Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Editorial»ลองคำนวณ เปลี่ยนหรือซื้อ iPhone ใหม่ทุกกี่ปี ถึงจะคุ้ม
    Editorial

    ลองคำนวณ เปลี่ยนหรือซื้อ iPhone ใหม่ทุกกี่ปี ถึงจะคุ้ม

    ZeroSystemBy ZeroSystem25 กุมภาพันธ์ 2025
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email
    ซื้อ iPhone ใหม่

    ปกติแล้วเวลาจะซื้อมือถือใหม่ เราก็มักจะขายเครื่องเก่าในตลาดมือสอง ขายให้คนรู้จัก หรือใช้การเทิร์นไปพร้อมกับการซื้อเครื่องใหม่ ซึ่งก็มักจะได้เงินกลับมาส่วนหนึ่งเพื่อใช้เป็นทุนในการซื้อเครื่องด้วย โดยเฉพาะกับ iPhone ที่ฐานราคามือสองค่อนข้างสูง จนทำให้เกิดแนวทางการขายเครื่องเก่าซื้อเครื่องใหม่กันแบบปีต่อปี คล้ายกับเป็นการเช่าใช้เครื่องรายปี หรืออีกทางก็คือใช้ไปซัก 2-3 ปีแล้วค่อยเปลี่ยนรอบเดียว เพื่อให้ได้เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดมากขึ้น ในบทความนี้จะมาลองคำนวณกันครับ ว่าถ้าซื้อ iPhone เครื่องใหม่ทุกกี่ปีถึงจะได้ความคุ้มค่าในแง่ต่าง ๆ

    ราคา iPhone มือสอง กับการเทิร์นหรือขายเครื่องตามปี

    อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าราคา iPhone มือสองนั้นมีฐานค่อนข้างสูง เวลาขายก็ได้เงินคืนกลับมาเป็นเนื้อเป็นหนังมากกว่ามือถือ Android โดยเฉพาะยิ่งถ้าสภาพเครื่องดี ไม่มีรอยที่เห็นได้ชัด ไม่มีปัญหาในการใช้งาน รวมถึงเปอร์เซ็นต์แบตยังจัดว่าดีอยู่ ก็มักจะขายหรือเทิร์นได้ราคาดี ทีนี้เราลองมาดูราคามือสองของ iPhone รุ่นหลักในแต่ละปีกันครับ ว่า ณ​ ตอนนี้มีราคาขายมือสองกันอยู่ที่เท่าไหร่ โดยเป็นราคา iPhone รุ่นปกติ ความจุเริ่มต้นซึ่งเป็นความจุยอดนิยม สภาพดี อุปกรณ์ครบ อิงจาก Facebook Marketplace วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 68

    หากผมขาย iPhone 15 ตอนนี้แบบตั้งโพสต์ขายเองเพื่อมาซื้อ iPhone 16 ราคาที่คาดว่าจะสามารถขายออกได้จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 19,000 บาท หรือถ้าอยากให้ออกง่ายหน่อยก็ลดลงมาซักพันนึง ส่วนถ้าไปขายตามร้านก็จะลดหลั่นลงไปอีก ซึ่งสำหรับเครื่องที่มีอายุประมาณ 1 ปีกว่า ๆ ราคาจะตกลงไปจากราคาเปิดตัวประมาณ 42% หารค่าเสื่อมตั้งแต่วันแรกที่เปิดขายจนถึงวันที่เก็บข้อมูล จะตกที่วันละประมาณ 27 บาท เดือนละ 813 บาท และถ้าจะไปซื้อ iPhone 16 ความจุเริ่มต้น ก็ต้องเพิ่มเงินอีกเกือบ 11,000 บาท

    แต่ถ้าหากเป็น iPhone 14 ที่มีอายุประมาณ 2 ปีกว่า ราคามือสองจะอยู่ที่ราว 15,000 บาท ตกลงมาจากราคาตั้งต้น 54% ค่าเสื่อมเฉลี่ยตกเดือนละ 600 บาท ซึ่งก็จะใกล้เคียงกับ iPhone 13 ที่มีอายุ 3 ปีกว่าที่ราคามือสองต่างกันแค่ประมาณ 1,000 บาทเท่านั้น แต่ต้องถือว่าใช้มาคุ้มมาก เพราะค่าเสื่อมเฉลี่ยแล้วเหลือแค่เดือนละ 389 บาทเท่านั้น เรียกว่าลดลงมาเกือบครึ่ง ส่วนถ้าถอยมาเป็น iPhone 12 และ 11 ต้องบอกว่าถ้าขายแล้วไปซื้อ iPhone 16 อาจจะเจ็บตัวหนักหน่อย เพราะราคามือสองที่ขายในตลาดกันตอนนี้ลดลงมาเหลือเพียง 7,xxx บาทเท่านั้น ลดลงจาก iPhone 13 เป็นเท่าตัว ซึ่งยอดเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มเพื่อซื้อ 16 นั้นเท่า ๆ กับราคา iPhone 16e เลยก็ว่าได้ ทำให้การตัดสินใจขาย iPhone ที่อายุ 2-3 ปี น่าจะเป็นทางเลือกที่เจ็บตัวน้อยสุด

