ในการแข่งขันกันของชิปประมวลผลระดับเรือธง MediaTek ได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะคู่แข่งที่ทำได้ดีมาโดยตลอด เมื่อเทียบกับอีกค่ายอย่าง Snapdragon 8 Elite Gen 5 (ดูการเปรียบเทียบ) ซึ่งการมาถึงของ Dimensity 9500 ก็เป็นการตอกย้ำความแรงอีกครั้ง เพราะชิปตัวใหม่ล่าสุดนี้มีการอัปเกรดจากรุ่น Dimensity 9400 ที่ดีขึ้นหลายอย่าง ทั้ง CPU, GPU, AI (NPU), การจัดการกล้อง และการเชื่อมต่อที่ล้ำหน้ายิ่งขึ้น ไปดูกันว่าระหว่าง Dimensity 9500 vs Dimensity 9400 รุ่นใหม่กับรุ่นเก่าอัปเกรดอะไรไปบ้าง และจะเร็วแรงกว่าเดิมแค่ไหน
สถาปัตยกรรมและกระบวนการผลิตที่เหนือชั้น
จุดสำคัญของ Dimensity 9500 คือการเปลี่ยนไปใช้กระบวนการผลิตที่ใหม่กว่า TSMC ในระดับ 3 นาโนเมตร (N3P) ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจาก N3E ที่ใช้ใน Dimensity 9400 ซึ่งการปรับปรุงนี้ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น และความร้อนที่น้อยลง แม้จะทำงานหนักแค่ไหนก็ตาม
ในส่วนของหน่วยประมวล CPU ทาง MediaTek ได้นำสถาปัตยกรรม “All Big Core” รุ่นที่สามมาใช้ โดยเปลี่ยนจากแกน Cortex ของ ARM ที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้า มาเป็นแกนประมวลผล C1-series รุ่นใหม่ล่าสุดทั้งหมด ประกอบด้วย 1x C1-Ultra ความเร็วสูงสุด 4.21 GHz, 3x C1-Premium ความเร็ว 3.5 GHz และ 4x C1-Pro ความเร็ว 2.7 GHz การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานแบบแกนเดี่ยว (Single-core) และหลายแกน (Multi-core) ทำคะแนนออกมาได้สูงขึ้นอย่างชัดเจน
โดยชิป C1 Series รุ่นล่าสุดนี้มีประสิทธิภาพการทำงานแบบ Single Core เพิ่มขึ้น 32% และประสิทธิภาพการทำงานแบบ Multi Core เพิ่มขึ้นอีก 17% และที่น่าสนใจก็คือในหน่วย Ultra Core ยังลดการใช้พลังงานลงถึง 55% ที่ประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการใช้พลังงานลง 37% ที่การใช้งาน CPU สูงสุดอีกด้วย
ผลการทดสอบ (Benchmark) ที่ต่างกันเยอะมากๆ


จากผลการทดสอบบนแอป Geekbench 6 และ AnTuTu ยอดนิยมก็ได้ยืนยันถึงความแรงที่เพิ่มขึ้นของ Dimensity 9500 vs Dimensity 9400 ว่าต่างจากรุ่นก่อนหน้ามากแค่ไหน โดยการทดสอบนี้ มาจากคะแนนการทดสอบที่หลุดออกมาของ vivo X300 Pro ที่ใช้ชิป Dimensity 9500 และจาก vivo X200 Pro ที่ใช้ชิป Dimensity 9400
Dimensity 9500 Dimensity 9400 คะแนน Geekbench 6 Single-Core 3,177 2,681 Multi-Core 9,701 7,752 คะแนน AnTuTu ผลคะแนน 4,011,932 2,541,756 CPU 1,043,247 591,239 GPU 1,510,982 1,144,638 Memory 667,254 411,334 UX 790,449 394,544
- Geekbench 6: จากการทดสอบ CPU พบว่า Dimensity 9500 ทำคะแนน Single-core ได้สูงกว่า Dimensity 9400 ถึง 18% และในส่วนของ Multi-core ก็ทำคะแนนทิ้งห่างไปถึง 25% แสดงให้เห็นถึงพลังประมวลผลที่เหนือกว่ารอบด้าน
- AnTuTu: การทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม ซึ่ง Dimensity 9500 ทำคะแนนรวมไปได้สูงกว่า 4 ล้านคะแนน ซึ่งสูงกว่า Dimensity 9400 ถึง 57% โดยมีคะแนน CPU เพิ่มขึ้นถึง 76%, GPU เพิ่มขึ้น 32%, หน่วยความจำ (Memory) เพิ่มขึ้น 62% รวมถึง UX ที่เพิ่มขึ้นถึง 100% เลยทีเดียว
- (หมายเหตุ: คะแนนของ Dimensity 9400 มาจากการทดสอบบน AnTuTu v10 ในขณะที่ Dimensity 9500 ทดสอบบน v11 ที่อาจทำให้คะแนนดูต่างกันเยอะด้วยส่วนหนึ่ง แต่เรื่องความแรงกว่ายังไงรุ่นใหม่ก็ชนะ)
ตารางเปรียบเทียบสเปคชิป Dimensity 9500 vs Dimensity 9400
Dimensity 9500 | Dimensity 9400 | |
วันเปิดตัว | ปลายกันยายน 2025 | ตุลาคม 2024 |
สถาปัตยกรรม | 3 นาโนเมตร (N3P) | 3 นาโนเมตร (N3E) |
แกน CPU | 8-core แบบ All Big Core 1 x 4.21 GHz – C1-Ultra 3 x 3.5 GHz – C1-Premium 4 x 2.7 GHz – C1-Pro | 8-core 1 x 3.62 GHz – Cortex-X925 3 x 3.3 GHz – Cortex-X4 4 x 2.4 GHz – Cortex-A720 |
GPU | Mali-G1 Ultra MP12 | Mali-G925 Immortalis MP12 |
NPU | MediaTek NPU 990 | MediaTek NPU 890 |
