MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว พร้อมชิป M3 มีราคาเริ่มต้นที่ 59,900 บาท ส่วนรุ่น 14 และ 16 นิ้ว พร้อมชิป M3 Pro และ M3 Max มีสีดำสเปซแบล็คใหม่ที่สวยงามให้เลือกด้วย
คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ MacBook Pro ใหม่ที่มาพร้อมชิปตระกูล M3 แบบใหม่หมด นั่นคือ M3, M3 Pro และ M3 Max ซึ่งโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม GPU เจเนอเรชั่นถัดไปและ CPU ที่เร็วขึ้น จึงทำให้ชิปตระกูล M3 มีประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้นและนำความสามารถใหม่ๆ มาสู่ MacBook Pro MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว ใหม่ พร้อมชิป M3 นั้นไม่เพียงแค่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่ยังคงประสิทธิภาพที่เหนือชั้นได้ต่อเนื่องขณะใช้งานแอปและเล่นเกมระดับโปร จึงเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับครีเอทีฟไฟแรง นักเรียนนักศึกษา และเจ้าของธุรกิจด้วยราคาเริ่มต้น 59,900 บาท MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว พร้อมชิป M3 Pro มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและรองรับหน่วยความจำแบบรวมเพิ่มมากขึ้น จึงสามารถรับมือกับเวิร์กโฟลว์ที่หนักขึ้นสำหรับผู้ใช้ในกลุ่มนักเขียนโค้ด ครีเอทีฟ และนักวิจัย ในขณะที่ MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว พร้อมชิป M3 Max นั้นมีประสิทธิภาพและความสามารถที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของการประมวลผล ด้วย GPU ขนาดมหึมาและ CPU ที่ทรงพลัง รวมถึงการรองรับหน่วยความจำแบบรวมสูงสุดถึง 128GB ทำให้ MacBook Pro พร้อมชิป M3 Max สามารถจัดการกับเวิร์กโฟลว์ระดับสุดขั้วและทำงานแบบมัลติทาสก์สลับไปมาระหว่างแอประดับโปรสำหรับผู้ใช้ในกลุ่มอย่างโปรแกรมเมอร์ด้านการเรียนรู้ของระบบ ศิลปิน 3D และนักตัดต่อวิดีโอ ยิ่งกว่านั้นรุ่นที่ใช้ชิป M3 Pro และ M3 Max ยังมาในตัวเครื่องอะลูมิเนียมสีเข้มที่โดดเด่นสวยงามอย่างสีดำสเปซแบล็คด้วย
MacBook Pro ทุกรุ่นมาพร้อมจอภาพ Liquid Retina XDR อันสวยสดที่แสดงคอนเทนต์ SDR ได้สว่างขึ้น 20%, กล้อง 1080p, ระบบเสียง 6 ลำโพงที่เต็มอิ่มสมจริง รวมถึงตัวเลือกในการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 22 ชั่วโมงด้วยแล้ว1 กลุ่มผลิตภัณฑ์นี้จึงเป็นที่สุดในด้านความสะดวกในการพกพาสำหรับมือโปร และมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมไม่ว่าจะเสียบปลั๊กหรือใช้แบตเตอรี่เพื่อให้ผู้ใช้พกพาเวิร์กโฟลว์ไปทำได้ทุกที่ ลูกค้าสามารถตรวจสอบวันวางจำหน่ายสินค้าได้ภายหลัง
“ไม่มีอะไรเหมือนกับ MacBook Pro ด้วยประสิทธิภาพที่ประหยัดพลังงานอย่างโดดเด่นของ Apple silicon, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 22 ชั่วโมง, จอภาพ Liquid Retina XDR ที่สวยสด และการเชื่อมต่อที่ล้ำสมัย MacBook Pro จึงสามารถเสริมศักยภาพให้ผู้ใช้ได้สร้างผลงานที่ดีที่สุด” John Ternus รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ของ Apple กล่าว “มาครั้งนี้เรายกระดับมาตรฐานอีกครั้งให้กับสิ่งที่แล็ปท็อประดับโปรทำได้ด้วยชิป M3 เจเนอเรชั่นถัดไป และเราตื่นเต้นจริงๆ ที่จะได้นำ MacBook Pro พร้อมด้วยความสามารถที่ดีที่สุดมาอยู่ในมือของผู้ใช้หลากหลายกลุ่มยิ่งกว่าที่เคย และสำหรับผู้ที่อัปเกรดมาจาก MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ด้วยแล้ว บอกเลยว่าเป็นการพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานในทุกๆ ด้าน”
ถึงเวลาของชิปตระกูล M3
