Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Editorial»แนะนำ 3 กล่องดูบอล EPL / FA / UEFA และกีฬาอื่น ๆ ซื้อตอนนี้ ทันเปิดฤดูกาลแน่นอน
    Editorial

    แนะนำ 3 กล่องดูบอล EPL / FA / UEFA และกีฬาอื่น ๆ ซื้อตอนนี้ ทันเปิดฤดูกาลแน่นอน

    ZeroSystemBy ZeroSystem22 กรกฎาคม 2025
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email
    แนะนำ กล่องดูบอล EPL FA UEFA

    เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 เดือนก็จะถึงช่วงเปิดฤดูกาลของการแข่งขันฟุตบอลลีกในยุโรป โดยเฉพาะลีกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทยอย่างพรีเมียร์ลีกอังกฤษ​ ที่ในปีนี้เจ้าของลิขสิทธิ์มีการเปลี่ยนมือไปเป็นทาง JAS ที่จะให้บริการผ่าน Monomax โดยมี AIS เป็นพันธมิตรหลัก ประกอบกับราคาที่ออกมาน่าสนใจ ทำให้หลายคนมองหาวิธีในการดูบอลแบบมีลิขสิทธิ์กันอยู่ ในบทความนี้เราจะมาแนะนำกล่องดูบอล EPL รวมถึงทัวร์นาเมนต์ยอดนิยมอย่างเช่น FA Cup, UEFA Champions League, Europa League ไปจนถึงบอลลีกประเทศต่าง ๆ และกีฬารายการอื่น ๆ เผื่อใครที่กำลังมองหากล่องดูบอลประสิทธิภาพดี ใช้แอปลื่น ๆ ลงแอปได้สะดวก

    ความจำเป็นของกล่องดูบอล EPL และรายการกีฬาอื่น ๆ

    โดยมากแล้วการถ่ายทอดกีฬาต่าง ๆ ในปัจจุบันจะใช้การสตรีมมิ่งผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก และผู้ให้บริการแต่ละรายก็จะมีแอปพลิเคชันเป็นของตนเอง ทำให้ถ้าหากผู้ใช้งานต้องการรับชม เกือบทั้งหมดก็จำเป็นจะต้องติดตั้งแอปของผู้ให้บริการนั้น ๆ อย่างถ้าเป็นฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (EPL) อย่างถูกลิขสิทธิ์ในปีนี้ ก็จะมีการถ่ายทอดผ่านแอป Monomax และ AIS Play ซึ่งถ้าใช้งานสมาร์ตทีวีที่ใช้ระบบปฏิบัติการซึ่งสามารถติดตั้งแอปเพิ่มได้ เช่น Android TV, Google TV, WebOS และ Tizen ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบผ่าน store สำหรับโหลดแอปพลิเคชันในทีวีได้เลยว่ามีแอปอยู่หรือไม่ หากมี ในช่วงนี้ก็อาจจะดาวน์โหลดมาลองใช้ดูก่อนว่าความลื่นไหลเป็นอย่างไร สามารถดูสตรีมมิ่งได้ราบรื่นหรือไม่ เนื่องจากสเปคของทีวีอาจจะช้าไปบ้างสำหรับการใช้งานแอปเวอร์ชันใหม่ ๆ โดยเฉพาะกับทีวีรุ่นกลางลงมา และรุ่นที่มีอายุมาแล้วซัก 4-5 ปีขึ้นไป

    ซึ่งถ้าหากลองแล้วพบว่าแอปทำงานช้าไป ไม่สามารถใช้งานได้ หรือไม่มีแอปให้โหลด ไปจนถึงหากเป็นทีวีปกติที่ไม่ได้เป็นสมาร์ตทีวี วิธีที่ค่อนข้างชัวร์สุดสำหรับการดูบอล รวมถึงอาจใช้ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการซื้อทีวีใหม่ก็คือการซื้อกล่อง TV Box หรือที่หลายคนอาจจะเรียกติดปากว่า Android Box หรือกล่องดูบอล กล่องดูทีวีมาใช้งานร่วมกับทีวีที่มีอยู่ โดยใช้การเชื่อมต่อผ่านพอร์ต HDMI ของทีวี ซึ่งการใช้งานในลักษณะนี้จะอาศัยการประมวลผลของกล่องดูบอลล้วน ๆ แล้วจึงส่งภาพมาขึ้นบนทีวี

