ราคา iPhone 5s ในประเทศไทย (ราคา Apple Store Online)
จากการที่ Apple เปิดตัว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ออกมา ทำให้ราคากลาง iPhone 5s เครื่องศูนย์ไทยจาก Apple Store Online ทั้งสามสี (ราคาเท่ากัน) ปรับลดลงมาเหลือดังต่อไปนี้
- iPhone 5s 16 GB ราคา 19,900 บาท
- iPhone 5s 32 GB ราคา 21,900 บาท
ราคา iPhone 5s จากทั้ง Apple, AIS, dtac และ Truemove H เครื่องศูนย์ไทย
ราคา iPhone 5s AIS และโปรโมชันแพ็กเกจล่าสุด (15/7/57)
โปรโมชันแพ็กเกจสำหรับ iPhone 5s ของ AIS ก็จะมีให้เลือกหลายขนาด ตามความต้องการใช้งาน ใช้ชื่อเรียกแพ็กเกจที่เข้าใจง่ายคือตัว S M L และ XL ซึ่งถ้าต้องการใช้งาน 3G แบบไม่จำกัดปริมาณก็ต้องเริ่มใช้ที่แพ็กเกจ M 370 บาทเป็นอย่างต่ำ (FUP 64 Kbps) ซึ่งถ้าเน้นใช้งานเบาๆ เล่น Facebook นิดๆ หน่อยๆ ใช้งานกับ WiFi ซะมากกว่า แพ็กเกจ S ก็น่าสนใจดี แถมได้ใช้งานฟรีในช่วง 6 เดือนหลังอีกด้วย
ส่วนถ้าต้องการเน้นใช้เน็ต 3G จริงจัง ก็จะมีแพ็กเกจพิเศษออกมาคือ iPack 499 บาท ที่แต่เดิมราคา 999 แต่ได้ลดค่าแพ็กเกจ 50% เหลือ 499 บาทนาน 18 เดือน ได้ค่าโทร 300 นาทีและได้ 3G ความเร็วสูงสุด 3 GB (FUP 64 Kbps) โดยทุกแพ็กเกจจะได้ AIS WiFi ไม่จำกัดทั้งหมดด้วย ซึ่งถ้าใครไม่ค่อยได้ส่ง SMS และ MMS อยู่แล้ว แพ็กเกจ iPack สำหรับ iPhone 5s ตัวนี้ก็น่าสนใจครับ คุ้มอยู่
ราคา iPhone 5s dtac และโปรโมชันแพ็กเกจล่าสุด (15/7/57)
สำหรับโปรโมชันราคา iPhone 5s จาก dtac ก็จะมีให้เลือกทั้งเครื่องพร้อมแพ็กเกจและเครื่องเปล่าเช่นเดียวกัน สำหรับการผ่อนก็สามารถผ่อน 0% นานถึง 20 เดือนได้ด้วยบัตร Citibank เท่านั้น ส่วนบัตรอื่นๆ จะเป็น 0% นานสุด 10 เดือน
แพ็กเกจกลุ่มแรกที่น่าสนใจของการซื้อ iPhone 5s จาก dtac ก็คือแพ็กเกจ 4G ที่ทุกแพ็กเกจจะมาพร้อมราคาลด 50% จากราคาปกติ ได้ใช้งาน 4G/3G/EDGE ความเร็วสูงสุดได้เต็มที่อย่างต่ำๆ ก็ 3 GB ในแพ็กเกจ 399 และ 499 บาท ส่วนแพ็กเกจ 599 ก็จัดไปเต็มๆ เลย 4 GB ซึ่งความเร็วเต็มที่จะอยู่ที่ 42 Mbps ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ว่ามีคลื่นใดบ้าง เพราะจะใช้โควต้ารวมกันทั้ง 4G/3G/EDGE เลย ส่วนถ้าใช้งานครบตามปริมาณที่กำหนดไว้ ก็จะปรับความเร็ว (ติด FUP) ลงมาเหลือความเร็วแค่ 384 Kbps ซึ่งก็ถือว่าสูงเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับ FUP ของโปรอื่น ค่ายอื่น ส่วนค่าส่วนเกินอื่นๆ ก็เท่ากันทั้งสามแพ็กเกจ
