาท แต่สเปกจัดว่าสามารถใช้งานทั่วไปได้อย่างสบายๆ ด้วยจอที่ใหญ่ถึง 4.5 นิ้ว แบตเตอรี่ความจุ 2020 mAh และที่เด่นมากคือน้ำหนักที่เบาเพียง 113 กรัม (ใกล้เคียงกับ iPhone 5) ทำให้สัมผัสแรกที่จับขึ้นมาคือ มันเบามากๆ ครับ หน้าจอก็สีสันสดใสดีมากทีเดียว ด้านหน้าไม่มีปุ่มกดใดๆ มีแต่เพียงปุ่มแบบสัมผัสบนหน้าจอเท่านั้น
ด้านหลังของเครื่องก็เป็นสีขาวเรียบๆ มีกล้องและแฟลชสำหรับถ่ายรูป ด้านล่างมีช่องกระจายเสียงของลำโพงในตัวเครื่องเท่านั้น
ด้านขวาของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านซ้ายมีปุ่มล็อคหน้าจอ ด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างก็มีเพียงช่อง micro USB เท่านั้น
HTC Butterfly
ด้านของ HTC ก็มี HTC Butterfly ที่เป็นไฮไลท์ในงานนี้ครับ ด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD จอสีสันสวยงาม คมชัดและน่าจะกลายเป็นเทรนด์ของมือถือระดับไฮเอนด์ในปีนี้ครับ เรื่องของการดีไซน์ก็ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น HTC ไว้เช่นเคยครับ ด้านหน้าเครื่องไม่มีปุ่มกดเช่นเดียวกับหลายๆ รุ่นของ HTC ครับ
ฝาหลังเป็นสีขาวตัดกับด้านหน้าเครื่อง กล้องถ่ายรูปถูกฝังมาในฝาหลังและไม่นูนขึ้นมาแบบเดียวกับ HTC One X แล้ว ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้านล่างของฝาหลังก็มีช่องลำโพงครับ
ฝั่งขวาของเครื่องมีเพียงปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านซ้ายไม่มีปุ่มใดๆ ด้านบนมีฝาเปิดสำหรับช่องใส่ซิมการ์ด ปุ่มล็อคหน้าจอ ช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร รวมไปถึงช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวนด้วย ด้านล่างมีช่อง micro USB
ด้านของการใช้งานโดยรวมเท่าที่ลองเล่นมา เรียกว่าดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะความลื่นในการ transition อินเตอร์เฟสต่างๆ ที่ทำได้ค่อนข้างดีกว่าสมาร์ทโฟนจอ Full HD ตัวอื่นๆ เท่าที่ลองเล่นมาในงานครับ
Acer Liquid C1
หนึ่งในเรื่องที่น่าสนใจในปีนี้ก็คือเหล่ามือถือที่ใช้งานชิปประมวลผลจาก Intel ที่จะมาบุกตลาดไทยมากขึ้น โดยในงานนี้ก็มี Acer Liquid C1 นำทัพมาก่อนเลย ด้วยราคาเพียง 9,990 บาท โดยตัวเครื่องก็จัดว่าอยู่ในระดับทั่วไปครับ
ด้านหลังมีการทำพื้นผิวมาเป็นคล้ายๆ ตะแกรงช่วยให้จับเครื่องได้ค่อนข้างกระชับพอสมควร ด้านล่างใกล้ๆ กับลำโพงมีโลโก้ของ Intel ติดอยู่อย่างชัดเจน ทำให้สังเกตได้ง่ายว่ามันใช้ชิปประมวลผลจาก Intel นั่นเอง
ฝั่งขวาของตัวเครื่องมีเพียงปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงฝั่งซ้ายมีช่อง micro USB สำหรับชาร์จไฟ ด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรและปุ่มล็อคหน้าจอ ส่วนด้านล่างมีช่องสำหรับงัดฝาหลังขึ้นครับ
Sony Xperia V
ด้านของเทรนด์คุณสมบัติการกันน้ำกันฝุ่นก็เป็นสิ่งที่เริ่มมีเข้ามาในสมาร์ทโฟนรุ่นมิดไฮถึงไฮเอนด์กันบ้างแล้ว อย่าง Sony Xperia V ที่สเปกจัดว่าน่าสนใจ หน้าจอขนาด 4.3 นิ้วที่กำลังพอดีมือ ความละเอียดระดับ HD กล้องหลังความละเอียดสูงสุด 13 MP มาพร้อมราคา 16,990 บาทด้วยกัน
ฝาหลังใช้วัสดุที่เคลือบผิวเป็นแบบซอฟท์ทัชที่ทำให้รู้สึกดีเวลาสัมผัส แต่ก็ทำให้เป็นรอยขีดได้ง่ายพอสมควรทีเดียว
เมื่อดูด้านข้างของเครื่องจะเห็นได้ชัดเลยว่ามีการปิดพอร์ตต่างๆ เพื่อกันน้ำกันฝุ่นเป็นอย่างดี อย่างด้านขวาก็มีปุ่มล็อคหน้าจอและปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านขวามีช่อง micro USB ที่มีฝาปิดไว้ ด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังที่มีฝาปิดไว้เช่นเดียวกัน ส่วนด้านล่างมีเพียงช่องรับเสียงของลำโพงสนทนาครับ
Sharp SH930W
