เป็นที่น่าแปลกใจมากเพราะล่าสุด Google ได้ปล่อย Android N ออกมาให้ผู้ใช้งานมือถือ Nexus รุ่นใหม่ๆ ได้ทำการทดสอบ โดยการเข้าร่วมโครงการ Beta Testing Program และสามารถอัพเดท Android เวอร์ชั่นล่าสุดผ่านทาง OTA (Over-The-Air) ที่ทาง Google จะปล่อยซอฟท์แวร์ให้ได้อัพเดท และแน่นอนว่าสิ่งที่เป็นจุดสนใจนั้นก็ไม่พ้นเรื่องของฟีเจอร์หรือลูกเล่นใหม่ๆ ที่จะมาพร้อมกับ Android เวอร์ชั่นใหม่ และในบทความนี้ผมจะพาไปดู 12 ฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับ Android เวอร์ชั่นใหม่ และนี่คือ 12 ฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับ Android 7.0 จะมีอะไรบ้างไปติดตามได้เลย
1.Multiwindow รูปแบบใหม่
และฟีเจอร์แรกที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้อย่างชัดเจนนั่นคือใน Android N จะมีความสามารถในการทำงานแบบ Multiwindow เข้ามา ซึ่งวิธีในการเปิดใช้งานนั่นก็คือการกดปุ่ม Overview ค้างเอาไว้เท่านั้นมือถือก็จะแสดงแอพที่เราใช้งานอยู่ในแบบ Multiwindow ในทันที ซึ่งจะสามารถแสงผลได้ถึง 2 แอพในครั้งเดียวกัน ซึ่งมุมมองนั้นก็แล้วแต่ว่าเราถือมือถือไว้ในมือแบบไหน ไม่ว่าจะแนงตั้งหรือแนวนอนก็สามารถใช้งานโหมดนี้ได้เช่น ซึ่งประโยชน์ของการใช้งานในโหมดนี้ก็ดังภาพตัวอย่างที่จะเห็นได้ว่าการคัดลอกตัวอักษรนั้นทำได้อย่างรวดเร็วมากกว่าเดิม
2.การแจ้งเตือนแบบใหม่
แทนที่จะเป็นการแจ้งเตือนแบบธรรมดาๆ ที่เราใช้งานกันอยู่ในทุกวันนี้ Android N มาพร้อมกับฟีเจอร์แจ้งเตือนหน้าตาแบบใหม่ที่เราสามารถอ่านข้อความแบบเต็มๆ ได้ด้วยการใช้นิ้วมือสองนิ้วปัดหน้าจอในส่วนของการแจ้งเตือน ยกตัวอย่างเช่น หากมีอีเมลใหม่เข้ามาเราสามารถอ่านฉบับเต็มฉบับจากหน้าต่างแจ้งเตือนได้โดยตรง ซึ่งจะไม่ทำให้เราเสียเวลาในการที่จะต้องกดเข้าไปอ่าน ถือว่าเป็นการปรับเปลี่ยนที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
3.ตอบข้อความต่างๆ จากหน้าแจ้งเตือน
นอกจากจะสามารถอ่านข้อความได้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ผู้ใช้งานนั้นสามารถตอบข้อความใหม่ๆที่เข้ามาได้ในทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่ Google ได้พัฒนาเพิ่มเข้ามาใน Android เวอร์ชั่นล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของอีเมล หรือแม้แต่ข้อความต่างๆ ก็สามารถตอบได้อย่างทันที ส่วนวิธีการตอบก็เช่นเดียวกับการเปิดอ่านนั่นคือการใช้นิ้วสองนิ้วลากข้อความแจ้งเตือนและกดปุ่ม Quick Reply เพื่อทำการตอบกลับนั่นเอง
4.สับเปลี่ยนแอพด้วยปุ่ม Overview
การสับเปลี่ยนแอพระหว่างการใช้งานนั้นก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ได้มีการพัฒนาขึ้นกว่า Android 6.0 Marshmallow อีกเช่นเดียวกันใน Android N เราสามารถสับเปลี่ยนการใช้งานแอพพลิเคชั่นได้โดยที่เรานั้นไม่ต้องสัมผัสกับหน้าจอโดยตรง ทำให้การใช้งานนั้นง่ายกว่าเดิมมาก ส่วนวิธีการก็แค่เพียงกดปุ่ม Overview 2 ครั้งติดกันเท่านั้นหรือจะกดเพียงครั้งเดียวเพื่อเลือกสับเปลี่ยนแอพแบบเร็วก็สามารถทำได้ ซึ่งนี่คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับ Android เวอร์ชั่นล่าสุด
5.ตัวเลือกเมนู Quick Setting ที่มากขึ้น
นอกจากจะเป็นเรื่องของการแจ้งเตือนแล้ว เรื่องการตั้งค่าในแถบ Quick Setting ที่อยู่ติดกับการแจ้งเตือนนั้นก็มีเมนูในการตั้งค่าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และยังสามารถจัดไอคอนได้ตามที่เรานั้นต้องการได้อีกด้วย และที่น่าสนใจนั่นคือมีการใช้แอนิเมชั่นเพื่อให้การควบคุมในส่วนนี้นั้นดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