    ทำให้ถ้าหากมองดูจากราคามือสอง ค่าเสื่อมต่อปี และยอดเงินที่ต้องจ่ายเพิ่ม การเปลี่ยน iPhone รุ่นปกติทุก 1 ปีดูจะเป็นจุดที่ยังไม่ถึงกับคุ้มทุนมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองจากเทคโนโลยีที่มีการอัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้าไม่ชัดเจนเท่ากับรุ่นโปร ส่วนถ้าเป็นเครื่องอายุ 2-3 ปี ต้องบอกว่าแล้วแต่ความต้องการและกำลังทรัพย์ได้เลย เพราะราคามือสองและส่วนต่างที่ต้องจ่ายเพิ่มนั้นแทบจะเท่า ๆ กัน แล้วถ้ายิ่งใช้นานก็ยิ่งหารค่าเสื่อม ค่าใช้งานต่อวันลงมาได้ถูกลงไปอีก ดังนั้นส่วนตัวผมจึงมองว่าการเปลี่ยน iPhone รุ่นธรรมดาในทุก 2-3 ปีน่าจะเป็นจุดที่ตอบโจทย์เรื่องความคุ้มกว่า ทั้งยังได้เทคโนโลยีที่สดใหม่กว่าอย่างเห็นได้ชัดกว่าการเปลี่ยนเครื่องทุกปีด้วย

    ทีนี้ถ้าขยับมาเป็นรุ่น Pro Max ซึ่งเป็นอีกรุ่นยอดนิยมของผู้ใช้ iPhone กันบ้าง แนวโน้มก็จะคล้ายกัน แต่รอบนี้ต้องบอกว่าจะ iPhone 15 Pro Max จะพิเศษหน่อยตรงที่ความจุเริ่มต้นนั้นเป็น 256GB ในขณะที่ Pro Max รุ่นเริ่มต้นของปีก่อน ๆ หน้าจะอยู่ที่ 128GB หรือ 64GB เท่านั้น ทำให้ฐานราคา iPhone 15 Pro Max ขยับสูงขึ้นอย่างชัดเจนทั้งเครื่องมือหนึ่งและมือสอง แต่ถ้าเทียบเปอร์เซ็นต์ราคาตกก็จะอยู่ในช่วงประมาณ 40% เหมือนกับ iPhone 15 รุ่นปกติที่มีอายุตลาดเท่า ๆ กันอยู่ดี แต่ด้วยฐานราคามือสองที่สูงขึ้น ก็ทำให้การขาย iPhone 15 Pro Max ไปซื้อ 16 Pro Max ดูจะน่าสนใจขึ้นมา เพราะยอดที่ต้องจ่ายเพิ่มจะอยู่ที่ประมาณ​ 19,000 บาท ในขณะที่ถ้าเป็นรุ่นก่อนหน้า ยอดที่ต้องจ่ายนั้นพุ่งขึ้นสูงแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว

    แต่ในกรณีที่ต้องการความคุ้มค่าจากการใช้งาน ไม่ต้องการเปลี่ยนเครื่อง ย้ายข้อมูลกันบ่อย ๆ ทุกปี ตัวเลือกของการใช้งานซัก 2-3 ปีแล้วค่อยขายก็ยังคงให้ความคุ้มค่าที่ดีอยู่ ราคาขายต่อยังไม่เจ็บช้ำน้ำใจกันเกินไป แถมถ้าพอมาดู iPhone 12 Pro Max พอหารค่าเสื่อมรายเดือนออกมาแล้วแทบจะไม่ต่างจาก 13 Pro Max เท่าไหร่เลยด้วย แต่ราคามือสองนั้นต่างกันถึง 8,000 บาท ซึ่งก็ส่งผลมาถึงยอดเงินที่ต้องโปะเพิ่มตอนจะซื้อ 16 Pro Max ที่ต้องสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดด้วย

