รวมที่สุดของหูฟัง พร้อมชน Apple AirPods Max

แล้ว Apple ก็ได้สร้างความฉงนงงงวยจากความแปลกใหม่ให้เราได้ดูกันอีกแล้ว กับหูฟังตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Apple AirPods Max ที่รอบนี้มาเป็นหูฟังสไตล์ Headphones หรือแบบครอบหัวอันใหญ่เบิ้ม ซึ่งถ้าย้อนกลับไปช่วงเดือนตุลาคม ก็เริ่มสังเกตได้จากการที่ Apple ได้ถอดเอาหูฟังจากค่ายผู้ผลิตหูฟังสไตล์เดียวกันนี้ออกจากร้าน Apple Store ไปก่อนหน้านี้แล้ว และที่น่าแปลกใจมากกว่านั้น คือหูฟังรุ่นใหม่ตัวนี้ มาพร้อมกับราคาพรีเมี่ยมแบบสุด ๆ ที่ 19,900 บาท

Apple AirPods Max หูฟังไร้สายสไตล์ Headphones ตัวใหม่ล่าสุด พร้อมราคาค่าตัวสูดพรีเมียม

AirPods Max

ใครที่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดของหูฟังตัวนี้ ลองตามไปอ่านกันได้ที่ หูฟัง Apple AirPods Max เลย เราได้เขียนรายละเอียดเอาไว้แบบครบถ้วนสุด ๆ แล้ว

แต่นอกเหนือจากหูฟังตัวนี้ มีตัวเลือกอะไรอื่นในตลาดที่เทียบเคียงได้อีกบ้างล่ะ รวบรวมมาให้ดูกันแล้ว ลองตามมาดูกันได้เลย

Sony WH-1000XM4

H1

นี่นับได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ใคร ๆ ก็ต้องพูดถึงกันเป็นตัวแรก ๆ อย่างแน่นอน กับหูฟัง Headphones ครอบหัวขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน หรือ Noise-Canceling อย่างเดียวกันกับที่มีใน Apple AirPods Max ซึ่งตัวนี้เป็นรุ่นที่ทำออกมาก่อน และได้รับความนิยมดีมากทีเดียว พร้อมกับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนของ Sony ที่เคลมเอาไว้ว่าเป็น “ผู้นำในวงการ” เลยทีเดียว พร้อมระบบจับเมื่อถอดหูฟังออก เพลงจะหยุดเล่นโดยอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมแบบสัมผัสที่ด้านข้างบริเวณฝาครอบหู และระบบช่วยเหลืออัจฉริยะ

ยังมีระบบ Adaptive Sound Control ที่ชนกับระบบ Adaptive EQ ของ AirPods Max ตรง ๆ ได้เลย โดยใช้ระบบ AI วิเคราะห์แนวเพลง แล้วทำการปรับแต่งเสียง EQ ให้เข้ากับแนวเพลงนั้น ๆ เพิ่มความสนุกในการรับฟังบทเพลงให้มากขึ้น เพิ่มประสบการณ์ใหม่ในการฟังเพลง

ด้านระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องนั้นอยู่ที่ 30 ชั่วโมง ซึ่งนานกว่า AirPods Max ถึง 10 ชั่วโมงทีเดียว มาพร้อมระบบชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 10 นาที แต่สามารถใช้ฟังเพลงได้นานต่อเนื่องถึง 5 ชั่วโมง ซึ่งอันนี้ถือเป็นจุดเด่นที่เหนือ AirPods Max อย่างชัดเจน ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 11,990 บาท

Bose Noise Cancelling Headphones 700

H3

ตัวเลือกอีกตัวที่จะไม่พูดไม่ได้อย่างแน่นอน กับแบรนด์จาก Bose ค่ายผู้ผลิตลำโพง และหูฟังชั้นนำของวงการ กับรุ่น 700 ตัวยอดฮิต มาพร้อมไมโครโฟนจำนวน 4 ตัว สามารถช่วยตัดเสียงรบกวน Noise-Cancelation ได้ถึง 11 ระดับ พร้อมระบบผู้ช่วย Alexa และ Google Assistant มาให้ในตัว ตามด้วยระบบ Active EQ ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงให้ไพเราะเสนาะหูมากยิ่งขึ้น และระบบควบคุมแบบสัมผัส

