สิ่งที่ผมคิดว่าทุกคนน่าจะรู้กันหมดแล้วในขณะนี้นั่นคือ Facebook ได้เปิดตัวปุ่ม Like แบบใหม่ซึ่งได้ทะยอยปล่อยออกมาผู้คนได้ใช้เริ่มงานกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่รู้หรือไม่ว่าปุ่ม Like แบบใหม่นี้มาพร้อมกับความสามารถพิเศษที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากทีมงาน Facebook นั้นได้วางแผนการสร้าง Emoji แบบใหม่นี้มาสักระยะหนึ่งแล้วนั่นหมายความว่าย่อมมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และมาดูกันว่าลูกเล่นใหม่นี้จะน่าสนใจขนาดไหน
ก่อนที่จะสร้าง Emoji แบบใหม่นี้ Julie Zhuo ซึ่งเป็น Product Design Director ของ Facebook ได้ทำการสังเกตพฤติกรรมผู้ใช้งาน Facebook ซึ่งมีผู้ใช้กว่า 1.44 พันล้านคนทั่วโลก ซึ่ง 90% ของผู้ใช้งานนั้นเล่นผ่านมือถือ จึงได้เกิดไอเดียที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงอะไรสักอย่างที่ง่ายกว่าการคอมเมนท์หรือการกดไลค์แถมยังตรงกับใจคิดโดยไม่ต้องสื่อความหมายอะไรมากมาย และสุดท้ายจึงได้ออกมาเป็น Emoji หรืออีโมติคอนที่ใช้ในการแสดงอารมณ์หรือความรู้สึกอย่างง่ายๆ นั่นเอง ซึ่งก็มีความท้าทาย เพราะอารมณ์หรือความรู้สึกของมนุษย์นั้นมีหลากหลายมากๆ คำถามคือจะจำแนกยังไงให้ตรงกับใจของคนส่วนใหญ่
Facebook จึงได้ตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้น และได้ดึงตัว Vyvyan Evans ศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Bangor ผู้ศึกษาการใช้อิโมติคอนในการสื่อสารในชีวิตประจำวันมาร่วมคิดวิเคราะห์ นอกจากนี้ยังดึง Dacher Keltner ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยามาเป็นที่ปรึกษาอีกด้วย ซึ่งศาสตราจารย์คนนี้เคยเป็นที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ให้กับหนังแอนนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Inside Out ซึ่งตัวละครแต่ละตัวจะเป็นตัวแทนทางด้านอารมณ์ต่างๆ ของมนุษย์ และ Dacher Keltner ได้สรุปว่าหากต้องการจะใช้อารมณ์ของมนุษย์มาเป็นพื้นฐานในการสร้าง Emoji ก็จะได้ Emoji ทั้งหมดราว 20-25 ตัวขึ้นไป ซึ่งก็เยอะเกินความต้องการของ Facebook ไปเสียอีก
การค้นหาอารมณ์ความรู้สึกที่คนเราจะแสดงออกมาบ่อยๆ จึงได้เริ่มต้นขึ้น โดยการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งาน Facebook ทั่วโลกว่าใช้งาน Emoji ประเภทไหนมากที่สุด รวมถึงคอมเมนท์ที่ใช้กันบ่อยๆ จนได้เป็นอีโมติคอน 6 ตัว อย่างที่ได้เปิดตัวไปแล้วในตอนนี้ และนอกจากนี้ทางทีมงานยังได้นำข้อมูลที่ค้นพบไปปรับอัลกอริธึมใน Facebook ให้สอคคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ Emoji แบบใหม่นี้มีดีมากกว่าความสวยงามอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่นหากเรากด Angry กับเพื่อนคนไหนมากๆ Facebook จะค่อยๆ ซ่อนเรื่องราวใหม่ๆ ของเพื่อนคนนั้นไม่ให้เราได้รับรู้ และหากเรากด Love กับเพื่อนคนไหนมากๆ เรื่องราวของเพื่อนคนนั้นจะแสดงให้เราได้เห็นเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าเป็นประโยชน์มากๆ เพราะเราจะได้เห็นแต่ในสิ่งที่เราชอบหรือสนใจจริงๆ เป็นอันดับแรกๆ
และดูเหมือนว่าทุกวันนี้ Facebook นั้นรู้จักตัวเรามากกว่าเพื่อนของเราเสียอีก ไม่ว่าจะชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เกิดวันไหน บ้านอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วก็เหมือนกับถูกจับตามองหรือควบคุมพฤติกรรมยังไงยังงั้น ซึ่งถ้าไม่ต้องการให้ Facebook ทำอย่างนั้นก็มีวิธีง่ายๆ นั่นคือแค่เลือกกดไลค์แบบเดิมไปเท่านั้น Facebook ก็จะไม่ยุ่งกับพฤติกรรมส่วนตัวของเรา งานนี้ใครที่กำลังคิดจะแกล้งเพื่อนด้วยการกด Angry ก็คงต้องไตร่ตรองให้ดีก่อนจะทำ เพราะเราอาจจะไม่รู้ข่าวสารหรือเรื่องราวใหม่ๆ ในชีวิตของเพื่อนคนนั้น และอาจจะทำให้ตกข่าวหรือพลาดประเด็นที่สำคัญๆ ไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งถือว่าเทคโนโลยีในทุกวันนี้นั้นทั้งก้าวหน้าและก็น่ากลัวไปพร้อมๆ กันมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้งานว่าจะใช้งานอย่างมีสติหรือไม่นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก