เปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาท 4 รุ่น ถ่ายรูปสวย สเปคแรงเล่นเกมได้ไหลลื่นในปี 2022

เปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาท 4 รุ่น ถ่ายรูปสวย สเปคแรงเล่นเกมได้ไหลลื่นในปี 2022

มือถือหรือสมาร์ทโฟนในช่วงราคาที่กำลังดี ได้สเปคกลางๆ และสามารถงาน 5G ได้ด้วย ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในช่วงราคาที่เกินหมื่นขึ้น แต่ก็ยังไม่เกิน 15000-20000 บาท ซึ่งสเปคของมือถือในราคากลางๆ เหล่านี้ ที่ใช้งาน 5G ได้ด้วยก็จะมีสเปคที่ค่อนข้างเร็วแรง และจะพยายามเน้นเรื่องกล้องหลังให้ถ่ายรูปได้ดีตามไปด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เท่ารุ่นที่เป็น 4G ทั่วไปก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ยังแลกมาด้วยการใช้งานและเชื่อมต่อที่เร็วแรง เล่นเกมได้ไหลลื่นอยู่ดี วันนี้ทาง Specphone เลยจะนำมือถือ 4 รุ่น 4 ยี่ห้อใหญ่ๆ มาเปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาท ที่ถ่ายรูปได้แบบสวยๆ มีสเปคพร้อมชิปที่เร็วแรงเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นในปี 2022 นั่นก็คือ vivo V25 5G vs OPPO Reno8 Z 5G vs Samsung Galaxy A53 5G และ realme GT Neo 3T นั่นเอง ไปดูกันเลยว่าทั้ง 4 รุ่นนี้มีอะไรน่าสนใจต่างกันตรงไหนบ้าง (ดู 10 มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทที่นี่)

เปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาท 4 รุ่น

• เปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทที่ดีไซน์ตัวเครื่อง
• เปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทที่หน้าจอ
• เปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทที่ชิปประมวลผล
• เปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทกล้องหน้า และกล้องหลัง
• เปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทความจุแบตเตอรี่ และราคา

ดีไซน์ภายนอกและรูปแบบตัวเครื่อง

เริ่มต้นการเปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทของทั้ง 4 รุ่นคือ vivo V25 5G vs OPPO Reno8 Z 5G vs Samsung Galaxy A53 5G และ realme GT Neo 3T ด้วยการดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนเลย ที่ทุกรุ่นก็ทำรูปแบบตัวเครื่องออกมาส่วนใหญ่จะเป็นแบบเรียบหรู โดยรุ่น vivo V25 5G นั้นก็ได้ทำตัวเครื่องแบบขอบแบน โมดูลกล้องแบบเบิ้มๆ กับฝาหลังออกมาเป็น Color Changing Glass ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ตามแสงและมุมมองที่ถือ เรียกได้ว่าสวยงามเลยแหละ ส่วนรุ่น OPPO Reno8 Z 5G นั่นก็ทำขอบแบนพร้อมกับความบางเบา สีสันเรียบหรูเสริมความสวยด้วยไฟที่เลนส์ของกล้องแบบ Dual Orbit Lights มีความสวยงามไม่แพ้รุ่นอื่นเหมือนกัน

มาที่ Samsung Galaxy A53 5G กันบ้างที่รุ่นนี้ทำขอบตัวเครื่องแบบโค้งมนจับเข้ากับมือได้แบบถนัดๆ พร้อมกับสีเรียบๆ แต่โดดเด่นด้วยสี และโมดูลกล้องหลังสามตัวที่เป็น Ambient EDGE ดูเนียนไปกับฝาหลังได้อย่างสวยงาม และสุดท้ายคือ realme GT Neo 3T ที่มีตัวเครื่องขอบแบนและโค้งขึ้นไปบนฝาหลัง และมีสีสันที่ทำออกมาแตกต่างกว่าชาวบ้านหน่อย เพราะว่ามีรุ่นที่เป็นลวดลาย Racing Flag Design หรือธงในสนามแข่งรถด้วย แต่ก็มีรุ่นที่เป็นสีปกติคือสีดำรองรับอยู่เหมือนกัน โดยรวมแล้วในเรื่องของการดีไซน์ตัวเครื่องและสีสันนั้น จะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลย ว่าชอบลวดลายแบบไหน หรือมีไลฟ์สไตล์การใช้งานที่เข้ากับตัวเองมากที่สุด เพราะทุกรุ่นก็ทำออกมาได้สวยทุกรุ่นดีอยู่แล้ว

