แนะนำ 11 มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทล่าสุดในปี 2022 ใช้ 5G ได้เน้นถ่ายรูปสวย เล่นเกมลื่นๆ รุ่นไหนดี
กลับมาอีกครั้งกับการแนะนำมือถือที่มีราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2022 นี้ ซึ่งเราได้เคยแนะนำกันอยู่เรื่อยๆ และก็แน่นอนว่าในปีนี้ก็มีมือถือรุ่นใหม่ๆ เปิดตัวออกมากันอย่างคึกคัก แทบไม่ได้พักผ่อนกันเลยทีเดียว รวมไปถึงวงการชิปต่างๆ ก็พัฒนาและเปิดตัวใหม่กันเยอะมากๆ โดยในช่วงราคาที่ได้รับความนิยมสูงอยู่พอสมควรก็จะเป็นช่วงราคาที่เริ่มต้นหมื่นนิดๆ แต่ว่าไม่เกิน 15000 บาท ที่สามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่น และเน้นถ่ายรูปเป็นหลัก พร้อมกับมือถือในช่วงราคานี้ที่ใช้งาน 5G ได้ทุกรุ่นเลย สำหรับรุ่นที่เปิดตัวมาในปีนี้เท่านั้นนะ แต่ถ้าใครมีงบไม่เกินหมื่น หรืออาจะหามือถือราคาที่ใกล้ๆ 10000 แบบคุ้มๆ ก็เข้าไปดูแนะนำ 8 มือถือราคาไม่เกิน 10000 ได้ที่นี่ ส่วนในวันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ 11 มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทล่าสุดในปี 2022 นี้ที่ใช้ 5G ได้ เน้นถ่ายรูปแบบสวยๆ เล่นเกมได้อย่างไหลลื่น รุ่นไหนดีที่น่าใช้งานบ้างไปดูกันเลย
11 มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทล่าสุดในปี 2022
สำหรับมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาททั้ง 11 รุ่นที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ เป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมาเฉพาะในปี 2022 ปีนี้ และเป็นรุ่นที่มีการวางขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ทุกรุ่นตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงตอนนี้ ที่เปิดตัวในราคาเริ่มต้น 10000 บาทแต่ว่าไม่เกิน 15000 บาท ซึ่งในตอนนี้ก็มีทั้งหมด 11 รุ่นพอดี โดยทุกรุ่นจะสามารถใช้งาน 5G ได้ทั้งหมด และแต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นที่ต่างกันออกไป ทั้งเน้นเล่นเกมโดยเฉพาะ หรือว่าเน้นถ่ายรูปแบบสวยๆ เด่นๆ ไปเลยก็มีแทบทุกรุ่น ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะใช้งานแบบไหนเป็นหลัก ใครที่ชอบรุ่นไหนก็ลองกดเข้าไปดูสเปคแต่ละรุ่น ที่เป็นมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทจากสารบัญด้านล่างนี้ได้เลย
11 มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทล่าสุดในปี 2022
- Redmi Note 11 Pro 5G
- POCO X4 Pro 5G
- realme 9 Pro+
- OPPO Reno7 Z 5G
- Samsung Galaxy M33
- Samsung Galaxy A53 5G
- OnePlus Nord CE 2 5G
- vivo T1 5G
- Samsung Galaxy A33 5G
- Samsung Galaxy M53 5G
- realme GT Neo 3T
ตารางเปรียบเทียบ 11 มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2022
1. Redmi Note 11 Pro 5G: ราคา 10,990 บาท
