ในที่สุด ASUS ก็เปิดตัว ASUS Zenfone 3 มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดของ ASUS ในปี 2016 เป็นที่เรียบร้อย ในงาน Computex 2016 โดยมือถือในตระกูล ASUS Zenfone 3 จะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นหลัก ๆ ได้แก่
- ASUS Zenfone 3 – รุ่นปกติ เน้นคุ้มค่า ราคาไม่แพง ฟีเจอร์หลักมีเหมือนกับ Zenfone 3 รุ่นอื่น เน้นทำตลาดรุ่นนี้เป็นหลัก ราคาประมาณ 8,990 บาท
- ASUS Zenfone 3 Deluxe – เน้นสเปคแรงโคตร ๆ อัด Ram 6 GB ชิป Snapdragon 820 ท็อปสุด จัดเต็มสุด หรูหราที่สุด!! ราคาประมาณ 17,800 บาท
- ASUS Zenfone 3 Ultra – เน้นจอใหญ่ ขนาดระดับใกล้เคียงกับแท็บเล็ต สเปคกำลังดี ราคาประมาณ 17,000 บาท
แน่นอนว่ารุ่นที่ฮือฮาที่สุดของ ASUS Zenfone 3 ก็คงจะหนีไม่พ้นรุ่นโคตรท็อปของท็อปอีกทีอย่าง ASUS Zenfone 3 Deluxe เพราะพี่แกมาเต็มเหลือเกิน สเปคแรงในระดับที่หาตัวชนได้ยากมาก ด้วยจุดเด่นเรื่อง Ram 6 GB แถมยังใส่ชิปที่แรงที่สุดเท่าที่ Qualcomm มี ณ ตอนนี้อย่าง Snapdragon 820 เพราะฉะนั้นเราไปทำความรู้จักกับพี่ใหญ่สุด ASUS Zenfone 3 Deluxe กันก่อนเลย
ASUS Zenfone 3 Deluxe
รุ่นท็อปสุดของซีรี่ส์ ASUS Zenfone 3 ด้วยจุดเด่นเรื่องสเปคที่อัดมาให้แบบบ้าระห่ำตามที่เราได้เกริ่นไปข้างต้นแล้ว ยังมาพร้อมกับความหรูหราสมกับชื่อ ASUS Zenfone 3 Deluxe อีกต่างหาก
สเปค ASUS Zenfone 3 Deluxe
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD เทคโนโลยี ASUS Tru2Life
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 820
- Ram 6 GB
- ความจุ 128 GB
- กล้องหลังความละเอียด 23 ล้านพิกเซล PixelMaster 3.0, OIS
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- รองรับ 4G LTE และรองรับ 2 ซิม
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- พอร์ทเชื่อมต่อ USB Type-C
- แบตเตอรี่ 3000 mAh
- รองรับ Qualcomm Quick Charge 3.0
- สเปคเต็ม ๆ ASUS Zenfone 3 Deluxe
- ASUS Zenfone 3 Delxue ราคาประมาณ 18,000 บาท ($499)
วัสดุตัวเครื่องที่ทำมาจากอลูมิเนียมอัลลอยแบบซ่อนเสาอากาศ (ตั้งใจบอกใครหรือเปล่า?) กระจกหน้าจอแบบ Gorilla Glass 4 และดีไซน์สุดเฉียบ กับความบางของขอบจอเพียง 1.3 มิลลิเมตรเท่านั้น เชื่อเลยว่าเห็นตัวจริง ASUS Zenfone 3 Deluxe แล้วจะหลงรักเอาง่าย ๆ เลยล่ะ
ASUS Zenfone 3
สำหรับ ASUS Zenfone 3 เฉย ๆ จะเป็นรุ่นที่ ASUS ตั้งใจให้เป็นตัวหลักในซีรี่ส์ ASUS Zenfone 3 มากที่สุด ด้วยจุดเด่นเหมือนมือถือ Zenfone รุ่นก่อน ๆ คือเน้นที่ความคุ้มค่าเป็นหลัก
เอาง่าย ๆ คือตัวเริ่มต้นของซีรี่ส์ ASUS Zenfone 3 ก็มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 625 (ชื่อเดิมคือ Snapdragon 617) และแรมมาตรฐานที่ 4 GB
สเปค ASUS Zenfone 3
- หน้าจอ Super IPS+ ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ความสว่างสูงสุดที่ 500nits
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 ความเร็ว 2.0 GHz
- Ram 4 GB
- ความจุ 64 GB
- กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล PixelMaster 3.0, OIS
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- รองรับ 4G LTE และรองรับ 2 ซิม
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือทางด้านหลังตัวเครื่อง
- สเปคเต็ม ๆ ASUS Zenfone 3
- ASUS Zenfone 3 ราคาประมาณ 8,990 บาท ($249)
