ถึง ณ ตอนนี้ อายุในตลาดของ iPhone 15 series ก็ร่วม 8 เดือนแล้ว เชื่อว่าคงมีหลายท่านที่มีแผนจะซื้อ iPhone เครื่องใหม่แล้วยังลังเลอยู่ว่าจะซื้อ iPhone 15 ไปเลย หรือรออีกประมาณ 5 เดือนที่ iPhone 16 จะเริ่มวางขายดี ในบทความนี้เราจะมาลองมองจากปัจจัยต่าง ๆ กันครับ เผื่อจะช่วยในการตัดสินใจของหลายท่านได้
เหตุผลที่ควรซื้อ iPhone 15
1) เป็นรุ่นล่าสุดในขณะนี้ ประสิทธิภาพก็ยังดี รองรับอัปเดตได้อีกยาว
แน่นอนว่าถ้าจำเป็นต้องซื้อ iPhone ตอนนี้เลย แล้วอยากได้เครื่องที่สเปคแรงสุด ใหม่สุดแบบไม่ต้องการรุ่นโปร ก็ต้องเลือกเป็น iPhone 15 ที่มีทั้งรุ่นขนาดหน้าจอปกติและ iPhone 15 Plus ที่หน้าจอขนาดใหญ่เท่า iPhone 15 Pro Max ในขณะที่เรื่องประสิทธิภาพก็ยังตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้สบาย ๆ จากพลังของชิป A16 Bionic ที่จริง ๆ แล้วก็คือชิปที่อยู่ใน iPhone 14 Pro มาก่อนนั่นเอง ทำให้ไม่ต้องห่วงในแง่ของความสามารถในการทำงาน และการรองรับแอปพลิเคชันไปได้อีกหลายปี จะมีก็เรื่องแรมที่ให้มา 6GB เท่านั้น ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานกว่า 95% ของผู้ใช้งานทั่วไปอยู่แล้ว แต่จะขาดก็เพียงแค่เรื่องระบบ Apple Intelligence (AI) เท่านั้นที่ Apple ประกาศว่าไม่รองรับบน iPhone รุ่นอื่นนอกเหนือจากรุ่น 15 Pro และ Pro Max ด้วยสาเหตุในเรื่องประสิทธิภาพองค์รวมที่อาจทำให้ใช้งาน Apple Intelligence ได้ไม่ดี ซึ่งก็คาดการณ์กันว่าแรมน่าจะมีส่วนสำคัญในประเด็นนี้ กับอีกเรื่องคือหน้าจอที่ได้รีเฟรชเรตแค่ 60Hz เท่านั้น
ส่วนสเปคในจุดอื่น ก็อยู่ในระดับที่ใช้งานได้ยาว ๆ เช่นกัน อย่างกล้องหลังที่ได้เป็นกล้องคู่ เลนส์หลัก 48MP + เลนส์อัลตร้าไวด์ 12MP รองรับการซูมออปติคอลได้สูงสุด 2 เท่าจากการซูมบนเซ็นเซอร์ พอร์ตเชื่อมต่อก็เปลี่ยนมาเป็น USB-C แล้ว ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับการเลือกซื้อสายชาร์จ เพราะสามารถใช้ร่วมกับ iPad, Mac รวมถึงอุปกรณ์แก็ดเจ็ตอื่น ๆ ได้ด้วย เรียกว่าเปลี่ยนเครื่องรอบนี้ สามารถใช้งานได้อีกยาวแน่นอน
2) หน้าตายังไม่เก่า อินเทรนด์ iPhone อยู่
iPhone 15 เป็นรุ่นที่ Apple ปรับมาใช้เกาะ Dynamic Island แทนติ่ง (notch) บนหน้าจอเพื่อใช้ซ่อนตำแหน่งของกล้องหน้า, ระบบ Face ID และกลุ่มเซ็นเซอร์ ทำให้หน้าตาออกมาเป็นทรงเดียวกับรุ่นโปรที่เปลี่ยนมาก่อนล่วงหน้าแล้วหนึ่งปี และเมื่อดูจากแนวทางการออกแบบ ประกอบกับกระแสข่าวลือ ภาพหลุด iPhone 16 ที่มีออกมาในขณะนี้ Apple ก็น่าจะยังคงยึดดีไซน์หน้าจอแบบเดิมอยู่ อย่างมากก็คงทำให้ขอบจอบางลงเล็กน้อย ทำให้ถ้าคุณต้องการซื้อ iPhone แต่กลัวว่าหน้าจะเก่าในอีกไม่กี่เดือน อันนี้ก็น่าจะหมดห่วงไปได้เลย สามารถซื้อ iPhone 15 ได้แบบสบายใจ
3) โปรโมชันราคาน่าดึงดูดใจ
ปกติแล้วหลังจากเปิดวางขาย iPhone รุ่นใหม่มาได้ซักระยะ ร้านตัวแทนจำหน่ายก็มักจะมีการจัดโปรโมชันลดราคาอยู่เป็นระยะ ๆ อย่างในระหว่างที่กำลังเขียนบทความนี้ก็มีโปร iPhone 15 Plus ราคาพิเศษเหลือเริ่มต้นที่ประมาณ 32,700 บาทเท่านั้น จากราคาเต็ม 37,900 บาท รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์เองก็มักมีจัดโปรพิเศษ แจกคูปองส่วนลดให้กดซื้อ iPhone 15 ได้ในราคาพิเศษอีก ก็ถือว่าเป็นช่วงที่กำลังดีสำหรับคนที่ต้องการ iPhone 15 เครื่องเปล่าแบบไม่ติดสัญญา
และมีอีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือมีข่าวลือออกมาว่า iPhone 16 อาจจะมีการปรับราคาขึ้นเล็กน้อยด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้วต้นทุนนั้นสูงขึ้นตั้งแต่ iPhone 15 แล้ว โดยสูงขึ้นกว่าตอน iPhone 14 ถึงสูงสุด 16% แต่ Apple ยังคงซับราคาส่วนต่างตรงนั้นไว้อยู่ จึงเป็นไปได้ว่าอาจมีการปล่อยลอยตัวในรุ่นหน้า
4) ยังมีช่องใส่ซิมการ์ดอยู่
Apple เริ่มปรับการออกแบบ iPhone รุ่นที่ขายในบางประเทศ เช่นในสหรัฐอเมริกาให้เป็นแบบไม่มีถาดใส่ซิมการ์ดแล้ว ผลักดันให้เปลี่ยนไปใช้ eSIM แทน แม้ว่า iPhone รุ่นปัจจุบันที่ขายในไทยจะยังคงมีช่องใส่ซิมอยู่ก็ตาม แต่จากใน iPad Air M2 และ iPad Pro M4 ที่เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายไปเมื่อไม่นานมานี้ พบว่ารุ่นที่ขายในไทยก็เป็นแบบไม่มีถาดใส่ซิมมาให้แล้ว ถ้าต้องการใช้เน็ต cellular ก็จะบังคับให้ใช้งานแบบ eSIM สถานเดียว จึงมีความเป็นไปได้อยู่บ้างเหมือนกันที่ iPhone 16 series อาจจะตัดถาดใส่ซิมออกทั้งหมด อย่างไรก็ตามจุดนี้ยังเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น เพราะคงต้องรอดูเครื่องที่นำมาขายในไทยอีกทีอยู่ดี แต่ถ้าคุณต้องการใช้ iPhone แบบมีช่องใส่ซิมแน่ ๆ การซื้อ iPhone 15 มาใช้ก็คือตอบโจทย์ได้ 100% เลย
เหตุผลที่ควรรอ iPhone 16
1) สเปคสดใหม่กว่า
ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เกือบทั้งหมดจะมาพร้อมกับสเปค คุณสมบัติที่ใหม่กว่า ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม ในแง่ของฮาร์ดแวร์ก็คาดกันว่า iPhone 16 น่าจะมาพร้อมกับชิปประมวลผล A17 Bionic ที่เป็นการขยับไปตามรุ่น โดยอาจจะเป็นชิปรุ่นที่ปรับลดสเปคจาก A17 Pro ลงบ้าง หรือไม่ก็เลือกนำชิป A17 Pro มาใส่ให้ไปเลย ซึ่งจะทำให้ทั้งส่วนของ CPU, GPU และ NPU สูงขึ้น ประมวลผลในการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอได้ดีกว่าปัจจุบัน หรือถ้าฉีกสุด ๆ ก็คือเปลี่ยนไปใช้ชิป A-series รุ่นใหม่ไปเลยอย่าง A18 โดยใช้การผลิตที่อ้างอิงตามสถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตร N3E ที่มีการยกระดับประสิทธิภาพของ NPU อย่าง Neural Engine ขึ้นมาอีก
