เปิดตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ iPhone 17 Series ที่ครั้งนี้มีการอัปเกรดไลน์อัปใหม่มี 4 รุ่นคือ iPhone 17, iPhone Air, iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max ที่เป็นรุ่นท็อปสุด มีแบตที่อยู่ได้นานที่สุด และความจุเพิ่มขึ้นมาสูงสุดเป็น 2TB แล้ว แน่นอนว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 16 Pro Max ก็ถูกนำออกจาก Apple Store เรียบร้อย และราคาก็เริ่มลดลงแล้วด้วย โดยรุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกมานี้ก็มีการอัปเกรดสเปคหลายอย่าง เรียกได้ว่ารื้อใหม่แทบทั้งหมด ใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้อรุ่นใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบ iPhone 17 Pro Max vs iPhone 16 Pro Max รุ่นใหม่และรุ่นเก่ารุ่นท็อปสุดมีสเปคต่างกันแค่ไหน และจะเลือกซื้อรุ่นไหนดีในตอนนี้
สรุปจะซื้อรุ่นไหนดีระหว่าง iPhone 17 Pro Max vs iPhone 16 Pro Max
ตารางเปรียบเทียบสเปค iPhone 17 Pro Max vs iPhone 16 Pro Max
ข้อมูล\ รุ่น | iPhone 17 Pro Max | iPhone 16 Pro Max |
ขนาด/ น้ำหนัก | 163.4 × 78 × 8.75 มม./ 231 กรัม | 163 × 77.6 × 8.25 มม./ 227 กรัม |
สี | เงิน, ส้มคอสมิก, น้ำเงินเข้ม | ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมธรรมชาติ, ไทเทเนียมทะเลทราย |
วัสดุตัวเครื่อง | อะลูมิเนียม + กระจก | ไทเทเนียม + กระจก |
หน้าจอ | Super Retina XDR, OLED ขนาด 6.9 นิ้ว/ Dynamic Island เคลือบสารกันสะท้อน | Super Retina XDR, OLED ขนาด 6.9 นิ้ว/ Dynamic Island |
Refresh Rate/ ความสว่างสูงสุด | ProMotion 120Hz/ 3,000nits | ProMotion 120Hz/ 2,000nits |
กระจกหน้าจอ | Ceramic Shield 2 | Ceramic Shield |
ชิป | Apple A19 Pro | Apple A18 Pro |
RAM | 12GB* | 8GB |
ROM | 256GB/ 512GB/ 1TB/ 2TB | 256GB/ 512GB/ 1TB |
การเชื่อมต่อ | 5G/ WiFi7/ Bluetooth 6/ NFC/ UWB2/ eSIM | 5G/ WiFi7/ Bluetooth 5.3/ NFC/ UWB2 |
AI | Apple Intelligence | Apple Intelligence |
กล้องหน้า | 18MP (ƒ/1.9) Center Stage | 12MP (ƒ/1.9) |
กล้องหลัง | หลัก: 48MP (ƒ/1.78) | กันสั่นรุ่นที่ 2 อัลตร้าไวด์: 48MP (ƒ/2.2) เทเลโฟโต้: 48MP (ƒ/2.8) | หลัก: 48MP (ƒ/1.78) อัลตร้าไวด์: 48MP (ƒ/2.2) เทเลโฟโต้: 12MP (ƒ/2.8) |
การซูมออปติคอล | ซูมเข้า 8x, ซูมออก 2x | ซูมเข้า 5x, ซูมออก 2x |
แบตเตอรี่ | เล่นวิดีโอ: สูงสุด 37 ชั่วโมง ชาร์จ 50% ในเวลา 20 นาที | เล่นวิดีโอ: สูงสุด 33 ชั่วโมง ชาร์จ 50% ในเวลา 30 นาที |
ราคา** | 256GB: 48,900 บาท 512GB: 56,900 บาท 1TB: 64,900 บาท 2TB: 80,900 บาท | 256GB: 41,700 บาท 512GB: 49,700 บาท 1TB: 57,700 บาท |
**ราคา ณ วันที่ 10 กันยายน 2025
ดีไซน์และวัสดุต่างกันยังไง?

ดีไซน์ของ iPhone 17 Pro Max vs iPhone 16 Pro Max มีการเปลี่ยนแปลงเยอะพอสมควร อย่างแรกคือ iPhone 17 Pro Max เปลี่ยนมาใช้อะลูมิเนียมชิ้นเดียวแบบ unibody ที่ระบายความร้อนดีขึ้น ด้านหลังเป็นกระจก Ceramic Shield และเพิ่มความจุแบตเลยทำให้ตัวเครื่องหนาขึ้น และมีน้ำหนักมากขึ้น ต่างจาก iPhone 16 Pro Max ที่ใช้ไทเทเนียมเกรด 5 มีความพรีเมียมด้านหลังกระจกด้าน ซึ่งมีความบางและเบากว่า แต่ก็อาจระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่าตัวใหม่
อีกอย่างที่เปลี่ยนไปก็คือโมดูลกล้องหลังของ iPhone 17 Pro Max ที่ทำเป็นแถบแนวนอน แต่ของ iPhone 16 Pro Max จะเป็นโมดูลสี่เหลี่ยมที่คุ้นตากว่า อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนได้เลย
หน้าจอมีอะไรอัปเกรดบ้าง?

หน้าจอเป็นส่วนที่ใช้บ่อยที่สุด ซึ่งทั้งสองรุ่นใช้จอ Super Retina XDR OLED ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2868 x 1320 พิกเซล และมี Dynamic Island, ProMotion 120Hz และเคลือบกันรอยนิ้วมือเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด เพราะว่า iPhone 17 Pro Max สว่างสูงสุดที่ 3,000 nits และมีเคลือบกันแสงสะท้อนใหม่ แต่ของรุ่นก่อนหน้าทำได้เพียง 2,000 nits เท่านั้น ทำให้การเล่นกลางแจ้งหรือออกข้างนอกรุ่นใหม่ทำได้ดีกว่าแน่นอน ที่สำคัญคือ iPhone 17 Pro Max ใช้กระจก Ceramic Shield 2 ที่แข็งแรงขึ้น 3 เท่า
อย่างไรก็ตามในด้านการใช้งานจริง หรือว่าถ้าใช้ไปนานๆ แล้วก็อาจทำให้เกิดรอยขนแมวได้ และถ้าใครที่อยากนำเครื่องไปเทรดรุ่นใหม่ในอนาคต หรือว่าไม่อยากให้จอเป็นรอย รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มอีกระดับ การติดฟิล์มกระจก Focus เพื่อป้องกันหน้าจออีกระดับ ก็จะช่วยทำให้เราอุ่นใจในการใช้งานได้อีกเยอะ เพราะนอกจากจะทนทานแล้วก็ยังไม่ทำให้จอเพี้ยน สัมผัสได้ลื่นเหมือนเดิม มีรุ่นที่ออกมาสำหรับ iPhone 17 Pro Max โดยเฉพาะคือ
- ฟิล์มกระจก Focus Corning Glass
- ฟิล์มกระจกรุ่นใหม่ล่าสุดที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ กันกระแทกได้ถึง 3 เมตรด้วยมาตรฐานจากอเมริกา ตัวฟิล์มสามารถป้องกันได้เต็มจอ และกันรอยขีดข่วนได้มากกว่า 10,000 ครั้ง ติดแล้วภาพหน้าจอก็ยังคมชัดเหมือนเดิม และยังสัมผัสได้ลื่นๆ อีกด้วย พร้อมรับประกันยาวๆ ถึง 2 ปี



ส่วนใครที่อยากเสริมความแกร่งให้กับเลนส์กล้องก็ยังมี Focus Iron Ring Titanium Matte ที่เป็นกระจกคุณภาพสูงระดับ 9H กันได้ทั้งรอยขีดข่วนและป้องกันตัวเลนส์ได้เป็นอย่างดี โดยไม่ทำให้ภาพถ่ายหรือสีเพี้ยน และยังถ่ายได้คมชัดเหมือนเดิม แถมยังติดได้เรียบเนียนไปกับกล้อง มีสีให้เลือกเหมือนกับตัวเครื่องครบ และกันน้ำกันฝุ่นได้อีกด้วย สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ focusshield.com, ร้าน Focus Store และตัวแทนทั่วประเทศ
ประสิทธิภาพและชิปดีขึ้นแค่ไหน?

