เทียบสเปค Samsung Galaxy S22 Ultra vs Galaxy S21 Ultra vs Galaxy Note20 Ultra จะซื้อใหม่ หรือจะใช้ตัวเดิมต่อดี นี่อาจจะเป็นคำถามในใจของใครหลายๆ คนหลังจากเห็นการเปิดตัวของ Samsung Galaxy S22 Ultra 5G ไป ซึ่งใครหลายๆ คนอาจจะตัดสินใจกันได้ไม่ยากนัก ทว่าสำหรับคนที่ใช้งาน Samsung Galaxy S21 Ultra 5G และ Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G ที่มีความสามารถคล้ายๆ กันนั้นอาจจะมีลังเลกันบ้างเล็กน้อย เนื่องจากสเปคและฟีเจอร์โดยรวมไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แถมด้วยราคาที่ไม่ใช่เล่นๆ จึงจำเป็นต้องตัดสินใจให้ดีก่อนว่าคุ้มไหมกับการเปลี่ยนเครื่อง ใครที่อยากรู้แล้วเราไปดูกันได้เลย
- เทียบสเปค Samsung Galaxy S22 Ultra vs Galaxy S21 Ultra vs Galaxy Note20 Ultra
- สรุป Samsung Galaxy S22 Ultra vs Galaxy S21 Ultra vs Galaxy Note20 Ultra จะซื้อใหม่หรือจะใช้ตัวเดิมต่อดี
** ต้องขอบอกก่อนนะว่าในบทความนี้เราจะพูดถึงแค่รุ่น 5G เท่านั้นนะ **
เทียบสเปค Samsung Galaxy S22 Ultra vs Galaxy S21 Ultra vs Galaxy Note20 Ultra
ตารางเทียบสเปค Samsung Galaxy S22 Ultra vs Galaxy S21 Ultra vs Galaxy Note20 Ultra
Galaxy S22 Ultra | Galaxy S21 Ultra | Galaxy Note20 Ulta | |
---|---|---|---|
ขนาด | 163.3 x 77.9 x 8.9 มม. | 165.1 x 75.6 x 8.9 มม. | 166.9 x 76 x 8.8 มม. |
น้ำหนัก | 228 กรัม | 227 กรัม | 222 กรัม |
หน้าจอ | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว 3088 x 1440 พิกเซล Refresh Rate 120Hz HDR10+ Gorilla Glass Victus+ | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว 3200 x 1440 พิกเซล Refresh Rate 120Hz HDR10+ Gorilla Glass Victus | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.9 นิ้ว 3200 x 1440 พิกเซล Refresh Rate 120Hz HDR10+ Gorilla Glass Victus |
ชิปประมวลผล | Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 | Samsung Exynos 2100 | Samsung Exynos 990 |
แรม / ความจุ | 8GB / 128GB 12GB / 256GB 12GB / 512GB | 12GB / 128GB 12GB / 256GB 16GB / 512GB | 12GB / 256GB 12GB / 512GB |
กล้องหลัง | 108 MP, f/1.8, OIS (wide) 10 MP, f/4.9, OIS (periscope telephoto) 10 MP, f/2.4, OIS (telephoto) 12 MP, f/2.2, 120˚ (ultrawide) | 108MP f/1.8, OIS (wide) 10 MP, f/4.9, OIS (periscope telephoto) 10 MP, f/2.4, OIS (telephoto) 12 MP, f/2.2, 120˚ (ultrawide) | 108MP f/1.8, OIS (wide) 12 MP, f/4.9, OIS (periscope telephoto) 12 MP, f/2.2, 120˚ (ultrawide) |