    ดังนั้นถ้าหากต้องการขายรุ่น Pro Max ไปซื้อ Pro Max รุ่นล่าสุด ก็ควรจะตัดขายที่อายุ 2-3 ปีจะกำลังดี เครื่องไม่ช้ำจนเกินไป ยังขายได้ราคาอยู่ ค่าเสื่อมก็ต่างกันไม่เยอะมาก จะลากไปปีที่ 4 ก็ยังพอไหว แต่ส่วนตัวมองว่ายอดที่ต้องจ่ายเพิ่มตอนซื้อเครื่องใหม่จะค่อนข้างสูงเกินไปหน่อย ซึ่งฝั่งของ iPhone รุ่นปกติก็จะใกล้เคียงกัน

    เทคโนโลยีที่ต่างกันในแต่ละรุ่น

    อีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนหรือซื้อมือถือใหม่ ก็คือความต้องการใช้งานเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามาในรุ่นใหม่ รวมถึงการที่รุ่นเก่าไม่สามารถใช้งานบางฟังก์ชันได้ แม้จะได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันเดียวกับรุ่นใหม่ก็ตาม และยังรวมถึงกรณีของดีไซน์ตัวเครื่องที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปด้วย แต่ในฝั่งของ iPhone ต้องบอกว่าในระยะหลังมักจะมีการปรับดีไซน์เพียงเล็กน้อยในแต่ละรุ่น บางครั้งถึงกับต้องเป็นผู้ที่ติดตามหรือค้นหาข้อมูล iPhone ซักนิดนึง ถึงจะแยกความแตกต่างของแต่ละรุ่นได้ในทันที

    ส่วนในด้านของเทคโนโลยีก็จะยิ่งแยกยากขึ้นไปอีก เพราะหลายครั้งเป็นการปรับที่ไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบการใช้งานมากนัก แต่จะเป็นการเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานบางอย่างให้สะดวกขึ้น เร็วขึ้นเล็กน้อย เช่น การเปลี่ยนชิปเซ็ตให้เร็วขึ้น แรงขึ้น ประหยัดพลังงานขึ้น ซึ่งในแง่ของการใช้งานทั่วไปก็อาจจะสังเกตความแตกต่างได้ยาก รวมถึงการเพิ่มความสามารถในการซูมเพื่อถ่ายภาพใน iPhone รุ่นปกติ การเปลี่ยนจากสวิตช์เปิด/ปิดเสียงมาเป็นปุ่มแอ็คชั่น ที่ก็ต้องได้ใช้งานเครื่องจริง ๆ ถึงจะทราบความแตกต่าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้พอสมควร

    อีกกลุ่มของเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่มเข้ามา แต่จะเป็นสิ่งที่อาจไม่ได้ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันมากนัก มีเพียงการใช้งานบางรูปแบบเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ เช่น การเพิ่มโมดูล Ultra-wide band (UWB) เข้ามาเพื่อใช้งานร่วมกับพวก AirTag หรือใช้กับ iPhone ที่มี UWB ด้วยกัน เป็นต้น

    ทำให้หากเป็นไปได้ ในระหว่างการพิจารณาว่าจะขาย iPhone เครื่องที่ใช้อยู่ไปซื้อเครื่องใหม่ ก็อาจจะลองดูก่อนว่าเครื่องใหม่นั้นมีฟีเจอร์ที่ต้องการใช้หรือไม่ เครื่องที่มีนั้นตอบโจทย์หรือยัง เพราะอาจจะช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่โดยมากแล้ว เครื่องรุ่นที่ต่างกันปีเดียว มักจะมีการขยับของเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวกระโดดมากนัก เว้นแต่ว่า Apple จะยกเครื่องใหม่ ซึ่งก็คงต้องพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยกันอีกที

    เปอร์เซ็นต์สุขภาพแบตเตอรี่

    เรื่องของสุขภาพแบตเตอรี่และรอบชาร์จที่ใช้ไป เป็นสิ่งที่ผู้ขายและซื้อ iPhone มือสองให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ และมีผลต่อราคาขายต่อเป็นอย่างมาก เพราะจะเป็นสิ่งที่กระทบกับระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งสะท้อนถึงประสบการณ์การใช้งานที่ผู้ซื้อต่อจะได้รับ และในอดีตยังอาจรวมถึงประสิทธิภาพเครื่องที่ลดลงเล็กน้อยด้วย ยิ่งใน iPhone รุ่นใหม่ ๆ นี้สามารถดูเปอร์เซ็นต์สุขภาพแบตและรอบชาร์จได้จากเมนูของ iOS โดยตรง ก็ทำให้เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญขึ้นไปอีกสำหรับการซื้อและขาย iPhone มือสอง