    ข้อดีของกล่องดูบอลในลักษณะนี้ก็คือโดยมากแล้วสเปคมักจะแรงกว่าทีวี สามารถลงแอปใหม่ ๆ และใช้งานได้รวดเร็วกว่า ลื่นกว่า หรือถ้าใช้ไปซักพักแล้วรู้สึกว่าเริ่มช้า ก็สามารถถอดกล่องเดิมเก็บเพื่อซื้อกล่องใหม่มาใช้แทนได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทีวี นอกจากนี้บางกล่องยังมีการเติมคุณสมบัติพิเศษเพิ่มเข้ามาอีก เช่น สามารถต่ออุปกรณ์ USB ได้ รองรับการถอดรหัสไฟล์มีเดียได้เยอะกว่า ลื่นไหลกว่า บางกล่องก็สามารถจับรวมเข้ากับระบบสมาร์ตโฮมได้ด้วย เพื่อให้สามารถควบคุมการทำงานอุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้านผ่านจอทีวีได้เลยก็มี

    สำหรับการเลือกและกล่องที่จะแนะนำในบทความนี้ แพลตฟอร์มที่แนะนำก็จะแบ่งเป็นสองฝั่งคือ tvOS ของ Apple และ Android โดยถ้าเป็นด้านของ Android จะแนะนำเป็นรุ่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV หรือ Google TV และผ่านการรับรองโดย Google เป็นหลัก เนื่องจากตัวระบบจะค่อนข้างปลอดภัยกว่า มีปัญหาการแอบสอดไส้มัลแวร์น้อยกว่ากล่องราคาถูกที่ใช้การนำ Android ปกติมาปรับแต่งให้ใช้เป็นกล่องดูทีวีตามที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ และนอกจากเรื่องความเสี่ยงที่น้อยกว่าแล้ว กล่องที่ผ่านการรับรองจาก Google ก็มักจะผ่านเกณฑ์ Widevine ระดับ L1 ด้วย ทำให้สามารถใช้งานด้านมัลติมีเดียได้เต็มที่ ดู Netflix ภาพชัด ๆ ได้ระดับ 4K แน่นอน

    1) Apple TV 4K ราคาเริ่ม 5,290.-

    เป็นกล่องดูบอล EPL ที่หลายคนให้ความเห็นว่าเป็นกล่องดูทีวีตัวจบที่สุด สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปในยุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้ ด้วยประสิทธิภาพเครื่องที่สูงจากชิป A15 Bionic ที่ใช้ใน iPhone 14, iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPad mini 6 ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานแอปต่าง ๆ บนทีวีได้สบาย มาพร้อมรีโมท Bluetooth ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri ได้ ในการวางขายจะมีด้วยกันสองรุ่นย่อย ได้แก่

    • รุ่นความจุ 64GB รองรับเฉพาะ Wi-Fi 6 ราคา 5,290.-
    • รุ่นความจุ 128GB รองรับทั้ง Wi-Fi 6, Gigabit LAN และเครือข่าย Thread สำหรับสมาร์ตโฮม ราคา 5,990.-

    ในด้านการใช้งาน ก็จะทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ tvOS ซึ่งสามารถอัปเดตเป็น tvOS 26 ได้ในช่วงปลายปีนี้ รองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันผ่าน App Store ที่ในตอนนี้มีอยู่แล้วทั้งแอป AIS Play และ Monomax ซึ่งในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้ ทาง Mono กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงระบบ และคาดว่าจะทันให้ผู้ใช้สามารถดูบอล EPL ช่วงเปิดฤดูกาล หรือหากต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันอื่น ๆ ก็มีให้เลือกมากมาย สายสตรีมมิ่งก็มีแอปยอดนิยมให้ใช้งานครบครัน

