ในงาน Thailand Mobile Expo 2013 (TME 2013) ครั้งนี้ นอกเหนือไปจากพาเหรดสมาร์ทโฟน Android ที่แต่ละแบรนด์ขนกันมาวางจำหน่ายในงาน พร้อมโปรโมชันและของแถมต่างๆ มากมายแล้ว ก็ยังมีการนำสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวไปมาวางจำหน่ายด้วย ซึ่งทางเราก็ไปจัดการ hands-on มาให้ได้ชมกันครับ โดยคัดมาเฉพาะบางรุ่นที่น่าสนใจ จะมีรุ่นใดบ้าง ไปชมกันเลย
BlackBerry Z10
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
เริ่มด้วย BlackBerry Z10 ครับ โดยเป็นเพียงเครื่องเดโมมาตั้งให้ได้ลองเล่นกันในงานเท่านั้น ยังไม่เปิดวางจำหน่ายหรือรับจองแต่อย่างใด ซึ่งจากเท่าที่ลองสัมผัสดู งานประกอบโดยรวมนั้นดีมากทีเดียว ดูเนี้ยบ สวยงามแบบเรียบๆ น้ำหนักค่อนข้างเบาครับ
ส่วนหน้าของตัวเครื่องไม่มีปุ่มกดเลย เนื่องจากใช้ปุ่มแบบสัมผัสบนจอทั้งหมด หน้าจอสีสวยงาม ความละเอียด 1280 x 768 คมชัด ด้านบนของตัวเครื่องมีแต่เพียงลำโพงสนทนาเท่านั้น
![]() |
![]() |
ด้านหลังใช้วัสดุเป็นพลาสติกแบบผสมชนิดพิเศษ มีพื้นผิวเป็นเป็นจุดๆ ช่วยทำให้จับเครื่องได้กระชับพอสมควร ตรงกลางฝาหลังมีโลโก้ของ BlackBerry ติดอยู่ ส่วนด้านบนมีกล้องถ่ายรูปพร้อมแฟลช
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ส่วนด้านข้างของ BlackBerry Z10 นั้น ฝั่งขวามีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านซ้ายมีช่อง micro USB สำหรับชาร์จไฟและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ด้านบนมีปุ่มล็อคจออยู่ตรงกลางเครื่อง ใกล้ๆ กันทางฝั่งซ้ายเป็นช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวน อีกช่องหนึ่งนั้นเป็นช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 mm ปิดท้ายด้วยด้านล่างที่ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใดๆ ครับ
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ด้านของสเปกเท่าที่มีแสดงอยู่ในเครื่องก็คือมีพื้นที่ภายใน 16 GB เหลือพื้นที่ว่าง (น่าจะยังไม่ได้ลงแอพเสริมใดๆ) อยู่ 10.7 GB มีแรม 2 GB ครับ การใช้งานนั้น หลักๆ เน้นการปาดหน้าจอเพื่อเข้าถึงหน้าจอต่างๆ ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการเรียนรู้การใช้งานซักเล็กน้อย
ลองเทียบกับ iPhone 5 ดูครับ ขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยเอง
i-mobile IQ6
![]() |
![]() |
i-mobile IQ6 เป็นสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องที่ได้รับความนิยมในงานเป็นอย่างสูง เนื่องด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้วความละเอียด 1280 x 720 แต่ราคาเปิดมาแค่เพียง 8,490 บาทเท่านั้นเอง งานประกอบก็จัดว่าแน่นหนาและดูดีกว่าสมาร์ทโฟนของ i-mobile เองรุ่นอื่นหลายๆ ตัว ดีจนน่าสนใจเลยทีเดียว จุดเด่นที่เห็นได้ชัดก็คือหน้าจอที่ให้ภาพคมชัดมากครับ
![]() |
![]() |
ด้านหลังตัวเครื่องมีกล้องถ่ายรูปความละเอียด 12 MP ที่นูนขึ้นมาเหนือฝาหลังติดตั้งอยู่ ส่วนท้ายมีลำโพง
