แนะนำ 8 มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อในปี 2022 ถ่ายรูปได้สวยๆ แบตอึด คุ้มค่าทุกการใช้งาน
ผ่านมาครึ่งปีกันแล้วสำหรับปี 2022 นี้ที่วงการมือถือได้เริ่มกลับมาคึกคักกันอีกครั้ง และก็ได้มีการเปิดตัวมือถือออกมาอยู่หลายรุ่นหลายยี่ห้อ หลากหลายช่วงราคาตั้งแต่มือถือเริ่มต้น (ดูมือถือราคาไม่เกิน 5000 บาทที่นี่) มือถือระดับกลาง และมือถือเรือธงระดับสูงๆ ซึ่งช่วงราคาที่ได้รับความนิยมในบ้านเราเป็นส่วนใหญ่ก็จะเป็นมือถือระดับกลาง ที่มีช่วงราคาประมาณ 6,000 – 10,000 บาทไม่เกินนี้ เพราะว่ามือถือระดับกลางนี้มีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย แถมในตอนนี้สเปคแต่ละรุ่นก็สามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบแล้ว ไม่ว่าจะเน้นเล่นเกมด้วยชิปตัวแรง หรือว่าจะเน้นถ่ายรูปด้วยกล้องสวยๆ ที่บางรุ่นก็มีให้ถึง 4 เลนส์ และยังมีแบตที่อึดใช้งานได้ยาวๆ ตลอดทั้งวันอีกด้วย เรียกได้ว่าซื้อในราคาประหยัดแต่ได้สเปคที่คุ้มค่าของจริง ใครที่กำลังมองหามือถือราคาไม่เกินหมื่นอยู่ แต่ไม่รู้จะเลือกซื้อรุ่นไหนดี เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ 8 มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อบ้างในปี 2022 นี้ ที่สามารถถ่ายรูปได้สวยๆ เล่นเกมได้ไหลลื่น และมีแบตอึดคุ้มค่าทุกการใช้งาน
8 มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อในปี 2022
สำหรับมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อทั้ง 8 รุ่นที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ ทั้งหมดจะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 5,699 บาทแต่ว่าจะไม่เกิน 10,000 บาททุกรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นนั้นจะมีทั้งรุ่นที่เปิดตัวมาในปีนี้ล่าสุด และก็เป็นรุ่นที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้แล้วพอสมควร และทุกรุ่นจะมีราคาเปิดตัวที่ใกล้เคียงกัน เพื่อเป็นตัวเลือกตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญก็คือสเปคของรุ่นต่างๆ นั้นเราจะแนะนำเป็นรุ่นที่มีกล้องถ่ายรูปได้แบบสวยๆ สำหรับคนที่เน้นถ่ายรูปเป็นหลัก และยังมีสเปคที่เร็วแรงเหมาะกับการใช้งานได้หลายรูปแบบ เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับราคามือถือระดับกลางแน่นอน จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย
ตารางเปรียบเทียบ 8 มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อในปี 2022
1. Samsung Galaxy A13: ราคา 6,499 บาท
เริ่มต้นด้วยมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นแรกกันก่อนเลย สำหรับคนที่มองหามือถือสเปคไม่กั๊ก คุ้มค่า คุ้มราคา โดยรุ่นนี้มีการดีไซน์ตัวเครื่องในรูปแบบมินิมอลโค้งมน ถือได้กระชับเข้ากับมือ พร้อมกับสีสันแบบละมุนๆ ให้เลือกสามสีคือสีดำ (Black), ฟ้า (Light Blue) และสีพีช (Peach) ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบ PLS TFT LCD ทรงหยดน้ำ V cut ระดับ FHD+ กว้าง 6.6 นิ้วภาพคมชัดหน้าจอใหญ่ใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น อีกทั้งยังได้ขุมพลังจากชิป Exynos 850 ที่ดีกว่าเดิมถึง 30% ช่วยให้รุ่นนี้สามารถเล่นเกม หรือว่าใช้งานแบบทั่วไปได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด ซึ่งรุ่นนี้จะมีความจำ RAM 4GB และ ROM 128GB พร้อมกับฟีเจอร์ Ram plus เพิ่มได้อีก 4GB ทำให้เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีกระดับ และยังเพิ่มความจุด้วย microSD Card สูงสุดถึง 1 TB เลยทีเดียว
