ปกติแล้วเวลาจะซื้อมือถือใหม่ เราก็มักจะขายเครื่องเก่าในตลาดมือสอง ขายให้คนรู้จัก หรือใช้การเทิร์นไปพร้อมกับการซื้อเครื่องใหม่ ซึ่งก็มักจะได้เงินกลับมาส่วนหนึ่งเพื่อใช้เป็นทุนในการซื้อเครื่องด้วย โดยเฉพาะกับ iPhone ที่ราคามือสองค่อนข้างสูง จนทำให้เกิดแนวทางการขายเครื่องเก่าซื้อเครื่องใหม่กันแบบปีต่อปี คล้ายกับเป็นการเช่าใช้เครื่องรายปี หรืออีกทางก็คือใช้ไปซัก 2-3 ปีแล้วค่อยเปลี่ยนรอบเดียว เพื่อให้ได้เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดมากขึ้น ในบทความนี้จะมาลองคำนวณกันครับ ว่าถ้าซื้อ iPhone เครื่องใหม่ทุกกี่ปีถึงจะได้ความคุ้มค่าในแง่ต่าง ๆ
ผู้เขียน: ZeroSystem
แม้ในงานเปิดตัว Samsung Galaxy S25 series จะมีการนำเครื่องต้นแบบของมือถือรุ่นบางเฉียบอย่าง Samsung Galaxy S25 Edge ที่จะเปิดตัวในปีนี้มาแสดงด้วย แต่ก็ไม่ได้มีการเปิดเครื่อง หรือเปิดให้สื่อได้ลองจับ ลองเล่นเครื่องที่ใช้งานได้จริงเลย ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับสเปคยังไม่แน่ชัด และความบางของเครื่องก็ยังไม่ชัดเจนว่าถ้าเทียบกับมือถือรุ่นอื่นแล้วจะเป็นอย่างไร
หลังจากเปิดตัวชิปโมเด็ม C1 ซึ่งเป็นชิปที่ Apple ผลิตเองเป็นครั้งแรกใน iPhone 16e ก็มีการคาดการณ์ถึงแผนลำดับต่อไปของ Apple ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งแนวทางที่หลายสื่อมองตรงกันก็คือ Apple น่าจะทยอยเปลี่ยนโมเด็ม 5G ในอุปกรณ์ต่าง ๆ จากที่ใช้ Qualcomm มาเป็นชิปของตนเองให้หมด รวมถึงอาจนำเข้าไปรวมกับชิปเซ็ตหลักอีกด้วย
ในการเปิดตัว iPhone 16e หนึ่งในสิ่งที่นับเป็นก้าวแรกของ Apple ก็คือการเปิดตัวชิปโมเด็ม 5G รุ่น C1 ซึ่งเป็นชิปของ Apple เองเป็นครั้งแรก และคาดว่าน่าจะมีการพัฒนาต่อเพื่อใช้ทดแทนชิปจาก Qualcomm ใน iPhone รุ่นอื่น ๆ ในอนาคตต่อ โดยชิปต่อไปที่คาดว่า Apple น่าจะต้องการผลิตเพื่อนำมาใช้เองก็คือชิป Wi-Fi ที่มีข่าวลือว่าจะถูกนำมาใช้ในครั้งแรกกับ iPhone 17
หนึ่งในฟังก์ชันที่เป็นไฮไลท์ของระบบ Apple Intelligence ที่โชว์ในงานเปิดตัว iPhone 16 ก็คือ Visual Intelligence ที่ให้ผู้ใช้สามารถกดปุ่มกล้อง (Camera Control) เพื่อให้ AI ช่วยประเมินภาพจากในกล้อง และแสดงข้อมูลของสิ่งที่ตรวจจับได้ ทำให้สามารถหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ใช้แปลภาษา สรุปข้อความ ไปจนถึงถาม ChatGPT ก็ยังได้ ซึ่งก็จะคล้ายๆ กับระบบ Google Lens ของฝั่ง Android แต่ที่ผ่านมาจะถูกจำกัดไว้ให้มีแค่ iPhone 16 ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะสามารถใช้งานได้ ในขณะที่ iPhone 15 Pro ที่ก็สามารถใช้งาน Apple Intelligence ได้เหมือนกัน กลับไม่สามารถใช้ได้
นอกจากจะมีเรื่องดีไซน์กล้องหลังที่อาจเปลี่ยนไปแล้ว ยังมีความเป็นไปได้ว่า iPhone 17 Pro อาจจะมาพร้อมกับอีกฟังก์ชันใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ของ Apple นั่นก็คือความสามารถในการชาร์จย้อนกลับแบบไร้สาย (wireless reverse charging) ที่อาจจะทำให้สามารถใช้ iPhone ในการชาร์จ AirPods, Apple Watch หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ผ่าน MagSafe ได้
แม้ว่าฐานราคาของสมาร์ตโฟน โดยเฉพาะ iPhone จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้มีความเห็นในเชิงที่มองว่าราคาแพงจนเกินไปมากแล้ว แต่รายงานล่าสุดจาก Counterpoint ดูจะเป็นทางตรงกันข้าม โดยเปิดเผยว่ากลุ่มของผู้ใช้ iPhone รุ่น Pro กลับนิยมเปลี่ยนเครื่องเก่าเพื่อไปซื้อเครื่องรุ่นใหม่เร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งค่าเฉลี่ยของระยะเวลาที่ผู้ใช้รุ่น Pro จะเปลี่ยนเครื่องนั้นอยู่ที่ประมาณทุก ๆ 2.75 ปี ส่วนในรุ่นปกติจะอยู่ที่ 3.15 ปี
หลังจากที่มีการปล่อยคลิปทีเซอร์และภาพเรียกน้ำย่อยออกมาก่อนหน้านี้ ล่าสุด Nothing ก็ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับกล้องของมือถือรุ่นราคาระดับกลาง ที่จะเปิดตัวในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมีทั้ง Nothing Phone (3a) รุ่นปกติและรุ่นสเปคสูงกว่าเล็กน้อยที่ใช้ชื่อว่า Nothing Phone (3a) Pro
ก่อนการเปิดตัว iPhone 17 ในช่วงปลายปีนี้ กระแสข่าวลือที่มาแรงที่สุดก็คือการปรับดีไซน์การวางกล้องหลังของเครื่อง จากที่กระจุกรวมกันอยู่ตรงมุมซ้ายบนของฝาหลัง เปลี่ยนมาเป็นวางในแนวนอนขนานไปกับด้านกว้างของเครื่อง โดยวางอยู่ในแถบ camera bar ซึ่งน่าจะออกมาเป็นดีไซน์คล้าย ๆ กับ Google Pixel ในยุคหลัง
ปีนี้ก็เป็นที่คาดหมายกันว่า Apple น่าจะเปิดตัว iPhone 17 Air ซึ่งจะมีจุดเด่นในด้านความบาง โดยอาจจะเข้ามาแทนที่รุ่น Plus ซึ่งได้รับความนิยมไม่สูงมากนัก แต่ด้วยความที่ 17 Air อาจจะเป็นรุ่นที่ยังไม่เคยมีมาก่อน จึงอาจจะนึกภาพตามยากนิดนึงว่าจะบางเบาขนาดไหน ล่าสุดก็มีการทำภาพเรนเดอร์จากคอนเซ็ปท์เครื่องและข้อมูลที่มีหลุดออกมาก่อนหน้านี้ให้ได้ชมกันบ้างแล้ว