    ฟังก์ชันเสริมที่น่าสนใจก็เช่นการรองรับ Dolby Vision และ HDR10+ ที่ถ้าทีวีรองรับด้วย ก็จะยิ่งได้ประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่เต็มอิ่มขึ้นไปอีก รวมถึงถ้าใช้งาน iPhone หรืออุปกรณ์ของ Apple อยู่แล้ว ก็จะสามารถใช้งาน Apple TV ได้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก เช่น สามารถใช้ iPhone ควบคุมได้ ใช้เป็นคีย์บอร์ดได้ รองรับการใช้งาน AirPlay การเชื่อมต่อกับลำโพง HomePod การควบคุมระบบสมาร์ตโฮมผ่านทีวี เป็นต้น แต่แน่นอนว่าสิ่งที่จะขาดไปก็คือเรื่องความอิสระในการติดตั้งแอปพลิเคชัน เพราะจะต้องติดตั้งผ่านการดาวน์โหลดจาก App Store เท่านั้น ไม่รองรับการทำงานร่วมกับแฟลชไดรฟ์ กล่อง HD Player ได้โดยตรง (แต่อาจต้องทำผ่านการสตรีมมิ่งจากเครือข่ายภายในบ้านแทน)

    และอีกประเด็นที่น่าคิดคือข่าวลือว่าอาจจะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ที่ใช้ชิปแรงขึ้นในช่วงปลายปีนี้ด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงทีเดียว เนื่องจากรุ่นที่วางขายอยู่ในปัจจุบันก็ทำตลาดมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 ในปีนี้ก็จะเข้าสู่ปีที่สาม และตรงกับรอบการเปิดตัวรุ่นใหม่ของ Apple TV ที่ช่วงหลังมักมีออกมาในทุก 2-3 ปีพอดี แต่ถ้าไม่ติดอะไร การซื้อกล่อง Apple TV 4K รุ่นปัจจุบันมาใช้ดูบอลเป็นหลักก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีอยู่ และน่าจะใช้ไปได้แบบลื่น ๆ อีกหลายปีทีเดียว

    ข้อดี – เร็ว แรง ระบบลื่นไหล ยิ่งใช้งานกับ iPhone ก็ยิ่งติดปีก

    ข้อสังเกต – เป็นระบบปิด ลงแอปนอกสโตร์ไม่ได้ การเชื่อมต่อค่อนข้างจำกัด ราคาสูงไปนิดถ้าจะซื้อมาใช้ดูบอลอย่างเดียว และอาจจะมีรุ่นใหม่ออกมาช่วงปลายปีนี้

    2) Xiaomi TV Box S 3rd Gen ราคา 2,000 – 2,600.-

    ถ้าพูดถึงกล่องดูบอล กล่อง Android TV ยอดนิยม ชื่อของ Xiaomi TV Box S หรือก่อนหน้านี้จะใช้เป็น Mi Box S น่าจะเป็นที่คุ้นหูคุ้นตากันดี ด้วยราคาเริ่มต้นที่พันกลาง ๆ แต่ได้สเปคที่ค่อนข้างโอเค ระบบปฏิบัติการก็เป็น Android TV ที่ผ่านการรับรองจาก Google ทั้งยังมีชื่อแบรนด์เป็นที่รู้จัก ผลการรีวิวและการใช้งานจริงก็ทำได้ดี ไม่ค่อยมีอาการเครื่องร้อนจนค้างให้เห็นเหมือนกับกลุ่ม TV stick ที่มีขนาดเล็กกว่าแต่ราคาเกือบจะชนกันอยู่แล้ว ล่าสุดก็มีการเปิดตัวรุ่น Gen 3 ออกมาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และเริ่มวางขายในหลายประเทศแล้ว ส่วนในไทยยังไม่มีการนำเข้ามาขายอย่างเป็นทางการ ในตอนนี้จะมีแต่เพียงร้านที่หิ้วมาขายเท่านั้น โดยสามารถหาซื้อได้จากแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ในราคา 2,000 กว่าบาทขึ้นไป แล้วแต่ว่าสามารถใช้โค้ดส่วนลดได้ขนาดไหน (แต่รู้สึกว่าเหมือนราคาจะปรับสูงขึ้นกว่าก่อนหน้านี้นิดนึง)

    สเปคเครื่องเท่าที่มีเว็บไซต์ต่างประเทศรีวิวไว้ จะมาพร้อมชิปเซ็ต AMLogic S905X5M ที่มี 4 คอร์พร้อม GPU เป็น Mali-G310 V2 ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น 2 (2nd Gen) แรม 2GB พื้นที่เก็บข้อมูลในตัวแบบ eMMC 32GB สามารถแสดงภาพขึ้นจอได้ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi 6 ได้ทั้ง 2.4 และ 5GHz หรือถ้าต้องการต่อสายแลนก็สามารถหาซื้อตัวแปลงจากสายแลน RJ-45 มาเป็น USB เพื่อเสียบกับพอร์ต USB 2.0 ที่ตัวกล่องก็ได้ ส่วนช่อง output ภาพก็จะมีเพียงพอร์ต HDMI 2.1 เพียงช่องเดียวตามปกติ ระบบปฏิบัติการจะเป็น Android TV 14 ที่มาพร้อม Google TV รองรับการแคสต์ผ่าน Google Cast ในตัว รีโมทที่ให้มาก็จะเป็นแบบมาตรฐาน มีปุ่มกดเพื่อสั่งงานผ่านเสียง มีปุ่ม Netflix, YouTube และ Prime Video มาให้ เทคโนโลยีด้านภาพและเสียงก็จะรองรับทั้ง Dolby Vision, HDR10+ รวมถึง Dolby Audio และ DTS:X เสียง 5.1 สามารถถอดรหัส codec ไฟล์วิดีโอได้ทั้ง h.264, h.265, VP9 และ AV1 เรียกว่าให้มาค่อนข้างครบสำหรับการเป็นกล่อง Android ในยุคนี้เลย

    การติดตั้งแอปพลิเคชันก็ทำได้ง่าย เนื่องจากแกนหลักของระบบก็คือ Android ทำให้มีแอปให้เลือกใช้งานค่อนข้างหลากหลาย แอปสตรีมมิ่งมีให้เลือกครบครัน ดูบอลผ่านแอป AIS Play และ Monomax ได้แน่นอน แอปอื่น ๆ ก็สามารถติดตั้งแอปผ่าน Play Store ได้ทันที จึงทำให้เหมาะกับการใช้เป็นกล่องดูบอล EPL และกีฬาต่าง ๆ ผ่านสตรีมมิ่ง รวมถึงยังรองรับการติดตั้งแอปจากไฟล์ APK ด้วย ส่วนการที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด ก็น่าจะทำให้ได้รับการอัปเดตความสามารถและแพตช์ความปลอดภัยไปได้อีกซักระยะหนึ่งเลย ส่วนถ้าใช้มือถือ Android ก็จะสามารถควบคุมการเล่นมีเดียผ่านมือถือได้ด้วย

    ส่วนถ้ามองว่าราคาของรุ่น 3rd Gen ยังแรงไปนิดนึง จะหาซื้อรุ่นก่อนหน้าอย่าง 2nd Gen มาใช้งานก่อนก็ได้เช่นกัน แต่จะมาพร้อมความจุเพียง 8GB เท่านั้น กับชิปที่ประสิทธิภาพลดหย่อนลงมาเล็กน้อย ซึ่งเพียงพอสำหรับการดูบอลได้แบบสบาย ๆ

    ข้อดี – เร็ว ใช้งานทั่วไปได้ดี สมกับเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ฟีเจอร์พื้นฐานครบครันในราคาไม่แรงเกินไป

