นอกจากที่ DxOMark จะทดสอบกล้อง ทดสอบมือถือแล้ว ยังมีระบบที่ใช้ในการทดสอบ ให้คะแนน และจัดอันดับหน้าจอมือถือด้วย ล่าสุดก็เป็นคิวของ iPhone 16 ที่ผ่านการทดสอบทางเทคนิคอย่างละเอียด พบว่าสามารถทำคะแนนทดสอบจอไปได้ 142 คะแนน
ซึ่งจะคิดเป็นอันดับที่ 40 จากผลการทดสอบทั้งหมด โดยคะแนนของรุ่นที่น่าสนใจมีดังนี้
- iPhone 15 / Xiaomi 14 Ultra ทำได้ 140 คะแนน
- iPhone 13 Pro Max / Xiaomi 14T ทำได้ 142 คะแนน
- Samsung Galaxy A25 5G / Huawei P60 Pro ทำได้ 143 คะแนน
- iPhone 14 Pro ทำได้ 146 คะแนน
- Samsung Galaxy S24 Ultra ทำได้ 155 คะแนน
- Google Pixel 9 Pro XL ทำได้ 158 คะแนน (อันดับ 1 ของทั้งหมด)
ส่วนถ้าแยกออกมาเป็นกลุ่มเครื่องระดับพรีเมียม จะอยู่ที่อันดับ 6 ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่ได้คะแนนสูงสุดเมื่อเทียบกับฝั่ง iPhone ด้วยกันเอง
โดยทาง DxOMark ได้สรุปจุดเด่นกับจุดด้อยของหน้าจอ iPhone 16 ไว้ดังนี้
จุดเด่น
- สีสันสวยงาม สีตรงทั้งกับการใช้งานในที่ร่มและกลางแจ้ง
- สามารถแสดงภาพจากวิดีโอ HDR10 ในที่ร่มและในสถานที่ที่มีแสงน้อยได้ดี
- สามารถดูและอ่านข้อมูลบนจอได้ดีทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง
จุดด้อย
- ค่าความสว่างเฉลี่ยในการรับชมวิดีโอ HDR10 และ SDR ยังไม่ค่อยคงที่
- การเคลื่อนไหวของภาพยังดูไม่ค่อยลื่นไหล เพราะมีรีเฟรชเรตจอแค่ 60Hz
- ความสว่างและคอนทราสต์ของภาพต่ำไปในบางสภาวะ กระทบกับการอ่านข้อมูลบนจอ
ส่วนในเนื้อหารีวิวจอก็จะเป็นการขยายจากทั้ง 6 ข้ออีกทีครับ ภาพรวมของจอ iPhone 16 ก็ถือว่าเป็นจอสมาร์ตโฟนที่ดีในระดับหนึ่ง ในด้านความสว่างก็ทำออกมาให้สามารถใช้งานได้ในแทบทุกสภาวะ จะมีติดอยู่บ้างก็ตรงระบบปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ ที่บางครั้งก็ปรับให้มืดตามสภาพห้องที่มีแสงน้อยได้ออกมามืดเกินไปจนดูภาพบนจอลำบาก ต้องอาศัยการปรับเองของผู้ใช้อีกเล็กน้อย ด้านของสีสันก็แม่นยำ สดใส จะมีติดออกโทนเหลืองเล็กน้อยตอนเปิดดูภาพและวิดีโอ HDR10 ในขณะที่เปิดโหมด True Tone อยู่
เซ็นเซอร์รับการแตะหน้าจอก็ทำได้เร็ว แม่นยำ จะมีก็บริเวณมุมจอที่อาจจะมีประสิทธิภาพไม่เท่ากับส่วนอื่นของจออยู่บ้าง และส่วนที่เพิ่มมาอย่างปุ่ม Camera Control เองก็เป็นเซ็นเซอร์แบบสัมผัสเช่นกัน ซึ่งจุดนี้ DxOMark ให้ความเห็นไว้ว่าบางครั้งระบบก็ไม่ตอบสนองอยู่บ้างเหมือนกัน โดยเฉพาะตอนที่ถือเครื่องด้วยมือเดียว สำหรับรีวิวแบบเต็ม สามารถตามไปอ่านต่อได้ที่เว็บไซต์ DxOMark ในที่มาของข่าวครับ
ที่มา: GizmoChina, DxOMark