อีกจุดที่อาจทำให้คุ้มค่ากับการรอ iPhone 16 ก็คือเราอาจจะได้เห็นการขยับมาใส่แรม 8GB เพื่อให้รองรับการใช้งานได้ดีขึ้น ที่สำคัญเลยก็คือเพื่อให้สามารถใช้งานความสามารถของ AI (Apple Intelligence) ได้ด้วยนั่นเอง แต่ในด้านของหน้าจอ อันนี้ดูลักษณะแล้ว iPhone 16 ก็คงยังมาพร้อมจอ 60Hz เช่นเดิม แต่ก็มีข้อมูลออกมาว่าจะมีการปรับเปลี่ยนตัวแผง OLED มาใช้เทคโนโลยี micro-lens ที่ช่วยเพิ่มความสว่างและลดการใช้พลังงานลง
2) Apple Intelligence
คงเป็นเรื่องแปลกแน่ ๆ ถ้า Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในปี 2024 แต่ไม่สามารถใช้งานระบบ AI ของตนเอง ที่เป็นพระเอกในงาน WWDC24 ได้เลย ดังนั้นจึงคาดหมายกันว่า iPhone 16 ควรจะสามารถใช้งานระบบ AI ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเท่า ๆ หรือใกล้เคียงกับ iPhone 15 Pro ทำให้ถ้าหากคุณต้องการใช้งานความสามารถจากระบบ Apple Intelligence เช่นการเป็นผู้ช่วยในการสรุปเนื้อหา ช่วยปรับเนื้อหาข้อความที่เขียน ช่วยสร้างรูปภาพขึ้นมาโดยอาศัยการทำงานจากภายในเครื่องเพียงอย่างเดียว ช่วยถอดความและสรุปเนื้อหาจากเสียงพูด ก็คงต้องซื้อ iPhone 15 Pro/Pro Max หรือไม่ก็รอซื้อ iPhone 16 series ไปเลย
3) อาจมีการปรับดีไซน์ เช่น เปลี่ยนมาใช้ Action Button
โดยปกติแล้ว Apple จะปรับดีไซน์และใส่ฟังก์ชันใหม่ในผลิตภัณฑ์รุ่นโปรก่อน จากนั้นในปีถัด ๆ มาก็จะนำมาใส่ให้ในผลิตภัณฑ์รุ่นปกติด้วย อย่างใน iPhone 15 Pro ก็มีการเปลี่ยนจากสวิตช์เปิด/ปิดเสียงด้านข้าง มาใช้เป็นปุ่ม Action Button แทน ซึ่งตัวปุ่มก็รองรับการตั้งค่าได้หลากหลาย ตั้งแต่ให้เป็นปุ่มเปิด/ปิดเสียงตามเดิม เป็นปุ่มเปิดแอปกล้อง เปิดไฟฉาย เปิดแอปบันทึกเสียง หรือจะใช้เปิดการทำงานของ shortcut ที่สร้างเองก็ได้ เรียกว่าอเนกประสงค์มาก ๆ ซึ่งก็เป็นไปได้ว่ารอบนี้ Apple อาจจะนำปุ่ม Action Button มาใส่ใน iPhone 16 ทุกรุ่นแบบเต็มตัวด้วย นอกจากนี้ยังอาจจะมีการเพิ่มปุ่ม capture เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกในการถ่ายรูปอีกต่างหาก
4) กล้องหลังอาจเปลี่ยนกลับไปวางตามแนวตั้งของเครื่อง
นับตั้งแต่ iPhone 13 เป็นต้นมา Apple ปรับการวางตำแหน่งเลนส์ของกล้องหลังไปไว้เป็นแนวทแยงกัน แต่พอเป็นใน iPhone 16 ก็มีข่าวลือออกมาว่าจะเปลี่ยนกลับไปใช้การวางกล้องเป็นแถวเรียงลงมาตามแนวตั้งอีกครั้ง เพราะอาจจะต้องการให้สามารถใช้ในการถ่ายวิดีโอแบบ Spatial Video ที่มีการเก็บข้อมูลเชิงมิติไว้ได้ด้วย เพื่อไว้ใช้กับแว่น Apple Vision Pro จากที่ในปัจจุบันจะมีเพียง iPhone 15 Pro และ Pro Max ถ่ายได้เท่านั้น ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากประสิทธิภาพของชิป อีกส่วนก็มาจากการวางตำแหน่งของเลนส์กล้องหลังที่ใน 15 Pro และ 15 Pro Max จะวางเลนส์กล้องหลักและเลนส์อัลตร้าไวด์เรียงลงมาตามแนวยาวของเครื่องนั่นเอง
ซึ่งถ้า Apple ต้องการผลักดันให้สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาสำหรับแว่น Vision Pro ให้มากขึ้น การทำให้ iPhone รุ่นปกติอย่าง iPhone 16 สามารถถ่าย Spatial Video ได้ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง นั่นก็เท่ากับจะต้องปรับดีไซน์กล้องหลังกลับมาเป็นเรียงในแนวยาวลงมาด้วย
5) iPhone 16 อาจมีการปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้ดีขึ้น
หนึ่งในจุดที่มีเสียงตอบรับไม่ค่อยดีมากนักใน iPhone 15 โดยเฉพาะรุ่นโปรก็คือเรื่องความร้อนขณะที่ใช้งานหนัก ๆ เช่น เล่นเกม ถ่ายวิดีโอ ถ่ายรูปนาน ๆ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ Apple จะมีการปรับปรุงระบบระบายความร้อนภายในเครื่องใหม่ เริ่มจากการใช้กราฟีนเข้ามาช่วยนำพาความร้อนออกจากตัวชิป ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดีขึ้นกว่าทองแดงที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
6) แบตเตอรี่ iPhone 16 อาจมีความจุสูงขึ้น
ตัวเลขความจุแบตเตอรี่ของ iPhone 16 อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปัจจุบันเล็กน้อย จากข่าวลือล่าสุดมีตัวเลขออกมาดังนี้ เทียบกับ iPhone 15 series ในรุ่นที่ชนกัน
- iPhone 16 = 3561 mAh เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มี 3349 mAh (+6%)
- iPhone 16 Plus = 4006 mAh ลดลงจากเดิมที่มี 4383 mAh (-9%)
ทั้งหมดนี้ก็คือข้อเปรียบเทียบระหว่างว่าจะซื้อ iPhone 15 หรือรอ iPhone 16 ดี โดยเทียบระหว่างสเปค คุณสมบัติที่น่าจะได้จากเครื่องรุ่นใหม่ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งานว่าให้ความสำคัญกับด้านไหนบ้าง อย่างถ้าต้องการมือถือสเปคแรง ๆ อันนี้สามารถเลือกรุ่นใดก็ได้ระหว่างสองรุ่นนี้เลย เพราะสเปคของ iPhone 15 เองก็ยังจัดว่าอยู่ในกลุ่มท็อป ๆ อยู่ดี แต่ถ้าต้องการความสดใหม่ แล้วน่าจะใช้งานระบบ AI (Apple Intelligence) ได้ ก็ควรรอซื้อ iPhone 16 จะดีกว่า
แต่ถ้ามองว่าฟีเจอร์ที่ iPhone มีในขณะนี้ก็เพียงพอกับการใช้งานแล้ว ไม่ได้จำเป็นต้องใช้งานระบบ AI เพื่อเสริมประสบการณ์การใช้งาน จุดนี้ iPhone 15 เหมาะมาก ๆ ด้วยทั้งความสามารถที่ดี ราคาก็ดี มีโปรให้เลือก แถมหน้าตาก็ยังดูสดใหม่ มี Dynamic Island ให้เล่น และยังใช้พอร์ต USB-C ที่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมได้หลากหลายมาก ๆ น่าจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ที่มีอุปกรณ์ แก็ดเจ็ตหลายชิ้นได้ดี
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำนิดนึงนะครับว่าสเปค ข้อมูล iPhone 16 ในขณะนี้ยังเป็นเพียงการคาดการณ์ และมาจากข่าวลือในแหล่งต่าง ๆ อยู่ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า iPhone 16 จะออกมาตามนี้จริง ส่วนกำหนดการเปิดตัว iPhone 16 series น่าจะเป็นในช่วงเดือนตุลาคมตามกำหนดการประจำปีของ Apple แล้วค่อยเข้ามาขายในไทยอย่างเร็วก็ปลายเดือนเดียวกันเลย หรืออย่างช้าก็ไม่ควรเกินเดือนพฤศจิกายนนี้