6.โหมดกลางคืน
เป็นโหมดที่จะทำให้การใช้งานมือถือในตอนกลางคืนนั้นง่ายมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ทางผู้ผลิตมือถือเจ้าต่างๆ ก็ได้เริ่มหันมาสนใจในเรื่องของการใช้งานมือถือในที่แสงน้อยกันมากยิ่งขึ้น หรือจะเป็นเรื่องของการกำจัดแสงสีฟ้าของหน้าจอเพื่อทำให้เราไม่ปวดตาเวลาเพ่งมองหน้าจอนานๆ และโหมดกลาวงคืนของ Android เวอร์ชั่นใหม่นี้จะมาพร้อมกับความสามารถในการปรับความสว่างและเฉดสีของหน้าจอในแบบที่เรานั้นต้องการ
7. Data Saver
และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่ได้เพิ่มเข้ามาใน Android เวอร์ชั่นใหม่นั้นได้แก่ Data Saver หรือโหมดประหยัด 3G/4G นั่นเองซึ่งหลักการทำงานนั่นคือจะอนุญาตให้แอพทำงานเบื่้องหลังเฉพาะเวลาที่เราเชื่อมต่อ Wi-Fi เท่านั้น และระบบจะพยายามใช้ข้อมูลเครือข่ายให้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการลดคุณภาพของภาพที่แสดงผล เพื่อเป็นการประหยัดข้อมูลเครือข่ายให้มากที่สุดนั่นเอง
8.การจัดการไฟล์ทำได้หลากหลายมากขึ้น
ในส่วนของการจัดการไฟล์นั้น Android N ก็มาพร้อมการจัดการไฟล์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่นการคัดลอกไฟล์ ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย หรือจะเป็นในเรื่องของการย้ายไฟล์ต่างๆ นั้นก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน
9.Display calibration
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกหนึ่งฟีเจอร์ Display Calibrate ที่ได้มีเพิ่มเข้ามาใน Android N ซึ่งฟีเจอร์นี้จะทำให้เรานั้นสามารถปรับเฉดสีของหน้าจอได้ลึกกว่าการตั้งค่าทั่วไป และด้วยฟีเจอร์นี้จะทำให้เรานั้นสามารถเลือกโปรไฟล์สีที่เราชอบได้อย่างเช่นตั้งค่าให้หน้าจอแสดงผลในแบบสีโทนร้อนหรือโทนเย็น ซึ่งเราสามารถปรับแบบ RGB ได้ตามใจเลยทีเดียว
10.ระบบการจัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Google ได้เปิดตัว Doze Mode หรือโหมดประหยัดพลังงานไปแล้วใน Android 6.0 Marshmallow ซึ่งหลักการทำงานนั่นก็คือการปิดการทำงานเบื้องหลังของแอพพลิเคชั่นทั้งหมดยกเว้นในส่วนของนาฬิกาปลุกที่จะไม่ถูกปิดการทำงานเมื่อหน้าจอปิดตัวเข้าสู่โหมดสลีป และใน Android N ก็ได้มีการพัฒนาในเรื่องของการประหยัดพลังงานต่อเนื่องจากเวอร์ชั่นที่แล้ว โดยครั้งนี้ได้มีการพัฒนาให้มีการใช้หน่วยความจำให้น้อยลงเพื่อให้แอพพลิเคชั่นนั้นทำงานหลังบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
11.พัฒนามาใช้ JAVA 8 ใน Android N
ใน Android N นั้นได้มีการพัฒนามาใช้ JAVA 8 ในการใช้งานภาษาต่างๆ บน Android N ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นในการสร้างแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่จะใช้งานบน Android N นั่นเอง
12.Screen Zoom
และมาถึงฟีเจอร์สุดท้ายที่น่าสนใจนั่นคือการซูมหน้าจอ ซึ่ง Android N นั้นสามารถปรับเปลี่ยนขนากของหน้าจอได้ซึ่งจะใช้หลักการซูมหน้าจอให้ขนาดของไอคอนแอพนั้นใหญ่ขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สำหรับคนที่มีปัญหาทางด้านสายตาซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดี และนี่คือ 12 ฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับ Android N เรียกว่าแต่ละอย่างนั้นน่าสนใจเลยทีเดียว