รวมโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นใหม่ล่าสุดในปี 2024 ที่มีขายตอนนี้มีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้างในแต่ละรุ่น
ในช่วงต้นปีถึงปลายปี 2024 ที่ผ่านมาทาง Infinix ก็ได้เปิดตัวมือถือออกมาหลายรุ่นครบทุกซีรีส์ทั้งรุ่นเริ่มต้นราคาเบาๆ ไม่เกิน 10000 รุ่นซีรีส์กลางที่มีราคาหมื่นต้นๆ ไปจนถึงรุ่นเรือธงตัวแรง และซีรีส์ใหม่ที่ทำขึ้นมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ ที่น่าสนใจอีกรุ่นก็คือมือถือจอพับรุ่นแรกของ Infinix ที่เปิดตัวใหม่ในปีนี้เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นปีที่ Infinix มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเพิ่มเข้ามาใหม่เยอะเลยทีเดียว สำหรับใครที่สนใจอยากจะซื้อมือถือ Infinix ช่วงปลายปีนี้ ทาง Specphone ก็ได้รวมโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นใหม่ล่าสุดในปี 2024 ที่มีขายอยู่ในตอนนี้ ว่ามีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้างในแต่ละรุ่นไปดูกันเลย
รวมโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นใหม่ล่าสุดในปี 2024 ราคาเท่าไหร่บ้าง
Infinix ZERO Series
1. Infinix ZERO Flip: ราคา 16,999 บาท
เริ่มต้นกันด้วยโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดกับมือถือจอพับรุ่นแรกของ Infinix ที่เน้นเรื่องกล้องมาให้เป็นหลัก ที่สามารถถ่ายแบบ 4K Vlog ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง รวมถึงถ่ายวีดีโอ Pro-Stable ได้แบบนิ่งๆ อีกด้วย สายคอนเทนต์หรือทำ Vlog ตอบโจทย์การใช้งานแน่นอน ตัวบานพับเป็นแบบไร้ช่องว่างทำให้มีรอยพับที่หน้าจอน้อย ตัวจอด้านนอกและกางออกมีขนาดใหญ่รองรับ 120Hz เล่นได้ลื่นทั้งสองจอ ได้ชิปตัวแรงที่เล่นเกมหรือเล่นหลายๆ แอพได้ไม่มีสะดุดพร้อมความจุแน่นๆ สั่งซื้อได้ที่ Infinix
- หน้าจอ:
- จอนอก AMOLED ความละเอียด 1056×1066 กว้าง 3.64 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz/ สว่าง 1100nits
- จอใน LTPO AMOLED ความละเอียด 1080×2640 กว้าง 6.9 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz/ สว่าง 1400nits
- ชิป: Dimensity 8020 | RAM 8GB / ROM 512GB | ขยายแรมสูงสุด 16GB
- กล้องหลัง: 50MP + อัลตร้าไวด์ 50MP
- กล้องหน้า: 50MP
- แบต: 4,720mAh/ ชาร์จไว 70W
2. Infinix ZERO 40 5G: ราคา 13,999 บาท
โทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดรุ่นต่อมาเป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมาล่าสุดของซีรีส์เช่นกัน สเปคของรุ่นนี้ได้มีการอัพเกรดในส่วนของกล้องหลังเพิ่มเติม ทำให้ถ่ายรูปได้ดีขึ้นและยังมีความจุที่เพิ่มมากขึ้น มีการดีไซน์โมดูลกล้องหลังใหม่สวยหรูขึ้นไปอีกระดับ และแน่นอนว่าการถ่ายวิดีโอนั้นรองรับการถ่ายแบบ ProStable 4K ที่เหมาสำหรับการทำคอนเทนต์ต่างๆ พร้อมโหมด Vlog รวมถึงการใช้งานร่วมกับกล้อง GoPro ได้ด้วย นอกจากนี้ยังได้ชิปใหม่ที่ทรงพลัง เล่นได้เร็วแรง มีหน้าจอที่ไหลลื่นถึง 144Hz เลยทีเดียว สั่งซื้อได้ที่ Infinix
