ในที่สุดสมาร์ทโฟนที่ทุกคนรอคอยอย่าง iPhone 5 ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยเที่ยวนี้ก็ใช้ชื่อว่า ‘?iPhone 5? เเทนที่ ?The new iPhone? เพราะว่ามีการคาดว่าจะเป็นชื่อที่เปลี่ยนไปใหม่ในโทนเดียวกับ ?The new iPad? นั่นเอง ส่วนสเปคนั้นก็ตรงกับข้อมูลที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้หลายประการดังนี้ครับ
- ตัวประมวลผล Apple A6 เร็วกว่าเดิมสองเท่าทั้ง CPU เเละ GPU
- หน้าจอขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 1136 x 640 พิกเซล 326 PPI เท่า iPhone 4S
- รวมเซนเซอร์สัมผัสเข้าไปในหน้าจอกระจกโดยตรง จึงไม่มีเลเยอร์ซ้อนทำให้หน้าจอเเสดงสีได้ดีขึ้น 44%?
- ขนาด 123.8 x 58.6 x 7.6 มิลลิเมตร บางกว่า iPhone 4S 18%
- หนัก 112 กรัม ตัวเครื่องเบาลงกว่า iPhone 4S 20%
- ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมเเละกระจกเหมือนเดิม
- รองรับ LTE ความเร็วสูงสุด 100 Mbps
- Wi-Fi 802.11 b/g/n เเบบ Dual Band (ใช้ได้ทั้งย่าน 2.4 GHz เเละ 5 GHz)
- Bluetooth 4.0
- กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล iSight ค่า f/2.4 เเละเลนส์ 5 ชิ้นเเบบ BSI ขนาดเล็กลงกว่ารุ่นที่เเล้ว 25% ถ่ายรูปได้เร็วขึ้น 40% ลด Noise เเละถ่ายรูปในที่เเสงน้อยได้ดีกว่าเดิม (ใช้ชิป Apple A6 ช่วยเพราะทำหน้าที่เป็น Image Signal Processing)
- เพิ่มโหมด Panorama ถ่ายได้ความละเอียดสูงสุด 28 ล้านพิกเซล (ฟีเจอร์ใน iOS 6)
- กล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล Facetime ได้เเบบ HD มี Backside illumnination Sensor ทำให้ถ่ายรูปหรืออัดวีดีโอในที่เเสงน้อยได้ดีขึ้นเหมือนกล้องหลัง
- Facetime ใน iOS 6 สามารถใช้ผ่าน 3G ได้เเล้ว (เเต่เดิมใช้ได้เเต่ Wi-Fi)
- วีดีโอความละเอียด 1080p เท่าเดิม มีระบบกันสั่น, Face Detection เเละถ่ายรูปได้ในขณะที่อัดวีดีโอ
- ไม่รองรับ NFC อย่างที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้า
- ระบบนำทางผ่านดาวเทียมด้วย GPS เเละ GLONASS
- ดีไซน์เเบบทูโทน เหมือนกับที่หลุดมาก่อนหน้า
- วางจำหน่าย 2 สี ขาวเเละดำเหมือนเดิม
คราวนี้เรามาดูรายละเอียดในแต่ละส่วนกัน
จอภาพ
ก็เป็นไปตามที่มีข่าวลือมาก่อนหน้านี้ว่า iPhone 5 จะมาพร้อมกับจอที่ยาวขึ้น มีขนาดโดยรวมแล้วคือ 4 นิ้วแต่ยังคงความเป็น Retina Display ไว้อยู่ นั่นคือการใช้เป็นความละเอียด 1136 x 640 อัตราส่วนจอเปลี่ยนจากเดิมที่เป็น 3:2 มาเป็น 16:9 โดยมีค่า PPI (ความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลต่อตารางนิ้ว) เท่ากับ 326 PPI อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตจอเป็นแบบ In-Cell ซึ่งเป็นการรวมส่วนรับสัมผัสจากผู้ใช้เข้าไปไว้ในเนื้อจอ ส่งผลให้จอมีขนาดบางลงกว่าเดิม ช่วยให้จอสามารถแสดงสีสันได้ดีขึ้น เนื่องมาจากไม่ต้องมีเลเยอร์มาซ้อนกันหลายๆ ชั้นอย่างที่เคยมีมาก่อนหน้านี้
?
