เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy S23 vs S23+ vs S23 Ultra ทั้งสามรุ่นควรซื้อรุ่นไหนดี และรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้างในปี 2023
ช่วงนี้ถ้าไม่พูดถึงมือถือจาก Samsung ตัวเรือธงรุ่นที่เปิดตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Samsung Galaxy S23 Series ก็คงจะไม่ได้ เพราะว่าทั้งสเปค และราคาของแต่ละรุ่นที่ออกมานั้นต้องบอกว่าน่าใช้งานมากทีเดียว ถ้าเทียบกับมือถือสุดยอดเรือธงคู่แข่งก็ถือว่าทำออกมาได้สูสี จนถึงขั้นดีกว่าในบางอย่างด้วยซ้ำ (ดูเปรียบเทียบ S23 กับ iPhone 14 และ S23 Ultra กับ iPhone 14 Pro Max ที่นี่) แต่ถ้าเป็นรุ่นเดียวกันในซีรีส์ทั้งสามรุ่นที่ออกมา รุ่นไหนเหมาะกับใคร และควรซื้อรุ่นไหนดีให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง หลายคนอาจจะยังสงสัยอยู่ว่าทั้งสามรุ่นนี้ มีอะไรแตกต่างกัน และมีจุดไหนบ้างที่ทำให้ควรเลือกซื้อรุ่นไหนให้เหมาะกับตัวเรา เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาเปรียบเทียบสเปคแบบจุดต่อจุดของ Samsung Galaxy S23 vs S23+ vs S23 Ultra ทั้งสามรุ่นควรซื้อรุ่นไหนดี และรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้างในปี 2023 ไปดูกันเลย
เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy S23 vs S23+ vs S23 Ultra
- เปรียบเทียบดีไซน์ตัวเครื่อง
- เปรียบเทียบหน้าจอ
- เปรียบเทียบชิปประมวลผล
- เปรียบเทียบกล้องหน้าและกล้องหลัง
- เปรียบเทียบแบตเตอรี่ และราคาทุกรุ่น
- สรุปว่า Samsung Galaxy S23 vs S23+ vs S23 Ultra ควรซื้อรุ่นไหนดี
ดีไซน์มีความคล้ายกันพอสมควร
เริ่มต้นกันที่การเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S23 vs S23+ vs S23 Ultra ที่ดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนเลย ที่ทั้งสามรุ่นนี้ออกแบบมามีความคล้ายกันมากขึ้น จุดแรกที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือตัวโมดูลกล้องหลังแบบฝังลงไปกับฝาหลัง และนูนขึ้นมาเฉพาะตัวเลนส์เท่านั้น จากเดิมที่ S22 มีกรอบที่กล้อง อีกหนึ่งอย่างที่ทั้งสามรุ่นทำออกมาเหมือนกันก็คือสีแบบเอิร์ธโทน และกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68 ส่วนรูปแบบตัวเครื่องของ Galaxy S23 กับ S23+ จะมีความโค้งมน กรอบเฟรมเป็น Armor Aluminum มันวาว ใช้กระจก Gorilla Glass Victus 2 ทั้งหน้า,หลัง และมีความเหมือนกันมากที่สุด ต่างกันที่ขนาดและน้ำหนักเท่านั้น ส่วนในรุ่น Galaxy S23 Ultra จะมีด้านบนและล่างแบบขอบแบน แต่ด้านข้างโค้งมนเข้ากับมือ อีกทั้งด้านล่างยังมีช่องสำหรับ S Pen ด้วย รวมไปถึงการใช้กระจกหน้าหลังเหมือนกันหมดทุกรุ่น ในเรื่องของการดีไซน์ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลย
Samsung Galaxy S23 Samsung Galaxy S23+ Samsung Galaxy S23 Ultra ขนาด 146.3×70.9×7.6 มม. 157.8×76.2×7.6 มม. 163.4×78.1×8.9 มม. น้ำหนัก 167 กรัม 195 กรัม 233 กรัม สี Lavender, Cream, Phantom Black, Green, Lime, Graphite Lavender, Cream, Phantom Black, Green, Lime, Graphite Green, Phantom Black, Lavender, Cream, Lime, Sky Blue, Graphite, Red
หน้าจอคมชัด สว่างไหลลื่นได้เหมือนกัน
สำหรับการเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S23 vs S23+ vs S23 Ultra ที่หน้าจอของทั้งสามรุ่นนี้ต้องบอกก่อนว่ามีความคล้ายกันมาก ต่างกันที่ขนาดและรูปแบบของตัวหน้าจอของแต่ละรุ่น โดยรูกล้องหน้าของทั้งสามรุ่นก็เป็นแบบเจาะรู (Punch-Hole) แบบ Infinity O เหมือนกันทุกรุ่น รวมไปถึงหน้าจอที่เป็นแบบ Dynamic AMOLED 2X รองรับ HDR 10+ มีจอที่สว่างได้สูงสุด 1,750 nits และแบบ HDR, HBM 1,200 nits เหมือนกันด้วย ส่วนที่ต่างก็คือรุ่น S23 มีจอกว้าง 6.1 นิ้วและรุ่น S23+ มีจอกว้าง 6.6 นิ้ว ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้มีจอละเอียด 2340×1080 (FHD+) แบบจอแบน และมี Refresh Rate 120Hz (48~120Hz) เหมือนกันทั้งหมดอีกด้วย ส่วนในรุ่นตัวท็อปอย่าง S23 Ultra มีจอกว้าง 6.8 นิ้วและมีความละเอียด 3088×1440 (Quad HD+) แบบจอโค้งพร้อม Refresh Rate 120Hz (1~120Hz) และรองรับ ปากกา S-Pen ด้วย
Samsung Galaxy S23 Samsung Galaxy S23+ Samsung Galaxy S23 Ultra หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X Dynamic AMOLED 2X Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.1 นิ้ว 6.6 นิ้ว 6.8 นิ้ว ความละเอียด 2340×1080 (FHD+) 2340×1080 (FHD+) 3088×1440 (Quad HD+) Refresh Rate 120Hz (48~120Hz) 120Hz (48~120Hz) 120Hz (1~120Hz)
ชิปตัวแรงตัวเดียวกันทุกรุ่น ต่างกันที่ความจุ
มาดูที่ด้านการทำงานและชิปประมวลผลของ Samsung Galaxy S23 vs S23+ vs S23 Ultra กันบ้าง ที่บอกได้เลยว่ามีความแรงใช้งานได้ทุกรูปแบบแน่นอนทั้งสามรุ่น เนื่องจากใช้ชิปตัวเดียวกันคือ Snapdragon 8 Gen 2 Mobile Platform for Galaxy ที่มีการปรับปรุงมาเพื่อ Samsung Galaxy โดยเฉพาะ ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น มีความแรงมากขึ้นถึงขนาดที่ Samsung เองก็เคลมไว้ในหน้าเว็บว่าเป็น Snapdragon ที่เร็วที่สุดในโลกเลยทีเดียว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือใช้งานแบบไหนก็เร็วแรงได้หมด รวมไปถึงการใช้งาน 5G และ WiFi6E ที่เหมือนกันด้วย ส่วนที่ต่างกันก็คือแรมและความจุของทั้งสามรุ่นที่รุ่น S23 มีให้เลือกคือ 128GB-256GB รุ่น S23+ มีความจุ 256GB-512GB และรุ่น S23 Ultra มี 256GB, 512GB, 1TB
