ในที่สุด Apple ก็ได้เปิดตัว iPhone SE อย่างเป็นทางการในงาน Apple Special Event 2016 โดย iPhone SE จะเป็น iPhone หน้าจอ 4 นิ้ว ตามที่ลือกันมาก่อนหน้านี้ ดีไซน์ของตัวเครื่องมาแนวเดียวกับ iPhone 5s แต่สเปคข้างในนั้นยัดสเปคของ iPhone 6s เข้ามาชัดๆ ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Apple A9, กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 1.2 ล้านพิกเซล ภายใต้สโลแกน “ก้าวที่ยิ่งใหญ่ สำหรับอะไรเล็กๆ”
สเปค iPhone SE
- iPhone SE หน้าจอขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 1136 x 640 พิกเซลที่ 326 ppi
- CPU Apple A9 เทคโนโลยีแบบ 64 Bit
- มาพร้อมชิป M9 สามารถวัดความดัน, ความสูงได้
- หน่วยความจำภายใน 16/64 GB
- มาพร้อมกับ iOS 9.3
- กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2 พร้อม True-Tone Flash
- รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K และ Live Photos
- กล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล f/2.4 พร้อม Retina Flash
- รองรับการใช้งาน 4G LTE
- รองรับซิมการ์ดแบบ Nano Sim
- รองรับ VoLTE สามารถสนทนาโทรศัพท์ผ่านคลื่น LTE ได้เลย
- มีด้วยกัน 4 สี ได้แก่ สีเทา, สีเงิน, สีทอง และสี Rose Gold
- สนทนาได้ต่องเนื่อง 14 ชั่วโมง บนการเชื่อมต่อ 3G
- ราคา 15,000 บาท (16 GB) และ 17,500 บาท (64 GB)
จุดเด่นของ iPhone SE อยู่ที่สเปคแบบจัดเต็ม (แทบจะ) ไม่มีกั๊ก เรียกว่าถอดสเปคจาก iPhone 6s ที่เป็นรุ่นท็อปสุดของ Apple ในปี 2015 ออกมาเลยทีเดียว โดยเฉพาะการเลือกใช้ชิป Apple A9 ที่มีการประมวลผลที่เร็วกว่าตอน iPhone 5s ถึง 2 เท่า ส่วนการประมวลผลกราฟฟิค iPhone SE ทำได้ดีกว่า iPhone 5s ถึง 3 เท่า
สาเหตุที่ Apple มั่นใจว่ายังไงก็ขาย iPhone จอเล็ก 4 นิ้วได้เนี่ย ก็มาจากการสำรวจลูกค้าที่ยังใช้งาน iPhone อยู่ พบว่ามีลูกค้าจำนวนมากที่ยังใช้งาน iPhone หน้าจอ 4 นิ้วอยู่ ทำให้ iPhone SE เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ ด้วยราคาที่ไม่แรงจนเกินไป วัสดุพรีเมียม สเปคแรง แล้วก็อาศัยตัดสเปคโน่นนี่นั่นออกจากตอน iPhone 6s ก็เลยเป็นที่มาของ iPhone SE นี่แหละครับ มีด้วยกัน 4 สี ได้แก่ Silver, Space Grey, Gold และ Rose Gold (สีเงิน, เทาสเปซเกรย์, ทอง และสีโรสโกลด์)
กล้องถ่ายรูปของ iPhone SE ก็มาเต็มที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รองรับกรถ่ายวีดีโอ 4K กับ Live Photos เช่นเดียวกับ iPhone 6s แถมยังใช้ระบบโฟกัสแบบเดียวกันอีกต่างหาก ส่วนกล้องหน้าอันนี้ลดสเปคลงมาเท่าตอน iPhone 6 เป็นกล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล แต่ก็ยังมี Retina Flash ติดมาให้นะ
การรองรับ 4G อันนี้ก็โดนตัดสเปคลงมาจากตัว iPhone 6s พอสมควร เพราะ iPhone SE รองรับ 4G LTE Cat 4 ที่ความเร็วสูงสุด 150 Mbps ส่วน iPhone 6s นั้นรองรับ 4G LTE Cat 6 (450 Mbps)
ฟีเจอร์อื่นๆ ของ iPhone SE ก็คือฟีเจอร์ใน iOS 9.3 ครับ เช่น Night Shift หรือการรองรับคำสั่ง “หวัดดี Siri”
สำหรับการวางจำหน่าย iPhone SE พร้อมวางจำหน่ายในปลายเดือนมีนาคมนี้สำหรับ 10 ประเทศแรก (ไม่มีไทย) ส่วน Phase 2 (ที่คาดว่าจะมีไทยด้วย) iPhone SE จะวางขายประมาณสิ้นเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
ช่องทางการวางจำหน่าย iPhone SE ก็น่าจะเหมือนเดิม คือการซื้อผ่านโอเปอเรเตอร์ AIS, Truemove-H และ dtac หรือไม่ก็ต้องสั่งผ่าน Apple Online Store เอาครับ
ราคา iPhone SE หากอิงจากทาง US ก็จะมีราคาอยู่ที่ $399 สำหรับ iPhone SE ความจุ 16 GB ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 15,000 บาท และราคา $499 สำหรับ iPhone SE ความจุ 64 GB ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 17,500 บาท โดย iPhone SE จะวางจำหน่ายในประเทศไทยช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2016