หน้าจอคมชัดสมจริง

มาที่เปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทของทั้ง 4 รุ่นกันที่หน้าจอกันบ้าง ที่ทุกรุ่นนั้นบอกได้เลยว่ามีความคมชัด ให้สีสันสวยงามสมจริงอยู่แล้ว โดยทั้งสามรุ่นของ vivo V25 5G, OPPO Reno8 Z 5G และ realme GT Neo 3T จะมีหน้าจอเหมือนกันหมดคือเป็นแบบ AMOLED แต่มีความต่างกันที่ขนาดและรายละเอียดเล็กน้อย โดยตัว vivo V25 5G นั้นจะมีจอแบบหยดน้ำ ความกว้าง 6.44 นิ้วมีอัตรา Refresh Rate 90Hz และแสดงผลได้แบบ Ultra Vision อีกด้วย ส่วนในรุ่น OPPO Reno8 Z 5G จะมีหน้าจอแบบเจาะรูที่มุมซ้าย กว้าง 6.43 นิ้วรับชมสตรีมมิ่งหนังต่างๆ ได้ถึงระดับ HD

หน้าจอของตัว realme GT Neo 3T นั้นก็มีกล้องหน้าแบบเจาะรูที่มุมซ้ายบนเหมือนกัน แต่ว่าเพิ่มเติมมาทั้งความไหลลื่นและความใหญ่เลยทีเดียว เพราะกว้างถึง 6.62 นิ้วและมีอัตรา Refresh Rate 120Hz เหมาะกับการเล่นเกมหรือดูสิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ส่วนชอง Samsung Galaxy A53 5G มีกล้องหน้าแบบเจาะรูตรงกลาง และจะต่างกับทุกรุ่นเพราะมีหน้าจอเป็นแบบ Super AMOLED กว้าง 6.5 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 120Hz เล่นได้แบบไหลลื่นทุกการใช้งานเช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องของหน้าจอนี้ใครชอบแบบลื่นๆ จอใหญ่ๆ ต้องสองรุ่นนี้เลย แต่ถ้าไม่ได้เน้นเรื่องความกว้างและความลื่นอีกสองรุ่นก็น่าสนใจเหมือนกัน

ชิปตัวแรงเล่นเกมลื่น ใช้งาน 5G ได้สบายๆ

เปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทของทั้ง 4 รุ่นในจุดที่ต่างกันอีกอย่างก็คือความแรงของตัวชิป ที่ถึงแม้ว่าทุกรุ่นจะสามารถใช้งาน 5G ได้เหมือนกันหมด แต่ก็ใส่ชิปมาเป็นคนละตัว และยังมีฟีเจอร์การใช้งานกับความจุที่ต่างกันออกไปด้วย เริ่มจากตัว vivo V25 5G รุ่นใหม่ล่าสุดกันก่อนเลยที่ได้ใส่ชิป Dimensity 900 5G พร้อมกับความจำ RAM 8GB/ ROM 128,256GB ที่มีฟีเจอร์น่าสนใจมากๆ คือ Extended RAM เพิ่มแรมได้สูงสุดอีก 8GB รวมเป็น 16GB เลยทีเดียว แน่นอนว่าการใช้งานหลายๆ แอพหรือเล่นเกมไม่มีสะดุดแน่นอน ส่วนรุ่น OPPO Reno8 Z 5G ที่เป็นรุ่นใหม่ก็ใช้ชิปเป็น Snapdragon 695 5G ที่มีความแรงเล่นเกมได้สบายๆ เพราะมีความจำ RAM 8GB/ ROM 128GB พร้อมเพิ่มแรมได้อีก 5GB เพื่อความลื่น

รุ่นพี่ใหญ่อย่าง Samsung Galaxy A53 5G ก็มีความแรงจาก Exynos 1280 พร้อมความจำ RAM 8GB/ ROM 128GB ที่มีฟีเจอร์ RAM Plus เพิ่มแรมได้เช่นเดียวกัน เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สุดท้ายคือรุ่น realme GT Neo 3T ที่จะเน้นเรื่องเล่นเกมมาให้เป็นหลัก จึงมาพร้อมกับชิป Snapdragon 870 5G ทั้งเร็วแรงและยังประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี รุ่นนี้มีความจำ RAM 8GB/ ROM 128GB กับการขยายแรมด้วย Dynamic RAM Expansion ได้อีก 5GB กับระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม ที่น่าสนใจก็คือรุ่นนี้มี Tactile Engine 2.0 มอเตอร์ลิเนียร์แกน X ที่ตอบสนองการเล่นเกมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