กล้องหน้า | 40 MP, f/2.2 | 40 MP, f/2.2 | 10 MP, f/2.2 |
แบตเตอรี่ | 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 45W | 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 25W | 4,500 mAh ชาร์จเร็ว 25W |
S Pen | มีในตัว | ซื้อแยก (ไม่มีที่เก็บในตัว ต้องซื้อเคสเพิ่ม) | มีในตัว |
ราคา* | 128GB : 39,900 บาท 256GB : 43,900 บาท 512GB : 47,900 บาท | 128GB : 39,900 บาท 256GB : 41,900 บาท 512GB : 45,900 บาท | 256GB : 42,900 บาท 512GB : 46,900 บาท |
เมื่อเทียบสเปคกันแล้วนอกจากดีไซน์ตัวเครื่องแล้วยังมีอีกหลายๆ ส่วนที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นขนาด, น้ำหนัก รวมถึงสเปคต่างๆ เพียงแต่ฟีเจอร์โดยรวมแล้วก็ไม่ได้ต่างกันมาก อะไรที่ Samsung Galaxy S22 Ultra สามารถทำได้ อีก 2 เครื่องก็ทำได้เช่นกัน ที่แตกต่างกันก็แค่ความแรงที่จะลดหลั่นไปตามปีที่เปิดตัวเท่านั้น
หน้าจอ
ในส่วนของหน้าจอนั้นทั้ง 3 รุ่นใช้เป็นหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X เช่นเดียวกัน แต่ที่ต่างกันก็คือขนาดหน้าจอที่ต่างกันเล็กน้อย อัตรารีเฟรชหน้าจอของทั้ง 3 เครื่องสามารถทำได้สูงสุดที่ 120Hz เช่นเดียวกัน เพียงแต่จะมีแค่ Galaxy Note20 Ultra เท่านั้นที่ปรับได้แค่ 60Hz และ 120Hz ส่วน Galaxy S21 Ultra และ Galaxy S22 Ultra จะเป็นแบบ Adaptive Display ที่สามารถปรับอัตโนมัติได้ตั้งแต่ 1 – 120Hz ซึ่งแบบนี้จะช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานมากกว่า ซึ่งถ้าว่ากันโดยรวมแล้วเรื่องหน้าจอนี้ Galaxy S12 Ultra และ Galaxy S22 Ultra น่าสนใจกว่าเยอะ ถึงแม้ว่าขนาดหน้าจอจะเล็กกว่า Galaxy Note20 Ultra เล็กน้อยก็ตาม
สเปคภายใน
ในเรื่องของสเปคภายในต่างๆ นั้นทาง Galaxy S22 Ultra มาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 มีแรมให้เลือก 2 ขนาดคือ 8GB และ 12GB มีความจุให้เลือก 3 ขนาดคือ 128GB, 256GB และ 512GB มีแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็วสูงสุด 45W ส่วน Galaxy S21 Ultra มาพร้อมชิปประมวลผล Exynos 2100 มีแรมให้เลือก 2 ขนาดคือ 12GB และ 16GB มีความจุให้เลือก 3 ขนาดคือ 128GB, 256GB และ 512GB มีแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็วสูงสุด 25W และ Galaxy Note20 Ultra มาพร้อมชิปประมวลผล Exynos 990 มีแรมให้เลือกขนาดเดียวคือ 12GB มีความจุให้เลือก 2 ขนาดคือ 256GB และ 512GB มีแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็วสูงสุด 25W
