แนะนำเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดปลายนิ้วและ Smart Watch ยี่ห้อไหนดี
เดินทางเข้ามาถึงช่วงกลางปี และเกือบจะเข้าสู่ปลายปี 2021 กันแล้ว ซึ่งสถานการณ์บ้านเมืองของเรา กับการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใด รวมไปถึงยอดผู้เสียชีวิตที่มีต่อเนื่องมากขึ้นในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าจะมีการกระจายวัคซีนไปยังที่ต่างๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอทั่วถึงสำหรับทุกคนในประเทศ ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเลยก็คือ โรคประจำตัวที่มีอยู่แล้ว กับการที่เชื้อนั้นกระจายลงไปสู่ปอดแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้เกิดภาวะเนื้อเยื่อพร่องออกซิเจน (Hypoxemia) และถ้าหากว่าเกิดอาการขาดออกซิเจนในเนื้อเยื่อ หรือว่าในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว ก็จะทำให้เกิดอาการช็อคและเสียชีวิตในเวลาต่อมาได้เลยทีเดียว ดังนั้นเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดจึงสำคัญมาก สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ Covid-19 ไปแล้ว ซึ่งถ้าใครที่ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล หรือว่าที่โรงพยาบาลสนามก็อาจจะมีการเช็คอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าต้องดูแลตัวเองอยู่ที่บ้าน หรือว่าต้องรอการรักษาตัวที่บ้าน เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว หรือ Smart Watch ที่วัดค่าออกซิเจนในเลือดได้จึงสำคัญมาก วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาแนะนำเครื่องวัดค่าออกซิเจนในเลือดทั้งแบบที่ใช้ปลายนิ้วและ Smart Watch ที่สามารถวัดค่าได้ สำหรับคนที่ต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะอยู่โรงพยาบาลหรือที่บ้านก็ใช้ได้เหมือนกัน (ดูช่องทางการติดต่อหา รพ. เมื่อติด Covid-19 ได้ที่นี่)
- อุปกรณ์ที่วัดค่าออกซิเจนในเลือดช่วยวัดได้ยังไงบ้าง?
- เครื่องวัดออกซิเจนในเลือดปลายนิ้วยี่ห้อไหนดี
- Smart Watch ที่ใช้วัดออกซิเจนในเลือดได้
เครื่องวัดค่าออกซิเจนในเลือดคืออะไร และเกี่ยวข้องกับ Covid-19 อย่างไรบ้าง?
สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าเรื่องของค่าออกซิเจนที่อยู่ในเลือด มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของ Covid-19 อย่างไรนั้น ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ภาวะเนื้อเยื่อพร่องออกซิเจน (Hypoxemia) นั้นเป็นภาวะที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกาย มีปริมาณออกซิเจนในเนื้อเยื่อที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และเมื่อขาดออกซิเจนไป จะทำให้ร่างกายซีด มีเหงื่อออกมากกว่าปกติ หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก และถ้าหากว่าขาดออกซิเจนในเนื้อเยื่อต่ำลงอย่างฉับพลันนานๆ ก็จะทำให้เกิดอาการช็อค และทำให้เสียชีวิตได้เลย ซึ่งวิธีที่จะวัดได้ก็ต้องใช้เครื่องมือวัดค่าอย่างตัวที่จิ้มนิ้ว หรือว่าใช้ Smart Watch วัดค่า SpO2 ดูอยู่ตลอดสำหรับผู้ป่วยนั้นเอง
