ในปัจจุบันนี้ ถ้ามองในตลาดสมาร์ทโฟน จะเห็นว่าสมาร์ทโฟน Android ยึดครองตลาดไปซะมากแล้ว เนื่องด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทั้งช่วงราคา ประสิทธิภาพ และฟีเจอร์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการของตนได้มากกว่า iPhone ที่ถ้านับรุ่นใหม่ ก็จะมีอยู่แต่ช่วงราคามากกว่า 20,000 บาทเป็นต้นไปทั้งนั้น อีกทั้งตัวเครื่องในแต่ละรุ่นที่มีให้เลือกเพียงขนาดเดียวมาตลอด ยังไม่รวมเรื่องขนาดหน้าจอที่จัดว่าเล็กไปสำหรับปัจจุบันอีก ทำให้กระแสความนิยมสมาร์ทโฟน Android มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนช่วงหลัง ถ้านับรวมสมาร์ทโฟน Android ทั้งหมด จะพบว่าส่วนแบ่งตลาดของ Android สูงกว่า iPhone ไปแล้ว
ซึ่งในเรื่องนี้ Eric Schmidt กรรมการบริหาร Google ได้ให้ความเห็นแกมแสดงความมั่นใจว่า สถานการณ์ของสมาร์ทโฟนในขณะนี้ Android เป็นฝ่ายกำชัยชนะเหนือ iPhone ไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยยอดการเปิดใช้งานเครื่อง Android รวมกันทั่วโลกเฉลี่ยวันละ 1.3 ล้านเครื่อง อีกทั้งรายงานจาก Gartner ยังออกมาอีกด้วยว่าส่วนแบ่งตลาดของสมาร์ทโฟน Android ในขณะนี้รวมกันสูงถึง 72% ในขณะที่ iPhone นั้นอยู่ที่ 14% เท่านั้น โดย Schmidt เปรียบ Google ในขณะนี้ว่าเป็นเหมือนกับ Microsoft ในวงการซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ที่สร้างให้ Windows ยิ่งใหญ่มาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา และจะยังคงความยิ่งใหญ่ต่อไป
อีกทั้ง Schmidt ยังเปิดเผยอีกว่า ยุทธศาสตร์ของ Google ในการเพิ่มส่วนแบ่งของ Android นั้นก็คือการพยายามให้ Android สามารถกระจายตัวไปอยู่ได้ในทุกๆ กลุ่มตลาด และเสริมด้วยบริการออนไลน์ต่างๆ ของ Google รวมไปถึงพยายามที่จะไม่เข้าไปควบคุมการใช้งานของลูกค้ามากจนเกินไปอย่างที่เกิดกับแพลตฟอร์มปิดของ iOS
แต่ผู้อ่านอย่าลืมนะครับว่ายอด 72% นั้น เป็นยอดรวมของสมาร์ทโฟน Android ทุกๆ แบรนด์ทั้งหมด ประกอบกับรายงานของ Gartner เป็นแค่รายงานในช่วงไตรมาสสาม ที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่ง Apple ยังไม่ได้วางจำหน่าย iPhone 5 ในตลาด จึงอาจจะทำให้ผลที่ออกมาสามารถใช้วัดได้ระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งก็ต้องรอดูผลสรุปรอบปีอีกครั้งหนึ่งครับ ถึงจะแน่นอนกว่า (ดูแล้ว Android ก็คงชนะอยู่ดี)
ว่าแต่ ถ้าเปรียบ Google เป็นเหมือน Microsoft ในตอนนั้น อนาคตจะเป็นเหมือนตอนนี้หรือเปล่านะ 🙂
ที่มา : Apple Insider