เริ่มต้นกันที่มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาท รุ่นที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่วงต้นปีรุ่นแรกกันก่อนเลย ซึ่งรุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ทำออกมาได้ดีงามมากๆ ในเรื่องของการถ่ายรูป เล่นเกม หรือว่าจะใช้งานทั่วไปก็ใช้ได้ดีทุกรุ่นในซีรีส์ของ Note 11 อยู่แล้ว ดีไซน์ของรุ่นนี้จะทำออกมาแบบเหลี่ยมถือได้เข้ากับมือ มาพร้อมหน้าจอที่เป็นแบบ AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.67 นิ้วในระดับราคากลางๆ นี้ถือว่าเป็นหน้าจอที่ใหญ่มากทีเดียว แถมยังมีอัตรา Refresh Rate 120Hz เล่นได้อย่างไหลลื่นมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ความแรงจากชิป Snapdragon 695 5G ที่มีความจำ RAM 8GB และ ROM 128GB พร้อมการระบายความร้อนแบบ LiquidCool เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องที่ตัวเครื่องจะไม่ร้อนมาก ส่วนกล้องหลังมี 3 ตัวที่ความละเอียด 108MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP ถ่ายได้คมชัดสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน และยังมีกล้องหน้าความละเอียด 16MP เซลฟี่ได้สวยเช่นกัน รุ่นนี้มีความจุแบต 5,000 mAh รองรับ Turbo Charge 67W ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
2. POCO X4 Pro 5G: ราคา 10,990 บาท
ต่อเนื่องกันด้วยมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทรุ่นนี้ที่เปิดตัวตามออกมาจากรุ่นก่อนหน้า ซึ่งก็คือรุ่น Redmi Note 11 Pro 5G ในเครือของ Xiaomi ที่ตามกันออกมาติดๆ แต่ว่ารุ่นนี้จะเน้นไปที่การเล่นเกมมากกว่าหน่อย ถึงแม้ว่าสเปคของทั้งสองรุ่นนี้จะมีความคล้ายคลึงกันมากก็ตาม การดีไซน์ของรุ่นนี้จะยังคงเน้นไปที่การเล่นสีสันที่ตัวเครื่องเหมือนเดิม อีกทั้งยังมีหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.67 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 120Hz และ Touch Sensing 360Hz เล่นเกมหรือดูรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้เต็มตาด้วยหน้าจอใหญ่ และยังไหลลื่นอีกด้วย ส่วนชิปรุ่นนี้ก็ใช้เป็น Snapdragon 695 5G ที่มีความจุ ROM 256GB เยอะขึ้นเพื่อให้เก็บหรือใช้งานได้ดีกว่า และยังมีระบบระบายความร้อน LiquidCool 1.0 Plus กับมอเตอร์ลิเนียร์แกน Z ที่เล่นเกมได้อย่างสมจริงอีกด้วย กล้องหลังรุ่นนี้มี 3 ตัวที่ความละเอียด 108MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP เน้นถ่ายรูปก็ยังได้ แถมยังมีความจุแบต 5,000 mAh รองรับ TurboCharge 67W ใช้ได้เต็มวันแน่นอน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
3. realme 9 Pro+: ราคา 12,999 บาท
ใครที่มองหามือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทที่เน้นเรื่องการถ่ายรูปเป็นหลัก และยังมีการดีไซน์ที่สวยงามน่าใช้งาน แนะนำมือถือจาก realme รุ่นนี้ที่ดีไซน์มาแบบ Light Shift Design เปลี่ยนมุมมองแล้วฝาหลังจะเปลี่ยนสีไปมาได้ ส่วนหน้าจอรุ่นนี้จะเป็นแบบ Super AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.4 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz ให้สีสันสดใสคมชัดและไหลลื่นแน่นอน นอกจากนี้ยังได้ขิป Dimensity 920 5G และฟีเจอร์ขยายความจุแรม Dynamic RAM Expansion เข้ามาช่วยเสริมให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมการระบายความร้อนได้อย่างดี กล้องหลังรุ่นนี้ก็ไม่ธรรมดาที่มี 3 ตัวความละเอียด 50MP ที่มีเซนเซอร์ Sony IMX766 และกันสั่น OIS กับเลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP และชัดลึก 2MP ถ่ายได้ทุกสภาพแสง ยิ่งกลางคืนก็มี Ultra Nightscape ช่วยถ่ายรายละเอียดได้ดีเยี่ยม ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP พร้อม Clear Fusion ถ่ายเซลฟี่ได้อย่างสวยงาม กับความจุแบต 4,500 mAh รองรับ SuperDart Charge 60W ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
4. OPPO Reno7 Z 5G: ราคา 12,990 บาท
มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2022 ที่มีการดีไซน์สวยงาม และน่าใช้งานอีกหนึ่งรุ่นจาก OPPO ที่ดีไซน์ฝาหลังมาแบบ Glow Design พร้อมกับ Dual Orbit Lights แสงรอบตัวเลนส์ด้านหลังที่ทำให้รุ่นนี้ดูสวยงามมากขึ้น อีกทั้งยังมีการกันน้ำและฝุ่นได้ที่ระดับ IPX4 ซึ่งรุ่นนี้จะเหมาะกับการใช้งานทั่วไป หรือว่าจะเล่นเกมก็ยังไหว ด้วยหน้าจอแบบ AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.4 นิ้วสามารถรับชม Netflix, Amazon ได้ถึงระดับ HD พร้อมกับชิป Snapdragon 695 5G เล่นเกมได้สบายๆ ส่วนเรื่องของกล้องหลังรุ่นนี้จะมีมาให้ 3 ตัวที่ความละเอียด 64MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP ถ่ายเหมือนโปรด้วยฟีเจอร์ Ultra-Clear 108MP Image คมชัดได้มากยิ่งขึ้น ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP ถึงจะถ่ายย้อนแสงก็มีฟีเจอร์ HDR รองรับอยู่ด้วย รุ่นนี้มีความจุแบตที่ 4,500 mAh รองรับ SuperVOOC 33W ชาร์จเต็ม 100% ได้เพียงแค่ 63 นาทีเท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
5. Samsung Galaxy M33: ราคา 10,999 บาท
มาต่อกันที่มือถือราคาเบาๆ จาก Samsung ที่เป็นมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2022 กันบ้าง โดยรุ่นจากซีรีส์ M ในปีนี้ก็ปล่อยออกมาทั้งหมดแล้วสามรุ่น และเราก็เคยเปรียบเทียบสเปคเอาไว้ให้แล้วด้วย ดูเปรียบเทียบที่นี่ ตัวเครื่องรุ่นนี้ยังคงมีการดีไซน์คล้ายๆ กับรุ่นก่อนหน้า มีหน้าจอเป็นแบบ TFT ระดับ FHD+ กว้าง 6.6 นิ้วพร้อม Super Smooth 120Hz เล่นเกมหรือใช้งานทั่วไปได้แบบไหลลื่นมากขึ้น และยังมาพร้อมกับชิป Exynos 1280 ตัวแรงที่ใช้ในซีรีส์ A ด้วย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ RAM Plus ช่วยขยาย RAM ทำให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังเน้นเรื่องถ่ายรูปมาด้วยกล้องหลัง 4 ตัวความละเอียด 50MP อัลตร้าไวด์ 5MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP ถ่ายได้ทุกมุมมองทั้งไกลและมุมใกล้ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP ที่มีเอฟเฟกต์โบเก้ ทำให้การเซลฟี่พื้นหลังดูเนียนเป็นธรรมชาติ รุ่นนี้มีความจุแบต 5,000 mAh รองรับ Super Fast Charging 25W เล่นได้ต่อเนื่องเต็มวัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
6. Samsung Galaxy A53 5G: ราคา 14,499 บาท
มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2022 ในซีรีส์ A ที่เปิดตัวออกมาช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่อัพเกรดสเปคขึ้นมาอีกหน่อยจากรุ่นด้านบน ทั้งหน้าจอและเน้นการถ่ายรูปที่คมชัดมากขึ้น โดยการดีไซน์รุ่นนี้ก็ได้ออกแบบฝาหลังมาเป็นแบบ Ambient Edge ที่ดูเนียนไปกับฝาหลังมีความสมูธมากขึ้น พร้อมหน้าจอที่เป็นแบบ Super AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.5 นิ้วกับอัตรา