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ฝั่งซ้ายของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ติดๆ กันนั้นเป็นปุ่มถ่ายรูป ด้านขวามีเพียงปุ่มล็อคหน้าจอ ส่วนด้านล่างไม่มีช่องเชื่อมต่อใดๆ ด้านบนของคัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังและช่อง micro USB
การใช้งานทั่วๆ ไปก็จัดว่าใช้งานได้ดี แต่ในการ transition ของหน้าจอในบางครั้งอาจจะไม่ลื่นและมีกระตุกบ้างครับ
Samsung Galaxy S3 mini
![]() |
![]() |
Samsung Galaxy S3 mini เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในงานนี้ ด้วยหน้าตาที่ออกมาเหมือนกับ Samsung Galaxy S III เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า และมีการปรับเปลี่ยนสเปกภายใน ทำให้ราคาลงมาเหลืออยู่ที่ 10,900 บาท จุดเด่นที่เห็นได้ชัดก็คือหน้าจอที่ให้ภาพสีสวยสดมากๆ เนื่องจากเป็นจอแบบ Super AMOLED ของ Samsung นั่นเอง ปุ่มการใช้งานก็มีปุ่มแบบกดแค่ปุ่มโฮมปุ่มเดียว ส่วนปุ่มเมนูและปุ่ม back เป็นปุ่มแบบสัมผัสบนตัวเครื่องเช่นเดิม (มีไฟ LED เรืองแสงขึ้นมาขณะใช้งานด้วย)
![]() |
![]() |
ฝาหลังเป็นพลาสติก มีการจัดวางที่แตกต่างจาก S III เล็กน้อย นั่นคือตำแหน่งของแฟลชที่ย้ายลงมาอยู่ด้านล่างของกล้องแทน
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ฝั่งขวาของเครื่องมีปุ่มล็อคหน้าจอ ฝั่งขวามีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ส่วนด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ใกล้ๆ กันนั้นเป็นช่องสำหรับแงะฝาหลังออก ส่วนด้านล่างมีช่องรับเสียงของไมค์และช่อง micro USB ครับ
Samsung Galaxy S3 mini มาพร้อมกับ Android 4.1.2 ครับ การใช้งานทั่วไปจัดว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลย
Samsung ATIV S
![]() |
![]() |
สมาร์ทโฟนแพลตฟอร์ม Windows Phone 8 ที่เปิดวางจำหน่ายในงาน TME 2013 นี้เป็นครั้งแรกนั่นคือ Samsung ATIV S ที่มีให้ลองเล่นก่อนซื้อได้ด้วย หน้าตาของ Samsung ATIV S จะดูคล้ายกับไลน์ของ Samsung Galaxy Note แต่ต่างที่หน้าจอมีขนาดลดลงมาเหลือ 4.8 นิ้ว พร้อมกับสีของเครื่องที่มาในโทนสีเทาเมทัลลิค โดยจุดที่ทำให้แตกต่างจากสมาร์ทโฟน Windows Phone 8 รุ่นอื่นๆ ในตลาดก็คือปุ่มโฮมที่เป็นปุ่มกดจริงๆ ครับ พร้อมกับสเปกที่จัดเต็ม ไม่ว่าจะจอความละเอียดระดับ HD กล้องหลัง 8 MP และยังรองรับการใช้งาน microSD อีกด้วย เปิดมาในราคา 17,900 บาท
![]() |
![]() |
ฝาหลังมาเป็นสีเทาเมทัลลิค พื้นผิวเป็นลายคล้ายๆ กับมีการขัดโลหะมา งานประกอบโดยรวมอยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียว
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ด้านซ้ายของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านขวามีปุ่มถ่ายรูปและปุ่มล็อคหน้าจอ ส่วนด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรกับช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวน และด้านล่างของเครื่องนั้นมีช่องรับเสียงของไมค์สนทนาและช่อง micro USB
Samsung Galaxy GRAND
![]() |
![]() |
