หลังจากที่เปิดตัว vivo X300 Series ไปเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาในประเทศจีน ตอนนี้ก็ดูเหมือนว่า vivo จะเตรียมเปิดตัวซีรีส์ใหม่ล่าสุดคือ vivo S50 Series โดยมีรายงานว่าซีรีส์ S ใหม่นี้คาดว่าจะเปิดตัวในประเทศจีนภายในเดือนหน้า หรือเดือนพฤศจิกายน และก่อนจะถึงวันเปิดตัวที่คาดไว้ ก็มีข้อมูลหลุดจาก Digital Chat Station แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ มีการเผยรายละเอียดสเปคของ vivo S50 และ vivo S50 Pro Mini ออกมาแล้ว
ส่วนรุ่นที่วางขายในไทยจะเป็นซีรีย์ก่อนหน้าคือ vivo X200 5G ราคา 29,999 บาท (Shopee) และ vivo X200 FE ราคา 24,999 บาท (Shopee/ Lazada)
เผยสเปค vivo S50, S50 Pro Mini
ตามข้อมูลที่หลุดออกมาจาก DCS ระบุว่า ซีรีส์ vivo S50 Series จะมีขนาดหน้าจอที่ต่างกัน โดยรุ่นมาตรฐาน vivo S50 คาดว่าจะมาพร้อมกับหน้าจอแบนขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด 1.5K พร้อมกับกรอบโลหะ และจะมีกล้อง Telephoto Periscope ที่ระบุว่าใช้เซ็นเซอร์ขนาดกลางที่มีคุณภาพระดับเรือธง ถือเป็นการอัปเกรดครั้งใหม่ในด้านการถ่ายภาพซูม
ในขณะเดียวกันรุ่น vivo S50 Pro Mini จะเป็นรุ่นที่มีขนาดกะทัดรัด โดยมาพร้อมกับหน้าจอแบนขนาด 6.31 นิ้ว ความละเอียด 1.5K เช่นกัน แต่เนื่องจากเป็นรุ่น Pro จึงคาดว่าจะมีตัวกล้องระดับสูงกว่า นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าทั้งสองรุ่นอาจมีกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 50MP ที่จะช่วยยกระดับการถ่ายภาพเซลฟี่ให้คมชัดยิ่งขึ้น
หลังจากที่มีโพสท์บน weibo แล้ว ก็มีคนมาคอมเมนต์ต่อ และสอบถามถึงชิปที่ใช้ใน vivo S50 Series ทาง DCS ได้บอกว่าเป็นชิปเรือธงที่สามารถทำคะแนน AnTuTu ได้สูงถึง 3 ล้านคะแนน สำหรับรุ่น Pro ซึ่งตามข่าวลือก่อนหน้านี้ ชิปดังกล่าวอาจเป็น Dimensity 9400 ที่เคยใช้ใน vivo X200 Series ในปีก่อน
นอกจากนี้รุ่น S50 Pro Mini ยังอาจมาพร้อมกับชุดกล้องหลังสามตัวพร้อมกล้อง Periscope และมีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือบนหน้าจอแบบอัลตราโซนิก ที่มีความแม่นยำสูงด้วย
ที่น่าสนใจก็คือ vivo ได้ตัดสินใจข้าม S40 Series ไป เพราะว่าเลข 4 ถือเป็นเลขไม่ค่อยดีในจีน ทำให้ข้ามไปถึงหน้าสู่ S50 Series ไปแทน การเปิดตัวครั้งนี้คาดว่าจะเป็นการแข่งขันโดยตรงกับคู่แข่งอย่าง OPPO Reno 15 และ HONOR 500 Series ที่มีกำหนดการเปิดตัวในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน รวมถึงรุ่นมินิอื่นๆ ที่เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า vivo กำลังพัฒนา vivo X300 FE สำหรับตลาดโลก โดยคาดว่าจะเป็นรุ่นรีแบรนด์ของ S50 Pro Mini สำหรับการวางขายนอกประเทศจีน ก็เป็นไปตามกลยุทธ์เดียวกับรุ่นก่อนอย่าง vivo S30 Pro Mini ที่ถูกนำไปรีแบรนด์เป็น vivo X200 FE ในตลาดโลกด้วยนั่นเอง
ที่มา: gizmochina