ซึ่งถ้าพูดโดยรวมแล้ว Galaxy S22 Ultra ที่ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 น่าสนใจกว่าเยอะ ด้วยชิปประมวลผลที่แรงและประหยัดพลังงานที่สุด เพียงแต่ Galaxy S21 Ultra จะน่าสนใจตรงนี้แรมมีขนาดเยอะกว่า แค่ขนาดเริ่มต้นก็ 12GB เข้าไปแล้ว และสูงสุดถึง 16GB ซึ่งในด้านการใช้งานต่างๆ แล้วจะมีประโยชน์มากกว่า แถมชิปประมวลผล Exynos 2100 เองก็นับว่าแรงเกินพอสำหรับการใช้งานไปได้อีกหลายปี ในขณะที่ Galaxy Note20 Ultra นั้นใช้ชิปประมวลผล Exynos 990 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่โดยรวมแล้วมีปัญหาเรื่องความร้อนมากกว่าอีก 2 รุ่น แต่ถ้าถามถึงความแรงและการใช้งานแล้วก็นับง่ายังแรงพอจะใช้งานในปัจจุบันได้ดี เพียงแต่ด้วยการที่ความร้อนขึ้นง่าย จะส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าปกติด้วย
โดยถ้าให้สรุปเรื่องสเปคภายในแล้วถ้าเอาที่ดีที่สุดก็ต้อง Galaxy S22 Ultra ที่ใช้ชิปตัวใหม่นี่แหละ แต่ถ้าเอาความคุ้มค่า Galaxy S21 Ultra ก็ยังน่าสนใจอยู่ ส่วน Galaxy Note20 Ultra นั้นจะน่าสนใจสำหรับคนที่งบไม่เยอะแต่อยากได้มือถือเรือธงที่มีปากกา เนื่องจากในปัจจุบันนี้หามือ 1 ยากแล้ว ส่วนราคามือถือ 2 สภาพดีๆ เองก็อยู่ในช่วง 2 หมื่นต้นๆ เองด้วย
กล้อง
ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพนั้นทั้ง 3 มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 108 MP เช่นเดียวกัน เพียงแต่ Galaxy Note20 Ultra นั้นจะเป็นเซ็นเซอร์ 108 MP รุ่นแรก ทำให้ทั้งความคมชัดหรือการถ่ายภาพในที่แสงน้อยอาจจะสู้ Galaxy S21 Ultra และ Galaxy S22 Ultra ที่เป็นเซ็นเซอร์รุ่นใหม่ไม่ได้ แถมทาง Samsung ก็พัฒนาความสามารถในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้ดียิ่งขึ้นทุกครั้งที่เปิดตัวรุ่นใหม่ด้วย
ในส่วนของกล้องซูมนั้นทาง Galaxy Note20 Ultra ออกจะเสียเปรียบอีก 2 รุ่นพอสมควร เนื่องจาก Galaxy Note20 Ultra นั้นมีเลนส์สำหรับซูมแค่ 1 ตัว ที่เป็นเลนส์ preiscope ระยะซูมแบบ Optical 5x เท่านั้น แถมยังซูมได้สูงสุดเพียงแค่ 50x เท่านั้นด้วย ในขณะที่ Galaxy S21 Ultra และ Galaxy S22 Ultra นั้นมาพร้อมเเลนส์ซูม 2 ชุด ที่มีระยะซูมแบบ Optical 3x และ 10x แถมยังสามารถซูมได้สูงสุดถึง 100x อีกด้วย
ส่วนกล้อง ultrawide หรือกล้องมุมกว้างพิเศษนั้นเรียกได้ว่าอาจจะเป็นกล้องตัวเดียวกันทั้ง 3 รุ่นเลยก็ได้ เพียงแต่ Galaxy S21 Ultra และ Galaxy S22 Ultra นั้นในกล้อง ultrawide จะสามารถถ่ายวิดีโอด้วยโหมด Super Steady ได้ด้วย ช่วยให้การถ่ายวิดีโอมีความหลากหลายมากขึ้น
ถ้าให้สรุปเรื่องกล้องโดยรวมแล้ว Galaxy S21 Ultra และ Galaxy S22 Ultra จะน่าสนใจกว่าเพราะมีเลนส์ครบทุกระยะแถมระยะซูมก็เยอะด้วย ทว่าถ้าพูดถึงการใช้งานทั่วๆ ไปแล้วต่อให้เป็นกล้องของ Galaxy Note20 Ultra ก็นับว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