- หน้าจอ: จอโค้ง AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080×2436) กว้าง 6.78 นิ้ว/ Refresh Rate 144Hz/ สว่าง 1300nits
- ชิป: Dimensity 8200 Ultimate | RAM 12GB / ROM 512GB | ขยายแรมสูงสุด 24GB
- กล้องหลัง: 108MP + อัลตร้าไวด์ 50MP + ชัดลึก 2MP
- กล้องหน้า: 50MP
- แบต: 5,000mAh/ ชาร์จไว 45W
3. Infinix ZERO 30 5G: ราคา 8,999 บาท
อีกหนึ่งรุ่นในซีรีส์ ZERO ที่ยังมีขายอยู่นั่นก็คือตัว ZERO 30 รุ่นก่อนหน้าที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยมีราคาตัวเครื่องลดลงมาไม่เกินหมื่นแล้วด้วย ซึ่งสเปคภายในนั้นก็ยังคงใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นชิปที่เร็วแรงเล่นเกมได้สบายๆ หน้าจอไหลลื่นหายห่วง กล้องหลังความละเอียด 108MP ถ่ายรูปได้คมชัด ถ่ายวิดีโอแบบ 4K 60fps ได้พร้อมถ่ายทำ Vlog ได้ง่ายๆ ถ้าอยากได้ซีรีส์ตัวแรงในราคาเบาๆ รุ่นนี้ก็ยังน่าสนใจอยู่เหมือนกัน สั่งซื้อที่ Infinix
- หน้าจอ: จอโค้ง AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080×2400) กว้าง 6.78 นิ้ว/ Refresh Rate 144Hz/ สว่าง 950nits
- ชิป: Dimensity 8020 | RAM 12GB / ROM 256GB | ขยายแรมสูงสุด 21GB
- กล้องหลัง: 108MP + อัลตร้าไวด์ 13MP + มาโคร 2MP
- กล้องหน้า: 50MP
- แบต: 5,000mAh/ ชาร์จไว 68W
Infinix NOTE Series
1. Infinix NOTE 40 Pro+ 5G: ราคา 9,999 บาท
มาดูที่โทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดสำหรับซีรีส์ NOTE กันบ้างที่ตอนนี้ก็มีวางขายอยู่เพียงรุ่นเดียวรุ่นที่เปิดตัวออกมาช่วงต้นปี และมีการปรับราคาลงมาไม่เกินหมื่นแล้ว ซึ่งรุ่นนี้จะเป็นรุ่นสเปคกลางที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป มีจุดเด่นหลักๆ คือการชาร์จ ที่สามารถชาร์จได้แบบ All-Round FastCharge2.0 ทั้งการชาร์จได้เร็ว 50% ใน 12 นาที ชาร์จแบบไร้สายได้ และรองรับ OTG Reverse Charge ชาร์จกับมือถือรุ่นอื่นๆ ได้ด้วย สั่งซื้อที่ Infinix
- หน้าจอ: จอโค้ง AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080×2436) กว้าง 6.78 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz/ สว่าง 1300nits
- ชิป: Dimensity 7020 | RAM 12GB / ROM 256GB | ขยายแรมสูงสุด 24GB
- กล้องหลัง: 108MP + ชัดลึก 2MP + มาโคร 2MP
- กล้องหน้า: 32MP
- แบต: 4,600mAh/ ชาร์จไว 100W
Infinix HOT Series
1. Infinix HOT 50 Pro+: ราคา 6,499 บาท
โทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดซีรีส์ต่อมาเป็นซีรีส์ที่มีขายเยอะที่สุดแล้วในตอนนี้ โดยตัวซีรีส์ HOT 50 นี้ก็เพิ่งเปิดตัวออกมาล่าสุดได้ไม่นานเลย และตัวนี้ก็เป็นตัวท็อปของซีรีส์ด้วย มาพร้อมดีไซน์บางเบาเพียง 6.8 มม. และโมดูกล้องใหม่ มาพร้อมสเปคและชิปที่เร็วแรง เหมาะกับการเล่นเกม หรือใช้งานทั่วไปได้ดีเยี่ยม หน้าจอเล่นได้ไหลลื่น และมีกล้องความละเอียด 50MP ถ่ายรูปได้สวย กันน้ำได้ที่ IP54 และเล่นได้แม้มือเปียกก็ตาม สั่งซื้อที่ BaNANA
- หน้าจอ: จอโค้ง AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080×2436) กว้าง 6.78 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz/ สว่าง 1300nits
- ชิป: Helio G100 | RAM 8GB / ROM 256GB | ขยายแรมสูงสุด 16GB
- กล้องหลัง: 50MP + ชัดลึก 2MP
- กล้องหน้า: 13MP
- แบต: 5,000mAh/ ชาร์จไว 33W
2. Infinix HOT 50 Pro: ราคา 5,499 บาท
โทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดรุ่นสเปครองจากตัวท็อปรุ่นต่อมานี้จะต่างกับรุ่น Plus อย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือตัวหน้าจอที่รุ่นนี้เป็นแบบจอแบน แต่ก็ยังคงมีดีไซน์ที่บางเฉียบสวยหรูไม่แพ้กัน ส่วนที่ได้เหมือนกันเลยก็คือตัวชิปประมวลผลที่เล่นเกม หรือจะเน้นใช้งานทั่วไปก็ทำได้ดีเหมือนกัน รวมไปถึงการถ่ายรูปที่มีกล้องหลัง 50MP แต่กล้องหลังดรอปลงมานิดหน่อย ทำงานร่วมกับ AI ได้ และใช้งานได้แม้ขณะที่มือเปียกได้เหมือนกันอีกด้วย ถ้าใครที่อยากได้จอแบนรุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้รุ่นตัวท็อปเลย สั่งซื้อที่ Infinix
- หน้าจอ: AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080×2436) กว้าง 6.78 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz/ สว่าง 1800nits
- ชิป: Helio G100 | RAM 8GB / ROM 256GB | ขยายแรมสูงสุด 16GB
- กล้องหลัง: 50MP + ชัดลึก 2MP
- กล้องหน้า: 8MP
- แบต: 5,000mAh/ ชาร์จไว 33W
3. Infinix HOT 50: ราคา 4,999 บาท
ต่อกันด้วยโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดรุ่นตัวปกติของซีรีส์ที่วางขายในรุ่น 4G ที่ยังคงมีดีไซน์แบบเดียวกับรุ่นพี่ ทั้งโมดูลกล้องหลังแบบเรียงยาวลงมา และมีความบางเหมือนกัน แต่ว่าหน้าจอของตัวนี้จะเป็นแบบจอ IPS LCD แทน แต่ก็ยังสามารถเล่นได้ไหลลื่น และยังได้ชิปที่เหมือนกับรุ่นโปรอีกด้วย ดังนั้นในส่วนของการเล่นเกมและใช้งานทั่วไปทำได้ดีแน่นอน ทั้งนี้ก็ยังมีกล้องความละเอียด 50MP ที่ถ่ายได้คมชัดอีกด้วย สั่งซื้อที่ Infinix
- หน้าจอ: IPS LCD ความละเอียด FHD+ (1080×2460) กว้าง 6.78 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz/ สว่าง 800nits
- ชิป: Helio G100 | RAM 8GB / ROM 256GB | ขยายแรมสูงสุด 16GB
- กล้องหลัง: 50MP
- กล้องหน้า: 8MP
- แบต: 5,000mAh/ ชาร์จไว 18W
4. Infinix HOT 50i: ราคา 3,699 บาท
รุ่นเล็กรุ่นเริ่มต้นของซีรีส์ HOT 50 ที่ราคาจับต้องได้ มีดีไซน์บางเบาเหมือนกับรุ่นอื่น แต่ว่าโมดูลกล้องหลังของรุ่นนี้จะไม่เหมือนกับตัวอื่นๆ เพราะเป็นแบบกรอบสี่เหลี่ยมแทน สเปคหลักๆ แล้วเหมาะกับการใช้งานแบบทั่วไป แต่ก็ได้ความจุเยอะ มาพร้อมชิปที่เอาไว้เล่นเกมได้ปกติ หน้าจอไหลลื่น 120Hz กับกล้องหลังความละเอียด 48MP และลำโพงคู่ที่ปรับความดังได้สูงสุด 300% มีแบตอึดใช้งานได้เต็มที่ตลอดทั้งวัน สั่งซื้อที่ Infinix