ตัวเครื่อง
เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญมากที่สุด ด้วยความคาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง และคงไม่เป็นไปตามข่าวลือ/ภาพหลุดที่มีออกมาเป็นระยะๆ แต่ล่าสุดก็พบว่าเป็นไปตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ตัวเครื่อง iPhone 5 ออกมาเป็นสีทูโทน เปลี่ยนบอดี้ส่วนฝาหลังของเครื่องส่วนใหญ่เป็นอะลูมิเนียมขัด โครงสร้างวัสดุภายนอกเป็นแบบ unibody ทั้งรุ่นสีดำและสีขาว รวมไปถึงการเปลี่ยนตำแหน่งแจ็คหูฟังลงมาไว้ด้านล่างของตัวเครื่อง อีกทั้งมีความบางกว่า iPhone 4S อยู่ 18% ซึ่งจุดนี้ Apple ภูมิใจนำเสนอค่อนข้างมาก ในแง่ความบางของตัวเครื่อง ส่วนน้ำหนักก็เพียงแค่ 112 กรัมเท่านั้น
ด้านของเรื่องเสียงก็มีการปรับปรุงด้วยเช่นกัน ที่เห็นได้ชัดก็เช่นหน้าตาของช่องลำโพงด้านล่างตัวเครื่องที่ภายในประกอบด้วยแม่เหล็ก 5 ชิ้น ให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นแบบ Wide Band Audio?รวมไปถึงไมค์ที่มีมาถึง 3 ชุด เพื่อเพิ่มความสามารถในการตัดเสียงรบกวน และช่วยให้รับเสียงจากการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลังให้ได้ดียิ่งขึ้น
รองรับ 4G LTE
ในข้อนี้อาจจะไม่เห็นผลกับผู้ใช้ในไทยเท่าไร แต่ในหลายๆ ประเทศน่าจะเป็นหัวข้อสำคัญเลยทีเดียว สำหรับเรื่องการรองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE เนื่องด้วยความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูงกว่า 3G ในปัจจุบันนี้มาก และถือว่าเป็นเครือข่ายแห่งอนาคต ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่มีการพูดถึงกันมานานแล้วว่า iPhone 5 น่าจะรองรับ 4G LTE
?
ใช้ nano SIM
เนื่องมาจากขนาดตัวเครื่อง iPhone 5 ที่บางลงจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างภายใน โดยหนึ่งส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงก็คือเรื่องซิมการ์ด ที่มีการเปลี่ยนไปใช้เป็น nano SIM ที่ขนาดเล็กและบางกว่าเดิม ทำให้ผู้ที่ใช้ micro SIM อยู่แล้วไม่สามารถนำซิมเดิมของตนไปตัดได้อีก เพราะต้องทำให้ซิมมีขนาดบางลง ซึ่งในกรณีนี้ก็ต้องไปขอซิมใหม่จากผู้ให้บริการแต่เพียงอย่างเดียว
?
กล้องถ่ายรูป
ตัวกล้องยังคงที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกับ iPhone 4S โครงสร้างภายในใช้ชิ้นเลนส์ 5 ชิ้นเหมือนเดิม แต่มีการออกแบบให้บางลงกว่าเดิม รวมไปถึงมีการเปลี่ยนกระจกครอบด้านหน้า ซึ่ง Apple เคลมว่าจะช่วยให้ภาพที่ถ่ายออกมาดีกว่าเดิมพอสมควร ในประเด็นเรื่องของความเร็วนั้นจะสามารถถ่ายได้เร็วขึ้น 40% เนื่องจากความสามารถของชิป Apple A6 ที่เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องการถ่ายวิดีโอนั้น ก็รองรับที่ความละเอียด 1080p และสามารถถ่ายภาพในขณะที่กำลังถ่ายวิดีโออยู่ได้เลยด้วย โดยตัวอย่างภาพที่ได้จากกล้องของ iPhone 5 ก็ตามภาพด้านล่างนี้
ส่วนฟีเจอร์การถ่ายภาพแบบพาโนรามาของ iOS 6 นั้นก็กลายมาเป็นฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้จริงแล้วอย่างเป็นทางการ หลังเคยแอบใส่มาใน iOS 5 แล้วแต่ไม่สามารถใช้งานได้
?
