จอภาพ Liquid Retina ขนาดใหญ่ 15.3 นิ้ว, ประสิทธิภาพของชิป M2, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง และระบบเสียง 6 ลำโพง ทั้งหมดนี้มารวมอยู่ด้วยกันในดีไซน์แบบไร้พัดลมที่บางและเบาของ MacBook Air ใหม่ ซึ่งเป็นแล็ปท็อปรุ่น 15 นิ้ว ที่ดีที่สุดในโลก
วันนี้ Apple เปิดตัว MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว ซึ่งเป็นแล็ปท็อปรุ่น 15 นิ้วที่ดีที่สุดในโลก ด้วยจอภาพ Liquid Retina ขนาดใหญ่ 15.3 นิ้ว, ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นของชิป M2, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง1และดีไซน์แบบไร้พัดลมที่เงียบ MacBook Air ใหม่นี้ ครบเครื่องทั้งในด้านขุมพลังและความสะดวกในการพกพา ทั้งหมดนี้ในแล็ปท็อปรุ่น 15 นิ้วที่บางที่สุดในโลก ยิ่งกว่านั้นยังมีระบบเสียง 6 ลำโพงแบบใหม่หมด ทำให้ MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว มอบประสบการณ์ Spatial Audio ได้ในแบบที่เต็มอิ่มสมจริง และยังมีกล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p, MagSafe สำหรับการชาร์จ รวมถึงขุมพลังและความง่ายในการใช้งานของ macOS Ventura เพื่อประสบการณ์ที่ยากจะหาใครเทียบ โดย MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M2 จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 39,900 บาท เพื่อให้มีความคุ้มค่าและเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นสำหรับทุกคน ตั้งแต่ผู้ที่อยากอัปเกรดจนถึงลูกค้าที่ซื้อ Mac เครื่องแรก
“เรารู้สึกตื่นเต้นกับการเปิดตัว MacBook Air รุ่น 15 นิ้วเป็นครั้งแรก โดย MacBook Air ใหม่นี้จัดเป็นแล็ปท็อปรุ่น 15 นิ้ว ที่ดีที่สุดในโลกด้วยประสิทธิภาพที่เหนือชั้นและดีไซน์ที่โดดเด่น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นจริงได้ด้วย Apple silicon” John Ternus รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ของ Apple กล่าว “MacBook Air ใหม่มีครบทุกอย่าง ตั้งแต่จอภาพ Liquid Retina ขนาดใหญ่ และดีไซน์แบบไร้พัดลมที่บางเฉียบ จนถึงแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานอย่างน่าทึ่ง และระบบเสียง 6 ลำโพงที่เต็มอิ่มสมจริง”
จอภาพ Liquid Retina ขนาด 15.3 นิ้ว ที่สวยสะกดตา
MacBook Air ใหม่มาพร้อมจอภาพ Liquid Retina ความละเอียดสูงขนาด 15.3 นิ้ว ที่กว้างเต็มตาเพื่อให้ผู้ใช้มองเห็นคอนเทนต์ได้มากขึ้น และจอภาพ Liquid Retina ที่สวยสดยังมีความสว่างสูงสุด 500 นิต พร้อมกับรองรับสีสัน 1 พันล้านสี ทำให้ทุกคอนเทนต์ดูสวยสดงดงามและตัวหนังสือคมกริบ ทั้งยังมีความละเอียดสูงขึ้น 2 เท่า และสว่างกว่าแล็ปท็อป PC รุ่นเทียบเท่ากันถึง 25%2
แล็ปท็อป 15 นิ้วที่บางที่สุดในโลก
MacBook Air ใหม่ บางเพียง 11.5 มม. จึงถือเป็นแล็ปท็อปรุ่น 15 นิ้ว ที่บางที่สุดในโลก แถมยังพกพาสะดวกเหลือเชื่อด้วยน้ำหนักเพียง 1.51 กก. และถึงแม้จะมีจอภาพขนาดใหญ่ แต่ MacBook Air ก็ยังแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังบางกว่าเกือบ 40% และเบากว่าประมาณ 200 กรัม เมื่อเทียบกับแล็ปท็อป PC รุ่นเทียบเท่ากัน2
นอกจากนี้ MacBook Air ยังมาพร้อม MagSafe สำหรับการชาร์จ, พอร์ต Thunderbolt จำนวน 2 พอร์ต สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมและจอภาพภายนอกสูงสุดถึงระดับ 6K รวมถึงช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. เพื่อการเชื่อมต่อแบบอเนกประสงค์ และมาใน 4 สีสวยงาม ได้แก่ สีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเทาสเปซเกรย์ และสีเงิน