RAM | LPDDR5X, สูงสุด 5.3 GHz | LPDDR5X, สูงสุด 5.3 GHz |
Storage | UFS 4.1 | UFS 4.0 |
กล้อง | MediaTek Imagiq 1190 ISP สูงสุด 320MP บันทึกวิดีโอ 8K และ 4K/120fps (EIS) | MediaTek Imagiq 1090 ISP สูงสุด 320MP บันทึกวิดีโอ 8K |
การเชื่อมต่อ | 3GPP Release-17 5G modem เร็วสุด 7.4 Gbps Wi-Fi 7 (เร็วสุด 7.3 Gbps) Bluetooth 6.0 | 3GPP Release-17 5G modem เร็วสุด 7 Gbps Wi-Fi 7 (เร็วสุด 7.3 Gbps) Bluetooth 6.0 |


การยกระดับการอัปเกรดใหม่ในทุกด้าน
สำหรับการเปรียบเทียบ Dimensity 9500 vs Dimensity 9400 ยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกอย่างการเล่นเกมที่ Dimensity 9500 มาพร้อมกับ GPU รุ่นใหม่อย่าง Mali-G1 Ultra แบบ 12 คอร์ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และยังรองรับการเล่นเกมพร้อมเปิด Ray Tracing ที่เฟรมเรตสูงถึง 120 FPS เป็นรุ่นแรก
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี HyperEngine Gaming และรองรับ MegaLights กับ Nanite ใน Unreal Engine ที่ให้การเล่นเกมสมจริงและลื่นไหลมากที่สุด รวมถึงการรองรับ Vulkan Raytracing Pipeline และการผสานรวม Unreal Engine 5.5+ เข้าด้วยกันเป็นฟีเจอร์ใหม่เจ้าแรกในตลาดอีกด้วย
ในด้าน AI ก็ได้รับการอัปเกรดด้วย MediaTek NPU 990 ที่เพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผล AI เป็นสองเท่า ทำให้การทำงานต่างๆ เช่น การประมวลผลภาพถ่าย, การสั่งงานด้วยเสียง และฟีเจอร์อัจฉริยะอื่นๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
การอัปเกรดด้านอื่นๆ ระหว่าง Dimensity 9500 vs Dimensity 9400
- หน่วยความจำและที่เก็บข้อมูล: รองรับหน่วยความจำแบบ LPDDR5X เช่นเดิม แต่ได้อัปเกรดมาตรฐานที่เก็บข้อมูลเป็น UFS 4.1 แบบ 4-lane ซึ่งให้ความเร็วในการอ่าน และเขียนข้อมูลสูงขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับ UFS 4.0
- กล้อง: ยังมีความเอียดสูงสุด 320MP เท่าเดิม แต่ใช้หน่วยประมวลผลสัญญาณภาพ (ISP) รุ่นใหม่ MediaTek Imagiq 1190 ที่มีแบนด์วิดท์สูงขึ้นและค่าความหน่วงต่ำลง รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 120fps พร้อมระบบกันสั่น (EIS) และวิดีโอระดับภาพยนตร์ที่ 4K/60fps
- การเชื่อมต่อ: มาพร้อมโมเด็ม 5G มาตรฐาน 3GPP Release-17 ความเร็วเพิ่มขึ้น รองรับ Wi-Fi 7 โดยมีการปรับปรุงให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น 10 – 20% ตามลำดับ และลดค่าความหน่วงลงถึง 50% ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ AI ช่วยจัดการได้แม่นยำขึ้น 20%
มือถือที่ใช้ชิป MediaTek Dimensity 9400 (และ 9400+)
- vivo X200 Series
- OPPO Find X8 Series
- Xiaomi 15T Series
- Redmi K80 Ultra
- OnePlus Ace 5 Ultra
- realme GT 7
มือถือที่ใช้ชิป MediaTek Dimensity 9500
- OPPO Find X9 Series: ถือเป็นซีรีส์แรกๆ ที่ได้ใช้งานชิป Dimensity 9500 อย่างเป็นทางการ โดยมีกำหนดเปิดตัวในประเทศจีนช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้
- vivo X300 Series: เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เรือธงที่ยืนยันแล้วว่าจะใช้ชิป Dimensity 9500 และมีกำหนดเปิดตัวตามมาติดๆ ในช่วงเดือนตุลาคมเช่นกัน
คาดว่าหลังจากนี้จะมีแบรนด์อื่นๆ ทยอยเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Dimensity 9500 ตามออกมาอีกหลายรุ่นในช่วงปลายปี 2025 ไปจนถึงต้นปี 2026 ครับ
โดยสรุประหว่าง Dimensity 9500 vs Dimensity 9400 ตัวใหม่อย่าง Dimensity 9500 คือการพัฒนาแบบก้าวกระโดดจาก Dimensity 9400 ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นพลังการประมวลผล และประสิทธิภาพกราฟิกที่ตอบโจทย์เกมเมอร์ โดยมีความสามารถด้าน AI ที่ฉลาดขึ้น และการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งมอบความเร็วแรง และการใช้งานที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่จะมาถึงนี้ได้อย่างแท้จริง
ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดและรูปภาพจาก: gizmochina