โดยค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนภายในเลือดหรือ SpO2 ที่อุปกรณ์วัดได้ จะต้องอยู่ที่เกณฑ์มาตฐานคือ 95-100% ของความอิ่มตัวสูงสุดในเลือดขณะพัก ถึงจะเป็นค่าปกติ แต่ถ้าหากค่าต่ำกว่านี้ก็อาจจะมีภาวะเนื้อเยื่อพร่องออกซิเจนได้ พูดง่ายๆ ก็คือเมื่อค่าต่ำเกินไป อวัยวะต่างๆ รวมถึงปอดก็จะมีปริมาณออกซิเจนที่ไม่เพียงพอ ทำงานร่างกายก็จะสามารถนำออกซิเจนในกระแสเลือด ไปใช้ได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายตามไปด้วย
ส่วนเรื่องของการได้รับเชื้อไวรัส Covid-19 ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้ออาจจะมีภาวะที่เรียกว่า Silent hypoxia หรือ Happy hypoxia ที่ส่งผลให้ร่างกายนั้นต้องการออกซิเจนมากกว่าปกติ อาการนี้มักจะอยู่ในผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดและระบบทางเดินหายใจ แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้กับคนที่มีเชื้อไวรัส Covid-19 ด้วยเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่ติดเชื้อมักจะไม่แสดงอาการออกมา และเมื่อวัดค่าออกซิเจนในเลือดก็จะพบว่าลงไปต่ำกว่าเกณฑ์แล้ว ดังนั้นการใช้อุปกรณ์วัดค่าเพื่อตรวจสอบอยู่เสมอ ก็จะทำให้เรารู้ว่าค่าออกซิเจนนั้นลดลงไปมากน้อยแค่ไหน และส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง แต่ไม่ได้ความว่าคนที่ลดลงกว่าปกติจะติดเชื้อเสมอไปนะ เพราะว่าอาจเกิดจากเรื่องอื่นได้ด้วย อย่างโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลาง และอื่นๆ ได้ด้วย ดังนั้นการวัดค่าด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ ก็ต้องดูตามสถาการณ์ด้วยว่าเราเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ Covid-19 หรือไม่
อุปกรณ์ที่วัดค่าออกซิเจนในเลือดช่วยวัดได้ยังไงบ้าง?
สำหรับเครื่องวัดค่า SpO2 ส่วนใหญ่ทางการแพทย์จะใช้เป็นตัวเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Pulse Oximeter) หรือถ้าจะให้แม่นยำที่สุด ก็จะต้องใช้ตัวอย่างเลือดจากผู้ป่วย Covid-19 จะทำให้รู้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากที่สุดแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมี Smart Watch, Smart Band หรือจากมือถือที่มีฟีเจอร์วัดปริมาณ SpO2 อยู่ด้วยอย่างใน Samsung บางรุ่นด้วย ส่วนวิธีการใช้งานก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย แค่นำเครื่องไปหนีบไว้ที่ปลายนิ้วให้แน่นแล้วกดวัดค่าเท่านั้นเลย แต่ก็มีข้อจำกัดเพื่อทำให้ได้ค่าแม่นยำที่สุดอยู่ด้วยคือ
- ไม่ควรทาเล็บด้วยสีเข้มเกินไป หรือทางที่ดีก็ไม่ควรทาเล็บที่ต้องการวัดค่าจะดีที่สุด
- ก่อนวัดค่าหรือขณะที่วัดค่า ควรนั่งพักให้ร่างกายเป็นปกติก่อน (ไม่ได้เหนื่อยอยู่)
- ต้องวางมือนิ่งๆ ขณะที่วัดค่า เพื่อไม่ค่านั้นคลาดเคลื่อน และเมื่อเลขขึ้นมา ก็ให้รอก่อนสักพักอย่างน้อย 30 วินาทีก่อนอ่านค่าเพื่อความแม่นยำ