สำหรับแพ็กเกจ 4G นี้ แพ็กเกจ 399 จัดว่าคุ้มมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเน้นใช้งานเน็ตมือถือบน iPhone 5s เพราะถึงแม้จะติด FUP ก็ยังได้ความเร็วถึง 384 Kbps แต่ถ้าอยากได้ค่าโทรเพิ่ม ก็คงต้องอัพราคาเพิ่มอีก 100 กว่าบาท เพื่อได้ค่าโทรเพิ่ม 200 นาที (โปร 499)
ส่วนแพ็กเกจ iPhone ตามปกติก็ตามในตารางด้านบนครับ โดยจะเป็นแพ็กเกจที่มาพร้อม SMS และ MMS ฟรีตามโควต้าที่กำหนดมาด้วย เรื่องของค่าโทรและเน็ตจะได้น้อยกว่าแพ็กเกจ 4G มากพอตัว แต่จะได้โปรโมชั่นพิเศษคือฟรีค่าบริการรายเดือนนาน 6 เดือน ส่วนเน็ต 3G แบบไม่จำกัด เมื่อใช้งานความเร็วสูงสุดครบตามโควต้าที่กำหนดมาแล้ว จะถูกปรับความเร็วสูงสุดลงเหลือแค่ 128 kbps เท่านั้น
สำหรับแพ็กเกจที่น่าจะได้รับความสนใจสุดคงหนีไม่พ้น iPhone M 499 เพราะได้ค่าโทรและเน็ต 3G ที่กำลังพอดีๆ ต่อการใช้งานทั่วไป ทั้งยังได้ฟรีค่ารายเดือนตั้ง 6 เดือน (รวมแล้วประมาณ 9,610 บาท) แต่ถ้าคิดว่าไม่น่าจะได้ใช้ SMS/MMS ก็แนะนำว่าไปเลือกแพ็กเกจ 499 ของ 4G จะดีกว่าครับ ได้เน็ต ได้ค่าโทร ได้ FUP สูงกว่า แถมมีสัญญาแค่ 12 เดือนด้วย (รวมแล้วประมาณ 6,407 บาท)
ราคา iPhone 5s Truemove H และโปรโมชันแพ็กเกจล่าสุด (15/7/57)
ด้านแพ็กเกจราคา iPhone 5s จากทรูมูฟเอช ทุกแพ็กเกจจะพ่วงส่วนลดบริการเสริม 4G LTE มาให้ทั้งหมด คือเป็นการยกเว้นค่าบริการเพิ่มเติม 99 บาททุกแพ็กเกจ ทำให้สามารถใช้งานเน็ตมือถือได้ความเร็วสูงสุด 100 Mbps ขึ้นอยู่กับสัญญาณในแต่ละพื้นที่ ซึ่งแพ็กเกจที่ดูคุ้มสุดก็คือกลุ่มแรกครับ อย่างแพ็กเกจ M จ่ายแค่ 389 บาท (ไม่รวม vat) ต่อเดือนเป็นจำนวน 18 เดือน ส่วน 6 เดือนที่เหลือก็ใช้กันฟรีๆ ไปเลย ได้ 4G/3G/EDGE/GPRS ไม่จำกัด ใช้งานเต็มความเร็วได้ 3 GB เมื่อใช้เกินก็จะถูกปรับความเร็วลงมาเหลือ 64 Kbps กับ True WiFi ได้แค่ 20 ชั่วโมง (ตายตรง FUP กับ WiFi นี่เอง) แต่ถ้าอยากได้ค่าโทร, SMS และ MMS เพิ่มก็จ่ายเพิ่มอีก 150 บาทไปเป็นแพ็กเกจ L ที่จ่ายเดือนละ 539 บาท (ไม่รวม vat) ทั้งยังได้ True WiFi ไม่จำกัดด้วย
ส่วนแพ็กเกจที่ได้ FUP เยอะสุดก็คือแพ็กเกจ Smart Plus 999 ที่ได้ FUP 384 Kbps ได้ค่าโทร 300 นาที
ดูแล้ว กลุ่มแพ็กเกจที่คุ้มที่สุดก็คือกลุ่มแพ็กเกจ 4G ด้านบนสุดนั่นล่ะครับ แพ็กเกจ M นี่เรียกว่ากำลังดีเลย จ่ายประมาณ 400 บาทต่อเดือน ได้เน็ตความเร็วสูงสุด 3 GB ได้ค่าโทรมาพอสมควร
คลิปสรุปการเปิดตัว iPhone 5s
ส่วนด้านของสเปค iPhone 5s ก็ตามนี้ครับ
สเปค iPhone 5s
- ชิปประมวลผล Apple A7?ซึ่งเป็นชิปสำหรับสมาร์ทโฟนตัวแรกที่รองรับการประมวลผลแบบ 64-bit (แต่ก็ยังใช้ทุกแอพบน App Store ได้เหมือนเดิม)
- แรม 1 GB
- หน้าจอขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 1136 x 640 Retina Display 326 ppi
- ตัวเครื่องหนา 7.6 มิลลิเมตร หนัก 112 กรัม
- ฝาหลังเป็นอะลูมิเนียมเช่นเดียวกับ iPhone 5
- กล้องหลัง (iSight) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 รองรับการถ่ายวิดีโอได้ความละเอียด 1080p
- กล้องหน้า (FaceTime) ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้ 720p
- ใช้นาโนซิม รองรับ 3G ทุกเครือข่าย รองรับ 4G LTE ด้วย
- มาพร้อม iOS 7
- รองรับ Siri
- มีให้เลือก 3 สีคือเทา-ดำ (Space Grey), สีทองและสีขาว-เงิน ไม่มีสีดำแบบ iPhone 5 อีกแล้ว
- สเปค iPhone 5s เต็มๆ
จุดเด่นของ iPhone 5s
- มาพร้อมชิปประมวลผล Apple A7 ซึ่งเป็นชิปสำหรับสมาร์ทโฟนตัวแรกที่รองรับการประมวลผลแบบ 64-bit
- iPhone 5s เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่ทำงานในระบบ 64-bit เต็มรูปแบบ ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์อย่าง iOS 7 (แต่ก็ยังใช้งานแอพทุกตัวบน App Store ได้ตามปกติ)
- iPhone 5s จะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้นกว่า iPhone 5 สองเท่า และดีกว่า iPhone รุ่นแรกถึง 40 เท่า ส่วนด้านกราฟิกก็จะดีกว่า iPhone รุ่นแรกถึง 56 เท่า
- รองรับ OpenGL 3.0 ทำให้กราฟิกของเกมดูสวยสมจริงขึ้น
- ติดตั้งชิปช่วยประมวลผลชื่อว่า M7 ซึ่งใช้สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหวจาก Accelerometer, Gyroscope และเข็มทิศในเครื่อง เพื่อลดการทำงานของชิปหลักอย่าง A7 ลง ทำให้ระบบโดยรวมกินไฟน้อยลง
- ตัวเครื่องบาง 7.6 มิลลิเมตรเท่า iPhone 5
- หนัก 112 กรัมเท่า iPhone 5
- จอขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 1136 x 640 เท่า iPhone 5
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่า iPhone 5 เล็กน้อย
- รองรับ 3G ทุกเครือข่าย รองรับ 4G LTE ในไทยแน่นอน
- ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้ปุ่มโฮม ใช้ชื่อว่า Touch ID ผิวปุ่มโฮมใช้กระจก Sapphire กันรอยขีดข่วน
- สามารถวางนิ้วทิศทางใดก็ได้ หน้าที่ของ Touch ID คือสามารถใช้ปลดล็อกเครื่อง ใช้แทนรหัสผ่านสำหรับซื้อแอพ ซื้อเพลง และอาจจะรองรับแอพอื่นเพิ่มในอนาคต ทำให้ไม่ต้องมานั่งกดรหัสผ่านอีกต่อไป
- กล้องหลังใช้เซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 15% มาพร้อมเลนส์รูรับแสงกว้างขึ้นเป็น f/2.2 รับแสงได้ไวขึ้น 33% ช่วยให้ภาพถ่ายสวยขึ้น สว่างขึ้น แม้จะความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่าเดิม
- มาพร้อมแฟลชคู่ (True Tone) ที่ยิงแสงแฟลชคนละอุณหภูมิสีออกมาแบบอัตโนมัติ ใช้ได้กับแสงกว่าพันรูปแบบ เพื่อให้ภาพในที่มืดสวยยิ่งขึ้น
- สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่เฟรมเรตสูงถึง 120 fps ที่ความละเอียด 720p (สามารถถ่ายสโลว์โมชันได้)
- มีให้เลือก 3 สี คือ เทา-ดำ (Space Grey), สีทองและสีขาว-เงิน ไม่มีสีดำแบบ iPhone 5 อีกแล้ว
คลิปแนะนำ iPhone 5s
เจาะฟีเจอร์เด่นของ iPhone 5s
ชิปประมวลผล
iPhone 5s มาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Apple A7 ที่มีพลังในการประมวลผลมากกว่าชิปรุ่นเดิม โดยถ้าเทียบแล้วจะเป็นดังนี้
- iPhone 5s แรงกว่า iPhone 5 สองเท่า
- iPhone 5s แรงกว่า iPhone รุ่นแรกถึง 20 เท่า
- ด้านกราฟิก แรงกว่า iPhone รุ่นแรกถึง 56 เท่า
โดยนอกเหนือจากด้านของความแรงแล้ว ชิป A7 ใน iPhone 5s ยังมาพร้อมคุณสมบัติสำหรับชิปประมวลผลยุคใหม่ นั่นคือความสามารถในการประมวลผลชุดคำสั่งแบบ 64-bit ได้เป็นครั้งแรกในสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต ทำให้ iPhone 5s กลายเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่สามารถทำงานในสถาปัตยกรรมระดับ 64-bit ได้ (ที่ได้รับการเปิดตัว เตรียมวางขายจริงอย่างเป็นทางการ) เทียบเคียงกับคอมพิวเตอร์พีซี?ซึ่งประโยชน์หลักๆ ของการประมวลผลแบบ 64-bit ก็คือความสามารถในการรับส่งข้อมูล การประมวลผลข้อมูลต่อหนึ่งรอบคำสั่งที่มากขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมสูงขึ้นกว่าเดิมพอสมควร
ซึ่งการจะใช้งานระบบ 64-bit นั้น จำเป็นจะต้องรองรับเกื้อหนุนกันทั้งฝั่งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในงานนี้ Apple จึงได้ฤกษ์ประกาศว่า iOS 7 ที่จะเปิดให้ใช้งานเต็มรูปแบบในวันที่ 18 กันยายนเป็นต้นไปนี้ รองรับการทำงานแบบ 64-bit ในตัว พร้อมทั้งสามารถรันแอพได้ทั้ง 32-bit ในปัจจุบัน และ 64-bit ที่จะค่อยๆ ได้รับการเปลี่ยนถ่ายต่อไปในอนาคต ส่วนทูลสำหรับเขียนแอพ iOS อย่าง Xcode เองก็ได้รับการอัพเดตให้สามารถเขียนแอพ 64-bit ได้แล้วเช่นกันครับ
*** iPhone 5s สามารถใช้งานได้ทุกแอพบน App Store ตามปกติ ***
ชิปประมวลผลเสริม (Coprocessor)
นอกเหนือจากจะมีชิปตัวใหม่อย่าง Apple A7 แล้ว ใน iPhone 5s ก็ยังมีชิปประมวลผลเสริมมาให้อีก 1 ตัว นั่นคือชิปที่มีชื่อว่า M7 ที่เข้ามาจัดการในส่วนของการจับการเคลื่อนไหว (Motion) โดยเฉพาะ นั่นคือจะรับหน้าที่ประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์จำพวก Accelerometer, Gyroscope และ เข็มทิศดิจิตอลในตัว เพื่อลดการทำงานของ A7 ลง (ส่งผลให้กินแบตโดยรวมน้อยลงด้วย)
ซึ่งการที่ชิป M7 ถูกออกแบบมาให้มีหน้าที่เฉพาะ ทำให้มันสามารถจับและประมวลผลข้อมูลการเคลื่อนไหวได้แม่นยำกว่าชิปประมวลผลหลักอีกด้วย ตัวอย่างสถานการณ์ที่ชิป M7 ทำงานก็เช่นการสลับการนำทางของ Maps จากการขับรถไปเป็นการเดิม เมื่อมันตรวจจับว่าเรากำลังเดินอยู่ หรือระหว่างที่เราขับรถ ระบบก็จะตัดการทำงานของ Wi-Fi ไม่ให้พยายามจับสัญญาณที่เจอ เพื่อลดการกินแบตเตอรี่ลง
Touch ID
เรียกง่ายๆ ว่ามันก็คือปุ่มโฮมที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้ามา ตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้นั่นเองครับ โดยตัวเซ็นเซอร์จะถูกฝังเอาไว้ใต้ปุ่มโฮมเลย การใช้งานก็ง่ายมาก เพียงแค่วางนิ้วแตะลงไปบนปุ่มโฮมเท่านั้นเอง สามารถวางนิ้วในทิศทางองศาใดก็ได้ ซึ่งก่อนจะใช้งานได้ ก็จำเป็นจะต้องเก็บข้อมูลลายนิ้วมือของเราด้วยการสแกนเข้าไปเก็บไว้ในเครื่องก่อน โดยสามารถเก็บลายนิ้วมือได้หลายแบบ ประโยชน์ของ Touch ID ก็คือการใช้แทนรหัสผ่านยืนยันตัวตน ซึ่งในขณะนี้สามารถใช้งานได้ในรูปแบบดังนี้
- ใช้ปลดล็อกหน้าจอแทนรหัสผ่านปกติ
- ใช้แทนรหัสผ่านสำหรับการซื้อเพลงจาก iTunes หรือซื้อแอพจาก App Store
- อาจจะรองรับแอพอื่นๆ จากผู้ผลิตแอพแบบ 3rd party ในอนาคต
ซึ่งเรื่องความแม่นยำ Apple ก็โฆษณาว่าระบบการอ่านลายนิ้วมือของ Touch ID ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี สามารถอ่านและเก็บข้อมูลลายนิ้วมือได้อย่างละเอียดกว่าที่เคยมีมาในอุปกรณ์สแกนลายนิ้วมือของเครื่องอื่นๆ อีกทั้งยังใช้ส่วนประมวลผลเฉพาะที่ฝังไว้ในชิป Apple A7 อีก ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็ว ใช้งานได้ง่าย และจะทำให้ระบบนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นระบบหลักในอนาคต
ฮาร์ดแวร์กล้องที่ดีขึ้น
และแล้ว Apple ก็ไม่ได้ดันให้ความละเอียดกล้องสูงขึ้นจาก 8 ล้านพิกเซลไปเป็น 13 ล้านพิกเซลอย่างที่ลือครับ แต่หันมาให้ความสนใจในด้านการปรับฮาร์ดแวร์ภายในแทน โดยใน iPhone 5s จะใช้เซ็นเซอร์รับภาพของกล้องหลังที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจากใน iPhone 5 ราว 15% ขนาดเม็ดพิกเซลใหญ่ขึ้นเป็น 1.5 ไมครอน ที่ Apple ใช้คำโฆษณาแบบชัดๆ เลยว่า ยิ่งเม็ดพิกเซลใหญ่ขึ้น ก็ยิ่งทำให้ภาพถ่ายมีคุณภาพดีขึ้น ด้านของชุดเลนส์ก็ใช้ด้วยกัน 5 ชิ้น เพิ่มความกว้างรูรับแสงเป็น f/2.2 จากใน iPhone 5 ที่ใช้เพียง f/2.4
ซึ่งจากฮาร์ดแวร์โดยรวมแล้ว ก็น่าจะทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพดีขึ้น ในความละเอียดภาพ 8 ล้านพิกเซลเท่าเดิม
แฟลช True Tone