Refresh Rate 120Hz สีสันคมชัดสวยงาม และเล่นได้อย่างไหลลื่น และก็แน่นอนว่าใช้ชิปตัวใหม่อย่าง Exynos 1280 ทำให้สารถเล่นเกมได้ดี หรือจะใช้งานทั่วไปก็หายห่วงแน่นอน ส่วนกล้องหลังอย่างที่บอกไปว่ารุ่นนี้ก็เน้นมาให้เป็นหลัก ที่เป็นกล้อง 4 ตัวความละเอียด 64MP ที่มีกันสั่น OIS อัลตร้าไวด์ 12MP มาโคร 5MP และชัดลึก 5MP ถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอได้แบบนิ่งๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP เซลฟี่ได้อย่างคมชัดเหนือใคร พร้อมความจุแบตอึดๆ 5,000 mAh รองรับ Super Fast Charging 25W ซึ่งอะแดปเตอร์นั้นจะขายแยกนะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
7. OnePlus Nord CE 2 5G: ราคา 14,990 บาท
ต่อเนื่องกันด้วยมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทปี 2022 รุ่นที่ถือว่ามีทั้งดีไซน์ที่สวยงาม และได้รับเสียงตอบรับที่ดีพอสมควรเลย แถมราคาเครื่องเปล่าในตอนนี้ก็เหลือเพียง 13,990 บาทบนร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการด้วย รุ่นนี้ดีไซน์ตัวเครื่องออกมาแบบโค้งมน มีผิวเรียบดูหรูหราและบางมากๆ ส่วนหน้าจอรุ่นนี้เป็นแบบ Fluid AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.43 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz เล่นเกมหรือชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังมีความเร็วแรงจากชิป Dimensity 900 ที่มี AI เข้ามาช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนกล้องหลังรุ่นนี้มี 3 ตัวที่ความละเอียด 64MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP ที่มี AI เข้ามาช่วยปรับการถ่ายรูปให้คมชัดมากขึ้น พร้อมรับทุกสภาพแสงและกันสั่นด้วย กับกล้องหน้าความละเอียด 16MP เซลฟี่ได้สวยงามตามมาตรฐาน ส่วนความจุแบตรุ่นนี้มีอยู่ 4,500 mAh รองรับ SuperVOOC 65W ชาร์จเพียงไม่กี่นาทีก็กลับมาใช้งานได้อย่างยาวนานแล้ว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
8. vivo T1 5G: ราคา 10,999 บาท
มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทปี 2022 ของ vivo ที่ทำออกตอบโจทย์คนเล่นเกมโดยเฉพาะ และเป็นรุ่นแรกของซีรีส์ T อีกด้วย ซึ่งรุ่นนี้ได้ออกแบบมาให้เป็นแบบ 3D จับได้กระชับเข้ากับมือพอดี ส่วนหน้าจอรุ่นนี้เป็นแบบ AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.44 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz และยังมีลำโพงรองรับ Hi-Res Audio กับ Loudspeaker Mode มีเสียงคมชัดกระจายรอบทิศทาง เสริมความเร็วแรงด้วยชิป Snapdragon 778G 5G ที่มีฟีเจอร์ขยายแรม Extended RAM 2.0 กับระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber Cooling System และมีมอเตอร์ Linear Motor + 4D Game Vibration ช่วยให้การสั่นขณะเล่นเกมดูสมจริงมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าทำออกมาสำหรับคนเล่นเกมอย่างแท้จริง ส่วนกล้องหลังเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียด 64MP อัลตร้าไวด์ 8MP และโบเก้ 2MP ถ่ายได้สวยงามเช่นกัน ถึงแม้จะเน้นเล่นเกมแต่ก็ถ่ายได้ดีด้วย กล้องหน้ามีความละเอียด 16MP เซลฟี่ได้ปกติ กับความจุแบต 4,700 mAh รองรับ FlashCharge 66W ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