ทางที่ดีถ้าหากว่าไม่มั่นใจในด้านการใช้งานก็ควรอ่านคู่มือให้ดี หรือว่าปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้งานจะดีที่สุด และถ้าอยู่ที่โรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนามก็อาจจะให้พยาบาลหรือแพทย์ช่วยดูด้วยอีกที เพื่อความแม่นยำด้วย
เครื่องวัดออกซิเจนในเลือดปลายนิ้วยี่ห้อไหนดี
สำหรับเครื่องวัดค่าออกซิเจนจากปลายนิ้วที่เราจะเอามาแนะนำกันในวันนี้ จะเป็นรุ่นและยี่ห้อที่มีวางขายอยู่บน Shopee หรือ Lazada เพราะว่าสามารถหาซื้อได้ง่าย และทุกรุ่นที่แนะนำจะเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการอนุญาตให้ผลิตและนำเข้า จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จากทั้งหมด 62 แบบ (กดดูทั้งหมดที่นี่) ที่สำคัญคือก่อนจะซื้อก็ควรอ่านรายละเอียดการใช้งาน และคุณสมบัติให้ดีก่อนสั่งซื้อทุกครั้งด้วย ไปดูกันเลยว่ามีตัวไหนน่าใช้งานบ้าง
1. Yuwell YX102
สำหรับตัวแรกนี้จะเป็นของ Yuwell ที่ค่อนข้างนิยมใช้งาน เพราะว่าดีไซน์ที่สวนงาม และเป็นชิประบบใหม่แบบ MCU ที่ได้มาตรฐาน ที่ผ่านการทดลองจาก BICKLER YE LABORATORY LIMITED และใช้คลื่นแสงตรวจวัดด้วยหลักการ Lambert beer LAW หน้าจอของรุ่นนี้จะเป็นแบบไฟ LED กับจอ OLED ที่มองเห็นได้ชัดเจน กันน้ำได้ในระดับ IPX1 และใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 17 ชั่วโมง สามารถวัดค่าได้ปกติและประมวลผลภายใน 8 วินาที ทั้งค่า SpO2 และ Heart Rate Pulse ขนาดกำลังดีไม่ใหญ่เกินไป ควาแม่นยำในการวัดค่า SpO2 ระดับ 70%-100% ความคลาดเคลื่อน 2% ส่วน อัตราการเต้นของหัวใจจะอยู่ที่ช่วง 25bmp – 250bmp มีความคลาดเคลื่อนเพียง +- 2bmp เท่านั้น กดซื้อได้ที่นี่ Shopee, Lazada
- ราคาอยู่ที่ประมาณ 650 – 1,000 บาท
2. Yuwell YX302
อีกหนึ่งรุ่นที่ค่อนข้างได้รับความนิยมไม่แพ้กัน สำหรับเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดปลายนิ้วของ Yuwell ที่ตัวนี้จะมีรูปทรงที่เล็กกระทัดรัดกว่า พร้อมกับน้ำหนักที่เบากว่าด้วย แต่ก็ยังมีหน้าจอที่เป็นแบบ OLED มองเห็นได้ชัดเจน และมีปุ่มกดอยู่ที่ด้านหน้า เมื่อต้องการวัดก็ให้กดไปที่ปุ่มค้างไว้สักพักเพื่อเปิดเครื่อง เพราะว่ารุ่นนี้จะปิดเครื่องอัตโนมัติภายใน 8 วินาทีเมื่อไม่ได้ใช้งาน ช่วยประหยัดถ่านได้อีกด้วย ส่วนเรื่องการวัดค่า SpO2 จะสามารถวัดได้ 70 ~ 99% ความคลาดเคลื่อน +-2 และวัดค่าการเต้นของชีพจร 25-250 ครั้งต่อนาที ใช้ถ่านขนาด AAA 2 ก้อน กดซื้อได้ที่นี่ Shopee, Lazada
- ราคาอยู่ที่ประมาณ 900 – 2,000 บาท
3. Beurer PO30 Pulse Oximeter