จุดเด่นที่น่าสนใจของรุ่นนี้อีกอย่างก็คือกล้องหลังที่มีมาให้ถึง 4 ตัวที่ความละเอียด 50MP (ƒ/1.8) อัลตร้าไวด์ 5MP มาโคร 2MP และชัดลึกอีก 2MP ถ่ายได้ชัดเจนทุกสภาพแสง หรือจะถ่ายมุมกว้างก็ได้มากถึง 123 องศาเก็บรายละเอียดครบๆ หรือจะถ่ายมุมใกล้ก็ยังได้ ถ้าจะถ่ายภาพบุคคลก็พร้อมละลายพื้นหลังให้แบบเนียนๆ เรียกได้ว่าถ่ายอะไรแบบไหนก็สวย ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP พร้อมเอฟเฟกต์โบเก้ที่ช่วยให้เซลฟี่ได้เด่นมากขึ้นด้วย นอกจากนี้รุ่นนี้ก็ยังมีระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้เสียงคมชัดกระจายรอบทิศทาง กับความจุแบตที่อึดมากถึง 5,000 mAh รองรับ Fast Charge 15W อยู่ได้ยาวนานเต็มที่ตลอดทั้งวันแน่นอน ใครที่มองหามือถือราคาคุ้มค่า และได้สเปคจัดเต็มแนะนำรุ่นนี้เลย กดสั่งซื้อและดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
2. Samsung Galaxy A23: ราคา 7,999 บาท
มาต่อกันที่มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อกับ Samsung อีกหนึ่งรุ่นที่ปล่อยออกมาพร้อมๆ กับรุ่น A13 เลย แต่ว่ารุ่นนี้จะอัพสเปคขึ้นมาอีกหน่อย เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปหรือเล่นเกมก็ยังได้ ให้มาแบบไม่กั๊กจริงๆ การดีไซน์รุ่นนี้จะคล้ายๆ กัน แต่ว่าโมดูลกล้องหลังรุ่นนี้จะเป็นแบบ Ambient Edge กลมกลืนเข้ากับฝาหลังสวยงามมาก มีสามสีเหมือนกันคือสีดำ (Black), ฟ้า (Light Blue) และสีพีช (Peach) ส่วนหน้าจอรุ่นนี้เป็นแบบ PLS TFT LCD ทรงหยดน้ำ V cut ระดับ FHD+ กว้าง 6.6 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz เล่นได้ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น ส่วนชิปของรุ่นนี้ก็ได้ Snapdragon 680 ที่เร็วแรงกับความจำ RAM 6GB และ ROM 128GB เพิ่มด้วย microSD ได้อีก 1 TB จะเล่นเกมหรือว่าถ่ายรูปเป็นหลักก็ทำได้สบายๆ หายห่วง
แน่นอนว่ารุ่นนี้ก็ยังคงเน้นเรื่องกล้องมาให้เป็นพิเศษเหมือนกัน ด้วยกล้องหลัง 4 ตัวความละเอียด 50MP (ƒ/1.8) พร้อมเทคโนโลยีกันสั่น OIS ถ่ายรูปหรือวิดีโอได้แบบนิ่งๆ และถ่ายได้ดีแม้จะมีแสงน้อยก็ตาม กับเลนส์อัลตร้าไวด์ 5MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP จะอยู่ที่แคบหรือจะเก็บภาพวิวก็ถ่ายกว้างๆ ได้ครบหมด และยังโฟกัสภาพบุคคลได้สวยเนียนอีกด้วย ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP กับเอฟเฟกต์โบเก้ถ่ายเซลฟี่ได้เด่นสวยเหมือนกัน ซึ่งรุ่นนี้ก็มีระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้เสียงดังกระจายรอบทิศทาง กับแบตที่มีความจุ 5,000 mAh รองรับ Fast Charge 25W ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานไม่แพ้กัน กดสั่งซื้อและดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
3. OPPO A16 (4GB+64GB): ราคา 5,999 บาท
มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อในปี 2022 รุ่นนี้มาทางฝั่งของ OPPO กันบ้างที่รุ่นนี้ยังได้รับความนิยมอยู่เหมือนกัน ด้วยราคาที่ไม่สูงมากนักและมีสเปคที่ใช้งานได้กำลังดี รุ่นนี้ดีไซน์ออกมาโดยเน้นเรื่องความบางเบา กับสีแบบเมทัลลิกแวววาวแบบด้านป้องกันลายนิ้วมือด้วย ส่วนหน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ระดับ HD+ กว้าง 6.52 นิ้วที่มี AI Eye-care ช่วยถนอมสายตาขณะใช้งานด้วย มาพร้อมกับชิป Helio G35 กับความจำ RAM 4GB และ ROM 64GB ที่สามารถเล่นเกมได้ดีเช่นกันถ้าไม่ได้ปรับกราฟิกสุดก็เล่นได้สบาย เพราะรุ่นนี้ก็จะเน้นการใช้งานแบบทั่วไปมาให้อยู่แล้ว รวมไปถึงกล้องหลังที่สามารถถ่ายรูปแบบทั่วไปได้ดี ด้วยกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 13MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP ที่มีฟีเจอร์ทั้ง AI Beautification, Dazzling Mode ที่ช่วยให้สีสันคมชัดและ Bokeh Filters 15 แบบที่ช่วยให้การถ่ายรูปสนุกมากขึ้น ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP ถ่ายเซลฟี่ได้คมชัดสมจริง กับความจุแบตถึง 5,000 mAh รองรับ Fast Charge 10W ดู Youtube ได้นานถึง 21.02 ชั่วโมง สั่งซื้อและดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
4. vivo Y21 (4GB+64GB): ราคา 5,699 บาท
มาที่มือถือจาก vivo กันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีราคาประหยัดที่สุดจากทุกรุ่นที่เราเอามาแนะนำกันแล้ว โดยรุ่นนี้ได้ดีไซน์ออกมาแบบเน้นความบางเบาอีกเหมือนกัน กับสีสันฝาหลังที่สะท้อนแสงเปลี่ยนไปตามมุมมองการขยับ สามารถปลดล็อคที่ปุ่มข้างตัวเครื่องหรือสแกนหน้าก็ได้ มาพร้อมกับหน้าที่จอเป็นแบบ IPS LCD ระดับ HD+ กว้าง 6.51 นิ้วที่มีเทคโนโลยี In-cell ที่ช่วยให้สีสันชัดเจนมากขึ้น และยังได้ความเร็วแรงจากชิป Helio P35 กับความจำ RAM 4GB และ ROM 64GB ที่มีฟีเจอร์ Extended RAM 2.0 เพิ่มอีก 1GB สามารถเล่นเกมได้ดี ถ้าไม่ได้เล่นเกมที่กินสเปคหนักมากและไม่ได้ปรับกราฟิกสุด ส่วนกล้องหลังรุ่นนี้จะเป็นกล้องแบบ Dual Camera ที่ความละเอียด 13MP และ Super Macro 2MP ถ่ายใกล้สุดได้ 4 ซม. กับกล้องหน้า 8MP ที่มี Face Beauty ช่วยปรับผิวให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น รุ่นนี้มีความจุแบต 5,000 mAh รองรับ Fast Charge 18W ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน สั่งซื้อและดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
5. OPPO A53 (4GB+128GB): ราคา 6,499 บาท
มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อจาก OPPO อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งรุ่นนี้ก็เป็นรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานแบบทั่วไป หรือว่าจะเน้นเล่นเกมทั่วไปก็ยังทำได้ดีเหมือนกัน ดีไซน์ของรุ่นนี้เป็นแบบ 3D ที่มีลวดลายแสงสะท้อนตามแบบคลื่นทะเล และมีหน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ระดับ HD+ กว้าง 6.5 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz Neo ดูหนังหรือเล่นเกมได้ไหลลื่นขึ้น และยังได้ความแรงจากชิป Snapdragon 460 ที่มีความจำ RAM 4GB กับ ROM 128GB กับฟีเจอร์ RAM+ Anti-Lag ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแรมได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีลำโพงคู่ที่กระจายเสียงได้รอบทิศทางแบบ 