ปีนี้เป็นปีที่ Sharp เริ่มมาทำตลาดสมาร์ทโฟนในบ้านเราอย่างจริงจัง โดยส่งออกมาในเบื้องต้นถึง 4 รุ่นตามแต่ละช่วงราคาครับ มาดูตัวแรกคือ Sharp SH930W ที่ใช้เทคโนโลยี AQUOS ที่ใช้อยู่ในทีวีของ Sharp มาบรรจุอยู่ในเครื่องด้วย ทำให้ภาพที่แสดงผลบนจอมีความสวยงาม คมชัด ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ ภาพบนจอนั้นสวยมากทีเดียว ตัวเครื่องด้านหน้าไม่มีปุ่มกดใดๆ ปุ่มสั่งงานทั้งสี่ปุ่มเป็นแบบสัมผัสบนจอทั้งหมด
ด้านหลังของเครื่องใช้ฝาหลังเป็นสีขาวดูขุ่นๆ เล็กน้อย ด้านบนมีกล้องพร้อมแฟลช
ฝั่งซ้ายของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านขวาไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใดๆ ส่วนด้านบนมีปุ่มล็อคหน้าจอ ช่องเสียบแจ็คหูฟัง และช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างก็มีช่อง micro USB และช่องรับเสียงของไมค์สนทนาครับ
มาดูตัวรองของ Sharp อย่าง Sharp SH837W กันต่อครับ ตัวนี้มีจุดน่าสนใจคือราคาราวๆ 12,900 บาท แต่ได้จอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD สเปกโดยรวมก็จัดว่ากำลังดี ใช้งานได้ลื่นๆ ครับ ด้านของดีไซน์ก็ไม่หนีไปจาก Sharp รุ่นอื่นๆ มากนัก
จะมีก็ด้านหลังที่ต่างไปจากรุ่นท็อปของ Sharp ที่วางจำหน่าย คือตรงบริเวณของกล้องถ่ายรูป
ฝั่งขวาของเครื่องไม่มีปุ่มหรือพอร์ตเชื่อมต่อใดๆ ส่วนด้านซ้ายมีเพียงปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านบนของเครื่องมีปุ่มล็อคหน้าจอและช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างมีแต่เพียงช่อง micro USB ครับ
Sharp SH631W
ส่วนใครที่อยากได้มือถือ Sharp ราคาไม่ถึงหมื่น ก็มี Sharp SH631W ให้เลือกด้วยเช่นกัน ด้วยหน้าตาที่ไม่ต่างจากรุ่นอื่นๆ เท่าไร ราคา 9,450 บาท แต่ได้จอขนาด 4.5 นิ้ว ก็นับว่าน่าสนใจทีเดียวสำหรับคนที่อยากได้มือถือจอใหญ่ๆ แต่ราคาไม่แพง
layout ต่างๆ ของ Sharp SH631W ก็จัดว่าไม่ต่างจากรุ่นอื่นๆ มากนักครับ จนอาจทำให้สับสนได้เหมือนกัน = =
มาถึงมือถือรุ่นสุดท้ายของ Sharp กับ Sharp SH530U ที่มีจุดเด่นตรงราคาเปิดมาแค่ 6,900 บาท กับหน้าจอที่ใหญ่ถึง 5 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 งานประกอบก็จัดว่าดีคุ้มราคาเลยทีเดียว อีกทั้งยังใช้งานได้สองซิม ทำให้เป็นอีกหนึ่งรุ่นในงานที่มีคนแวะเวียนเข้ามาดูกันอยู่ตลอด
หน้าตาโดยรวมของรุ่นนี้จะแตกต่างจากรุ่นอื่นเล็กน้อย ทำให้สังเกตได้ค่อนข้างง่ายครับ
แต่ในจุดของ layout ด้านข้างและพอร์ตเชื่อมต่อ มีจุดแตกต่างจากรุ่นอื่นก็ตรงที่มีการย้ายช่อง micro USB มาไว้ด้านบน ใกล้ๆ กับช่องเสียบแจ็คหูฟัง ส่วนด้านล่างจะมีช่องใส่หรับใส่ซิมการ์ดครับ
ASUS MeMO Pad
ด้านของแท็บเล็ตก็มีอยู่หนึ่งรุ่นที่เปิดวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในงาน นั่นคือ ASUS MeMO Pad ขนาด 7 นิ้ว ที่หวังมาตีตลาดแท็บเล็ตราคาถูกจากแท็บเล็ตจีนในปีนี้ ซึ่งหน้าตานั้นก็ดูคล้ายกับ Nexus 7 ที่ ASUS เป็นผู้ผลิตให้ Google มากเลยทีเดียว แต่ก็มีการลดเกรดของวัสดุลงมาพอสมควร เพื่อให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาไม่แพง อย่างในไทยก็เปิดขายที่ราคา 4,900 บาทด้วยกัน
ด้านหลังเป็นพลาสติกทำพื้นผิวเป็นปุ่มนูนๆ ขึ้นมาเล็กน้อย ด้านล่างมีช่องลำโพงช่องเล็กๆ อยู่
ฝั่งซ้ายของเครื่องมีปุ่มล็อคหน้าจอและปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ส่วนด้านขวามีเพียงช่องรับเสียงของไมค์ ด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างมีช่อง micro USB และช่องเสียบ microSD ที่เปิดเห็นเป็นช่องค่อนข้างชัดเจนและไม่มีฝาปิดครับ
ก็จบแล้วนะครับสำหรับการ hand-on แบบคร่าวๆ ของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ และรุ่นที่น่าสนใจในงาน TME 2013 ทั้งนี้ใครที่ตัดสินใจได้ว่าจะซื้อรุ่นไหน แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีโปรโมชันอะไรบ้าง สามารถเข้าไปรับชมต่อได้ที่บทความรวมโปรโมชันในงาน TME 2013 บทความนี้ได้เลยครับ
โปรโมชันในงาน Thailand Mobile Expo 2013 (TME 2013) วันที่ 7 ? 10 กุมภาพันธ์