มาต่อกันที่เครื่องวัดออกซิเจนในเลือดแบบปลายนิ้วอีกหนึ่งยี่ห้อ ที่มีราคาสูงพอสมควรเลย แต่ก็สมกับราคาที่วางขาย เพราะคุณสมบัติที่ดีเยี่ยม และเป็นสินค้านำเข้าจากเยอรมันนี้เป็นส่วนใหญ่ แถมยังมีประกันให้นานถึง 5 ปี พร้อมกับสายคล้องคอและกระเป๋าเก็บอุปกรณ์อย่างดีมาให้ด้วย ส่วนหน้าจอของรุ่นนี้จะเป็นแบบ High Resolution TFT แสดงผลได้ 4 ทิศทาง 6 รูปแบบ และปรับความสว่างของหน้าจอได้ พร้อมกับระบบปิดอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน สามารถวัดค่า SpO2 และการเต้นของชีพจรได้ปกติทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา หรือว่าผู้ป่วยต่างๆ ก็ใช้ได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีรุ่น PO60 ที่มี Bluetooth เชื่อมต่อได้ด้วย กดซื้อได้ที่นี่ Shopee, Lazada
- ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,700 – 3,000 บาท
4. Rossmax SB210
เครื่องวัดออกซิเจนในเลือดแบบปลายนิ้วรุ่นแรกๆ ที่ได้รับอย. เลยสำหรับยี่ห้อ Rossmax ที่มีราคาสูงขึ้นไปอีกขั้น ด้วยฟังก์ชั่นที่จัดเต็มหลายอย่าง โดยตัวนี้สามารถเชื่อมต่อกับ Bluetooth เพื่อแสดงค่าบนโทรศัพท์และบันทึกข้อมูลต่างๆ เอาไว้ได้ 4 แบบทุก 5 , 10 , 30 , 60 นาที หน้าจอเป็น LCD กับระบบไฟ LED ที่มองเห็นได้ชัด และมีเสียงเตือนหากค่าที่วัดออกมาผิดปกติ หรือบอกเป็นสีที่ค่าปกติเป็นสีเหลือง และผิดปกติเป็นสีแดง ใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง ส่วนการวัดค่าจะสามารถวัดได้ทั้งค่า SpO2 ที่ความแม่นยำ 70% – 99% คลาดเคลื่อน +- 2% และวัดค่าชีพจร 30 – 250 bpm คลาดเคลื่อน ± 3% เหมาะสำหรับคนที่มีงบสูงและต้องการข้อมูลที่ละเอียดมากๆ เพราะมีราคาที่สูง กดซื้อได้ที่นี่ Shopee, Lazada
- ราคาอยู่ที่ประมาณ 4,500 – 7,000 บาท
5. SOS Plus Pulse Oximeter Model: Lk 87
มาต่อกันที่เครื่องวัดออกซิเจนในเลือดแบบปลายนิ้วรุ่นประหยัด ที่เป็นที่นิยมมากๆ ใน Shopee และ Lazada เรียกได้ว่าค้นหาเครื่องเหล่านี้ ก็จะมีขายขึ้นมาในหน้าแรกๆ เสมอ เพราะว่าตัวเครื่องนั้นมีราคาที่ถูกมากๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการวัดแบบทั่วไป ที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆ หรือต้องการข้อมูลละเอียดมากนัก โดยรุ่นนี้จะมีหน้าจอเป็น OLED แสดงผลออกมาได้ชัดเจนปรับความสว่างได้ด้วย และเมื่อหนีบนิ้วเอาไว้ เครื่องก็จะวัดค่าเรื่อยๆ ทุก 5 วินาทีและวัดได้ผลภายใน 8 วินาที แต่ถ้าเอาออกมาวางไว้ไม่ได้ใช้งาน ก็จะปิดเครื่องให้เองใน 8 วินาทีเช่นกัน วัดค่า SpO2 ได้ที่ช่วง 80%-90% ± 2% และ 70%-79% ± 3% ส่วนการวัดการเต้นของหัวใจจะอยู่ที่ 30 BPM – 240 BPM +-1% เท่านั้น โดยรวมแล้วเป็นรุ่นประหยัดที่ครบเครื่องดีที่สุดแล้ว กดซื้อได้ที่นี่ Shopee, Lazada
- ราคาอยู่ที่ประมาณ 80 – 150 บาท
6. SOS Plus Pulse Oximeter Model: A2
เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วรุ่นราคาประหยัดอีกหนึ่งรุ่น ที่ได้รับความนิยมสูงมากๆ เนื่องจากราคาที่เหมาะสมกับการใช้งาน และฟังก์ชันการใช้งานพร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงาม มีน้ำหนักเบาและพกพาได้สะดวก หน้าจอแสดงผลแบบ OLED มองเห็นได้ง่ายหมุนได้ 2 ทิศทาง และเมื่อสอดนิ้วเข้าไปจะทำการวัดให้ทุกๆ 6 วินาที แต่ถ้านำออกมาวางไว้เฉยๆ ก็จะปิดเองอัตโนมัติภายใน 8 วินาที ส่วนการวัดค่า SpO2 จะอยู่ในช่วง 60% – 99% คลาดเคลื่อน 3% และวัดอัตราการเต้นของหัวใจ 30 BPM – 250 BPM คลาดเคลื่อน +-1% โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ราคาไม่สูงมากนัก อยู่ในระดับกลางๆ ที่เข้าถึงได้ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นฟังก์ชันมากนัก กดซื้อได้ที่นี่ Shopee, Lazada