จุดสำคัญอีกอย่างของ iPhone 17 Pro Max vs iPhone 16 Pro Max ก็คือชิปที่รุ่นใหม่ใช้ชิป A19 Pro แรงขึ้นกว่า A18 Pro มากถึง 30% ใน CPU และ 40% ใน GPU รวมถึงประหยัดพลังงานดีกว่า ทำให้เล่นเกมหนักๆ หรือตัดต่อวิดีโอนานๆ ไม่ร้อนง่าย เพราะมี vapor chamber ระบายความร้อนได้ดีขึ้น และเพิ่มความจุสูงสุดไปถึง 2TB แล้ว
นอกจากนี้รุ่นใหม่ยังมีความจุแบตที่มากขึ้น และสามารถเล่นวิดีโอได้ถึง 37 ชม. มากกว่ารุ่นก่อนหน้าที่ทำได้ 33 ชม เท่านั้น และยังชาร์จได้ไวกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่ชาร์จเร็ว 50% ใน 20 นาทีมากขึ้นถึง 10 นาทีเลยทีเดียว ส่วนการเชื่อมต่อมีการปรับปรุงเพิ่มเติมในส่วนของ Bluetooth 6 และ ชิป N1 ที่เชื่อมต่อเร็วขึ้น
กล้องอัปเกรดใหม่ ถ่ายไกลกว่าเดิม

จุดสุดท้ายคือกล้องของ iPhone 17 Pro Max vs iPhone 16 Pro Max ที่รุ่นใหม่อัพเกรดครั้งใหญ่ ด้วยกล้องหลังสามตัวแบบ Fusion 48MP ทุกตัว โดยมีจุดเปลี่ยนตรงเลนส์ Telephoto ที่เป็น 48MP ซูมได้ถึง 8 เท่าด้วยดีไซน์เตตระปริซึมเจนถัดไป รวมถึงตัวหลักที่มีกันสั่นรุ่นที่ 2 ที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน ส่วนกล้องหน้าก็อัปเกรดใหม่เป็น 18MP พร้อม Center Stage ที่จัดให้อยู่ตรงกลางเสมอ ถ่ายกลุ่มได้ดีขึ้น ถ่ายได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนโดยไม่ต้องหมุนตัวเครื่อง จากเดิม 12MP รวมถึงถ่ายวิดีโอหน้า-หลังพร้อมกันได้แล้ว
สรุปซื้อรุ่นไหนดีและรุ่นเหมาะกับใครบ้าง?
จากการเปรียบเทียบสเปค iPhone 17 Pro Max vs iPhone 16 Pro Max จะเห็นได้ว่ารุ่นใหม่นั้นมีการอัปเกรดมาใหม่แทบทุกอย่าง ทำให้คนที่จะเลือก iPhone 16 Pro Max นั้นเหมาะกับคนที่อยากประหยัดงบ เพราะตัวเครื่องมีราคาลดลงไปเยอะมากๆ ต่างกันถึง 7,000 กว่าบาทในรุ่นเริ่มต้น และยังเหมาะกับคนที่ใช้กล้องถ่ายรูประดับโปรทั่วไป ไม่ได้เน้นซูมมากนัก มีวัสดุพรีเมียมเบาและบางกว่า ถ้ายังใช้งานอยู่ยังไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้
ส่วน iPhone 17 Pro Max รุ่นใหม่จะเหมาะกับคนที่อยากได้ของใหม่ และชิปแรงสุด เน้นถ่ายรูปและวิดีโอเป็นหลัก ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง สามารถใช้ในระดับมืออาชีพได้เลย หน้าจอดีขึ้นใช้กลางแจ้งสบาย มีความจุให้เลือกเยอะ และมีแบตที่อยู่ได้นานกว่า และมีหน้าจอที่แข็งแกร่งกว่าด้วย

สรุปได้ว่าถ้าอยากได้ราคาคุ้ม และใช้งานระดับโปรที่ดีพอสำหรับใช้งานทั่วไปอยู่แล้วเลือก iPhone 16 Pro Max ก็ยังไปต่อได้อีกยาว แต่ถ้างบถึงก็จัด iPhone 17 Pro Max รุ่นใหม่ไปเลย หรือถ้ามีเครื่องเก่าไปเทรดก็แนะนำให้เทรดดีกว่า เพราะสเปคมีความโปรขึ้นไปอีกระดับ และถ้าอยากให้มีราคาเทรดที่ดีในอนาคต และไม่อยากให้จอมีรอยขีดข่วน แนะนำว่าให้ติดฟิล์มกระจก Focus Corning Glass กันไว้ก่อนจะดีที่สุด ติดแล้วใช้งานต่อได้ยาวๆ ไม่ต้องกลัวจอหลักเป็นรอย และช่วยป้องกันการกระแทกได้อีกระดับนึงด้วย สั่งซื้อที่ focusshield.com