ปี 2025 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของวงการแท็บเล็ต เพราะผู้ใช้เริ่มมองหาอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ครบทั้งการทำงาน การเรียน และความบันเทิงได้ในเครื่องเดียว โดยเฉพาะในยุค Work from Anywhere ที่แท็บเล็ตไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์เสริมอีกต่อไป แต่กลายเป็นเครื่องมือหลักที่ทำให้ชีวิตง่าย คล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ผลิตชั้นนำยังเดินหน้าผลักดันเทคโนโลยีระดับเรือธงให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่ากว่าที่เคย และวันนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 3 แท็บเล็ต AI ตัวจริง ที่มาพร้อมจุดเด่นหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว

1. HONOR Pad 10
เมื่อพูดถึงความคุ้มค่าในตลาดแท็บเล็ต HONOR Pad 10 คือหนึ่งในรุ่นที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 12,490 บาท แต่ให้ประสบการณ์ที่เหนือกว่า มาพร้อมอุปกรณ์เสริมระดับพรีเมียมทั้ง HONOR Magic Keyboard และ Magic Pencil ที่เปลี่ยนการใช้งานแท็บเล็ตให้ครบครัน ทั้งการพิมพ์งานและการจดบันทึกเอกสารต่างๆ เหมือนมีพีซีพกพาไปกับคุณ
สิ่งที่ทำให้แท็บเล็ตรุ่นนี้โดดเด่นคือการผสาน AI อัจฉริยะ ที่เข้ามาช่วยจัดการงานต่าง ๆ ได้อย่างชาญฉลาดและคล่องตัว ครอบคลุมทั้งการทำงาน การเรียน และความบันเทิงในชีวิตประจำวัน เช่นการจัดระเบียบเอกสารต่างๆ ใน Advance AI Notes ไปจนถึงการทำงาน ลากไฟล์ และแชร์หน้าจอข้ามอุปกรณ์ด้วยฟีเจอร์อย่าง Magic Ring ด้านการแสดงผล HONOR Pad 10 มาพร้อมหน้าจอถนอมสายตาขนาดใหญ่ 12.1 นิ้ว ความละเอียด 2.5K ที่ให้ภาพคมชัด สีสันสมจริง และมอบประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือแม้แต่การเรียนออนไลน์ได้อย่างเต็มอรรถรส นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 3 รองรับ 5G พร้อมให้ใช้งานการโทรอย่างไหลลื่น และทำให้การเชื่อมต่อรวดเร็วทันใจ เล่นเกมหรือทำงานแบบมัลติทาสก์ก็ลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมแบตเตอรี่ทรงพลัง 10,100mAh ที่รองรับการใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน ลดปัญหาการชาร์จบ่อย ๆ
ในด้านดีไซน์ ตัวเครื่องถูกออกแบบให้ บางเบา หรูหรา และแข็งแรงด้วยวัสดุเกรดเรือธง น้ำหนักพกพาสบาย ใช้งานสะดวกทั้งในบ้าน คาเฟ่ หรือแม้แต่ระหว่างการเดินทาง ทุกองค์ประกอบสะท้อนความใส่ใจในรายละเอียด เพื่อผู้ใช้ที่มองหาความสมบูรณ์แบบทั้งฟังก์ชันและสไตล์ ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันเหล่านี้ ทำให้ HONOR Pad 10 เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการแท็บเล็ตที่ทั้งคุ้มค่า ฟังก์ชันครบ และมอบประสบการณ์เหนือระดับในทุกมิติ เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่ “ทำงานได้ทุกที่ สนุกได้ทุกเวลา” วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ HONOR Experience Store ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honor.com/th