- ราคาอยู่ที่ประมาณ 200 – 500 บาท
Smart Watch ที่ใช้วัดออกซิเจนในเลือดได้
สำหรับอุปกรณ์แบบ Smart Watch, Smart Band และ Smart Phone ของ Samsung ที่สามารถใช้วัดค่า SpO2 ได้ จะมีอยู่หลายรุ่นอยู่เหมือนกัน และราคาก็จะอยู่ในช่วงหลักพันบามขึ้นไป ซึ่งใครที่มีอยู่แล้ว หรือว่ากำลังมองหา Smart Watch ที่เอาไว้วัดค่าต่างๆ ของร่างกายมากกว่าการวัด SpO2 เพียงอย่างเดียว ก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่ต้องซื้อมากๆ ด้วยเช่นกัน โดยมีรุ่นที่สามารถวัดค่าได้ดังนี้
APPLE WATCH 6
เริ่มกันที่ตัว Apple Watch 6 ที่สามารถวัดค่าได้หลายอย่าง รวมไปถึงค่า SpO2 และอัตราการเต้นของหัวใจ, ECG คลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ทุกที่ทุกเวลา เมื่อต้องการที่จะใช้งานก็เพียงแค่กดวัดค่า พร้อมกับเชื่อมต่อขึ้นมาบนมือถือ iPhone ได้ด้วย เพื่อเก็บข้อมูลที่เกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ ทั้งข้อมูลเชิงลึกหรือว่าข้อมูลด้านต่างๆ และให้แพทย์วิเคราะห์ได้ทันที นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยติดตามกิจกรรมประจำวัน และอื่นๆ อีกมากมาย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 13,400 บาท
HUAWEI WATCH
อุปกรณ์วัดค่าที่เป็น Smart Watch ตัวต่อมาจะเป็นของ HUAWEI Watch ที่มีรุ่นที่ทำออกมารองรับการวัดค่า SpO2 และอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งฟีเจอร์สุขภาพอื่นๆ อย่างครบถ้วน แถมยังสามารถกดเชื่อมต่อกับมือถือ Huawei เพื่อเก็บข้อมูลเป็นสถิติไวได้ด้วย โดยจะมีทั้งรุ่น HUAWEI Watch Fit, HUAWEI Watch GT2e, HUAWEI Watch GT2 และ HUAWEI Watch GT 2 Pro แล้วแต่งบประมาณ และรุ่นที่ต้องการซื้อได้เลย
GARMIN
นาฬิกาที่ขึ้นชื่อว่าทำขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพ และก็แน่นอนว่าสามารถววัดค่า SpO2 และวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ปกติ และยังสามารถวัดค่าอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพได้เป็นอย่างดี ซึ่ง Smart Watch ของ Garmin นั้นจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่พอสมควร ถ้าใครที่ต้องการใช้งานในฟังก์ชันอื่นๆ ร่วมด้วยและมีงบถึง ก็แนะนำว่าให้จัดมาเลย เพราะของเขาดีจริงๆ ตัวอย่างรุ่นที่สามารถวัดค่า SpO2 ได้คือ Garmin Vivosmart 4/ 4S, Garmin Forerunner, Garmin Vivoactive 4, Garmin Instinct Solar, Garmin Venu SQ, Garmin Legacy Hero/ Saga, Garmin Vívomove 3 ส่วนราคาของแต่ละรุ่น อาจจะแตกต่างกันออกไปตามร้านค้าและตัวแทนจำหน่าย
