Dtac?ประกาศเริ่มดำเนินการทดสอบ?เทคโนโลยี 4จี?บนคลื่นความถี่ 1,800 เมกะเฮิรตซ์?ในเขตกรุงเทพฯ โดยผลการทดลองทำความเร็วสูงสุดถึง 150Mbps?ขณะที่เดินหน้าอัพเกรดเครือข่ายใหม่ เชื่อสามารถใช้ได้ทันที เพื่อเปิดให้บริการได้รวดเร็วที่สุด…
นายประเทศ ตันกุรานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือDtac กล่าวว่า Dtacได้เริ่มการทดสอบเครือข่ายการสื่อสารเทคโนโลยี 4จี บนคลื่นความถี่ 1,800 เมกะเฮิรตซ์ ในเขตกรุงเทพฯ บริเวณสยามสแควร์และอาคารจัตุรัสจามจุรี?หลังได้รับความเห็นชอบจาก บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2555 โดยผลการทดสอบที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจมาก
ผอ.อาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่ายดีแทค กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน แผนการปรับปรุงยกระดับเครือข่ายทั่วประเทศภายใต้งบประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2553 ก็มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2555 นี้ ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้เป็นการยกระดับระบบเครือข่ายการสื่อสารครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย เป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคตได้ทันทีเมื่อทุกอย่างพร้อม ไม่ว่าจะเป็น 4จี หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ที่จะตามมา โดยสามารถอัพเกรดเครือข่ายทั่วประเทศเป็น 4 จี ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่เปลี่ยนการ์ด 4จี ในตู้สัญญาณ ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้น ส่งผลให้ดีแทคเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายที่มีความพร้อมในการเปิดให้บริการ 4จี ได้รวดเร็วที่สุด
นายประเทศ กล่าวด้วยว่า การทดลองเครือข่าย 4จี ของดีแทค บนคลื่นความถี่ 1,800 เมกะเฮิรตซ์ บนช่องสัญญาณที่ดีแทคมีอยู่ในปัจจุบัน ใช้เทคโนโลยี Frequency Division Duplex ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในเชิงพาณิชย์จริง และมีอุปกรณ์รองรับมากที่สุด การทดสอบในครั้งนี้สามารถทำสถิติใหม่ในประเทศไทย ด้วยความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดถึง 150 เมกะบิตต่อวินาที ทั้งนี้ ดีแทคเป็นเครือข่ายที่มีเสาสัญญาณใหม่ครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วยจำนวนสถานีฐานมากที่สุดถึง 15,700 สถานีฐาน โดยหลังการดำเนินการยกระดับเครือข่ายเสร็จสิ้นภายในปี 2555?สถานีฐานทั่วประเทศทั้งหมดจะมีความพร้อมในการรองรับและอัพเกรดสู่เทคโนโลยีใหม่ได้ทันที?ไม่ว่าจะเป็น 4จี รวมทั้งเทคโนโลยีอื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคต.
ที่มา?thairath.co.th