ในที่สุด Android 10 ก็ได้ปล่อยอัพเดตอย่างเป็นทางการออกมาเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปล่อยเป็น Android Q Beta มาให้ทดสอบกัน โดยใน Android 10 นี้เรียกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งเลยทีเดียว
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงและปรับปรุงใน Android 10
การเปลี่ยนแปลง UI
- ธีมมืด(Dark Theme) : เปลี่ยน Notification และหน้าอื่น ๆ ให้มีสีเข้มขึ้น
- อัปเดตเมนูฉุกเฉิน : ทำให้ไอคอนเป็นสากลมากขึ้น
- เพิ่มสถานะการออนไลน์ของอุปกรณ์ใน การตั้งค่า>เกี่ยวกับโทรศัพท์ : ตรวจสอบสถานะการออนไลน์ปัจจุบันของอุปกรณ์ตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก ว่าใช้งานมาแล้วเป็นเวลาเท่าไหร่
- อุปกรณ์บลูทูธจะเป็นไอคอนที่มีสีสัน : อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทุกอันจะมีไอคอนสีพาสเทลเพื่อให้จัดการง่ายขึ้น
- ปรับปรุง UI ในส่วนการใช้ข้อมูล : ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อมูลการใช้ข้อมูลแอพ
- อัปเดต UI ตัวติดตั้ง APK
- ปรับแก้ตัวป้อนรหัสผ่านใหม่ : ให้ส่วนมุมกลมขึ้นและเป็นไปตามธีมมืด
- อัพเดตท่าทาง(ความไวสัมผัส) : อนุญาตให้ปรับความไวสัมผัสเองได้
- ปรับปรุงเมนูแชร์ : มีตัวเลือกการแชร์แอพเพิ่มเติมพร้อมกับธีมใหม่
- หน้าจัดการอนุณาตแอพแบบใหม่ : จัดการและควบคุมการอนุญาตแอปทั้งหมดและสามารถเข้าถึงข้อมูลอุปกรณ์และเซ็นเซอร์ได้
- Adaptive Notifications มี UI การตั้งค่าแบบใหม่แล้ว
การเปลี่ยนแปลงในด้านการใช้งาน
- Native Screen recorder : บันทึกหน้าจอได้เองโดยไม่ต้องไปติดตั้งแอพเพิ่ม
- Chat bubbles สำหรับการแจ้งเตือนแอพ : สามารถเปิดใช้งานได้จากภายในการตั้งค่าสำหรับผู้พัฒนาเพื่อเลียนแบบ chatheads Facebook
- แถมเลื่อนสำหรับ media ใน notification : สามารถควมคุมการเล่นเสียงโดยการเลื่อนปรับได้ใน notification
- Wi:Fi Easy Connect : สแกน QRCode เพื่อเชื่อมต่อ Wifi
- Audio balance : ปรับสมดุลเสียงจากซ้ายไปขวาเพื่อให้ได้ประสบการณ์เสียงที่ดีที่สุด
- Copycat Zen Mode : โหมดโฟกัสที่จะช่วยให้คุณล็อคการเข้าถึงแอพที่เลือกไว้ตามช่วงเวลาที่กำหนดได้
- ปิดเซ็นเซอร์อุปกรณ์ในตั้งค่าด่วน : ปิดการใช้งานเซ็นเซอร์อุปกรณ์ทุกอย่างในเครื่องทันทีรวมถึง GPS proximity sensor และอื่น ๆ
- เลือกข้อความแล้วมีการตอบสนอง : เมื่อเลือกข้อความแล้วจะมีการตอนสนองด้วยการสั่น
- ย้ายตำแหน่งปุ่มแก้ไขและชื่อผู้ให้บริการในหน้าตั้งค่าด่วน
- File picker มีตัวชี้เพื่อเปิดตัวเลือกเพิ่มเติม
- Sleep เปลี่ยนไปใช้ชื่อ Screen timeout : ภายในยังเหมือนเดิม
- ปิดการแจ้งเตือนเลื่อนลงมาอยู่ด้านล่าง
- ตัวเลือกการแจ้งเตือนโดยการกดยาว : ตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับการปิดเสียง, แก้ไขการตั้งค่าและอื่น ๆ
- แจ้งเตือนมีแผงป๊อปอัป : เปลี่ยนการตั้งค่าการแจ้งเตือนของแอปได้อย่างรวดเร็วขึ้น
- Wi:Fi password sharing : แชร์รายละเอียดเครือข่าย Wi:Fi โดยใช้รหัส QR หรือรหัสผ่านข้อความที่ป้อนก่อนหน้านี้
- Smart battery saver : ตัวเลือกเพิ่มเติมเพื่อตั้งค่าระดับที่โทรศัพท์จะเข้าสู่โหมดประหยัดแบตเตอรี่โดยอัตโนมัติ
- ตัวประหยัดแบตเตอรี่จะปิดการใช้งานเมื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่ : เมื่อชาร์จโทรศัพท์จะออกจากโหมดประหยัดแบตเตอรี่เมื่อแบตเตอรี่สูงกว่า 90%