ประสิทธิภาพสุดขั้วและแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานอย่างน่าทึ่งด้วยชิป M2
MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว มีประสิทธิภาพเหนือชั้นเมื่อมีชิป M2 ซึ่งเร็วขึ้นสูงสุด 12 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Air ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด3 และเมื่อเทียบกับแล็ปท็อป PC รุ่น 15 นิ้ว ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Core i7 ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดแล้ว MacBook Air ใหม่ เร็วกว่าสูงสุด 2 เท่า4 ส่วนแบตเตอรี่นั้นก็ใช้งานได้ยาวนานน่าทึ่งสูงสุด 18 ชั่วโมง หรือมากกว่าบน PC ถึง 50% ถึงแม้จะมีจอภาพและประสิทธิภาพที่ดีกว่า5 MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว มี CPU แบบ 8-core อันทรงพลังที่ประกอบด้วยคอร์ด้านประสิทธิภาพ 4 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ พร้อมด้วย GPU แบบ 10-core เพื่อกราฟิกที่เร็วสุดขีด และ Neural Engine แบบ 16-core ยิ่งกว่านั้นชิป M2 ยังมีแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 100GB/s และรองรับหน่วยความจำแบบรวมที่รวดเร็วขนาดสูงสุด 24GB จึงสามารถรับมือกับเวิร์กโหลดที่ซับซ้อนได้อย่างลื่นไหล เรียกได้ว่าประสิทธิภาพของชิป M2 ช่วยให้ผู้ใช้ทำงาน เล่นสนุก หรือสร้างสรรค์ได้แทบทุกเรื่องและแทบทุกที่
กล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p และระบบเสียง 6 ลำโพง
กล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p บน MacBook Air เหมาะสมลงตัวสำหรับวิดีโอeคอลและการประชุมทางวิดีโอซึ่งเมื่อรวมเข้ากับพลังการประมวลผลของโปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพที่ล้ำสมัยของชิป M2 แล้ว รับรองเลยว่าผู้ใช้จะดูดีขณะวิดีโอคอลแน่นอน พร้อมกันนี้ยังมีชุดไมโครโฟน 3 ตัวช่วยจับเสียงที่ชัดใสโดยใช้อัลกอริทึมบีมฟอร์มมิ่งอันล้ำสมัย เพื่อให้ผู้ใช้เสียงดังฟังชัดขณะวิดีโอคอล
ดีไซน์ของ MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว ใหม่ยังมาพร้อมระบบเสียง 6 ลำโพงใหม่สุดล้ำที่ประกอบด้วยทวีตเตอร์ 2 ตัว และวูฟเฟอร์แบบตัดแรงสั่น 2 ชุด โดยลำโพงใหม่นี้ให้เสียงเบสที่ทุ้มลึกกว่าเดิม 2 เท่าเพื่อเสียงที่แน่นยิ่งขึ้น และยังมี Spatial Audio ที่รองรับ Dolby Atmos ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่เต็มอิ่มสมจริงไม่ว่าจะฟังเพลงหรือดูภาพยนตร์
ยกระดับการทำงานให้ทรงพลังด้วย macOS
macOS Ventura ยกระดับประสบการณ์การใช้งาน Mac เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทำอะไรๆ ได้มากยิ่งขึ้น เริ่มจากแอปข้อความและเมลที่ดียิ่งกว่าที่เคย ในขณะที่ Safari ซึ่งเป็นเบราว์เซอร์ที่เร็วที่สุดในโลกบน Mac นั้น ก็ก้าวล้ำเข้าสู่อนาคตแบบไร้รหัสผ่านด้วยพาสคีย์ ต่อมาก็คือความต่อเนื่องของกล้องที่นำคุณสมบัติด้านการประชุมทางวิดีโอมาอยู่บน Mac ทุกเครื่อง ทั้ง Desk View, Center Stage และ Studio Light และยังมีเครื่องมืออย่าง Stage Manager ที่จะจัดระเบียบแอปและหน้าต่างโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้จดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ได้เต็มที่โดยที่ยังคงมองเห็นทุกอย่างได้เพียงแค่เหลือบมอง นอกจากนี้ยังมีคลังรูปภาพ iCloud ที่แชร์ ซึ่งให้ผู้ใช้สร้างและแชร์คลังรูปภาพแยกอีกคลังในกลุ่มสมาชิกครอบครัวได้สูงสุด 6 คน และมีแอป Freeform เป็นผืนผ้าใบที่ยืดหยุ่นที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานและถ่ายทอดความคิดได้ดียิ่งขึ้น แถมผู้ใช้ยังสามารถทำงานสลับไปมาระหว่าง Mac และ iPhone ได้ง่ายนิดเดียวด้วยคุณสมบัติความต่อเนื่อง อย่างเช่น Handoff, AirDrop, คลิปบอร์ดกลาง และข้อความ