S Pen
สำหรับเรื่องของ S Pen นั้นถ้าพูดถึงความแม่นยำและความเร็วในการตอบสนองแล้วยังไงรุ่นใหม่ก็ดีกว่าแน่นอน เพียงแต่ในที่นี่เราจะมาพูดถึงขนาดและการพกพา ซึ่ง Galaxy S22 Ultra และ Galaxy Note20 Ultra นั้นเป็นแบบที่สามารถเสียบเก็บไว้ในเครื่องได้ ทำให้การพกพาสะดวกมากกว่า แต่ด้วยการที่ต้องเก็บเข้าไปภายในตัวเครื่องทำให้ขนาดค่อนข้างเล็ก ทำให้การจับถือค่อนข้างลำบาก ต้องใช้ความคุ้นชินมากพอสมควร ในขณะที่ Galaxy S21 Ultra นั้นไม่มี S Pen ในตัว ต้องซื้อแยกต่างหาก ทำให้สามารถทำตัวปากกาให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นได้ ช่วยให้การจับถือมีความง่ายมากขึ้น เพียงแต่ด้วยการที่ขนาดใหญ่ขึ้นนั้น ส่งผลให้ถ้าต้องการพกปากกา S Pen ก็ต้องพกแยกเพิ่มไปหรือไม่ก็ต้องซื้อเคสพิเศษเพิ่มอีก จะบอกว่าต้องเลือกระหว่างการพกพาง่ายหรือจับถือง่ายก็ได้
สรุป Samsung Galaxy S22 Ultra vs Galaxy S21 Ultra vs Galaxy Note20 Ultra จะซื้อใหม่ หรือจะใช้ตัวเดิมต่อดี
สรุป Samsung Galaxy S22 Ultra vs Galaxy S21 Ultra vs Galaxy Note20 Ultra จะซื้อใหม่ หรือจะใช้ตัวเดิมต่อดีนั้น สำหรับคนที่ใช้ Galaxy S21 Ultra อยู่แล้ว ขอบอกเลยว่าให้ใช้ต่อไปอะดีแล้ว เพราะนอกจากหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น 0.1 นิ้ว ชิปประมวลผลที่แรงเพิ่มขึ้นมา และความสามารถในการถ่ายภาพกลางคืนที่ดีขึ้น แล้วที่เหลือก็ไมไ่ด้ต่างกันมากนัก ซึ่งสำหรับคนที่ใช้งาน S Pen ด้วยนั้นแน่นอนว่าต้องมีอุปกรณ์ครบครันกันอยู่แล้วนั้น การที่จะซื้อ Galaxy S22 Ultra ถือว่าดูไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไร แต่สำหรับคนที่ใช้ Galaxy Note20 Ultra นั้นถ้าคิดจะอัพเกรดเป็น Galaxy S22 Ultra นั้นค่อนข้างเป็นเรื่องที่น่าสนใจพอสมควร เนื่องจากสเปคต่างๆ นั้นดีขึ้นมาก แถมไม่ต้องปรับตัวอะไร เนื่องจากดีไซน์ต่างๆ ใกล้เคียงกันอยู่แล้ว แต่ถ้างบไม่ถึงหรืออยากประหยัดก็สามารถใช้ Galaxy Note20 Ulltra ต่อไปได้อีกหลายปีเช่นกัน
ถ้าให้สรุปแบบสั้นๆ ก็คือคนที่ใช้ Samsung Galaxy S21 Ultra 5G อยู่แล้ว เปลี่ยนเป็น Samsung Galaxy S22 Ultra อาจจะไม่คุ้มเท่าไร ส่วนคนที่ใช้ Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G นั้นเปลี่ยนเป็น Samsumg Galaxy S22 Ultra ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจ เพราะจะเป็นการอัพเกรดเครื่องให้แรงขึ้นแบบเห็นได้ชัด แต่ถ้าเงินไม่พอก็ใช้ของเดิมต่อไปก็ได้ เพราะถึงอย่างไรก็ยังแรงเกินพอต่อการใช้งานในปัจจุบันนี้อยู่แล้ว