มาถึงสมาร์ทโฟนที่คาดว่าน่าจะเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในงาน TME 2013 ครับ นั่นคือ Samsung Galaxy GRAND ที่มีจุดเด่นคือหน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 ทำให้สามารถมองตัวอักษร/ไอคอนได้ง่าย สเปกโดยรวมที่จัดว่ากำลังดีสำหรับการใช้งาน แบตเตอรี่ความจุมากถึง 2100mAh และปิดท้ายด้วยราคากระชากใจที่เพียง 11,900 บาทเท่านั้น
จากที่ได้ลองเล่นดู การใช้งานโดยรวมนั้นก็พอลื่นดีครับ หน้าจอขนาดใหญ่ สามารถอ่านหนังสือได้สะดวก (ในภาพตัวอย่างเป็นขนาดตัวอักษรขนาดใหญ่สุด)
![]() |
![]() |
ฝาหลังของเครื่องมาในหน้าตาแบบเดียวกับรุ่นอื่นๆ ของ Samsung ครับ
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ด้านขวาของเครื่องมีปุ่มล็อคหน้าจอ ด้านซ้ายมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านบนมีเพียงช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างมีช่องรับเสียงของไมค์และช่อง micro USB เท่านั้น
ส่วนภาพล่างสุดเป็นการนำ Samsung Galaxy GRAND มาเทียบกับ Nexus 4 ที่มีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้วครับ
![]() |
![]() |
มาดูมือถือรุ่นเล็กในสาย Windows Phone อย่าง Nokia Lumia 620 กันบ้าง หน้าตาก็มาในแบบเรียบๆ ตามแบบของ Nokia Lumia รุ่นก่อนหน้าครับ แต่หน้าจอลดลงมาเหลือขนาด 3.8 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 เปิดราคามาอยู่ที่ 8,250 บาทเท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทดลองใช้งาน Windows Phone มากทีเดียว
![]() |
![]() |
ฝาหลังของ Nokia Lumia 620 นั้นเป็นส่วนที่มีสีสันแวววาวที่สุดของเครื่องครับ แถมยังมีหลายสีให้เลือกได้ตามความชอบด้วย
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ฝั่่งซ้ายของเครื่องไม่มีปุ่มใดๆ อยู่เลย ฝั่งขวามีทั้งปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ปุ่มล็อคหน้าจอและปุ่มถ่ายภาพ ด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และด้านล่างมีช่อง micro USB ครับ
Oppo Find 5
![]() |
![]() |
Oppo Find 5 ก็เป็นมือถืออีกรุ่นที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเป็นสมาร์ทโฟนจอ 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD แต่ราคาเปิดมาแค่เพียง 16,990 บาทเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่ยังเป็นแค่การจองและมัดจำไว้ก่อนครับ โดยผู้ที่สั่งจองจะเริ่มได้รับของในช่วงต้นเดือนมีนาคมครับ
เท่าที่ลองใช้งาน พบว่าจอ Oppo Find 5 ให้ภาพที่สวยงามคมชัดมากๆ การเปลี่ยนหน้าจอ (transition) มีกระตุกบ้างเล็กน้อยในบางครั้ง แต่โดยรวมแล้วน่าพอใจทีเดียว
![]() |
![]() |
ฝาหลังของ Oppo Find 5 เป็นสีขาวตัดกับด้านหน้าเครื่องอย่างสิ้นเชิง (ดูเหมือนเทรนด์หน้าตามือถือในปีนี้จะเป็นแบบนี้กันหลายรุ่นเลย) มีกล้องถ่ายรูปอยู่ด้านบนสุดๆ ใกล้ๆ เป็นแฟลชที่มีหลอดไฟภายในถึงสองดวง ส่วนที่เป็นจุดสีดำๆ นั้นคือช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวน ด้านล่างเป็นช่องกระจายเสียงของลำโพงภายในตัวเครื่อง
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ฝั่งขวาของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านซ้ายมีปุ่มล็อคหน้าจอ ส่วนด้านบนก็มีเพียงช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ด้านล่างมีไมค์รับเสียงและพอร์ต micro USB ที่อยู่เฉียงไปทางด้านขวาของเครื่อง
![]() |
![]() |
ลองจับมาเทียบกับ iPhone 5 ที่มีจอขนาด 4 นิ้วดูครับ
Oppo Find Way
![]() |
![]() |
Oppo Find Way ก็เป็นรุ่นที่เปิดจำหน่ายในงานนี้เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน ด้วยราคา 11,900 บาท แต่สเปกจัดว่าสามารถใช้งานทั่วไปได้อย่างสบายๆ ด้วยจอที่ใหญ่ถึง 4.5 นิ้ว แบตเตอรี่ความจุ 2020 mAh และที่เด่นมากคือน้ำหนักที่เบาเพียง 113 กรัม (ใกล้เคียงกับ iPhone 5) ทำให้สัมผัสแรกที่จับขึ้นมาคือ มันเบามากๆ ครับ หน้าจอก็สีสันสดใสดีมากทีเดียว ด้านหน้าไม่มีปุ่มกดใดๆ มีแต่เพียงปุ่มแบบสัมผัสบนหน้าจอเท่านั้น
![]() |
![]() |
ด้านหลังของเครื่องก็เป็นสีขาวเรียบๆ มีกล้องและแฟลชสำหรับถ่ายรูป ด้านล่างมีช่องกระจายเสียงของลำโพงในตัวเครื่องเท่านั้น
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ด้านขวาของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านซ้ายมีปุ่มล็อคหน้าจอ ด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างก็มีเพียงช่อง micro USB เท่านั้น
HTC Butterfly
![]() |
![]() |
ด้านของ HTC ก็มี HTC Butterfly ที่เป็นไฮไลท์ในงานนี้ครับ ด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD จอสีสันสวยงาม คมชัดและน่าจะกลายเป็นเทรนด์ของมือถือระดับไฮเอนด์ในปีนี้ครับ เรื่องของการดีไซน์ก็ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น HTC ไว้เช่นเคยครับ ด้านหน้าเครื่องไม่มีปุ่มกดเช่นเดียวกับหลายๆ รุ่นของ HTC ครับ
![]() |
![]() |
ฝาหลังเป็นสีขาวตัดกับด้านหน้าเครื่อง กล้องถ่ายรูปถูกฝังมาในฝาหลังและไม่นูนขึ้นมาแบบเดียวกับ HTC One X แล้ว ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้านล่างของฝาหลังก็มีช่องลำโพงครับ
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ฝั่งขวาของเครื่องมีเพียงปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านซ้ายไม่มีปุ่มใดๆ ด้านบนมีฝาเปิดสำหรับช่องใส่ซิมการ์ด ปุ่มล็อคหน้าจอ ช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร รวมไปถึงช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวนด้วย ด้านล่างมีช่อง micro USB
ด้านของการใช้งานโดยรวมเท่าที่ลองเล่นมา เรียกว่าดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะความลื่นในการ transition อินเตอร์เฟสต่างๆ ที่ทำได้ค่อนข้างดีกว่าสมาร์ทโฟนจอ Full HD ตัวอื่นๆ เท่าที่ลองเล่นมาในงานครับ
Acer Liquid C1
![]() |
![]() |
หนึ่งในเรื่องที่น่าสนใจในปีนี้ก็คือเหล่ามือถือที่ใช้งานชิปประมวลผลจาก Intel ที่จะมาบุกตลาดไทยมากขึ้น โดยในงานนี้ก็มี Acer Liquid C1 นำทัพมาก่อนเลย ด้วยราคาเพียง 9,990 บาท โดยตัวเครื่องก็จัดว่าอยู่ในระดับทั่วไปครับ
![]() |
![]() |
ด้านหลังมีการทำพื้นผิวมาเป็นคล้ายๆ ตะแกรงช่วยให้จับเครื่องได้ค่อนข้างกระชับพอสมควร ด้านล่างใกล้ๆ กับลำโพงมีโลโก้ของ Intel ติดอยู่อย่างชัดเจน ทำให้สังเกตได้ง่ายว่ามันใช้ชิปประมวลผลจาก Intel นั่นเอง
![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
![]() |
ฝั่งขวาของตัวเครื่องมีเพียงปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงฝั่งซ้ายมีช่อง micro USB สำหรับชาร์จไฟ ด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรและปุ่มล็อคหน้าจอ ส่วนด้านล่างมีช่องสำหรับงัดฝาหลังขึ้นครับ
Sony Xperia V
![]() |
![]() |
ด้านของเทรนด์คุณสมบัติการกันน้ำกันฝุ่นก็เป็นสิ่งที่เริ่มมีเข้ามาในสมาร์ทโฟนรุ่นมิดไฮถึงไฮเอนด์กันบ้างแล้ว อย่าง Sony Xperia V ที่สเปกจัดว่าน่าสนใจ หน้าจอขนาด 4.3 นิ้วที่กำลังพอดีมือ ความละเอียดระดับ HD กล้องหลังความละเอียดสูงสุด 13 MP มาพร้อมราคา 16,990 บาทด้วยกัน
![]() |
![]() |
ฝาหลังใช้วัสดุที่เคลือบผิวเป็นแบบซอฟท์ทัชที่ทำให้รู้สึกดีเวลาสัมผัส แต่ก็ทำให้เป็นรอยขีดได้ง่ายพอสมควรทีเดียว
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
เมื่อดูด้านข้างของเครื่องจะเห็นได้ชัดเลยว่ามีการปิดพอร์ตต่างๆ เพื่อกันน้ำกันฝุ่นเป็นอย่างดี อย่างด้านขวาก็มีปุ่มล็อคหน้าจอและปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านขวามีช่อง micro USB ที่มีฝาปิดไว้ ด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังที่มีฝาปิดไว้เช่นเดียวกัน ส่วนด้านล่างมีเพียงช่องรับเสียงของลำโพงสนทนาครับ
Sharp SH930W
![]() |
![]() |
ปีนี้เป็นปีที่ Sharp เริ่มมาทำตลาดสมาร์ทโฟนในบ้านเราอย่างจริงจัง โดยส่งออกมาในเบื้องต้นถึง 4 รุ่นตามแต่ละช่วงราคาครับ มาดูตัวแรกคือ Sharp SH930W ที่ใช้เทคโนโลยี AQUOS ที่ใช้อยู่ในทีวีของ Sharp มาบรรจุอยู่ในเครื่องด้วย ทำให้ภาพที่แสดงผลบนจอมีความสวยงาม คมชัด ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ ภาพบนจอนั้นสวยมากทีเดียว ตัวเครื่องด้านหน้าไม่มีปุ่มกดใดๆ ปุ่มสั่งงานทั้งสี่ปุ่มเป็นแบบสัมผัสบนจอทั้งหมด
![]() |
![]() |
ด้านหลังของเครื่องใช้ฝาหลังเป็นสีขาวดูขุ่นๆ เล็กน้อย ด้านบนมีกล้องพร้อมแฟลช
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ฝั่งซ้ายของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านขวาไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใดๆ ส่วนด้านบนมีปุ่มล็อคหน้าจอ ช่องเสียบแจ็คหูฟัง และช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างก็มีช่อง micro USB และช่องรับเสียงของไมค์สนทนาครับ
![]() |
![]() |
มาดูตัวรองของ Sharp อย่าง Sharp SH837W กันต่อครับ ตัวนี้มีจุดน่าสนใจคือราคาราวๆ 12,900 บาท แต่ได้จอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD สเปกโดยรวมก็จัดว่ากำลังดี ใช้งานได้ลื่นๆ ครับ ด้านของดีไซน์ก็ไม่หนีไปจาก Sharp รุ่นอื่นๆ มากนัก
![]() |
![]() |
จะมีก็ด้านหลังที่ต่างไปจากรุ่นท็อปของ Sharp ที่วางจำหน่าย คือตรงบริเวณของกล้องถ่ายรูป