9. Samsung Galaxy A33 5G: ราคา 11,999 บาท
กลับมาที่มือถือ Samsung ที่เป็นมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทปี 2022 ในซีรีส์ A อีกหนึ่งรุ่นที่มีสเปคดีงามทั้งการถ่ายรูป และการเล่นเกม การดีไซน์ตัวเครื่องของรุ่นนี้จะเหมือนกันทุกรุ่นในซีรีส์ ที่โมดูลกล้องเป็นแบบ Ambient Edge เข้ากับฝาหลังพร้อมกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 และมีหน้าจอเป็นแบบ Super AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.4 นิ้วและมีอัตรา Refresh Rate 90Hz เล่นได้อย่างไหลลื่น มาพร้อมกับชิป Exynos 1200 และรองรับระบบเสียง Dolby Atmos กับฟีเจอร์ Game Booster เล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนกล้องหลังเป็นกล้อง 4 ตัวที่ความละเอียด 48MP อัลตร้าไวด์ 8MP มาโคร 5MP และชัดลึก 5MP ที่มีกันสั่น OIS ช่วยให้ภาพนิ่งและยังมี AI Image Enhancer ลบพื้นหลังในภาพได้ง่ายๆ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 13MP เซลฟี่แบบทั่วไปยังพอไหว รุ่นนี้มีความจุแบต 5,000 mAh รองรับ Super Fast Charging 25W (ขายแยก) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
10. Samsung Galaxy M53 5G: ราคา 13,999 บาท
อีกหนึ่งตัวแรงของ Samsung ในซีรีส์ M ที่มีราคาคุ้มค่าต่อการใช้งานและเป็นมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2022 ซึ่งรุ่นนี้ก็เน้นถ่ายรูปมาเป็นหลัก แต่ก็สามารถใช้งานทั่วไปหรือเน้นเล่นเกมได้ด้วย ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องจะคล้ายๆ กับตัว M33 เลย และรุ่นนี้มีหน้าจอแบบ Super AMOLED Plus ระดับ FHD+ กว้าง 6.7 นิ้วหน้าจอใหญ่และสว่างแม้อยู่ในที่แสงจ้า พร้อมกับหน้าจอ Super Smooth 120Hz ลื่นไหลทุกการใช้งาน และยังได้ความแรงจากชิป Dimensity 900 5G ที่มีฟีเจอร์ RAM Plus และรองรับ Mic Mode กับ Dolby Atmos ที่ให้เสียงคมชัดกระจายรอบทิศทาง ส่วนกล้องหลังจะมี 4 ตัวที่ความละเอียด 108MP ที่มี binning 12MP ถ่ายได้ตอนอยู่ที่แสงน้อยกับเซนเซอร์ Big Pixel ลดนอยส์ได้ดีมากๆ และยังมีอัลตร้าไวด์ 8MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP กับฟีเจอร์ช่วยลบพื้นหลังอย่าง Object Eraser ด้วย ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP เซลฟี่ได้สวยงามแน่นอน รุ่นนี้มีความจุแบต 5,000 mAh รองรับ Super Fast Charging 25W เช่นกัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
11. realme GT Neo 3T: ราคา 12,999 บาท
ปิดท้ายด้วยมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2022 รุ่นล่าสุดจาก realme ที่มาแรงมากทีเดียว โดยรุ่นนี้จะใช้งานทั่วไป เน้นเล่นเกม หรือว่าจะเอาไว้ถ่ายรูปสวยๆ ก็ทำได้เป็นอย่างดี แถมยังมีดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงามแบบ Racing Flag Design ส่วนหน้าจอรุ่นนี้เป็นแบบ AMOLED HDR 10+ กว้าง 6.62 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 120Hz เล่นได้อย่างไหลลื่นแน่นอน อีกทั้งยังมีความเร็วจากชิป Snapdragon 870 5G ที่ระบายความร้อนด้วย Stainless Steel Vapor Cooling System Plus ส่วนกล้องหลังมี 3 ตัวที่ความละเอียด 64MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP ถ่ายได้ทุกช่วงเวลาด้วยความละเอียดสูง และยังมีโหมดให้เลือกหลายแบบด้วย ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP เซลฟี่สวยงามด้วย AI และความจุแบต 5,000 mAh รองรับ SuperDart Charge 80W ชาร์จแบบไวจัด 50% ใน 12 นาทีเท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