2. Huawei MatePad 11.5 (2025)
Huawei MatePad 11.5 (2025) กำลังปฏิวัติความคิดเรื่องหน้าจอแท็บเล็ตด้วย PaperMatte Display ที่เลียนแบบผิวสัมผัสของกระดาษจริง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ใช้งาน คุณจะสัมผัสได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่แท็บเล็ตทั่วไป แต่คือ “กระดาษดิจิทัลที่มีชีวิต” มาพร้อมหน้าจอถนอมสายตา 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การอ่านหนังสือ เอกสาร และการทำงานมากกว่าหน้าจอแบบดั้งเดิม ทั้งยังโดดเด่นด้วย Refresh Rate 144Hz แบบ Adaptive ที่ปรับอัตโนมัติระหว่าง 30Hz ถึง 144Hz ตามเนื้อหาที่แสดงผล นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการเคลือบพิเศษ ลดแสงสะท้อนมากกว่า 90% พร้อมรองรับการแสดงผลสี 16.7 ล้านสี เหมาะสำหรับงานกราฟิก การออกแบบ และคอนเทนต์ที่ต้องการความแม่นยำของสี
ในด้านประสิทธิภาพ Huawei MatePad 11.5 (2025) มาพร้อมชิปเซ็ต Kirin 8002 ให้พลังเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป งานประมวลผลภาพ และการเล่นเกมระดับกลาง ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 4.2 ที่พัฒนาโดย Huawei ชูจุดเด่นด้านความเรียบง่ายและการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ใน Ecosystem ของ Huawei ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์เสริม การซิงค์ข้อมูลและทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ Huawei MatePad 11.5 (2025) จึงถูกยกให้เป็นแท็บเล็ตที่ครบทั้งการอ่าน ทำงาน และความบันเทิง ในราคาเข้าถึงง่าย ด้วยราคา 12,990 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.consumer.huawei.com

3. Xiaomi Pad 7
ปิดท้ายด้วย Xiaomi Pad 7 ที่ชูจุดเด่นด้วยหน้าจอ 11.2 นิ้ว ความละเอียด 3.2K ให้ความคมชัดเหนือระดับ ด้วยความหนาแน่นพิกเซลสูง 309 PPI ทำให้ตัวอักษร รูปภาพ และวิดีโอดูสมจริง รองรับ Refresh Rate 144Hz สำหรับการเล่นเกมหรือเลื่อนเนื้อหาอย่างลื่นไหล พร้อม Dolby Vision + HDR10 และระบบเสียง Dolby Atmos จากลำโพง 4 ตัว ให้ประสบการณ์ชมภาพยนตร์และฟังเพลงเหมือนโรงภาพยนตร์ในบ้าน
ด้านประสิทธิภาพใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 7+ Gen 3 ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm+ ให้ความแรงใกล้เคียง Snapdragon 8 Gen 1 แต่ใช้พลังงานน้อยกว่า นอกจากนี้ Xiaomi Pad 7 มาพร้อม HyperOS 2 ระบบปฏิบัติการใหม่ต่อยอดจาก MIUI เน้นความเรียบง่าย รวดเร็ว และประหยัดพลังงาน อินเทอร์เฟซทันสมัย ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ Xiaomi HyperAI ช่วยประชุมออนไลน์ แปลภาษา และจัดการงานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก โดยรุ่นนี้ยังมาพร้อม แบตเตอรี่ 8,840mAh ให้การใช้งานประมาณ 8–10 ชั่วโมง และรองรับ ชาร์จเร็ว 45W จาก 0–100% ในเวลาเพียง 1.5 ชั่วโมง ทำให้ Xiaomi Pad 7 เป็นแท็บเล็ตที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่ต้องการทั้งความแรง จอใหญ่ และราคาคุ้มค่า เริ่มต้นเพียง 10,990 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mi.com
ปีนี้เรียกได้เลยว่าเป็นปีแห่งโอกาสของผู้บริโภคในตลาดแท็บเล็ต เพราะการแข่งขันที่ดุเดือดจากหลาย แบรนด์ชั้นนำทำให้ไม่ว่าคุณจะเลือกแท็บเล็ตรุ่นใดจาก 4 รุ่นที่เราแนะนำ ก็มั่นใจได้ว่าจะได้รับทั้งประสิทธิภาพ ฟีเจอร์ และความคุ้มค่าที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างแน่นอน เพราะแท็บเล็ตเหล่านี้พร้อมเป็นผู้ช่วยที่เติมเต็ม ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะใช้เพื่อการเรียน การทำงาน การสร้างสรรค์ผลงาน หรือการผ่อนคลายกับความบันเทิง ทำให้การเลือกแท็บเล็ตในวันนี้จึงไม่ใช่แค่การซื้ออุปกรณ์ไอที แต่คือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกวัน เพราะแท็บเล็ตที่ใช่…ไม่ใช่แค่ทำงานได้ดี แต่ต้องทำให้ชีวิตคุณสะดวกสบายและมีความสุขมากกว่าเดิม