macOS Sonoma ซึ่งจะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ จะทำให้ประสบการณ์การใช้งาน Mac นั้นเพลิดเพลินและช่วยยกระดับการทำงานไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีใหม่ๆ ในการปรับแต่งการใช้งานให้ตรงใจด้วยวิดเจ็ตและสกรีนเซฟเวอร์ที่สวยงาม โหมดเกมที่จะปรับแต่งประสบการณ์การเล่นเกมให้ลงตัว ความสามารถในการประชุมทางวิดีโออันทรงพลัง รวมถึงอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Safari และอีกมากมาย
ดีต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
MacBook Air ใหม่ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และวันนี้ใช้ทองชุบและดีบุกบัดกรีรีไซเคิล 100% ในแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้น รวมถึงแร่โลหะหายากรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น และ MacBook Air ยังใช้โคบอลต์รีไซเคิล 100% ในช่องต่อ MagSafe รวมถึงเหล็กกล้ารีไซเคิล 90% ในถาดใส่แบตเตอรี่ ยิ่งกว่านั้น MacBook Air ยังเป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงของ Apple ในด้านการประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังปลอดสารปรอท, PVC และเบริลเลียมอีกด้วย ส่วนบรรจุภัณฑ์นั้นใช้เยื่อไม้เป็นหลักมากกว่า 99% จึงทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายในการเลิกใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025 มากยิ่งขึ้น
และในวันนี้การดำเนินงานของ Apple ทั่วโลกยังมีความเป็นกลางทางคาร์บอน โดย Apple กำลังเดินหน้าเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 ซึ่งหมายความว่า Mac ทุกเครื่องที่ Apple สร้างขึ้น ตั้งแต่การออกแบบจนถึงการผลิตและการใช้งานของลูกค้า จะมีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศเป็นศูนย์
ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย
- MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว พร้อมชิป M2 จะพร้อมให้สั่งซื้อเร็วๆ นี้ บนapple.com/storeและบนแอป Apple Store
- MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว พร้อมชิป M2 มีให้เลือกในสีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ ในราคาเริ่มต้นที่ 47,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 44,200 บาท
- MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M2 มีให้เลือกในสีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ ราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 36,300 บาท
- MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1 ยังคงมีจำหน่ายในสีทอง สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ ในราคาเริ่มต้นที่ 34,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 31,400 บาท
- นอกจากนี้ยังสามารถดูข้อมูลทางเทคนิคและรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์เสริม Apple รวมถึงอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด 70 วัตต์ใหม่ ซึ่งมีจำหน่ายในราคา 1,890 บาท ที่ apple.com/th/shop/buy-mac
- ลูกค้าทุกท่านที่ซื้อ Mac จาก Apple สามารถเข้าร่วม Online Personal Session ฟรีกับ Apple Specialist, รับบริการตั้งค่าผลิตภัณฑ์ รวมถึงความช่วยเหลือในการถ่ายโอนข้อมูลที่ร้านหลายสาขา และคำแนะนำเกี่ยวกับการปรับแต่ง Mac เครื่องใหม่ให้ทำงานอย่างที่ต้องการ