    สำหรับ iPhone ที่ผ่านการใช้งานทั่วไป ไม่ได้ลากใช้จนแบตหมดเกลี้ยงบ่อย ๆ มีอายุการใช้งานราว 1 ปี อย่างเครื่องของผมเองมักจะมีเปอร์เซ็นต์สุขภาพแบตเตอรี่ลงมาเหลือที่ประมาณ 98%-95% และหลังจากนั้นก็จะลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุการใช้งาน ส่วนในปีที่สอง เท่าที่เคยขายออกไป สุขภาพแบตจะอยู่ที่ประมาณ 85% ซึ่งก็ใกล้ลงมาต่ำกว่า 80% ที่ระบบจะแจ้งเตือนให้เข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบและเปลี่ยนแบตแล้ว

    จากปัจจัยด้านสุขภาพแบตเตอรี่ดังกล่าว ทำให้ถ้าหากต้องการขาย iPhone เป็นเครื่องมือสองให้ได้ราคาดี เพื่อนำเงินที่ได้ไปเป็นทุนซื้อเครื่องใหม่ การขาย iPhone ที่ใช้มา 1-2 ปีดูจะเป็นจุดที่ช่วยให้ราคาไม่ตกมาก ขายได้ง่ายกว่า iPhone ที่มีอายุมากกว่านั้น แต่ในกรณีที่เครื่องมีอายุมากกว่า 2 ปี หรือมีเปอร์เซ็นต์สุขภาพแบตที่ต่ำกว่า 80% แล้วไม่อยากเปลี่ยนแบต อันนี้แนะนำว่าถ้าจะขายก็ตั้งขายไปเลย ขอแค่ชี้แจงเปอร์เซ็นต์แบตตามจริง แล้วให้ผู้ซื้อต่อไปจัดการเปลี่ยนแบตเองจะดีกว่า เพราะส่วนตัวมองว่าการที่เครื่องถูกแกะเพื่อเปลี่ยนแบตแล้ว มีโอกาสที่จะถูกกดราคาจากฐานในตลาดลงไปอีกขั้น แต่ถ้าเป็นการแกะเปลี่ยนแบตที่ศูนย์ อันนี้มองว่าโอเคอยู่

    การรับประกัน

    ปิดท้ายด้วยประเด็นเรื่องการรับประกัน ปกติแล้ว iPhone เครื่องใหม่ทุกเครื่องจะมาพร้อมประกันศูนย์ 1 ปี แต่ก็สามารถซื้อแพ็คเกจ AppleCare+ เพิ่มได้ สำหรับในไทยก็จะเป็นการขยายระยะเวลารับประกันให้เป็น 2 ปี มีเพิ่มการประกันอุบัติเหตุให้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (จ่ายค่าธรรมเนียมในการเคลมจอ/กระจกครั้งละ 1,000 บาท ความเสียหายอื่น ๆ 3,300 บาท) และที่สำคัญคือมีการรับประกันแบตเตอรี่ให้ ถ้าพบว่าแบตสามารถเก็บประจุได้ไม่ถึง 80% ของความจุเดิม หรือเกิดปัญหาที่มีสาเหตุจากแบตเตอรี่จริง ๆ

    ซึ่งในประเด็นเรื่องของแบตเตอรี่ก็จะสอดคล้องกันกับหัวข้อด้านสุขภาพแบตเตอรี่ในข้างต้น ที่ iPhone อายุ 1-2 ปีมักจะยังมีเปอร์เซ็นต์สุขภาพแบตไม่ควรจะลดต่ำกว่า 80% ทำให้ถ้าหากต้องการขายเป็น iPhone มือสอง เครื่องที่ยังเหลือประกัน AppleCare+ อยู่ ซึ่งมีอายุไม่ถึง 2 ปีก็จะเป็นข้อได้เปรียบในการขาย ทำให้สามารถตั้งราคาได้ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องกดลงไปต่ำกว่าราคาเฉลี่ย เพราะด้วยระยะเวลา AppleCare+ ที่ยังเหลือ หากผู้ซื้อต่อพบปัญหาเกี่ยวกับแบตหรือตัวเครื่อง ก็ยังสามารถนำเครื่องเข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบและเปลี่ยนอะไหล่ได้ฟรี ในกรณีที่ไม่ได้เป็นความเสียหายจากอุบัติเหตุ