กล้องสวยทั้งหน้าและหลัง

มาที่จุดเด่นๆ อีกหนึ่งจุดของการเปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทของทั้ง 4 รุ่นนี้ที่ค่อนข้างจะมีความแตกต่างสูงเลยทีเดียว แต่ทุกรุ่นก็จะถ่ายรูปออกมาได้สวยงามอยู่แล้ว ขอเริ่มจาก vivo V25 5G รุ่นล่าสุดกันก่อนเลยที่รุ่นนี้มีกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 64MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP พร้อมกันสั่น OIS ซึ่งถือว่ามีสเปคกล้องหลังที่ยังพอๆ กันกับทุกรุ่น จุดที่ทำให้รุ่นนี้โดดเด่นออกมาเลยก็คือกล้องหน้า 50MP ที่เหมาะกับการถ่ายเซลฟี่ Portrait อย่างเต็มตัว อีกทั้งยังโฟกัสสายตาได้อย่างคมชัดอีกด้วย ส่วน OPPO Reno8 Z 5G มีกล้อง 3 ตัวเช่นกันที่ความละเอียด 64MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP กับฟีเจอร์ Ultra-Clear 108MP Image ถ่ายได้ทุกสภาพแสงระดับมืออาชีพ มาพร้อมกล้องหน้า 16MP ถ่ายเซลฟี่ได้ตามปกติ

รุ่นที่มีกล้องหลังเหนือใครก็หนีไม่พ้นมือถือของ Samsung Galaxy A53 5G ที่มีกล้องหลังถึง 4 ตัวกับความละเอียด 64MP มีกันสั่น OIS อัลตร้าไวด์ 12MP มาโคร 5MP และชัดลึก 5MP ถ่ายวิดีโอได้แบบนิ่งๆ อย่างมือโปร อีกทั้งยังมี AI Image Enhancer ช่วยปรับภาพให้ดูดีขึ้นและ Fun Mode ที่ถ่ายได้สนุกมากขึ้น ส่วนกล้องหน้าก็ชัดถึง 32MP เซลฟี่ได้อย่างคมชัดสวยงามแน่นอน ส่วนรุ่น realme GT Neo 3T จะเป็นกล้องหลัง 3 ตัวที่ความละเอียด 64MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP ที่ถ่ายได้ความละเอียดสูง อีกทั้งยังมี Super Nightscape Mode สำหรับตอนกลางคืนและโหมดให้เล่นอีกเพียบ มาพร้อมกล้องหน้า 16MP เซลฟี่ด้วย AI ดูดีได้มากขึ้นอีกระดับ

แบตอึดพร้อมใช้งานตลอดวัน และราคาที่ไม่เกิน 15000 บาท

ปิดท้ายกันด้วยการเปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทของทั้ง 4 รุ่นในเรื่องของแบตเตอรี่ที่ทุกรุ่นนั้นมีความจุแบตต่างกันนิดหน่อย แต่รับรองว่าทุกรุ่นสามารถใช้งานได้ยาวนานเต็มวันแน่นอน และก็ยังมีการรองรับชาร์จไวพร้อมทุกรุ่นอีกด้วย โดยรุ่น vivo V25 5G มีความจุแบต 4,500 mAh รองรับ FlashCharge 44W รุ่น OPPO Reno8 Z 5G มีความจุแบตเท่ากันที่ 4,500 mAh รองรับ SUPERVOOC 33W และอีกสองรุ่นมีความจุแบตเท่ากันที่ 5,000 mAh แต่ Samsung Galaxy A53 5G รองรับ Super Fast Charging 25W และ realme GT Neo 3T รองรับ SuperDart 80W ชาร์จ 50% ใน 12 นาทีเท่านั้น ส่วนราคาของทุกรุ่นสามารถดูได้จากตารางด้านล่างเลย พร้อมดูรายละเอียดและสั่งซื้อแต่ละรุ่นได้ที่

• vivo V25 5G (รอเปิดตัว)
• OPPO Reno8 Z 5G
• Samsung Galaxy A53 5G
• realme GT Neo 3T

**vivo V25 5G พร้อมให้จองแบบ Blind-Booking แล้ว และจะเปิดตัวพร้อมราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ส.ค. 65 นี้**

แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นการเปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทของ vivo V25 5G vs OPPO Reno8 Z 5G vs Samsung Galaxy A53 5G และ realme GT Neo 3T ทั้ง 4 รุ่นล่าสุดในปี 2022 ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งแต่ละรุ่นถึงแม้ว่าจะมีราคาล่าสุดที่ไม่ได้ห่างกันมากนัก ยกเว้นของ vivo ที่ยังไม่ได้เปิดตัวออกมา ก็ถือว่ามีสเปคที่ต่างกันเยอะทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบตัวเครื่อง ชิปประมวลผล ความลื่นของหน้าจอ และยังมีเรื่องของกล้องที่ต่างกันค่อนข้างเยอะอีกด้วย ใครที่จะไปสายกล้องเป็นหลักแนะนำว่ารอซื้อ vivo หรือ Samsung จะเหมาะกว่า แต่ถ้าใครเน้นเล่นเกมเป็นหลักแนะนำของ realme ไปเลยแรงจัด แต่ถ้าใครอยากเอาไว้ใช้แบบทั่วไป ใช้งานได้ดีในทุกด้านจะเลือกเป็นของ OPPO ก็ใช้งานได้ดีไม่แพ้กันเลย