3 มิติ ส่วนกล้องหลังเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียด 13MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP ถ่ายสีสันคมชัดด้วย Dazzle Color mode หรือจะถ่ายมุมใกล้ก็ได้ถึง 4 ซม. มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 16MP เซลฟี่ได้คมชัดสวยงาม และยังมีความจุแบตอึดๆ ที่ 5,000 mAh รองรับ Fast Charge 18W สั่งซื้อและดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
6. vivo Y33T: ราคา 7,999 บาท
อีกหนึ่งช่วงราคาของมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อในปีนี้ของ vivo ที่เปิดตัวออกมาได้ไม่นานนี้ โดยมีการดีไซน์แบบบางสุดๆ เพียง 8 มม. และมีน้ำหนักเบา 182 กรัมถือได้สะดวก มีหน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ระดับ FHD+ incell กว้าง 6.58 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz ให้ความคมชัดทั้งการดูหนังหรือเล่นเกม และยังช่วยลดแสงสีฟ้าถนอมสายตาด้วย ซึ่งรุ่นนี้ก็ได้ความเร็วแรงจากชิป Snapdragon 680 เช่นเดียวกัน พร้อมกับมีฟีเจอร์ Extended RAM 2.0 เพิ่มแรมได้อีก 4GB จาก 8GB พร้อมความจุ 128GB เล่นเกมได้อย่างไหลลื่นแน่นอน ส่วนกล้องหลังก็มีมาถึง 3 ตัวที่ความละเอียด 50MP เลนส์ Super Macro 2MP และโบเก้ 2MP ถ่ายกลางคืนได้ด้วย Super Night Mode และถ่ายได้ใกล้สุด 4 ซม. หรือถ่ายย้อนแสงก็ยังได้ กล้องหน้ามีความละเอียด 16MP ถ่ายรูปได้สวยเนียนเป็นธรรมชาติ และมีความจุแบต 5,000 mAh รองรับ Fast Charge 18W ใช้ได้ยาวนานเต็มวัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
7. OPPO A76: ราคา 7,999 บาท
มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อบ้างรุ่นต่อมารุ่นนี้เป็นช่วงราคาเดียวกัน แต่ว่าจะเน้นเรื่องการใช้งานทั่วไป เล่นเกม และเรื่องชาร์จไวเป็นหลัก ดีไซน์ของรุ่นนี้จะเป็น Glow Design ที่มีความเรียบหรู กับหน้าจอแบบ Punch-Hole ที่มุมซ้ายบน และเป็นแบบ IPS LCD ระดับ HD+ กว้าง 6.56 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz เล่นได้ไหลลื่น พร้อมชิปตัวแรงในระดับเดียวกันคือ Snapdragon 680 ที่มีความจำ RAM 6GB กับ ROM 128GB และมีฟีเจอร์ RAM Expansion ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแรมได้อีกด้วย ส่วนกล้องหลังจะเป็นกล้องคู่ Dual Camera ที่ความละเอียด 13MP กับโบเก้ 2MP ถ่ายแบบทั่วไปหรือในสภาพแสงน้อยได้ดี กับกล้องหน้าความละเอียด 8MP เซลฟี่ได้สวยปกติ จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่การชาร์จกับแบตความจุ 5,000 mAh รองรับ SUPERVOOC 33W ชาร์จ 55% ใน 30 นาทีเท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
8. OPPO A95: ราคา 8,999 บาท
ปิดท้ายด้วยมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อของ OPPO อีกหนึ่งรุ่นที่เป็นรุ่นฮิตเหมือนกัน และยังมีราคาที่แรงสุดกว่าทุกรุ่นที่เราแนะนำด้วย ซึ่งรุ่นนี้ออกแบบมาเป็น Glow Design เรียบหรูเหมือนกันแต่เน้นความเบาบางเป็นพิเศษ มีหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.43 นิ้วแต่ว่ามีอัตรา Refresh Rate 60Hz เท่านั้น และก็ยังได้ความแรงจากชิป Snapdragon 662 ที่มีความจำ RAM 8GB พร้อมฟีเจอร์ RAM Expansion เพิ่มได้อีก 5GB สามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นแน่นอนสำหรับรุ่นนี้ ส่วนกล้องหลังจะมีอยู่ 3 ตัวที่ความละเอียด 48MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP ถ่ายได้ทุกเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน กล้องหน้ามีความละเอียด 16MP ถ่ายเซลฟี่ได้สวยๆ และรุ่นนี้ก็เน้นที่การชาร์จเร็วเหมือนกันกับความจุแบต 5,000 mAh รองรับ Flash Charge 33W ชาร์จ 54% ใน 30 นาที ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
ตารางเปรียบเทียบ 8 มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อในปี 2022
ข้อมูล\ รุ่น | Samsung Galaxy A13 | OPPO A16 | vivo Y21 | OPPO A53 |
หน้าจอ | PLS TFT LCD (FHD+) 60Hz กว้าง 6.6 นิ้ว | IPS LCD (HD+) 60Hz กว้าง 6.52 นิ้ว | IPS LCD (HD+) กว้าง 6.51 นิ้ว | IPS LCD (HD+) 90Hz กว้าง 6.5 นิ้ว |
ชิปประมวลผล | Exynos 850 | Helio G35 | Helio P35 | napdragon 460 |
กล้องหน้า | 8MP | 8MP | 8MP | 16MP |
กล้องหลัง | Main: 50MP Ultrawide: 5MP Depth: 2MP Macro: 2MP | Main: 13MP Depth: 2MP Macro: 2MP | Main: 13MP Marcro: 2MP | Main: 13MP Depth: 2MP Macro: 2MP |
RAM/ ROM | 4/128GB Ram plus 4+4 | 4/64GB | 4/64GB | 4/128GB |
microSD | 1 TB | 256GB | 1 TB | 256GB |
แบตฯ | 5,000 mAh Fast Charge 15W | 5,000 mAh Fast Charge 10W | 5,000 mAh Fast Charge 18W | 5,000 mAh Fast Charge 18W |
ราคา | 6,499 บาท | 5,999 บาท | 5,699 บาท | 6,499 บาท |
ข้อมูล\ รุ่น Samsung Galaxy A23 vivo Y33T OPPO A76 OPPO A95 หน้าจอ PLS TFT LCD (FHD+)
90Hz กว้าง 6.6 นิ้วIPS LCD (FHD+)
90Hz กว้าง 6.58 นิ้วIPS LCD (HD+)
90Hz กว้าง 6.56 นิ้วAMOLED (FHD+)
60Hz กว้าง 6.43 นิ้วชิปประมวลผล Snapdragon 680 Snapdragon 680 Snapdragon 680 Snapdragon 662 กล้องหน้า 8MP 16MP 8MP 16MP กล้องหลัง Main: 50MP (OIS)
Ultrawide: 5MP
Depth: 2MP
Macro: 2MPMain: 50MP
Bokeh: 2MP
Macro: 2MPMain: 13MP
Bokeh: 2MPMain: 48MP
Depth: 2MP
Macro: 2MPRAM/ ROM 6/128GB 8/128GB 6/128GB 8/128GB microSD 1 TB 1 TB 1 TB 256GB แบตฯ 5,000 mAh
Fast Charge 25W5,000 mAh
Fast Charge 18W5,000 mAh
Fast Charge 33W5,000 mAh
Fast Charge 33Wราคา 7,999 บาท 7,999 บาท 7,999 บาท 8,999 บาท
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนน่าซื้อในปี 2022 ทั้ง 8 รุ่นที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ถ้าดูจากตารางแล้วจะเห็นได้ว่ารุ่นที่สามารถถ่ายรูปได้แบบสวยๆ และเน้นเรื่องกล้องมาเป็นหลักเลยก็คือ Samsung Galaxy A13 และ Samsung Galaxy A23 ที่มีกล้องหลังมาให้ถึง 4 ตัวทั้งสองรุ่น อีกทั้งยังสามารถถ่ายเก็บมุมกว้างหรือมุมใกล้ก็ทำได้หมดทุกสภาพแสง แถมยังมีหน้าจอที่กว้างกว่าทุกรุ่นเลยด้วย ถ้าดูในด้านความคุ้มค่ากับช่วงราคาทั้งสองแบบก็ถือว่าคุ้มที่สุดแล้ว ส่วนใครที่เน้นเล่นเกมหรือว่าใช้งานทั่วไป โดยรวมแล้วทุกรุ่นสามารถทำได้ดีหมดตามช่วงราคา ที่สำคัญคือทุกรุ่นมีแบตอึดใช้งานได้อย่างยาวนานเต็มวันอย่างแน่นอน แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันอีกเรื่อยๆ เลยนะครับ