    แต่สิ่งที่อาจจะทำให้การตัดสินใจซื้อ AppleCare+ ไว้เพื่อเผื่อการขายต่อเป็นไปได้ยากนิดนึงก็คือราคาแพ็คเกจ AppleCare+ ในไทยเองที่ตอนนี้มีแต่แบบจ่ายเงินก้อนครั้งเดียวตอนซื้อเลย โดยราคาก็จะเป็นไปตามด้านบนนี้ อย่างใน iPhone รุ่นปกติก็ 5,790 บาทแล้ว ซึ่งหลายท่านอาจจะมองว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับผู้ที่ใช้เครื่องแบบค่อนข้างถนอม ไม่เคยทำตกจนเกิดความเสียหายเลย เพราะประโยชน์ที่จะได้ตอนขายต่อนั้นอาจจะไม่คุ้มกันกับค่า AppleCare+ เท่าไรนัก

    ปิดท้ายนี้ จากหลาย ๆ ข้อก็ค่อนข้างจะเป็นไปในแนวทางเดียวกันว่า การเปลี่ยน iPhone ทุก 2-3 ปีดูจะเป็นจุดที่ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่าที่สุด ทั้งในแง่ของเงินที่ใช้ ค่าเสื่อมของเครื่องเก่า การขยับตามรอบเทคโนโลยี และสุขภาพแบตเตอรี่ที่ยังอยู่ในจุดสามารถขายเครื่องออกได้ไม่ยากนัก

    ส่วนถ้าหากต้องการเปลี่ยนแบบปีต่อปี จริง ๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับผู้ที่จะเน้นความง่ายในการปล่อยเครื่องเก่าออก ไม่ว่าจะผ่านการขายในตลาดมือสอง ขายผ่านหน้าร้านที่รับซื้อ รวมถึงการเทิร์นไปพร้อมกับการซื้อ iPhone ใหม่เลย เพราะจะยังได้ราคากลับคืนมาที่ค่อนข้างสูงอยู่ ขายง่าย สภาพเครื่องก็มักจะยังดีอยู่ เปอร์เซ็นต์ของปัญหาจากอายุการใช้งานก็ยังไม่มากนัก และได้ใช้ของใหม่ประจำปีไปตลอด เพียงแต่ก็จะเป็นการต้องลงเงินเพิ่มในส่วนนี้ทุก ๆ ปี ต้องย้ายข้อมูลทุกรอบที่ซื้อ แม้ว่าตัวระบบ iOS จะออกแบบมาให้การย้ายเครื่องทำได้ง่ายแล้วก็ตาม แต่หลาย แอปก็ยังบังคับว่าต้องเข้าไปล็อกอินใหม่ โดยเฉพาะแอปธนาคาร แอปสายการเงินหรือด้านระบบความปลอดภัยที่บางท่านอาจไม่สะดวกในการทำเรื่องนี้มากนัก

    สุดท้าย ก็ต้องแล้วแต่ความพอใจของแต่ละท่านครับ ว่าสะดวกกับการเปลี่ยน iPhone เปลี่ยนมือถือทุกกี่ปี เพราะบางท่านอาจจะไม่ได้มองเรื่องเงินเป็นหลักด้วยซ้ำ เอาว่าเครื่องปัจจุบันยังใช้ได้ ยังตอบโจทย์ดี และเข้ามือแล้วก็ใช้ต่อไป แบบนี้ก็ไม่ผิดเช่นกัน หรือถ้าคิดเห็นอย่างไร พิมพ์มาในช่องคอมเมนต์ได้เลย

    Apple iPhone iPhone 16
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ZeroSystem

    Related Posts

    รวมโทรศัพท์ Samsung ทุกรุ่นพร้อมราคาล่าสุดกลางปี 2025 ที่วางขายมีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง

    19 พฤษภาคม 2025

    Apple อาจไม่เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ จนกว่าจะถึง AirPods Pro 3 ในปี 2026

    19 พฤษภาคม 2025

    Apple อาจไม่เผยฟีเจอร์ใหม่ของ Siri ใน WWDC25 มากนัก และอาจเปิดให้ผู้ใช้ใน EU เปลี่ยนไปใช้ผู้ช่วยอื่นได้

    19 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    รวมโทรศัพท์ Samsung ทุกรุ่นพร้อมราคาล่าสุดกลางปี 2025 ที่วางขายมีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง

    19 พฤษภาคม 2025

    Apple อาจไม่เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ จนกว่าจะถึง AirPods Pro 3 ในปี 2026

    19 พฤษภาคม 2025

    Apple อาจไม่เผยฟีเจอร์ใหม่ของ Siri ใน WWDC25 มากนัก และอาจเปิดให้ผู้ใช้ใน EU เปลี่ยนไปใช้ผู้ช่วยอื่นได้

    19 พฤษภาคม 2025

    แนะนำมือถือ Samsung ใช้งานง่าย งบ 5,000 / 10,000 / 15,000 / 20,000

    19 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X