- หน้าจอ: IPS LCD ความละเอียด HD+ กว้าง 6.7 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz
- ชิป: Helio G81 | RAM 4GB / ROM 256GB | ขยายแรมสูงสุด 8GB
- กล้องหลัง: 48MP
- กล้องหน้า: 8MP
- แบต: 5,000mAh/ ชาร์จไว 18W
5. Infinix HOT 40 Pro: ราคา 5,999 บาท
สำหรับซีรีส์ตัวก่อนหน้าของโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดที่ยังมีขายอยู่ในตอนนี้จะเป็นรุ่นโปรที่ราคาลดลงมาน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เน้นเรื่องการเล่นเกมมาให้เป็นหลักเลย เพราะว่าเป็นตัวที่ทำร่วมกับเกม Free Fire ด้วย หน้าจอมีความไหลลื่นมาพร้อม Magic Ring ที่กล้องหน้า และชิปตัวแรงกับเซ็นเซอร์ไจโรสโคปที่เล่นเกมได้สมจริง จัดการประสิทธิภาพด้วย XBOOST เล่นเกมได้สบายหายห่วงทุกเกม ใครหามือถือเล่นเกมราคาไม่แรงมากรุ่นนี้ตอบโจทย์แน่นอน สั่งซื้อที่ Infinix
- หน้าจอ: IPS LCD ความละเอียด FHD+ (1080×2460) กว้าง 6.78 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz/ สว่าง 500nits
- ชิป: Helio G99 | RAM 8GB / ROM 256GB | ขยายแรมสูงสุด 16GB
- กล้องหลัง: 108MP + มาโคร 2MP + AI
- กล้องหน้า: 32MP
- แบต: 5,000mAh/ ชาร์จไว 33W
6. Infinix HOT 12i: ราคา 3,299 บาท
โทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดที่ยังมีขายอยู่รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมานานพอสมควร แต่ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ เนื่องจากมีราคาที่ไม่สูงมาก เป็นมือถือรุ่นเริ่มต้นสำหรับการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก จะเอาไว้เป็นเครื่องสำรอง หรือว่าจะซื้อให้ผู้ใหญ่กับคนในครอบครัวใช้งานก็ได้ เพราะกล้องสามารถสแกนจ่ายหรือรับเงินได้ปกติ สั่งซื้อที่ Infinix
- หน้าจอ: IPS LCD ความละเอียด HD+ (720×1612) กว้าง 6.6 นิ้ว
- ชิป: Helio A22 | RAM 4GB / ROM 64GB | ขยายแรมสูงสุด 7GB
- กล้องหลัง: 13MP + QVGA + QVGA
- กล้องหน้า: 8MP
- แบต: 5,000mAh
Infinix SMART Series
1. Infinix SMART 9: ราคา 2,699 – 2,999 บาท
โทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดตัวซีรีส์รุ่นเริ่มต้นที่มีให้เลือกอยู่สองความจุสองราคาคือ RAM 3/64GB และ RAM 3/128GB ในราคาที่ต่างกันหลักร้อย ตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอใหญ่มีฟีเจอร์การใช้งานทั่วไปครบ เล่นได้ไหลลื่น 120Hz เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก เล่นเกมที่ไม่กินสเปคเยอะได้ทุกเกม ถ้าใครที่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปหรือไม่จำเป็นต้องใช้ความจุเยอะก็เลือกตัว 64GB แต่ถ้าถ่ายรูปด้วยและอยากได้พื้นที่เยอะๆ ก็แนะนำว่าควรซื้อรุ่น 128GB จะดีกว่า สั่งซื้อที่ Infinix 64GB, 128GB