Bose Noise Cancelling Headphones 700 ตัวนี้มีระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องจากแบตเตอรี่สูงสุดที่ 20 ชั่วโมง เท่ากันกับ AirPods Max แต่เรื่องของดีไซน์ภายนอกนั้นจะแตกต่างกัน อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวของแต่ละคน ส่วนราคาค่าตัวนั้น อยู่ที่ 15,900 บาท

Bowers & Wilkins PX7

H4

ถ้าหากคุณมองหาหูฟังที่จะให้ประสบการณ์ด้านการฟังเพลงที่แตกต่างออกไป ขอแนะนำให้ได้ลองสัมผัสกับ Bowers & Wilkins PX7 ตัวนี้ ชื่อยี่ห้อนั้น อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูใครหลายคนสักเท่าไหร่ แต่นี่คือแบรนด์จากวิศวกรชาวอังกฤษ ที่ใส่ใจรังสรรค์หูฟังชั้นเยี่ยมตัวนี้ขึ้นมา เป็นหูฟังที่ออกแบบ และผลิตขึ้นมาเพื่อ Abbey Road Studio สถานที่ของวงดนตรีในตำนานอย่าง The Beatles ใช้อัดเพลงหลายเพลงที่นั่นเลยทีเดียว

สไตล์การออกแบบของหูฟังตัวนี้ค่อนข้างที่จะไปทางโมเดิร์นมากทีเดียว และเทคโนโลยีที่ใส่มาให้ก็มีไม่น้อย ตั้งแต่ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Adaptive Noise Cancelation ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับว่าเราสวมหูฟังแล้วหรือยัง ระบบรับเสียงภายนอกรอบตัวเข้ามาให้เราได้ยิน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานบนท้องถนน หรือสำหรับใช้คุยสนทนากับผู้คนรอบตัว โดยที่ไม่จำเป็นต้องถอดหูฟังออกมาแต่อย่างใด

ประสิทธิภาพในการทำงานก็ดีเยี่ยม ด้วยระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องจากแบตเตอรี่ได้สูงสุดถึง 30 ชั่วโมง ระบบชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็เล่นเพลงได้นานถึง 6 ชั่วโมง ส่วนราคาจำหน่ายนั้น อยู่ที่ 16,900 บาท

Beats Studio3 Wireless

H2

ถือเป็นหูฟังคู่แข่งร่วมบริษัทแม่เดียวกัน ใช่แล้ว Beats นั้นถูก Apple ซื้อกิจการไปพักใหญ่ ๆ แล้ว นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมหูฟังตัวนี้ ถึงมีการใช้ชิป Apple W1 ภายในด้วย ถ้าใครเอามาใช้กับ iPhone, iPad หรือ Mac ก็สบายใจหายห่วงได้เลย เพราะว่าเชื่อมต่อได้รวดเร็ว และเสถียรอย่างแน่นอน

ตัวหูมีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Adaptive Noise Canceling ที่ดีเยี่ยม มีระบบปรับแต่ง EQ เสียงตามรูปแบบของเพลงคล้ายกันกับ Adaptive EQ ใน AirPods Max สามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้นานสูงสุดที่ 22 ชั่วโมง มีระบบชาร์จเร็ว 10 นาที สามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 12,500 บาท

Master & Dynamic MW65

H6

มาพบกับ MW65 จาก Master & Dynamic ที่เห็นแล้วก็ต้องบอกเลยว่า สไตล์เรโทรจ๋ามาก ๆ นี่คือหูฟังที่ใส่ความปราณีตในแบบของงานศิลป์ยุคก่อนเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นงานหนังแกะที่เนี๊ยบ การเย็บเก็บรายละเอียดที่เนียนกริบ ผสมผสานกับเนื้ออลูมิเนียมอโนไดซ์สีเงินที่สวยงาม พร้อมน้ำหนักที่เบาเพียง 245 กรัมเท่านั้น ยังมีส่วนของดอกลำโพง Beryllium Driver ที่ทำมาเฉพาะขนาด 40 มิลลิเมตร เพื่อมอบเสียงที่คมชัดใส ทรงพลังสู่หูของคุณ และแน่นอนว่าจะขาดไปไม่ได้ กับระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Canceling ด้วย

ระยะความไกลในการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สาย Bluetooth ก็ทำได้น่าประทับใจมากทีเดียว เพราะได้ไกลกว่า 20 เมตรเลยทีเดียว ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องก็ดีเยี่ยม สูงสุด 24 ชั่วโมง สามารถชาร์จ 15 นาที เพื่อเล่นเพลงได้ต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง ส่วนราคาค่าตัวนั้น อาจจะไม่ถูกสักเท่าไหร่ เพราะอยู่ที่ 17,900 บาท แต่ก็ยังถูกกว่า AirPods Max กว่า 2,000 บาท และก็ได้ความเนี๊ยบมากมายอย่างที่ได้บอกไป

Bang & Olufsen Beoplay H9

H5

มาถึงแบรนด์ Bang & Olufsen สุดหรู ที่มีดีไซน์ไม่เคยหยุดสร้างความประหลาดใจให้เราเลยสักครั้ง แถมยังเป็นแบรนด์ยอดนิยมในหมู่นักฟังเพลงที่ซีเรียสเรื่องเสียงมาก ๆ อีกด้วย พร้อมประสบการณ์ในการผลิต และออกแบบ ลำโพง เครื่องเสียงมานานถึงเกือบ 100 ปี และนี่คือหูฟังรุ่น Beoplay H9 ที่นับว่าเป็นที่สุดของหูฟังไร้สายตัวนึงในท้องตลาด มีระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelation มีระบบควบคุมแบบสัมผัส และปุ่มพิเศษสำหรับเรียกใช้งานระบบผู้ช่วยเสียง

งานประกอบของหูฟังตัวนี้นั้น เรียกว่าคมกริบในทุกมิติ ถือเป็นงานระดับพรีเมียมหรูหราที่สุดเลยจริง ๆ แถมยังมีงานหนังชั้นดีที่แถบคาดหัวอีกด้วย พร้อมความนุ่มสบายในการสวมจากเนื้อโฟมเมมโมรี ความหนานุ่มที่โอบรัดใบหู และแผ่นอลูมิเนียมอโนไดซ์ทรงกลมที่ฝาครอบหู ให้ความหรูหราลงตัวไม่ว่าจะมองจากมุมไหนจริง ๆ การชาร์จไฟจนเต็มนั้นใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมงครึ่ง สามารถเล่นได้ต่อเนื่องสูงสุดที่ 25 ชั่วโมง ราคาค่าตัวอยู่ที่ 20,500 บาท แพงกว่า AirPods Max อยู่ 600 บาท

Razer Opus

H7

มาปิดท้ายแบบย้ายสายกันหน่อย กับแบรนด์ Razer ที่เป็นแบรนด์อุปกรณ์สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ มาในโทนสีดำสนิท ถือเป็นหูฟังที่ตั้งใจชนกับ Sony WH-1000XM3 และ Bose QuietComfort 35 II แต่มีจุดเด่นที่เหนือกว่า นั่นคือเรื่องของราคา ที่อยู่เพียง 7,590 บาทเท่านั้น

มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation ที่เหนือชั้นกว่าปกติ โดยใช้ชื่อเรียกว่า Hybrid ANC สามารถตัดเสียงพูดของมนุษย์ เสียงการจราจร และเสียงรบกวนต่าง ๆ ภายนอกโดยใช้ไมโครโฟนจากทั้งภายใน และภายนอกตัวหูฟัง หูฟังตัวนี้ยังได้รับการรับรองจาก THX ที่มั่นใจได้ถึงคุณภาพเสียงอันทรงพลังอย่างแน่นอน

ส่วนแบตเตอรี่นั้น สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 25 ชั่วโมง

ที่มา: Phone Arena

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก