สมาร์ทโฟน Android ที่มีคนรอมากที่สุดในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นตัวของ LG Nexus 4 ที่จะมาเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงสำหรับ Android 4.2 (Jelly Bean) ซึ่งที่ผ่านมาก็มีวางจำหน่ายอยู่ในบางประเทศเท่านั้น ส่วนในไทยยังคงไม่มีข้อมูลออกมาชัดเจนว่าจะเริ่มวางขายเมื่อใด และที่สำคัญคือราคาเท่าไรก็ยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างแน่ชัด
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา LG ประเทศไทยได้จัดงานเปิดตัว LG Nexus 4 รอบสื่อและบล็อกเกอร์ไอที โดยในงานมีเครื่องจริงของ LG Nexus 4 ให้ได้ลองสัมผัสกัน เอาเป็นว่าเราไปดูหน้าตาและข้อมูลบางส่วนของ LG Nexus 4 กันดีกว่าครับ ส่วนเรื่องความคืบหน้าล่าสุดของ LG Nexus 4 นั้น เรามีให้ได้อ่านในช่วงหลังเช่นกัน
LG Nexus 4 นั้น เป็นสมาร์ทโฟนที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันของทั้ง LG และ Google จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน Android ที่มีอายุการใช้งานซอฟต์แวร์ที่ยาวนาน และจะได้รับการอัพเดตที่ไวกว่าเครื่องหลายๆ รุ่นในท้องตลาด อย่างที่มือถือตระกูล Nexus รุ่นก่อนหน้านี้มีมา โดยเมื่อมีจุดเด่นทางด้านซอฟต์แวร์แล้ว ในด้านของฮาร์ดแวร์ที่ได้ทาง LG เป็นผู้ออกแบบและผลิต ก็ยิ่งทำให้มีจุดเด่นเหนือสมาร์ทโฟน Android ในตลาดขึ้นไปอีก อย่างในด้านของดีไซน์ที่ดูเป็นแฟชันซึ่งเป็นจุดเด่นของ LG อยู่แล้ว ทำให้หลายๆ คนในงาน ให้การตอบรับด้านดีไซน์ในทางบวกไม่น้อยเลย เพราะมันจะออกเป็นแนวสวยลงตัว ไม่สุดโต่ง แต่ก็แอบเก๋ครับ
ส่วนของสเปกก็ไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกัน ดังนี้
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon S4 Pro (APQ8064) Quad-core ความเร็ว 1.5 GHz มาพร้อม GPU Adreno 320
- RAM 2 GB
- หน่วยความจำภายใน 8 หรือ 16 GB
- จอ IPS ขนาด 4.7? ความละเอียด 1280 x 768
- กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 2
- กล้องหลังความละเอียด 8 MP กล้องหน้าความละเอียด 1.3 MP
- แบตเตอรี่ 2,100 mAh
- ไม่มีช่องเสียบ microSD
- มี NFC
สเปก LG Nexus 4 : https://specphone.com/phone/362-Google-Nexus-4.html
ตัวเครื่องภายนอกของ LG Nexus 4 นั้นทั้งหน้าและหลังใช้กระจก Gorilla Glass 2 ซึ่งมีความแข็งแรงกว่า Gorilla Glass รุ่นแรกที่ยังใช้งานอยู่ในสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ในด้านของคุณสมบัตินั้นก็คือสามารถป้องกันการกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเดิม และนอกจากเรื่องของความแข็งแกร่งแล้ว ยังให้ความสวยงามกับตัวเครื่องอีกด้วย (ถ้านึกภาพไม่ออก ก็นึกถึงกระจกหน้า/หลังของ iPhone 4/4S ก็ได้ครับ)
ส่วนของตัวเครื่องนั้นถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักที่เบาและจับได้ง่าย ขนาดกำลังเหมาะมือ ปุ่มที่ใช้สั่งงานทั้งสามปุ่มเป็นแบบ capacitive
ส่วนของฝาหลังก็ใช้เป็นกระจกปิดไว้เช่นเดียวกัน แต่จะมีลูกเล่นอยู่ นั่นคือใต้ชั้นกระจกจะเป็นเกล็ดๆ สะท้อนแสง ทำให้เวลามีแสงมาตกกระทบจะเกิดเป็นจุดขาวๆ สะท้อนแสงบนฝาหลัง ดูคล้ายกับเป็นพวกอัญมณี ซึ่งในเรื่องนี้ก็เป็นเครดิตของทาง LG เต็มๆ ครับ ที่ดีไซน์หน้าตา Nexus 4 ออกมาให้ดูเป็นมือถือแฟชันมากขึ้น น่าใช้งานมากขึ้น
โดยส่วนบนของฝาหลังนั้นจะมีโลโก้คำว่า Nexus อยู่ ผลักเอาโลโก้ LG มาอยู่ตรงด้านล่างแทน ตามรูปแบบของเครื่อง Nexus ที่ต้องเน้นคำว่า Nexus เป็นหลัก ถัดจากโลโก้ LG ไปทางขวาเล็กน้อยก็เป็นตำแหน่งลำโพงของเครื่องที่แนบอยู่บนฝาหลังพอดี ซึ่งจุดนี้ไม่แน่ใจว่าถ้าวางเครื่องแบบหงายจอขึ้น เสียงจากลำโพงจะยังมีความดังมากขนาดไหน
กล้องหลังและไฟแฟลช LED ถูกติดตั้งมาเนียนเป็นเนื้อเดียวกับฝาหลัง โดยเท่าที่ลองถ่ายในที่ที่แสงน้อย (ในงานค่อนข้างมืด จึงทดสอบไม่ได้มาก) พบว่าอยู่ในระดับเดียวกับกล้องสมาร์ทโฟนหลายๆ ตัวในปัจจุบัน แต่ก็ต้องรอรีวิวแบบจริงจังอีกทีครับ
ด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวนและช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างมีช่อง micro USB และช่องรับเสียงของไมโครโฟนหลัก (ส่วนสองรูทั้งซ้ายและขวานั้น ข้างในเป็นน็อตยึดเครื่องครับ)
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง (รูปซ้าย) มีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงและถาดใส่ซิมการ์ด โดยซิมที่ใช้จะเป็นแบบไมโครซิม ซึ่งต้องใช้เข็มจิ้มไปในช่องเท่านั้น จึงจะสามารถถอดถาดใส่ซิมออกมาได้
ส่วนฝั่งขวามีเพียงปุ่มเปิด/ปิด/ล็อกเครื่องเท่านั้น ตำแหน่งอยู่บริเวณนิ้วหัวแม่มือขณะกำมือพอดี
ต่อมาเป็นภาพเทียบระหว่าง LG Nexus 4, Nokia Lumia 920 และ iPhone 5 (ที่ใส่เคส) เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจับเทียบกันแล้วจะเป็นอย่างไร
ส่วนด้านของซอฟต์แวร์ Android 4.2 Jelly Bean ที่ติดตั้งมาใน LG Nexus 4 นั้น เท่าที่ลองเล่นดูพบว่ามีลูกเล่นเพิ่มขึ้นมาจาก Android เวอร์ชันก่อนหน้ามาหลายอย่างทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ Google Now, หน้าล็อกสกรีนที่ใช้การปาดจอเพื่อเปิดใช้งานกล้อง รวมไปถึงโหมดการทำงานต่างๆ ซึ่งเราก็หยิบยกไฮไลท์บางส่วนมาให้ชมกันครับ
หน้าล็อกสกรีนก็ยังใช้การปลดล็อกแบบปาดไอคอนตรงกลางไปยังขอบวงกลมอยู่คล้ายๆ ของเดิม แต่ที่น่าสนใจจะอยู่ในส่วนถัดไปครับ
จากหน้าล็อกสกรีน ถ้าลากนิ้วปาดจอจากซ้ายไปขวาจะเป็นหน้าจอสำหรับเลือกวิดเจ็ตมาแปะบนหน้าล็อกสกรีนได้ ตัวอย่างวิดเจ็ตก็เช่นปฏิทิน นาฬิกา, อีเมล หรือแม้กระทั่ง Sound Search ที่ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลของเพลงที่ได้ยินก็มีให้พินไว้บนหน้าจอด้วยเช่นกัน
การปรับโหมดถ่ายภาพของแอพกล้องในเครื่องก็มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยปุ่มสำหรับเรียกเมนูจะเป็นปุ่มวงกลมขอบสีขาว (จากตัวอย่างจะอยู่ที่มุมขวาล่างของจอ) เมื่อกดแล้วจะมีวงเมนูปรากฏขึ้นมาตรงกลางจอ ซึ่งวิธีการใช้งานนั้น ก็ให้วางนิ้วไปบนวงกลมใหญ่ๆ ตรงกลาย จากนั้นก็ลากนิ้วไปยังส่วนที่ต้องการปรับ โดยเท่าที่ลองใช้งานดู พบว่าช่วงแรกๆ จะยังไม่ค่อยชินเท่าไรครับ แต่ถ้าได้ใช้งานไปซักระยะ คิดว่าน่าจะช่วยให้การปรับแต่งการทำงานเป็นไปได้ง่ายกว่าเดิมมากๆ ทีเดียว
ส่วนปุ่มด้านล่างซ้ายของจอนั้นเป็นปุ่มสำหรับปรับโหมดการถ่าย ว่าจะถ่ายภาพนิ่ง. วิดีโอ, พาโนรามา หรือในโหมดใหม่ก็คือพาโนรามาแบบ 360 องศารอบตัว ดังตัวอย่างด้านล่างครับ
เสียดายที่บรรยากาศในงานค่อนข้างมืด จึงไม่สามารถลองเรื่องกล้องได้ถนัดนัก
ด้านของ Notifications ก็มีการเพิ่ม notification ขั้นที่สองขึ้นมา โดยสามารถเรียกใช้งานได้ทั้งจากการกดปุ่มในหน้า notification ปกติและการปาดสองนิ้วลากจากขอบจอบนลงมาด้านล่าง ซึ่งในหน้าของขั้นที่สองนี้จะเป็นเพียงช็อตคัตเพื่อเข้าไปส่วนของการตั้งค่าแต่ละอย่างเท่านั้น (ถ้าเป็น toggle แบบสวิตช์เปิด/ปิดไปเลยจะดีมาก)
คีย์บอร์ดไทยที่มากับ Android 4.2 ใน LG Nexus 4 เป็นปุ่มแบบ 4 แถวจ้า ใช้งานง่ายแน่นอน
รายละเอียดของซอฟต์แวร์ Android 4.2 เล็กน้อยครับ เพื่อใครที่สนใจ
เนื่องด้วยตัว LG Nexus 4 นั้นมี NFC ติดตั้งมาด้วย ทำให้ทาง LG จัดการนำอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานร่วมกับ NFC มาโชว์ด้วยเช่นกัน นั่นคือเครื่องพิมพ์ภาพขนาดเล็ก ที่ใช้การเชื่อมต่อผ่าน NFC ดังภาพด้านล่างนี้
ซึ่งการใช้งานก็คือเพียงแค่วางสมาร์ทโฟนลงบนแท่นเครื่องพิมพ์ จากนั้นก็สั่งการผ่านทางมือถือ จากนั้นเครื่องพิมพ์ก็จะพิมพ์รูปออกมาให้ครับ ส่วนเรื่องของราคาและรายละเอียดทั้งตัวเครื่องและกระดาษยังไม่มีข้อมูลออกมา
ปิดท้ายด้วยไฮไลท์อีกหนึ่งตัวในงาน นั่นคือ LG Optimus G สมาร์ทโฟนตัวแรงอันดับต้นๆ ของโลกในขณะนี้ ที่ทาง LG ไทยได้นำมาตั้งโชว์ในงานด้วย แต่น่าเสียดายที่มันอยู่ในกล่อง จึงไม่สามารถนำมาเล่นได้เลยครับ ได้แต่ถ่ายรูปจากภายนอกเท่านั้น เอาเป็นว่าเราไปชมหน้าตามันก่อนก็แล้วกัน (สภาพแสงภายในไม่ค่อยดี เพราะรอบข้างมืดแต่ฐานที่วางมีแสงสว่างมาก จึงถ่ายภาพลำบากมากๆ ครับ)
โดยสถานการณ์ของ LG Nexus 4 ในขณะนี้ ทาง LG ไทยมีแผนจะนำมาจำหน่ายอย่างเป็นทางการช่วงเดือนมกราคมปีหน้า สาเหตุที่อาจจะช้าหน่อยก็เพราะจำนวนสินค้ามีค่อนข้างจำกัด และทาง Google ได้สั่งสต็อกของไว้เองแทบทั้งหมด ของจึงเหลือให้ LG จำหน่ายไม่มากนัก ส่วนราคายังไม่มีการกำหนดออกมาครับ ดังนั้นใครที่อยากได้คงต้องรอติดตามข่าวกันต่อไป
ส่วน LG Optimus G นั้น จะเริ่มวางจำหน่ายช่วงหลังจาก LG Nexus 4 วางจำหน่ายไประยะหนึ่ง เรื่องราคาก็เช่นเดียวกัน นั่นคือยังไม่มีกำหนดออกมาเช่นเดียวกับ Nexus 4