AMAZFIT
Smart Watch ที่มีราคากลางๆ แต่ดีไซน์สวยงามพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานเกี่ยวกับทางด้านของสุขภาพที่หลากหลาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลย สำหรับคนที่มีงบไม่เยอะมาก แต่ว่ามีคุณสมบัติที่สามารถวัดค่าได้ครบถ้วน ทั้งการวัดค่า SpO2 หรือว่าอัตราการเต้นของหัวใจ และอีกหลายๆ อย่างได้เป็นปกติ ตัวอย่างรุ่นที่สามารถวัดค่า SpO2 ได้คือ Amazfit GTR 2, Amazfit GTR 2e, Amazfit T-Rex Pro, Amazfit Bip U, Amazfit Bip U Pro, Amazfit GTS2 หรือรุ่นอื่นๆ อีก ดูรายละเอียดได้ที่นี่
SMART BAND
ส่วนใครที่ไม่ได้ต้องการซื้อเป็นตัว Smart Watch มาใช้แบบตรงๆ แต่ว่าต้องการวัดค่าต่างๆ ซึ่งตัว Smart Band นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ สำหรับผู้สูงวัย ที่สามารถใส่ไว้ได้ตลอดเวลา โดยที่ไม่หนักข้อมือมากนัก แถมยังมีราคาที่ไม่สูงมาก แตกต่างกันออกไปตามยี่ห้อและแต่ละรุ่น โดยพื้นฐานของตัว Smart Band จะสามารถวัดค่าต่างๆ ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ หรือว่าค่าSpO2 ได้อยู่แล้ว รวมไปถึงการวัดค่าอื่นๆ ที่ทำได้คล้ายๆ กับ Smart Watch เลยเช่นกัน ตัวอย่างรุ่นที่ใช้งานได้ก็จะมีทั้ง HUAWEI, Honor และ OPPO ในรุ่น HUAWEI Band 4/ 4 Pro, HUAWEI Band 6, Honor Band 5 และ OPPO Band
นอกจากนี้ยังมียี่ห้อและรุ่นอื่นๆ ที่สามารถตรวจค่า SpO2 หรืออัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อดูสุขภาพได้อีกมากมายให้เลือกไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy Watch3, Honor Magic Watch 2, Xiaomi Mi Watch, Realme Watch S/ S Pro, Fitbit Charge 3, Fitbit Ionic, Fitbit Versa/ Lite/ Versa 2, Fitbit Sense, TicWatch 3 Pro และรุ่นอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย แต่ควรอ่านรายละเอียดให้ดีก่อนซื้อหรือถามพนักงานก่อนซื้อให้ดีด้วย ว่าใช้วัดค่าได้หรือไม่
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับการวัดค่าออกซิเจนในเลือดด้วยอุปกรณ์ทั้งการวัดค่าด้วยปลายนิ้ว และการใช้ Smart Wtach, Smart Band ในการวัดค่า ซึ่งความจริงแล้วก็ยังมีอุปกรณ์ที่วัดค่า SpO2 แบบปลายนิ้วอีกหลายรุ่นมากๆ ที่วางขายกันอยู่ในขณะนี้ และก็ต้องบอกเลยว่าบางรุ่นก็ยังไม่ได้รับรองจาก อย. เลย ดังนั้นก่อนจะกดสั่งซื้อก็ควรที่จะต้องอ่านรายละเอียดให้ดีก่อนทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นอาจจะซื้อมาใช้งานแล้ววัดค่าคลาดเคลื่อนและเกิดอันตรายได้ ที่สำคัญคือทุกอุปกรณ์นั้นไม่สามารถวัดค่าได้ตรงเป๊ะ 100% ถ้าต้องการความมั่นใจสุดๆ ต้องให้แพทย์เป็นคนตรวจหาค่าให้ด้วยเลือด สำหรับคนที่มีความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะซื้ออุปกรณ์มาไว้ในกรณีที่ได้รับเชื้อ Covid-19 มาเอาไว้ตรวจเช็คให้คนในครอบครัวหรือตัวเองก็เป็นเรื่องที่ดี และช่วยได้ในเบื้องต้น แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