นอกจากสเปคจะจัดว่าแจ่มแล้ว สิ่งที่ ASUS Zenfone 3 มีพัฒนาการไปจากตอน ASUS Zenfone 2 ก็คือในเรื่องของการดีไซน์ ทั้งตัววัสดุเองที่เปลี่ยนมาใช้เฟรมโลหะ ติดกระจกหน้า – หลัง เป็นกระจกนิรภัย Gorilla Glass 3 แบบโค้ง 2.5D เรียกว่าทุกอย่างที่เราเคยเห็นในมือถือราคาแพง ๆ ยี่ห้ออื่น ก็จะมาอยู่ใน ASUS Zenfone 3 แทบทุกอย่าง
ASUS Zenfone 3 จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Shimmer Gold, Aqua Blue, Sapphire Black และ Moonlight White
ASUS Zenfone 3 Ultra
รุ่นสุดท้ายที่เปิดตัวในซีรี่ส์ ASUS Zenfone 3 ก็คือพี่ใหญ่ (ตัวใหญ่) อย่าง ASUS Zenfone 3 Ultra ที่มีจุดเด่นเรื่องหน้าจอขนาดใหญ่ ใกล้เคียงกับ Tablet หรือที่เราเรียกกันว่า Phablet นี่แหละครับ ส่วนสเปคก็ให้มาแรงพอ ๆ กับ Xiaomi Mi Max เรียกว่าชนกันตรง ๆ เลยดีกว่า
วัสดุตัวเครื่องของ ASUS Zenfone 3 Ultra จะใช้วัสดุคล้ายกับ ASUS Zenfone 3 Deluxe คือใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมอัลลอย และมีการซ่อนเสาอากาศ ผลที่ได้ก็คือจะได้ตัวเครื่องใช้บอดี้โลหะทั้งตัว สีเดียวกันทั้งหมด ไม่มีเส้น ไม่มีขอบมารบกวนสายตา ส่วนเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่บริเวณปุ่มโฮมครับ
สเปค ASUS Zenfone 3 Ultra
- หน้าจอ IPS ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD Gorilla Glass 4
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 652
- Ram 4 GB
- ความจุ 128 GB
- กล้องหลังความละเอียด 23 ล้านพิกเซล PixelMaster 3.0, OIS
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- รองรับ 4G LTE และรองรับ 2 ซิม
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือตรงปุ่มโฮม
- แบตเตอรี่ 4600 mAh
- รองรับ Qualcomm Quick Charge 3.0
- สเปคเต็ม ๆ ASUS Zenfone 3 Ultra
- ASUS Zenfone 3 Ultra ราคาประมาณ 17,100 บาท ($479)
นอกจากสเปคจะดีแล้ว ฟีเจอร์เด่น ๆ ของ ASUS Zenfone 3 Ultra ก็ยังเน้นไปที่ความบันเทิงเป็นหลัก ทั้งการเล่นเกมและการดูหนังฟังเพลง โดย ASUS Zenfone 3 Ultra เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมกับระบบเสียง DTS Headphone 7.1 Surround Sound และลำโพงคู่ที่รองรับระบบเสียง Hi-Res
เห็นแบตเตอรี่ของ ASUS Zenfone 3 Ultra ให้มาเยอะ ๆ เนี่ย ไม่ได้ให้มาแค่ใช้คนเดียว แต่ยังสามารถเป็น Powerbank ให้กับมือถือรุ่นอื่น (ผ่านสาย OTG) ได้ด้วย และที่สำคัญคือมันสามารถปล่อยไฟได้แรงกว่าเดิมถึง 3 เท่า
ASUS Zenfone 3 Ultra มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ Titanium Grey, Glacier Silver และ Rose Pink
กำหนดการวางจำหน่าย ASUS Zenfone 3 ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ ASUS Zenfone 3, ASUS Zenfone 3 Deluxe และ ASUS Zenfone 3 Ultra ในประเทศไทย ตามข้อมูลที่แอดมินได้รับมาคือ ASUS Zenfone 3 เปิดตัวในไทยช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2016 (ประมาณเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2016)
ส่วนบทความรีวิว ASUS Zenfone 3, ASUS Zenfone 3 Ultra และรีวิว ASUS Zenfone 3 Deluxe เพื่อน ๆ สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ SpecPhone.com ได้เลยครับ แอดมินได้เครื่องรีวิว ASUS Zenfone 3 มาเมื่อไหร่จะรีบทำรีวิวให้อ่านกันอย่างจุใจแน่นอน