    ข้อสังเกต – ยังไม่มีนำเข้ามาขายอย่างเป็นทางการ และพอร์ต USB เป็นแบบ Type-A เพียงอย่างเดียว อาจลำบากถ้าต้องการใช้ทั้งสายแลน และต่อกับอุปกรณ์อื่นพร้อมกัน เช่น External HDD

    3) Homatics Box R 4K Plus ราคา 4,500 – 5,000.-

    ปิดท้ายด้วยกล่อง Android TV อีกรุ่นที่จะตอบโจทย์สายสตรีมมิ่ง สาย HD Player ที่ต้องการกล่องแบบออลอินวันในราคาไม่สูงมากนักเมื่อมองจากสเปคที่ได้ โดยจะมาพร้อมชิป AMLogic S905X4-K แรม 4 GB รอม eMMC 32GB สามารถแสดงภาพได้สูงสุดระดับ 4K60fps ผ่านพอร์ต HDMI 2.1 มากับระบบปฏิบัติการ Android TV 11 ที่ก็ยังไม่เก่าจนเกินไป มาพร้อม Google TV รองรับ Widevine ระดับ L1 รวมถึงยังสามารถใช้งาน Dolby Vision, HDR10+, Dolby Atmos และ DTS Surround สามารถตั้งค่าเสียงแบบ passthrough ไปยังอุปกรณ์อื่นได้ รวมถึง codec แบบครบ ๆ ส่วนการเชื่อมต่อก็จะรองรับ Bluetooth 5.0, Wi-Fi 6 ทั้ง 2.4 และ 5GHz นอกจากนี้ยังมีพอร์ต Gigabit LAN มาให้ด้วย ส่วนถ้าต้องการต่ออุปกรณ์เสริมอื่น ก็จะมีพอร์ต USB ทั้ง

    • USB-A 2.0
    • USB-A 3.0
    • USB-C

    จุดเด่นก็คือเรื่องของความครบครันของการเชื่อมต่อ การติดตั้งแอปพลิเคชันก็ทำได้เต็มที่ตามแบบฉบับของกล่อง Android TV คล้ายกับใน Xiaomi TV Box S ส่วนรีโมทก็จะให้ปุ่มมาแบบจัดเต็ม ทั้งปุ่มควบคุมการเล่นมีเดีย ปุ่มเปิดแอปต่าง ๆ รวมถึงยังมีปุ่มเลื่อนเปลี่ยนช่องทีวี ปุ่มเปลี่ยน source ของทีวี และยังสามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant ได้ตามมาตรฐานของกล่อง Android TV

    สำหรับในไทยสามารถหาซื้อได้ผ่านตัวแทนจำหน่ายที่มีบนแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ แต่ถ้าใครเป็นสายกล่อง HD Player ที่ต้องการระบบจัดการไลบรารี่ ระบบแอปดูหนังในกล่องที่มีความสามารถสูงขึ้นกว่าแอปทั่วไปก็จะมีกล่องเวอร์ชันที่ติดตั้ง DUNE HD มาให้เลือกซื้อด้วย ซึ่งจะสามารถส่งข้อมูลเสียงแบบ passthrough ไปยัง AVR หรืออุปกรณ์ปลายทางอื่น ๆ ได้ตามต้องการ แต่จะได้เป็น DTS 5.1 เท่านั้น รวม ๆ แล้วตัว DUNE HD จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการหากล่องเล่นหนัง แล้วได้ความสามารถในการดูสตรีมมิ่งพ่วงมาด้วย ส่วนราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 6,000 กลาง ๆ สามารถหาซื้อได้ผ่านแอปช้อปปิ้งออนไลน์

    ข้อดี – แรมเยอะ ใช้งานได้แบบลื่น ๆ พอร์ต USB เยอะ มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่นำเข้ามาแล้วหลายปี

    ข้อสังเกต – ราคาอาจสูงไปนิดนึงสำหรับการซื้อมาใช้เป็นกล่องดูบอล EPL ดูหนังผ่านสตรีมมิ่งทั่วไป

