Apple เตรียมสร้างเซอร์ไพรส์ให้ตลาดโน้ตบุ๊กอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว MacBook รุ่นใหม่ที่มีราคาถูกกว่ารุ่นเริ่มต้นอย่าง MacBook Air โดยนักวิเคราะห์ชื่อดัง Ming-Chi Kuo เผยว่า Apple จะเริ่มเดินสายการผลิต MacBook รุ่นนี้ในช่วงปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026 และจุดเด่นสำคัญคือจะใช้ชิป A18 Pro ซึ่งเป็นชิปเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 16 Pro เป็นครั้งแรก แทนที่จะเป็นชิปตระกูล M-series แบบเดิมที่ Apple ใช้ใน Mac รุ่นก่อนๆ ซึ่งชิป M-series มีจุดเด่นเรื่องจำนวนคอร์ที่มากกว่า รองรับแรมและการแสดงผลภายนอกได้ดีกว่า แต่รุ่นประหยัดนี้ก็อาจช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นก็ได้
MacBook ราคาประหยัดที่มาพร้อมชิป iPhone A18 Pro

MacBook ราคาประหยัดรุ่นใหม่นี้จะมีสีให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ สีเงิน สีฟ้า สีชมพู และสีเหลือง เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการความสดใส ชอบสีสันใหม่ๆ และความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ คาดว่า Apple จะเริ่มผลิตในปริมาณมากช่วงปลายไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 หรือต้นปี 2026 โดย Apple ตั้งเป้าผลิตสูงถึง 5-7 ล้านเครื่อง และคาดว่ารุ่นนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขาย MacBook และคาดว่าจะมีสัดส่วนยอดขายถึง 20–28% ในปีหน้า
นอกจากนี้ บริษัทเทคโนโลยีจากจีนอย่าง Everwin Precision จะได้รับประโยชน์จากการเปิดตัว MacBook รุ่นประหยัดนี้ด้วย เนื่องจากจะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนของตัวเครื่องที่สำคัญให้กับ Apple สำหรับรุ่นราคาประหยัดรุ่นนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ Apple จะขยายตลาด MacBook ให้เข้าถึงผู้ใช้กลุ่มใหม่ ที่ต้องการเครื่องราคาย่อมเยาแต่ยังคงประสิทธิภาพและดีไซน์ที่น่าสนใจ

ซึ่งตัวชิป A18 Pro นั้นก็ไม่ได้ถือว่าแย่ เพราะทำคะแนน Geekbench แบบ single-core ได้ประมาณ 3,500 คะแนน ซึ่งตามหลังชิป M4 ใน Mac mini อยู่เล็กน้อย ส่วนคะแนน multi-core อยู่ที่ประมาณ 8,780 คะแนน ใกล้เคียงกับชิป M1 รุ่นแรกที่ยังคงใช้งานได้ดีในปัจจุบัน สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่เน้นงานพื้นฐานหรือใช้งานจากตัว single-core เป็นหลัก อาจไม่เห็นถึงความแตกต่างมากนัก แต่ถ้าเล่นหนักๆ อันนี้ก็ต่างแน่นอน เพราะชิป M-Series ย่อมดีกว่าในหลายๆ ด้าน

การเปิดตัว MacBook รุ่นราคาประหยัดที่ใช้ชิป A18 Pro นี้ จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้ที่อยากได้ MacBook ที่มีประสิทธิภาพดีในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น และยังเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีระหว่างอุปกรณ์ iPhone และ Mac อย่างลงตัว ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตลาดโน้ตบุ๊กของ Apple ที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในปี 2025-2026 นี้เลย