- โหมด Night Sight ใน Main Camera
- ภาพตัวอย่างใน Share Sheet : ดูตัวอย่างภาพขนาดเล็กได้
- ทางลัดสำหรับปรับระดับเสียงจะปรากฏขึ้นอยู่ที่แถมด้านข้าง : การปรับระดับบนหน้าจอรองรับการปรับได้หลายรายการโดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปหน้าตั้งค่า
- Live wallpaper : อนุญาตให้คุณดูตัวอย่างภาพพื้นหลังแบบเต็มหน้าจอก่อนใช้งาน
- ปรับปรุง Active Edge : หน้าจอรับข้อมูลแรงกดได้แม่นยำยิ่งขึ้น
- ปิดใช้งานเสียงแจ้งเตือนเป็นค่าเริ่มต้น : การกวาดนิ้วไปทางซ้ายบนการแจ้งเตือนจะแสดงเฉพาะไอคอนการตั้งค่าที่ให้เปิดใช้งานการแจ้งเตือนอีกครั้ง
- คำแนะนำ Assistant gesture : คำแนะนำครึ่งวงกลมเล็ก ๆ จะแสดงขึ้นเป็นระยะ ๆ ที่มุมซ้ายและขวาล่างหากคุณเปิดใช้ Assistant gesture การกวาดตามแนวทแยงมุมจะเป็นการเปิดใช้งาน Assistant ของ Google
- เมนูปรับเอาต์พุตเสียงใหม่ : เมนูปรับแต่งระดับเสียงที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกเอาต์พุตเสียงปัจจุบันในเมนูป๊อปอัพได้
- ในขณะนี้สามารถตอบกลับแบบสมาร์ทได้ทุกแอพ : การตอบกลับแบบสมาร์ทตามบริบทมีให้บริการแล้วในทุกแอพ
- ลบ Android Beam แล้ว
ปรังปรุงหน้าตาให้ดีขึ้น
- แสดงอายุการใช้งานแบตเตอรี่โดยประมาณในการตั้งค่าด่วน – ที่ด้านบนขวาคุณจะได้รับการประเมินอายุการใช้งานของอุปกรณ์ของคุณ
- ชุดรูปแบบ – มาตั้งแต่ Android Q Beta 1 โดยตอนนี้คุณสามารถปรับเปลี่ยนชุดรูปแบบของ Pixel ,ขนาดตัวอักษร, สไตล์และรูปแบบไอคอนได้
- ทำให้วิดเจ็ต A Glance ของ Pixel Launcher โดดเด่นยิ่งขึ้น
- ย้ายตำแหน่งไอคอนล็อคบนหน้าจอล็อค
- Grayscale ในแต่ละแอพ – เป็นส่วนหนึ่งของการอัพเดท Digital Wellbeing ใหม่ที่ให้คุณตั้งค่า Grayscale ในแต่ละแอพได้
- ออกแบบหน้าข้อมูลแอพใหม่ – จัดหน้าให้เป็นระเบียบมากขึ้นพร้อมข้อมูลสำคัญในส่วนหัวและไอคอนแอพ
- Ambient Display จะแสดงข้อมูลเพลงเพิ่มเติมระหว่างการเล่น – จะแสดงข้อมูลศิลปิน, เพลงและอัลบั้มให้เป็นระเบียบมากขึ้น
- ไอคอนแบตเตอรี่และ Wi-Fi ใหม่
- รูปโปรไฟล์ในการตั้งค่า
- หน้าข้อมูลฉุกเฉินได้รับการออกแบบใหม่ – สามารถมองเห็นได้ในมุมมองหน้าเดียวแทนที่จะใช้แท็บและอนุญาตให้คุณเพิ่มรูปโปรไฟล์เองได้
- ปุ่ม Enter ใหม่บนหน้าจอล็อค – ปุ่ม Enter จะมีสีเป็นไปตามการตั้งค่าธีมของอุปกรณ์
- ไอคอนระฆังในการแจ้งเตือนล่าสุด – ตอนนี้การแจ้งเตือนล่าสุดมีไอคอน ‘ระฆัง’ ขนาดเล็กแจ้งให้คุณทราบแล้ว
- บูตแอนิเมชั่นธีม Dark
- ปุ่มหมุนเร็วขึ้น
- ธีม Material สำหรับแอพ Files
- ธีม Material สำหรับ Google Wallpapers
- Gboard ปรับให้เข้ากับธีมของคุณ
- queeze to talk เป็นส่วนหนึ่งของ Active Edge – ข้อความป๊อปอัพปรากฏขึ้นเพื่อแจ้งให้คุณ ‘Squeeze to talk’ และเปิดใช้งาน Google Assistant
- โทนเสียงใหม่ตอนวางสาย
ทั้งหมดคือการอัพเดตทั้งหมดใน Android 10 ที่จะได้เห็นใน Pixel ซึ่งหากเคยใช้ Android Q Beta มาก่อนก็จะพอรู้คุณสมบัติต่าง ๆ ที่จะมีการอัพเดต และตอนนี้ก็ได้มีการเริ่มปล่อย Android 11 Queen Cake มาให้ลองเล่นกันบ้างแล้วด้วย
เพื่อน ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรกับการอัพเดต Android 10 ในครั้งนี้กันบ้าง สามารถมาคอมเมนต์พูดคุยกันได้ครับ
ที่มา : 9to5google