ชิปประมวลผล Apple A6
ก็เป็นไปตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ คือจะใช้ชิปประมวลผลเป็น Apple A6 ซึ่งถึงแม้จะเป็นชิปแบบ dual-core แต่ก็เป็น dual-core ที่ใช้สถาปัตยกรรม Cortex-A15 ที่ถือว่าล้ำหน้ากว่าชิปประมวลผลหลายๆ ตัวในปัจจุบันไปหนึ่งเจ็น ทั้งในด้านของพลังประมวลผลที่สูงกว่า เรื่องการประมวลผลกราฟิกที่ดีขึ้นกว่าเดิม หรือจะเป็นเรื่องของการใช้พลังงานที่ต่ำลงกว่าปัจจุบัน ทำให้น่าสนใจว่า iPhone 5 จะกินแบตน้อยกว่าหรือเท่าๆ กับ iPhone 4S ที่มีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่หมดเร็ว ซึ่งตัวชิป Apple A6 ใน iPhone 5 นี้ ถือว่าเป็นชิปในสถาปัตยกรรม Cortex-A15 ตัวแรกๆ ที่ลงสู่ตลาดเลยทีเดียว
?
พอร์ท Lighting
เป็นพอร์ทที่ใช้โอนถ่ายข้อมูลเเละชาร์จไฟเข้า iPhone 5 ที่มาเเทนพอร์ท 30 พินเดิม โดยมีจุดเด่นที่ Apple เคลมว่าทนทานขึ้นเเละตัวพอร์ทนั้นมีขนาดเล็กลง แต่ทั้งนี้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลก็ยังคงเป็น USB 2.0 อยู่เช่นเคย สำหรับใครที่ใช้สายเก่าอยู่ก็มีอเเดปเตอร์เเปลงจาก 30 พินไปเป็นพอร์ท Lighting (8 พิน) ประมาณ 1 พันบาทครับ
?
หูฟัง EarPods
ส่วนของหูฟังแถมนั้นก็มีการเปลี่ยนรูปทรงใหม่ ซึ่ง Apple ให้ข้อมูลว่าสามารถส่งเสียงเข้าสู่หูได้โดยตรงกว่าหูฟังรุ่นเก่าด้วย ซึ่งในจุดนี้ก็คงต้องลองใช้งานของจริงดูอีกทีหนึ่ง โดยในชุดที่แถมมากับ iPhone 5 จะมีไมค์ติดมาด้วย
?
กำหนดวางจำหน่าย
วางจำหน่ายล็อตเเรก วันที่ 21 กันยายน คือ อเมริกา เเคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันนี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์? เเต่ไม่มีรายชื่อประเทศไทย ดังนั้นถ้าใครจะใช้ก่อนก็เป็นเครื่องนอกเท่านั้นครับ โดยไทยน่าจะเป็นประเทศล็อตหลังๆ เหมือนเดิม ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม
?
ราคา
ราคาทั้งสามรุ่นเเบบติดสัญญาสองปีนั้นเท่าเดิม คือ 199, 299, 399 ดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นราคา ?น่าจะ? เท่ากับ iPhone 4S
ส่วนใครที่คิดว่ายังไม่อยากได้ iPhone 5 เท่าไร ขณะนี้ iPhone 4S และ iPhone 4 ถูกปรับราคาลงมาเรียบร้อยแล้ว โดยราคาของ Apple Store ไทยก็มีดังนี้
กล้องต่างกับ iPhone 4S เเค่ไหน
ตามโครงสร้างของฮาร์ดเเวร์นั้นสเปคกล้อง ?ไม่ต่าง? กับ iPhone 4S เเต่ว่ามี Apple A6 ช่วยประมวลผลภาพที่ Apple บอกว่าจะช่วยทำให้ถ่ายในที่เเสงน้อยเเละลดสัญญาณรบกวนของภาพได้ดีขึ้น
ส่วนการอัดวีดีโอนั้นก็ทำได้เท่าเดิมคือ 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที เเต่ว่าสามารถ่ายรูปในขณะอัดวีดีโอ เเละมี Face Detection เพิ่มขึ้นมา โดยได้มาจากตัว Apple A6 ช่วย
ปิดท้ายด้วยวิดิโอสรุปของ iPhone 5 กันนะครับ เชิญรับชมได้เลย