ชิปตระกูล M3 เป็นการต่อยอดนวัตกรรมที่ก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็วของ Apple silicon โดยชิป M3, M3 Pro และ M3 Max เป็นชิปตระกูลแรกสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม ทั้งยังมาพร้อม GPU เจเนอเรชั่นถัดไปที่เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในด้านสถาปัตยกรรมกราฟิกสำหรับ Apple silicon นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีระดับพลิกวงการอย่าง Dynamic Caching ซึ่ง GPU จะจัดสรรการใช้หน่วยความจำในฮาร์ดแวร์ของเครื่องแบบเรียลไทม์ เพื่อให้มีการใช้หน่วยความจำเฉพาะที่จำเป็นสำหรับแต่ละงานอย่างแม่นยำ ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มระดับการใช้งานและประสิทธิภาพของ GPU ได้อีกมากสำหรับแอปและเกมระดับโปรที่ประมวลผลหนักๆ
GPU ยังนำคุณสมบัติใหม่ในการเรนเดอร์มาสู่ Apple silicon ด้วย อย่างการให้แสงเงาแบบเมชที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพในการประมวลผลรูปทรงเรขาคณิตในฉากที่ละเอียดซับซ้อนมากขึ้น และยังเป็นครั้งแรกของ Mac กับเรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งทำให้เกมสามารถเรนเดอร์เงาและภาพสะท้อนได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งกว่าเดิมเพื่อใช้ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่สมจริงยิ่งขึ้น
MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว พร้อมชิป M3
MacBook Pro พร้อมชิป M3 คือแล็ปท็อปที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่อยากทำในสิ่งที่ตนเองรัก ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนนักศึกษาหรือเจ้าของธุรกิจ จนถึงนักดนตรีและนักตัดต่อวิดีโอไฟแรง นั่นเป็นเพราะ MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว พร้อมชิป M3 เร็วกว่า MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1 สูงสุด 60% และยิ่งมีระบบระบายความร้อนที่ล้ำสมัยด้วยแล้ว ชิป M3 จึงโลดแล่นเต็มศักยภาพได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด2 และด้วยราคาเริ่มต้น 59,900 บาท ลูกค้าจึงได้ทั้งประสิทธิภาพและความสามารถที่เหนือกว่าในราคาที่คุ้มค่า
MacBook Pro พร้อมชิป M3 มีประสิทธิภาพดังนี้
- ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ใน Final Cut Pro เร็วขึ้นสูงสุด 7.4 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ที่ใช้ Core i73 และเร็วขึ้นสูงสุด 60% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M12
- ประสิทธิภาพการคอมไพล์โค้ดใน Xcode เร็วขึ้นสูงสุด 3.7 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อม Core i73 และเร็วขึ้นสูงสุด 40% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M12
- ประสิทธิภาพด้านสเปรดชีตใน Microsoft Excel เร็วขึ้นสูงสุด 3.5 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อม Core i73 และเร็วขึ้นสูงสุด 40% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M12
MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว พร้อมชิป M3 Pro
สำหรับผู้ที่ต้องทำงานกับเวิร์กโฟลว์หนักๆ อย่างนักเขียนโค้ด ครีเอทีฟ และนักวิจัยนั้น MacBook Pro พร้อมชิป M3 Pro ก็มีประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้น รองรับหน่วยความจำแบบรวมมากขึ้น และวันนี้ยังเร็วขึ้นสูงสุด 40% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Pro 4
MacBook Pro พร้อมชิป M3 Pro มีประสิทธิภาพดังนี้
- ประสิทธิภาพของฟิลเตอร์และฟังก์ชั่นต่างๆ ใน Adobe Photoshop เร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด5 และเร็วขึ้นสูงสุด 40% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Pro4
- การแปลงข้อมูลลำดับเบสเพื่อหาลำดับ DNA ใน Oxford Nanopore MinKNOW เร็วขึ้นสูงสุด 20 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด5 และเร็วขึ้นสูงสุด 36% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Pro4
- ประสิทธิภาพการตัดต่อแบบอิงข้อความใน Adobe Premiere Pro เร็วขึ้นสูงสุด 1.7 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด5 และเร็วขึ้นสูงสุด 30% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Pro4
MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว พร้อมชิป M3 Max
MacBook Pro พร้อมชิป M3 Max มาพร้อมประสิทธิภาพและความสามารถสำหรับผู้ที่ต้องทำงานกับเวิร์กโฟลว์ระดับสุดขั้ว ตั้งแต่โปรแกรมเมอร์ด้านการเรียนรู้ของระบบ จนถึงศิลปิน 3D และนักตัดต่อวิดีโอ ด้วยการทำงานที่เร็วขึ้นสูงสุด 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Max6 และเร็วขึ้นสูงสุด 11 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่นที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด5 อีกทั้งยังรองรับหน่วยความจำแบบรวมสูงสุด 128GB ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถทำงานกับโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน ซึ่งต้องใช้แอปและปลั๊กอินระดับโปรหลายตัว หรือแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ต้องดึงเครื่องดนตรีออเคสตราทั้งคลังจากหน่วยความจำมาใช้ได้ทันที
MacBook Pro พร้อมชิป M3 Max มีประสิทธิภาพดังนี้
- การจำลองระบบพลวัตใน MathWorks MATLAB เร็วขึ้นสูงสุด 5.5 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด5 และเร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Max6
- ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ใน Maxon Redshift เร็วขึ้นสูงสุด 5.3 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด5 และเร็วขึ้นสูงสุด 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Max6
- การลดนอยซ์ใน Blackmagic DaVinci Resolve Studio เร็วขึ้นสูงสุด 2.7 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด5 และเร็วขึ้นสูงสุด 65% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Max6
วันนี้มาในสีดำสเปซแบล็ค
MacBook Pro พร้อมชิป M3 Pro และ M3 Max มีจำหน่ายในสีดำสเปซแบล็ค ซึ่งเป็นสีใหม่สวยสะดุดตาที่มองยังไงก็รู้ว่ามือโปร โดยมีการใช้ศาสตร์ด้านเคมีอันล้ำสมัยในการชุบผิวด้วยวิธีอะโนไดซ์ ซึ่งช่วยลดรอยนิ้วมือได้มาก นอกจากนี้รุ่นที่ใช้ชิป M3 Pro และ M3 Max ยังมีสีเงินให้เลือกด้วยเช่นกัน ส่วน MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว พร้อมชิป M3 มีให้เลือกระหว่างสีเงินและสีเทาสเปซเกรย์
ตัวพลิกเกมสำหรับผู้ที่ต้องการอัปเกรด
MacBook Pro ใหม่เป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่สำหรับผู้ใช้ทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้อัปเกรดจาก Mac รุ่นที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel นั่นเป็นเพราะรุ่นที่ใช้ชิป M3 Max นั้นเร็วขึ้นสูงสุดถึง 11 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่นที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด5 และด้วยความประหยัดพลังงานของ Apple silicon ผู้ใช้จึงไม่ได้ยินเสียงพัดลมเลยกับเวิร์กโฟลว์โดยส่วนใหญ่ ส่วนแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้นานขึ้นสูงสุดอีก 11 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่นที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด5 และที่ต่างจากแล็ปท็อป PC ส่วนใหญ่เลยก็คือ MacBook Pro ยังคงมีประสิทธิภาพที่เหนือชั้นไม่ว่าจะเสียบปลั๊กหรือใช้แบตเตอรี่ก็ตาม ยิ่งกว่านั้นจอภาพ Liquid Retina XDR ยังเป็นจอภาพแล็ปท็อปที่ดีที่สุดในโลกด้วยความสว่างสูงถึง 1,000 นิต และความสว่างสูงสุดเฉพาะจุด 1,600 นิตสำหรับคอนเทนต์ HDR พร้อมด้วยคอนทราสต์ที่โดดเด่น สีสันที่สวยสด และมุมในการมองที่กว้าง ในขณะที่คอนเทนต์ SDR วันนี้สามารถแสดงผลที่ความสว่างสูงสุด 600 นิต ซึ่งสว่างขึ้นอีกถึง 20%
macOS Sonoma
macOS Sonoma มาพร้อมคุณสมบัติที่ครบเครื่องสำหรับ Mac ทั้งในด้านการทำงานและเล่นสนุก โดยตอนนี้ผู้ใช้สามารถวางวิดเจ็ตบนเดสก์ท็อปแล้วตอบโต้ด้วยการคลิกได้ทันที ทั้งยังเข้าถึงวิดเจ็ต iPhone มากมายหลายประเภทจากบน Mac ได้อีกด้วยโดยอาศัยคุณสมบัติความต่อเนื่อง ส่วนการประชุมแบบวิดีโอก็น่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำเสนอจากระยะไกล อย่างการซ้อนทับของผู้นำเสนอหรือ Presenter Overlay ที่จะวางผู้นำเสนอไว้บนคอนเทนต์ที่กำลังแชร์ และยังสามารถโต้ตอบโดยการทำท่าทางเพื่อเรียกใช้เอฟเฟ็กต์วิดีโอคุณภาพระดับภาพยนตร์ได้ด้วย และใน Safari นั้นก็มีโปรไฟล์ ซึ่งจะช่วยแยกการท่องเว็บในหลายๆ เรื่องหรือโปรเจ็กต์ออกจากกัน รวมถึงแอปบนเว็บที่จะช่วยให้เปิดเว็บไซต์โปรดได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีสกรีนเซฟเวอร์ชุดใหม่อันน่าทึ่งที่มาพร้อมกับวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นของสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก
macOS Sonoma ใช้ประโยชน์สูงสุดจากความสามารถของ Apple silicon เพื่อให้มือโปรได้ใช้งานคุณสมบัติใหม่ๆ อันทรงพลัง อย่างโหมดประสิทธิภาพสูงที่เพิ่มมาใหม่ในคุณสมบัติการแชร์หน้าจอก็ช่วยให้เข้าถึง Mac อีกเครื่องจากระยะไกลด้วยการตอบสนองที่รวดเร็วฉับไวสุดๆ เพื่อให้มือโปรสามารถทำงานกับคอนเทนต์คุณภาพสูงสุดได้อย่างปลอดภัยจากทุกที่ ส่วนโหมดเกมก็จะให้ความสำคัญกับงานกราฟิกเป็นหลักเพื่อให้อัตราเฟรมคงอยู่ในระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ และลดความหน่วงลงได้มากเมื่อใช้อุปกรณ์เสริมแบบไร้สายเพื่อให้ผู้เล่นได้สนุกเต็มอิ่มยิ่งขึ้นเกมอย่าง Baldur’s Gate 3, Lies of P และ DEATH STRANDING DIRECTOR’S CUT
ดีต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
MacBook Pro สร้างมาให้ใช้งานได้ยาวนาน ตัวเครื่องสร้างมาจากโลหะผสมแบบเฉพาะที่ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% และมีความทนทานดีเยี่ยม นอกจากนี้ MacBook Pro ยังใช้แร่โลหะหายากรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทั้งหมด ส่วนดีบุกที่ใช้ในการบัดกรีและทองคำที่ใช้เคลือบแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้นก็มาจากการรีไซเคิล 100% อีกทั้ง MacBook Pro ยังปลอดสารอันตรายหลายชนิด เช่น เบริลเลียม สารหน่วงไฟประเภทโบรมีน และปรอท ส่วนเยื่อไม้ 100% ในบรรจุภัณฑ์นั้นมาจากการรีไซเคิลหรือมาจากป่าที่ได้รับการจัดการอย่างรับผิดชอบ
วันนี้การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2030 เราวางแผนที่จะมีความเป็นกลางทางคาร์บอนในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของสินค้าทั้งหมด นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องที่จำหน่ายจะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของลูกค้า ไปจนถึงการรีไซเคิลและการคัดแยกวัสดุ
ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย
- ลูกค้าสามารถตรวจสอบวันวางจำหน่ายสินค้าได้ภายหลังที่ apple.com/th/store
- MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว พร้อมชิป M3 ราคาเริ่มต้นที่ 59,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 56,200 บาท , MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว พร้อมชิป M3 Pro ราคาเริ่มต้นที่ 79,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 73,900 บาท และ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 94,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 87,300 บาท
