Infinix เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Hot 60 Series อย่างเป็นทางการ มีสองรุ่นคือ Infinix Hot 60 Pro และ Hot 60 Pro+ ซึ่งทั้งคู่มาพร้อมดีไซน์ที่บางเฉียบ แต่รุ่นท็อปสุดจะมีความบางมากกว่า แต่ทั้งสองรุ่นนี้ก็สเปคที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลย นอกจากความบางแล้วยังมีแบตอึด หน้าจอใหญ่ 6.78 นิ้วเล่นได้ลื่น 144Hz ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้เปิดตัว Infinix Hot 60i ออกมาแล้ว และค่อยมีรุ่นโปรเปิดตัวตามมา ไปดูกันว่ามีสเปคเป็นยังไงบ้างทั้งสองรุ่นนี้
สเปค Infinix Hot 60 Pro+
สำหรับรุ่น Infinix Hot 60 Pro+ จะเป็นรุ่นที่บางสุดในซีรีส์ ที่มีความบางเพียง 5.95 มิลลิเมตร ถือว่าบางเป็นรองจาก Galaxy S25 Edge ที่บาง 5.8 มิลลิเมตร นิดเดียวเท่านั้น แต่ก็มีน้ำหนักที่เบากว่าเพียง 155 กรัม ตัวเครื่องมีกรอบอะลูมิเนียม และด้านหลังเป็นนาโนไฟเบอร์ พร้อมหน้าจอที่ปกป้องด้วย Gorilla Glass 7i นอกจากนี้ยังสามารถสแกนลายนิ้วมือที่ใต้จอได่ด้วย
ทางด้านหน้าจอ Infinix Hot 60 Pro+ รุ่นนี้มีหน้าจอโค้งแบบ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ รีเฟรชเรท 144Hz ใช้ชิปเซ็ต Helio G200 ของ MediaTek มาพร้อม RAM 8GB และความจุ 128/256GB ทำงานบนระบบ Infinix XOS 15.1.1 พื้นฐาน Android 15 พร้อมกับ Infinix AI เต็มรูปแบบ
ตัวกล้องหลังจะมีกล้องหลักความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ IMX882 และเลนส์เสริมอีกสองตัวที่ยังไม่บอกรายละเอียดออกมา ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 13MP และมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,160mAh รองรับการชาร์จเร็ว 45W ซึ่งเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันเยอะพอสมควรเลย
ทั้งนี้ราคาของรุ่นนี้ยังไมได้เปิดออกมา แต่เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในไนจีเรียแล้ว คาดว่าจะเริ่มจัดส่งในวันที่ 14 กรกฎาคม 2025 นี้ มีให้เลือกมากถึง 6 สีได้แก่สีชมพู (Coral Tides), สีม่วง (Misty Violet), สีเขียว (Cyber Green), สีเหลือง (Sonic Yellow), สีเงิน (Titanium Silver) และสีดำ (Sleek Black) ที่เป็นสีเรียบๆ สองสีหลัง ส่วนสีแรกๆ จะเป็นเหลือบๆ สะท้อนแสง และมีลวดลาย
สเปค Infinix Hot 60 Pro
ทางด้านของ Infinix Hot 60 Pro จะเป็นรุ่นกรอบแบนและมีจอแบนด้วย มีขนาดหนากว่ารุ่นพลัสนิดหน่อยที่ 6.6 มม. สเปคหลักคล้ายๆ กับรุ่น Infinix Hot 60 Pro+ รวมถึงหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับรีเฟรชเรทได้ 144Hz
นอกจากนี้ยังมีชิป Helio G200 เหมือนกันกับรุ่นพลัส และมี RAM 8GB กับความจุให้เลือกสองรุ่นคือ 128GB และ 256GB แต่ว่ารุ่นนี้จะมีช่องใส่การ์ด microSD สำหรับเพิ่มความจุได้ด้วย ต่างจากรุ่นพลัสที่ไม่มีช่องนี้ พร้อมทำงานบนระบบเดียวกัน Infinix XOS 15.1.1 บนพื้นฐาน Android 15
มีกล้องหลัก 50MP กับกล้องหน้า 13MP เช่นกัน ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 5,160mAh พร้อมชาร์จไว 45W โดยรุ่นนี้มีสีสันให้เลือกทั้งหมด 6 สีเช่นกัน ได้แก่สีชมพู (Coral Tides), สีฟ้า (Sapphire Blue), สีเขียว (Jungle Breath), สีส้ม (Orange Rose), สีดำ (Sleek Black) และสีเงิน (Titanium Silver) และก็แน่นอนว่ารุ่นนี้ก็ยังไม่ได้เปิดเผยราคา และรายละเอียดการวางจำหน่ายออกมาด้วย