Samsung Galaxy S23 Samsung Galaxy S23+ Samsung Galaxy S23 Ultra ชิป Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy RAM 8GB 8GB 8GB/ 12GB ROM 128GB, 256GB 256GB, 512GB 256GB, 512GB, 1TB
กล้องหลังมาอย่างพี๊ค ถ่ายกลางคืนคมชัดสูง แต่ Ultra ก็ยังเหนือกว่าทุกรุ่น
มาถึงจุดเด่นๆ ของการเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S23 vs S23+ vs S23 Ultra กันแล้ว ที่เรื่องกล้องหน้าและกล้องหลังที่ทำออกมาได้เหนือใคร ไม่ว่าจะเป็นความคมชัดหรือการถ่ายกลางคืน และการซูมที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยรุ่น Galaxy S23 และ S23+ นั้นมีกล้องหน้าและหลังเหมือนกันทั้งหมด โดยมีกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดหลัก 50MP (f/1.8) ที่มีเซ็นเซอร์ 1/1.56″, 1.0µm เทเลโฟโต้ 10MP (f/2.4) สามารถซูมแบบออปติคัลได้ 3X, ซูมแบบดิจิทัลได้ 30X และอัลตร้าไวด์ 12MP (f/2.2) ที่มีกันสั่น OIS และเทคโนโลยี Detail Enhancer ที่มีความละเอียดของภาพสูง ถ่ายยามค่ำคืนได้คมชัดมากขึ้น ส่วนกล้องหน้ามี 12MP (f/2.2) พร้อม Dual Pixel PDAF ทั้งหน้าและหลังทำให้การเซลฟี่หรือถ่ายวิดีโอกลางคืนได้คมชัดขึ้น กับการถ่ายวิดีโอได้สูงถึง 8K และ Photo Remaster เปลี่ยนภาพเสียกลับมาสวยได้ง่ายๆ
ส่วนรุ่นใหญ่ตัวท็อปอย่าง Galaxy S23 Ultra นั้นก็มาแบบพี๊คสุดด้วยกล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดหลัก 200MP (f/1.7) ที่มีเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.3″, 0.6µm และ multi-directional PDAF, Laser AF เลนส์อัลตร้าไวด์ 12MP (f/2.2) เทเลโฟโต้สองตัว 10MP (f/2.4),10MP (f/4.9) แบบ Periscope หนึ่งตัวที่สามารถซูมออปติคอลได้ 3X, 10X และซูมแบบดิจิทัลได้ไม่เกิน 100 เท่า มีกันสั่น OIS และเทคโนโลยีลดนอยส์ถ่ายวิดีโอได้เหมือนภาพยนตร์ พร้อมการถ่ายภาพและวิดีโอได้คมชัดแม้ในที่แสงน้อยสูงสุด 8K รวมไปถึงการถ่ายพอตเทรตในตอนกลางคืนด้วย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ไฮเปอร์แลปส์ (Hyperlapse) ที่ถ่ายภาพหมู่ดาวและมากดเร่งในภายหลังได้อย่างสวยงาม และยังสามารถซูมและคร็อปเพื่อให้ได้ภาพใหม่โดยไม่ต้องกดถ่ายเลยด้วย รวมไปถึง Dual Pixel PDAF ที่มีทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า 12MP (f/2.2) ส่วนกล้องของทุกรุ่นนั้นสามารถถ่ายด้วย Expert RAW รายละเอียดคมชัดสูงได้ด้วย
Samsung Galaxy S23 Samsung Galaxy S23+ Samsung Galaxy S23 Ultra กล้องหน้า 12MP Dual Pixel PDAF 12MP Dual Pixel PDAF 12MP Dual Pixel PDAF กล้องหลัง 50MP + 10MP + 12MP 50MP + 10MP +12MP 200MP + 10MP + 10MP +12MP วิดีโอ หน้า 4K, หลัง 8K หน้า 4K, หลัง 8K หน้า 4K, หลัง 8K