- ดูข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติม ตัวเลือกในการปรับแต่งตามความต้องการ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ที่ apple.com/th/mac
- Apple Trade In ให้ลูกค้านำคอมพิวเตอร์เครื่องปัจจุบันมาแลกเป็นเครดิตสำหรับใช้ซื้อ Mac เครื่องใหม่ และลูกค้าสามารถตรวจสอบมูลค่าของอุปกรณ์ได้ที่ apple.com/th/shop/trade-in
- ลูกค้าทุกท่านที่ซื้อ Mac จาก Apple สามารถเข้าร่วม Online Personal Session ฟรีกับ Apple Specialist, รับบริการตั้งค่าผลิตภัณฑ์ที่ร้านหลายสาขา รวมถึงความช่วยเหลือในการถ่ายโอนข้อมูล และคำแนะนำเกี่ยวกับการปรับแต่ง Mac เครื่องใหม่ให้ทำงานอย่างที่ต้องการ
เกี่ยวกับ Apple Apple ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีส่วนบุคคลด้วยการเปิดตัว Macintosh สู่ท้องตลาดตั้งแต่ปี 1984 ในวันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac, Apple Watch และ Apple TV แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ทั้ง 5 แพลตฟอร์มของ Apple ได้แก่ iOS, iPadOS, macOS, watchOS และ tvOS มอบประสบการณ์การใช้งานอย่างต่อเนื่องบนอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple ทั้งหมด พร้อมเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้คนด้วยบริการที่ก้าวล้ำอย่าง App Store, Apple Music, Apple Pay และ iCloud พนักงานของ Apple กว่า 100,000 คนทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดระดับโลก และทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นกว่าเดิม
- Apple ทำการทดสอบในเดือนกันยายนและตุลาคม 2023 โดยใช้ระบบของ MacBook Pro 16 นิ้ว รุ่นก่อนการผลิตจริงที่มีชิป Apple M3 Pro, CPU แบบ 12 คอร์, GPU แบบ 18 คอร์, RAM ขนาด 36GB และ SSD ความจุ 512GB, การทดสอบการท่องเว็บผ่านระบบไร้สายวัดระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่โดยการเข้าดูเว็บไซต์ซึ่งเป็นที่นิยม 25 ไซต์ผ่านระบบไร้สาย ขณะตั้งค่าความสว่างหน้าจออยู่ในระดับที่ 8 จากล่างสุด, การทดสอบการเล่นภาพยนตร์ในแอป Apple TV วัดระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่โดยการเล่นภาพยนตร์ HD 1080p ขณะตั้งค่าความสว่างหน้าจออยู่ในระดับที่ 8 จากล่างสุด, ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่แตกต่างกันไปตามการใช้งานและการกำหนดค่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th/batteries
- ผลลัพธ์เป็นการเปรียบเทียบกับระบบของ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นก่อนหน้าที่มีชิป Apple M1, CPU แบบ 8 คอร์, GPU แบบ 8 คอร์, RAM ขนาด 16GB และ SSD ความจุ 2TB
- ผลลัพธ์เป็นการเปรียบเทียบกับระบบของ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นก่อนหน้าที่มี Intel Core i7 แบบ Quad-core ความเร็ว 1.7GHz พร้อม Intel Iris Plus Graphics 645, RAM ขนาด 16GB และ SSD ความจุ 2TB
- ผลลัพธ์เป็นการเปรียบเทียบกับ MacBook Pro 16 นิ้ว รุ่นก่อนหน้าที่มีชิป Apple M1 Pro, CPU แบบ 10 คอร์, GPU แบบ 16 คอร์, RAM ขนาด 32GB และ SSD ความจุ 8TB
- ผลลัพธ์เป็นการเปรียบเทียบกับระบบของ MacBook Pro 16 นิ้ว รุ่นก่อนหน้าที่มี Intel Core i9 แบบ 8 คอร์ ความเร็ว 2.4GHz พร้อมกราฟิก Radeon Pro 5600M ที่มี HBM2 ขนาด 8GB, RAM ขนาด 64GB และ SSD ความจุ 8TB
- ผลลัพธ์เป็นการเปรียบเทียบกับ MacBook Pro 16 นิ้ว รุ่นก่อนหน้าที่มีชิป Apple M1 Max, CPU แบบ 10 คอร์, GPU แบบ 32 คอร์, RAM ขนาด 64GB และ SSD ความจุ 8TB