ตารางเปรียบเทียบ 11 มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2022
รุ่น\ ข้อมูล | หน้าจอ | ชิปฯ | กล้องหลัง | กล้องหน้า | RAM/ ROM | แบตฯ | ราคา |
Redmi Note 11 Pro 5G | AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว | Snapdragon 695 5G | 108MP + 8MP + 2MP | 16MP | 8GB/ 128GB | 5,000 mAh | 10,990 บาท |
POCO X4 Pro 5G | AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว | Snapdragon 695 5G | 108MP + 8MP + 2MP | 16MP | 8GB/ 256GB | 5,000 mAh | 10,990 บาท |
realme 9 Pro+ | Super AMOLED กว้าง 6.4 นิ้ว | Dimensity 920 5G | 50MP + 8MP + 2MP | 16MP | 8GB/ 256GB | 4,500 mAh | 12,999 บาท |
OPPO Reno7 Z 5G | AMOLED กว้าง 6.4 นิ้ว | Snapdragon 695 5G | 64MP + 2MP + 2MP | 16MP | 8GB/ 128GB | 4,500 mAh | 12,990 บาท |
Samsung Galaxy M33 | TFT กว้าง 6.6 นิ้ว | Exynos 1280 | 50MP + 5MP + 2MP + 2MP | 8MP | 8GB/ 128GB | 5,000 mAh | 10,999 บาท |
Samsung Galaxy A53 5G | Super AMOLED กว้าง 6.5 นิ้ว | Exynos 1280 | 64MP + 12MP + 5MP + 5MP | 32MP | 8GB/ 128GB | 5,000 mAh | 14,499 บาท |
OnePlus Nord CE 2 5G | Fluid AMOLED กว้าง 6.43 นิ้ว | Dimensity 900 | 64MP + 8MP + 2MP | 16MP | 8GB/ 128GB | 4,500 mAh | 14,990 บาท |
vivo T1 5G | AMOLED กว้าง 6.44 นิ้ว | Snapdragon 778G 5G | 64MP + 8MP + 2MP | 16MP | 8GB/ 128GB | 4,700 mAh | 10,999 บาท |
Samsung Galaxy A33 5G | Super AMOLED กว้าง 6.4 นิ้ว | Exynos 1200 | 48MP + 8MP + 5MP + 5MP | 13MP | 8GB/ 128GB | 5,000 mAh | 11,999 บาท |
Samsung Galaxy M53 5G | Super AMOLED Plus กว้าง 6.7 นิ้ว | Dimensity 900 5G | 108MP + 8MP + 2MP + 2MP | 32MP | 8GB/ 128GB | 5,000 mAh | 13,999 บาท |
realme GT Neo 3T | AMOLED กว้าง 6.62 นิ้ว | Snapdragon 870 5G | 64MP + 8MP + 2MP | 16MP | 8GB/ 128GB | 5,000 mAh | 12,999 บาท |
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปคของมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2022 ทั้งหมด 11 รุ่นที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ถ้าดูจากตารางด้านบนแล้วจะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นนั้น จะมีจุดเด่นที่ต่างกันไป แต่ทุกรุ่นก็จะสามารถเล่นเกมได้ดี และเน้นเรื่องกล้องมาให้เป็นหลักอยู่แล้ว แต่อาจจะมีบางรุ่นที่เน้นเรื่องเกมเด่นๆ หรือว่าถ่ายรูป และเซลฟี่เป็นหลักไปเลย โดยแต่ละช่วงราคาก็จะมีราคาที่ห่างกันไม่มาก แต่ราคาทั้งหมดนี้จะเป็นราคาตอนเปิดตัวเท่านั้น ซึ่งในตอนนี้ก็มีบางรุ่นที่ลดราคาเครื่องเปล่าลงไปเยอะอยู่เหมือนกัน ใครสนใจรุ่นไหนก็ลองกดเข้าไปดูรายละเอียด และสั่งซื้อกันได้ที่หน้าเว็บของแต่ละรุ่นเลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