- หน้าจอ: IPS LCD ความละเอียด HD+ (720×1600) กว้าง 6.7 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz
- ชิป: Helio G81 | RAM 3GB / ROM 64-128GB | ขยายแรมสูงสุด 6GB
- กล้องหลัง: 13MP +
- กล้องหน้า: 8MP
- แบต: 5,000mAh/ ชาร์จไว 10W
2. Infinix SMART 8: ราคา 2,999 บาท
โทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดรุ่นต่อมาของซีรีส์นี้เป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้า และได้รับความนิยมสูงอีกเช่นกัน จากสเปคและฟีเจอร์การใช้งานที่ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่เล่นได้ลื่น 90Hz และมี Magic Ring ในตัว มาพร้อมชิป Unisoc ที่ยังเอาไว้เล่นเกมไหว แต่เน้นใช้งานทั่วไปจะเหมาะกว่า ส่วนกล้องจะคล้ายๆ กับรุ่นใหม่ และมีแบตอึดใช้งานได้ทั้งวันแน่นอน สั่งซื้อที่ Infinix
- หน้าจอ: IPS LCD ความละเอียด HD+ (720×1612) กว้าง 6.6 นิ้ว/ Refresh Rate 90Hz
- ชิป: Unisoc T606 | RAM 4GB / ROM 128GB | ขยายแรมสูงสุด 8GB
- กล้องหลัง: 13MP + AI
- กล้องหน้า: 8MP
- แบต: 5,000mAh/ ชาร์จไว 10W
Infinix GT Series
1. Infinix GT 20 Pro 5G: ราคา 12,999 บาท
ปิดท้ายด้วยโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดรุ่นซีรีส์ใหม่ของ Infinix ที่ทำขึ้นมาเพื่อสาวกเกมเมอร์โดยเฉพาะ และเป็นรุ่นที่สนับสนุนลงแข่งใน RoV Pro League ปี 2024 ด้วย ตัวเครื่องด้านหลังมีการออกแบบเป็นการ Cyber Mecha พร้อมอินเทอร์เฟซ LED Mecha Loop และได้ชิปที่เร็วแรงสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ ทำให้การเล่นเกมนั้นลื่น ภาพออกมาสวยคมชัด เฟรมเรทเสถียร และระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีหน้าจอไร้ขอบเล่นลื่น 144Hz จอสว่างเล่นได้เต็มที่ ใครที่อยากได้มือถือเล่นเกมห้ามพลาดเลย สั่งซื้อที่ Infinix
- หน้าจอ: AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080×2436) กว้าง 6.78 นิ้ว/ Refresh Rate 144Hz/ สว่าง 1300nits
- ชิป: Dimensity 8200 Ultimate | RAM 12GB / ROM 256GB | ขยายแรมสูงสุด 24GB
- กล้องหลัง: 108MP + ชัดลึก 2MP + มาโคร 2MP
- กล้องหน้า: 32MP
- แบต: 5,000mAh/ ชาร์จไว 45W
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลการอัพเดทพร้อมรวมโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นใหม่ล่าสุดในปี 2024 ที่มีขายตอนนี้ทั้งหมด 13 รุ่น มาอัพเดทกันว่าตอนนี้มีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง ซึ่งรุ่นที่มีให้เลือกมากที่สุดเลยก็คือตัวซีรีส์ HOT เนื่องจากมีทั้งรุ่นเริ่มต้นและรุ่นสเปคกลางที่เข้าถึงได้หลายแบบ มีให้เลือกหลายสเปค หรือถ้าใครอยากได้รุ่นเริ่มต้นก็จะมีซีรีส์ SMART ให้เลือกซื้อ ส่วนใครอยากได้ตัวแรงและรุ่นจอพับต้องซีรีส์ ZERO ที่มีทั้งกล้องและความแรง หรือถ้าเน้นเล่นเกมก็จะมีตัว GT ให้เลือกซื้อในราคาเพียงหมื่นต้นๆ เท่านั้น
ภาพและข้อมูลจาก Infinix