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ฝั่งขวาของเครื่องไม่มีปุ่มหรือพอร์ตเชื่อมต่อใดๆ ส่วนด้านซ้ายมีเพียงปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ด้านบนของเครื่องมีปุ่มล็อคหน้าจอและช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างมีแต่เพียงช่อง micro USB ครับ
Sharp SH631W
![]() |
![]() |
ส่วนใครที่อยากได้มือถือ Sharp ราคาไม่ถึงหมื่น ก็มี Sharp SH631W ให้เลือกด้วยเช่นกัน ด้วยหน้าตาที่ไม่ต่างจากรุ่นอื่นๆ เท่าไร ราคา 9,450 บาท แต่ได้จอขนาด 4.5 นิ้ว ก็นับว่าน่าสนใจทีเดียวสำหรับคนที่อยากได้มือถือจอใหญ่ๆ แต่ราคาไม่แพง
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
layout ต่างๆ ของ Sharp SH631W ก็จัดว่าไม่ต่างจากรุ่นอื่นๆ มากนักครับ จนอาจทำให้สับสนได้เหมือนกัน = =
![]() |
![]() |
มาถึงมือถือรุ่นสุดท้ายของ Sharp กับ Sharp SH530U ที่มีจุดเด่นตรงราคาเปิดมาแค่ 6,900 บาท กับหน้าจอที่ใหญ่ถึง 5 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 งานประกอบก็จัดว่าดีคุ้มราคาเลยทีเดียว อีกทั้งยังใช้งานได้สองซิม ทำให้เป็นอีกหนึ่งรุ่นในงานที่มีคนแวะเวียนเข้ามาดูกันอยู่ตลอด
หน้าตาโดยรวมของรุ่นนี้จะแตกต่างจากรุ่นอื่นเล็กน้อย ทำให้สังเกตได้ค่อนข้างง่ายครับ
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
แต่ในจุดของ layout ด้านข้างและพอร์ตเชื่อมต่อ มีจุดแตกต่างจากรุ่นอื่นก็ตรงที่มีการย้ายช่อง micro USB มาไว้ด้านบน ใกล้ๆ กับช่องเสียบแจ็คหูฟัง ส่วนด้านล่างจะมีช่องใส่หรับใส่ซิมการ์ดครับ
ASUS MeMO Pad
![]() |
![]() |
ด้านของแท็บเล็ตก็มีอยู่หนึ่งรุ่นที่เปิดวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในงาน นั่นคือ ASUS MeMO Pad ขนาด 7 นิ้ว ที่หวังมาตีตลาดแท็บเล็ตราคาถูกจากแท็บเล็ตจีนในปีนี้ ซึ่งหน้าตานั้นก็ดูคล้ายกับ Nexus 7 ที่ ASUS เป็นผู้ผลิตให้ Google มากเลยทีเดียว แต่ก็มีการลดเกรดของวัสดุลงมาพอสมควร เพื่อให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาไม่แพง อย่างในไทยก็เปิดขายที่ราคา 4,900 บาทด้วยกัน
![]() |
![]() |
ด้านหลังเป็นพลาสติกทำพื้นผิวเป็นปุ่มนูนๆ ขึ้นมาเล็กน้อย ด้านล่างมีช่องลำโพงช่องเล็กๆ อยู่
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ฝั่งซ้ายของเครื่องมีปุ่มล็อคหน้าจอและปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ส่วนด้านขวามีเพียงช่องรับเสียงของไมค์ ด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างมีช่อง micro USB และช่องเสียบ microSD ที่เปิดเห็นเป็นช่องค่อนข้างชัดเจนและไม่มีฝาปิดครับ
ก็จบแล้วนะครับสำหรับการ hand-on แบบคร่าวๆ ของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ และรุ่นที่น่าสนใจในงาน TME 2013 ทั้งนี้ใครที่ตัดสินใจได้ว่าจะซื้อรุ่นไหน แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีโปรโมชันอะไรบ้าง สามารถเข้าไปรับชมต่อได้ที่บทความรวมโปรโมชันในงาน TME 2013 บทความนี้ได้เลยครับ
โปรโมชันในงาน Thailand Mobile Expo 2013 (TME 2013) วันที่ 7 ? 10 กุมภาพันธ์