แบตอึดใช้งานได้ยาวนานทุกรุ่น ส่วนราคายังต่างกันเยอะ
ปิดท้ายด้วยการเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S23 vs S23+ vs S23 Ultra เรื่องแบตเตอรี่ของทั้งสามรุ่นที่มีความจุแตกต่างกัน และยังมีระยะการใช้งานที่ต่างกันด้วย โดยรุ่น Galaxy S23 มีความจุแบต 3,900 mAh ชาร์จเร็วได้ 25W และดูวิดีโอต่อเนื่องได้ 22 ชม. ถือว่าเป็นรุ่นเล็กที่สุดแล้ว ส่วนรุ่น Galaxy S23+ มีความจุ 4,700 mAh ชาร์จเร็วได้ 45W และดูวิดีโอได้ต่อเนื่อง 27 ชม. เป็นรุ่นที่ใช้งานได้ยาวนานกว่าทุกรุ่นในซีรีส์แล้ว สุดท้ายคือรุ่น Galaxy S23 Ultra มีความจุ 5,000 mAh ชาร์ไวได้ 45W แต่ว่าดูวิดีโอต่อเนื่องได้ 26 ชม. อาจเป็นเพราะรูปแบบการใช้งานที่จำเป็นต้องใช้พลังงานเยอะหน่อย แต่ก็ถือว่ายังใช้งานได้ยาวนานอยู่ดี ทั้งนี้ไม่ได้แถมอแดปเตอร์มาให้เหมือนเดิมทุกรุ่น ส่วนราคาต้องบอกว่ามีความต่างกันเยอะพอสมควรเลย อาจเป็นเพราะว่าความจุแต่ละรุ่นไม่เท่ากันด้วย มีราคาแต่ละรุ่นดังนี้
สั่งซื้อหรือจองล่วงหน้าได้ที่นี่
Samsung Galaxy S23 | Samsung Galaxy S23+ | Samsung Galaxy S23 Ultra | |
แบต | 3,900 mAh, 25W | 4,700 mAh, 45W | 5,000 mAh, 45W |
ราคา | 128GB : 30,900 บาท 256GB : 33,900 บาท | 256GB : 37,900 บาท 512GB : 42,900 บาท | 256GB : 43,900 บาท 512GB : 49,900 บาท 1TB : 59,900 บาท |
สรุปว่า Samsung Galaxy S23 vs S23+ vs S23 Ultra ควรซื้อรุ่นไหนดี
สำหรับการเลือกซื้อ Samsung Galaxy S23 vs S23+ vs S23 Ultra ว่าควรซื้อรุ่นไหนดี และการดูว่ารุ่นไหนเหมาะกับตัวเองมากที่สุด แนะนำว่าให้ดูการใช้งานของตัวเองก่อนเลย ว่าใช้งานมือถือในแต่ละวันเราเน้นการใช้งานอะไรเป็นหลัก เพราะถ้าไม่ได้เน้นเรื่องการถ่ายรูปแบบคมชัดสูง หรือไม่ได้ต้องการถึงระดับโปร ใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไปแนะนำเป็น Galaxy S23 หรือ S23+ จะเหมาะที่สุด โดยความต่างของทั้งสองรุ่นนี้ก็มีเพียงขนาดหน้าจอ ถ้าใครไม่ชอบจอใหญ่ก็ซื้อรุ่นเริ่มต้นอย่าง S23 ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยากได้ความจุสูงกับจอใหญ่ก็เลือก S23+ ได้เลย ส่วนใครที่เน้นถ่ายรูประดับสูงเป็นหลัก พร้อมกับคนที่อยากได้ S-Pen มาขีดเขียนจดบันทึกร่วมด้วยรุ่น Galaxy S23 Ultra จะเหมาะที่สุดในทุกๆ ด้านและการใช้งานแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและความชอบของแต่ละคน รวมไปถึงงบประมาณในการซื้อด้วยเช่นกัน
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูล Samsung Galaxy S23 vs S23+ vs S23 Ultra จาก Samsung