- AppleCare+ สำหรับ Mac มอบบริการช่วยเหลือด้านเทคนิคและความคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์จาก Apple เพิ่มเติม รวมทั้งความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยค่าธรรมเนียมการให้บริการจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับบริการ
- ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ ผลลัพธ์จริงอาจแตกต่างออกไป
- แล็ปท็อป PC ขนาด 15 นิ้วที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core i7 ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดอ้างอิงจากข้อมูลการจำหน่ายที่เปิดเผยต่อสาธารณะในช่วง 12 เดือนก่อนหน้า,
- ผลลัพธ์เป็นการเปรียบเทียบกับระบบของ MacBook Air รุ่นก่อนหน้าที่มี Intel Core i7 แบบ Quad-core ความเร็ว 1.2GHz พร้อม Intel Iris Plus Graphics, RAM ขนาด 16GB และ SSD ความจุ 2TB
- Apple ทำการทดสอบในเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2023 โดยใช้ระบบของ MacBook Air 15 นิ้ว รุ่นก่อนการผลิตจริงที่มีชิป Apple M2, CPU แบบ 8-core, GPU แบบ 10-core, RAM ขนาด 8GB และ SSD ความจุ 256GB รวมถึงระบบของ PC ที่มี Intel Core i7 พร้อม Intel Iris Xe Graphics, RAM ขนาด 16GB, SSD ความจุ 512GB และ Windows 11 เวอร์ชั่นล่าสุดที่พร้อมใช้งานในช่วงเวลาที่ทำการทดสอบ, แล็ปท็อป PC ขนาด 15 นิ้วที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core i7 ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดอ้างอิงจากข้อมูลการจำหน่ายที่เปิดเผยต่อสาธารณะในช่วง 12 เดือนก่อนหน้า, Adobe Photoshop 24.3.0 ได้รับการทดสอบโดยใช้ฟิลเตอร์และฟังก์ชั่นต่อไปนี้ ได้แก่ Select Sky, Oil Paint, Adaptive Wide Angle, Picture Frame และ Tree, โปรเจ็กต์แบบโอเพ่นซอร์สสร้างบน macOS โดยใช้ Xcode 14.3 ที่มี Apple Clang 14.0.3, โปรเจ็กต์แบบโอเพ่นซอร์สสร้างบน Windows ที่มี Clang 14.0.6, Premier Pro 23.3.0 ได้รับการทดสอบโดยใช้คลิปความยาว 55 วินาทีที่มีสื่อ Apple ProRes RAW ระดับ 4K ที่ความละเอียด 4096 x 2160 และ 59.94 เฟรมต่อวินาที โดยแปลงเป็น Apple ProRes 422 ที่ 29.97 เฟรมต่อวินาที การทดสอบประสิทธิภาพดำเนินการโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เฉพาะ และแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอย่างคร่าวๆ ของ MacBook Air
- Apple ทำการทดสอบในเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2023 โดยใช้ระบบของ MacBook Air 15 นิ้ว รุ่นก่อนการผลิตจริงที่มีชิป Apple M2, CPU แบบ 8-core, GPU แบบ 10-core, RAM ขนาด 8GB และ SSD ความจุ 256GB รวมถึงระบบของ PC รุ่นผลิตจริงที่มี Intel Core i7 พร้อม Intel Iris Xe Graphics และ Windows 11 เวอร์ชั่นล่าสุดที่พร้อมใช้งานในช่วงเวลาที่ทำการทดสอบ, แล็ปท็อป PC ขนาด 15 นิ้วที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core i7 ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดอ้างอิงจากข้อมูลการจำหน่ายที่เปิดเผยต่อสาธารณะในช่วง 12 เดือนก่อนหน้า, การเล่นวิดีโอบน macOS ใช้แอป Apple TV ในขณะที่การเล่นวิดีโอบน Windows ใช้แอป Movies & TV, อุปกรณ์ทั้งหมดได้รับการทดสอบโดยตั้งค่าความสว่างในระดับที่เทียบเท่ากันและไม่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย, ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่แตกต่างกันไปตามการใช้งานและการกำหนดค่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th/batteries