    สรุป การเลือกกล่องดูบอล EPL ดูกีฬาต่าง ๆ ในปี 2025

    โดยหลักแล้ว การเลือกกล่องดูบอล EPL หากแยกตามสายของระบบปฏิบัติการ ฝั่ง Apple ก็จะมีเพียง Apple TV 4K เท่านั้น สามารถเลือกได้เลยว่าต้องการความจุเท่าไหร่ ต่อสายแลนได้หรือไม่ เนื่องจากสเปคหลักของเครื่องจะเหมือนกันเกือบทั้งหมด แต่จะมีข้อสังเกตที่น่าคิดคืออาจมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ในช่วงปลายปีนี้ที่หลัก ๆ คงเป็นการอัปเกรดชิปให้มีสเปคสูงขึ้น และอาจรองรับ Wi-Fi 7 ด้วย เพื่อให้สเปครองรับการใช้งานไปอีก 2-3 ปีตามรอบการอัปเดตผลิตภัณฑ์

    สำหรับสายกล่อง Android หลัก ๆ แล้วก็ให้เลือกรุ่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV หรือมีเขียนไว้ว่ารองรับ Google TV ซึ่งจะทำให้ได้หน้าตาของระบบที่เหมาะกับการใช้งานบนทีวี รองรับการติดตั้งแอปที่ออกแบบมาเพื่อจอทีวี โหลดแอปดูสตรีมมิ่งได้หลากหลาย ส่วนด้านของฮาร์ดแวร์ก็แนะนำว่าควรเลือกรุ่นที่มีแรม 2GB ขึ้นไป เพื่อการใช้งานในระยะยาวที่ลื่นไหลกว่า การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทุกรุ่นจะสามารถใช้งาน Wi-Fi ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการต่อสายแลนก็อาจจะต้องเลือกรุ่นกันนิดนึง หรือถ้าไม่มีจริง ๆ ก็เลือกรุ่นที่มีพอร์ต USB แล้วหาซื้อสายแปลง LAN to USB มาใช้แทน สำหรับราคาก็จะเริ่มตั้งแต่พันต้น ๆ ขึ้นไป ก็น่าจะสามารถใช้เป็นกล่องดูบอล EPL และกีฬาอื่น ๆ แบบถูกลิขสิทธิ์ได้อย่างราบรื่นแล้ว

    Apple TV Mecool tv box Xiaomi Xiaomi Mi Box S Gen 3 กล่องดูทีวี
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ZeroSystem

    Related Posts

    สรุปสเปค iPhone 17 Air รุ่นบางที่สุดของ iPhone ทั้งหมดเท่าที่รู้ตอนนี้ มีอะไรใหม่บ้าง

    19 กรกฎาคม 2025

    แนะนำ 10 หนังผีไทย Netflix ในปี 2025 หนังสยองขวัญไทย มีเรื่องไหนน่าดูบ้างช่วงนี้

    18 กรกฎาคม 2025

    แนะนำ 10 มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาทกลางปี 2025 รุ่นไหนดีที่ได้ฟีเจอร์ครบ ใช้งานทั่วไปได้ดีในราคาประหยัด

    17 กรกฎาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    HUAWEI Mate 80 Series ยกระดับกล้องใหม่ด้วยเซ็นเซอร์ SmartSens ความละเอียด 50MP

    22 กรกฎาคม 2025

    เผยสเปค Redmi Note 15 Pro+ ล่าสุด มีหน้าจอ 1.5K กล้อง 50MP และแบตความจุเกิน 7000mAh

    22 กรกฎาคม 2025

    แนะนำ 3 กล่องดูบอล EPL / FA / UEFA และกีฬาอื่น ๆ ซื้อตอนนี้ ทันเปิดฤดูกาลแน่นอน

    22 กรกฎาคม 2025

    Xiaomi 16 Series อาจมาพร้อมกล้องหน้า 50MP และสเปคที่ตอบโจทย์รอบด้าน

    22 กรกฎาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X