นับว่าเป็นอีกเรื่องที่มีการลือมาระยะหนึ่ง สำหรับข่าวที่ว่า iPhone 5s จะมาพร้อมแฟลช LED แบบคู่ ซึ่งก็มาจริงตามข่าวครับ ในชื่อว่า True Tone โดยแฟลชคู่ที่ติดตั้งมาใน iPhone 5s จะเป็นหลอด LED ที่ให้แสงสว่างอุณหภูมิสีไม่เท่ากัน เพื่อให้สามารถชดเชยโทนแสงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมมากที่สุดแบบอัตโนมัติ ซึ่ง Apple เคลมว่าสามารถใช้งานได้กับสภาพแวดล้อมแสงไม่ต่ำกว่า 1,000 รูปแบบเลยทีเดียว โดยหลักๆ แล้วจะช่วยให้สีโทนผิวเวลาถ่ายรูปในที่มีแสงน้อยออกมาได้ดีขึ้น เป็นธรรมชาติมากขึ้น นับว่าเป็นการแก้ไขจุดบกพร่องของ iPhone ด้านการถ่ายรูปในที่มีแสงน้อยไปได้พอสมควรเลย
โหมดการถ่ายรูป/วิดีโอ
iPhone 5s มีโหมดการถ่ายรูปและวิดีโอเข้ามาใหม่ 2 โหมดด้วยกัน ได้แก่
- โหมด Burst-shot สำหรับถ่ายภาพรัว สามารถถ่ายได้ 10 ภาพต่อวินาที
- โหมดถ่าย Slow Motion ซึ่งสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 720p ที่เฟรมเรต 120 fps โดยผู้ใช้สามารถมาเลือกได้เองว่าจะให้ส่วนไหนของวิดีโอเป็นภาพแบบ slow motion
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเรื่องการแก้ไขปัญหาภาพสั่นขณะถ่ายรูปอีกด้วย โดยระบบจะทำการเก็บภาพอย่างรวดเร็ว 4 ภาพ จากนั้นก็นำทั้ง 4 ภาพมาตัดต่อเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ไขอาการสั่นไหว สีและความสว่างเพื่อให้ภาพออกมาดูดีที่สุด
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก iPhone 5s
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่
เรื่องของระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ คงต้องรอดูรีวิว iPhone 5s จริงๆ อีกทีครับ ว่าจะใช้ได้นานขนาดไหน ซึ่งทาง Apple เคลมว่าสามารถใช้งานได้นานกว่า iPhone 5 นะ
แอพฟรี
ในการเปิดตัว iPhone 5s และ iPhone 5C ครั้งนี้ Apple ยังประกาศอีกด้วยว่าจะแจกแอพของตนอย่าง iPhoto, iMovie, Keynote, Numbers และ Pages บน iOS ให้ฟรี แต่สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ iOS 7 ที่เปิด activate ใช้งานครั้งแรกหลังวันที่ 1 กันยายนเท่านั้น เท่ากับว่าใครซื้อ iPhone 5s, iPhone 5C หรือจะเป็นเครื่องรุ่นอื่นๆ ที่ใช้งาน iOS 7 ได้ และเปิด activate เพื่อใช้งานครั้งแรกหลังวันที่ 1 กันยายนเป็นต้นมา ก็จะได้แอพทั้ง 5 ตัวข้างต้นไปฟรีๆ เลย
นอกจากนี้ยังมีเคสหนังเตรียมออกมาวางจำหน่ายคู่กับ iPhone 5s ด้วย ในราคา $39 ต่อชิ้น แปลงเป็นเงินไทยแล้วก็เกือบๆ 1,200 บาท
Hands-on และพรีวิว iPhone 5s >>>?คลิกเข้าไปชมได้จากที่นี่?<<<
คราวนี้เรามาดูหน้าตา iPhone 5s กันบ้าง