ตอนนี้ นักพัฒนาสามารถเข้าถึง Foundation Model บนอุปกรณ์ของ Apple Intelligence เพื่อใช้ขับเคลื่อนประสบการณ์อัจฉริยะที่เป็นส่วนตัวในแอป

คูเปอร์ติโน, แคลิฟอร์เนีย วันนี้ Apple ประกาศคุณสมบัติใหม่ๆ ของ Apple Intelligence ที่จะยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ทั่วทั้ง iPhone, iPad, Mac, Apple Watch และ Apple Vision Pro Apple Intelligence ปลดล็อควิธีใหม่ๆ สำหรับผู้ใช้ในการสื่อสาร อีกทั้งยังมาพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ เช่น Live Translation การทำสิ่งต่างๆ ที่อยู่บนหน้าจอของพวกเขาได้มากยิ่งขึ้นด้วยการอัปเดตระบบอัจฉริยะด้านภาพ และสื่อความเป็นตัวเองด้วย Image Playground และ Genmoji ที่พัฒนายิ่งขึ้น1 นอกจากนี้ คำสั่งลัดยังสามารถใช้งาน Apple Intelligence ได้โดยตรง และนักพัฒนาจะสามารถเข้าถึงโมเดลภาษาขนาดใหญ่บนอุปกรณ์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Apple Intelligence มอบการเข้าถึงระบบอัจฉริยะโดยตรงให้กับพวกเขาที่ทั้งทรงพลัง รวดเร็ว สร้างด้วยความคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว และใช้งานได้แม้ผู้ใช้จะออฟไลน์อยู่ก็ตาม คุณสมบัติ Apple Intelligence เหล่านี้พร้อมให้ทดสอบแล้วตั้งแต่วันนี้ และจะเปิดให้ผู้ใช้ที่มีอุปกรณ์ที่รองรับซึ่งตั้งค่าเป็นภาษาที่รองรับภายในปลายปีนี้
“ในปีที่แล้ว เราได้เริ่มต้นนำระบบอัจฉริยะที่มีประโยชน์ มีความเกี่ยวข้อง ใช้งานได้ง่าย และใช้ได้ทันทีที่ต้องการมาให้กับผู้ใช้ พร้อมกับปกป้องความเป็นส่วนตัวไปด้วย โมเดลเจเนอเรทีฟที่มีความสามารถและทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นที่ขับเคลื่อนคุณสมบัติต่างๆ ของ Apple Intelligence ในส่วนต่างๆ ของแต่ละระบบปฏิบัติการของเรา” Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของ Apple กล่าว “เรายังดำเนินไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดดด้วยการเปิดให้นักพัฒนาเข้าถึง Foundation Model ขนาดใหญ่บนอุปกรณ์ที่ขับเคลื่อน Apple Intelligence ทำให้พวกเขาสามารถเข้าใช้ระบบอัจฉริยะที่ทั้งทรงพลัง รวดเร็ว มาพร้อมกับความเป็นส่วนตัว และสามารถใช้งานได้แม้ผู้ใช้จะออฟไลน์อยู่ก็ตาม เราคิดว่าสิ่งนี้จะสร้างกระแสการใช้งานระบบอัจฉริยะครั้งใหม่ในแอปที่ผู้ใช้ต้องพึ่งพาในชีวิตประจำวัน เรารอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นว่านักพัฒนาจะสร้างอะไร”
คุณสมบัติต่างๆ ของ Apple Intelligence จะมีให้ใช้งานในอีก 8 ภาษาภายในปีนี้ ได้แก่ ภาษาเดนมาร์ก, ดัตช์, นอร์เวย์, โปรตุเกส (โปรตุเกส), สวีเดน, ตุรกี, จีน (ตัวเต็ม) และเวียดนาม
Live Translation พร้อมทลายกำแพงทางภาษา
ในช่วงเวลาที่กำแพงทางภาษาเป็นอุปสรรค Live Translation ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารในภาษาต่างๆ ขณะส่งข้อความหรือพูดได้แล้ว ประสบการณ์นี้มีอยู่ในแอปข้อความ, FaceTime และโทรศัพท์ และใช้งานได้ด้วยโมเดลที่ Apple สร้างซึ่งทำงานทั้งหมดบนอุปกรณ์ ดังนั้นบนสนทนาส่วนตัวของผู้ใช้จะยังคงความเป็นส่วนตัวอยู่
ในแอปข้อความ Live Translation สามารถแปลข้อความได้โดยอัตโนมัติ หากผู้ใช้กำลังวางแผนกับเพื่อนใหม่ขณะเดินทางอยู่ต่างประเทศ ข้อความก็จะได้รับการแปลขณะพิมพ์และส่งไปในภาษาที่ผู้รับต้องการ เมื่อผู้ใช้ได้รับคำตอบ แต่ละข้อความก็จะได้รับการแปลในทันที2 ระหว่างการโทร FaceTime ผู้ใช้สามารถอ่านตามคำบรรยายสดขณะกำลังฟังเสียงของผู้พูดได้ และเมื่ออยู่ในสายโทรศัพท์ ก็จะมีการอ่านออกเสียงคำแปลตลอดการสนทนา3



วิธีใหม่ๆ ในการค้นพบความคิดสร้างสรรค์ด้วยการอัปเดต Genmoji และ Image Playground
Genmoji และ Image Playground มอบวิธีในการสื่อความเป็นตัวเองให้กับผู้ใช้มากยิ่งขึ้นอีก นอกจากจะเปลี่ยนคำอธิบายข้อความเป็น Genmoji แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถผสมอิโมจิเข้าด้วยกันประกอบกับเขียนคำอธิบายเพื่อสร้างสิ่งใหม่ เมื่อผู้ใช้สร้างรูปภาพที่ได้แรงบันดาลใจจากครอบครัวและเพื่อนโดยใช้ Genmoji และ Image Playground พวกเขาก็สามารถเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกหรือปรับลักษณะเฉพาะของตนเอง เช่น ทรงผม ให้เหมือนกับลุคล่าสุดของเพื่อนได้
ผู้ใช้สามารถแตะสไตล์ใหม่ๆ ด้วย ChatGPT ใน Image Playground เช่น สไตล์ภาพสีน้ำมันหรือศิลปะเวกเตอร์ ส่วนช่วงเวลาที่ผู้ใช้เกิดไอเดียบางอย่าง ก็สามารถแตะ Any Style และอธิบายสิ่งที่ต้องการ Image Playground จะส่งคำอธิบายหรือรูปภาพของผู้ใช้ไปยัง ChatGPT และสร้างภาพเฉพาะตัว โดยผู้ใช้สามารถควบคุมได้อยู่ และจะไม่มีการแชร์สิ่งใดกับ ChatGPT โดยไม่ได้รับอนุญาต

ระบบอัจฉริยะด้านภาพช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาและทำสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้น
คุณสมบัติอัจฉริยะด้านภาพ ซึ่งสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Apple Intelligence มาวันนี้ขยายครอบคลุมหน้าจอ iPhone ของผู้ใช้เพื่อให้ค้นหาและทำสิ่งต่างๆ ข้ามไปมาระหว่างแอปกับอะไรก็ตามที่ดูอยู่
ระบบอัจฉริยะด้านภาพยังช่วยผู้ใช้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุและสถานที่รอบๆ ตัวโดยใช้กล้อง iPhone และตอนนี้ระบบอัจฉริยะด้านภาพยังทำให้ผู้ใช้สามารถทำสิ่งต่างๆ กับเนื้อหาบนหน้าจอ iPhone ได้มากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้ใช้สามารถถามคำถาม ChatGPT เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังดูอยู่บนหน้าจอเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม รวมถึงค้นหา Google, Etsy หรือแอปที่รองรับอื่นๆ เพื่อค้นหารูปภาพและผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน หากมีวัตถุที่ผู้ใช้สนใจเป็นพิเศษ เช่น โคมไฟ ผู้ใช้สามารถไฮไลท์เพื่อค้นหาวัตถุนั้นหรือวัตถุที่ใกล้เคียงกันออนไลน์
ระบบอัจฉริยะด้านภาพยังสามารถตรวจจับได้เมื่อผู้ใช้กำลังดูกิจกรรมและจะแนะนำให้เพิ่มลงในปฏิทิน และแนะนำให้เพิ่มข้อมูลเข้าไปในปฏิทินของผู้ใช้งาน4 และ Apple Intelligence จะดึงข้อมูลอย่างวันที่ เวลา และสถานที่ ไปใส่ไว้ในกิจกรรมให้
ผู้ใช้สามารถเข้าใช้ระบบอัจฉริยะด้านภาพสำหรับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้เพียงกดปุ่มเดียวกับที่ใช้ถ่ายภาพหน้าจอ ผู้ใช้จะมีตัวเลือกในการบันทึกหรือแชร์ภาพถ่ายหน้าจอ หรือทำความรู้จักระบบอัจฉริยะด้านภาพเพิ่มเติม
Apple Intelligence ขยายไปยัง Fitness บน Apple Watch
Workout Buddy คือประสบการณ์การออกกำลังกายแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนบน Apple Watch ที่ใช้ Apple Intelligence รวบรวมข้อมูลการออกกำลังกายของผู้ใช้และประวัติฟิตเนสเพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกแบบเฉพาะบุคคลและสร้างแรงบันดาลใจระหว่างเซสชั่นออกกำลังกาย5
Workout Buddy วิเคราะห์ข้อมูลจากการออกกำลังกายล่าสุดของผู้ใช้แบบเรียลไทม์รวมถึงประวัติฟิตเนสเพื่อมอบข้อมูลเชิงลึกและแรงบันดาลใจ โดยอิงจากข้อมูลเช่น อัตราการเต้นของหัวใจ เวลาเฉลี่ย ระยะทาง วงแหวนกิจกรรม หมุดหมายด้านฟิตเนสส่วนบุคคล และอีกมากมาย จากนั้นโมเดลข้อความเป็นเสียงพูดแบบใหม่จะแปลงข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นเป็นเสียงพูดแบบไดนามิกที่พัฒนาขึ้นจากข้อมูลเสียงของเทรนเนอร์จาก Fitness+ เพื่อถ่ายทอดพลัง น้ำเสียง และสไตล์ที่เข้ากับการออกกำลังกายอย่างแท้จริง Workout Buddy จะประมวลผลข้อมูลอย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัยด้วย Apple Intelligence
Workout Buddy จะใช้งานได้บน Apple Watch พร้อมเฮดโฟนที่เปิดใช้งานบลูทูธ และต้องมี iPhone ที่รองรับ Apple Intelligence อยู่ใกล้ๆ คุณสมบัตินี้จะเริ่มให้บริการในภาษาอังกฤษ โดยครอบคลุมประเภทการออกกำลังกายยอดนิยมหลายรูปแบบ เช่น วิ่งกลางแจ้งและในร่ม, เดินกลางแจ้งและในร่ม, ปั่นจักรยานกลางแจ้ง ,HIIT, ออกกำลังกายทั่วทุกส่วน และออกกำลังกายเฉพาะส่วน
โมเดล Apple Intelligence บนอุปกรณ์เปิดให้นักพัฒนาใช้งานแล้ว
Apple กำลังจะเปิดให้แอปใดก็ตามสามารถเข้าถึง Foundation Model บนอุปกรณ์ได้โดยตรงซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Apple Intelligence
ด้วยเฟรมเวิร์ก Foundation Model นักพัฒนาแอปสามารถต่อยอดจาก Apple Intelligence เพื่อนำประสบการณ์ใหม่ๆ แสนอัจฉริยะมาให้กับผู้ใช้ โดยสามารถใช้ได้ขณะออฟไลน์ และปกป้องความเป็นส่วนตัว โดยใช้ AI Interference ที่ใช้งานได้ฟรี ตัวอย่างเช่น แอปด้านการศึกษาสามารถใช้โมเดลบนอุปกรณ์เพื่อสร้างแบบทดสอบเฉพาะบุคคลจากโน้ตของผู้ใช้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย API บนคลาวด์ หรือแอปที่ใช้นอกอาคารสามารถเพิ่มความสามารถการค้นหาภาษาแบบธรรมชาติที่ใช้งานได้แม้ขณะที่ผู้ใช้ออฟไลน์
เฟรมเวิร์กมีการรองรับ Swift ในตัว นักพัฒนาแอปจึงสามารถเข้าถึงโมเดล Apple Intelligence ได้อย่างง่ายดายเพียงเขียนโค้ดน้อยสุดแค่ 3 บรรทัด อีกทั้งยังมีคุณสมบัติมากมายที่มาพร้อมเฟรมเวิร์ก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหาแบบมีกรอบโครงสร้าง การเรียกใช้งานเครื่องมือ และอีกมากมาย ทำให้นักพัฒนาสามารถผสานคุณสมบัติการสร้างเนื้อหาไว้ในแอปที่มีอยู่เดิมได้อย่างง่ายดายกว่าที่เคย
คำสั่งลัดที่อัจฉริยะยิ่งขึ้น
คำสั่งลัดทรงพลังและอัจฉริยะมากขึ้นกว่าที่เคย ผู้ใช้สามารถแตะการดำเนินการอัจฉริยะ ซึ่งเป็นคำสั่งลัดชุดใหม่ที่ใช้งานได้เพราะมี Apple Intelligence ผู้ใช้จะเห็นการดำเนินการเฉพาะสำหรับคุณสมบัติเช่น สรุปข้อความด้วยเครื่องมือการเขียนหรือการสร้างรูปภาพด้วย Image Playground
ตอนนี้ผู้ใช้จะสามารถเข้าใช้โมเดล Apple Intelligence ได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นบนอุปกรณ์หรือด้วย Private Cloud Compute เพื่อสร้างการตอบสนองที่ใช้ได้ในคำสั่งลัดที่เหลือโดยยังรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่ใช้ในคำสั่งลัดนั้น ตัวอย่างเช่น นักเรียนสามารถสร้างคำสั่งลัดที่ใช้โมเดล Apple Intelligence เพื่อเปรียบเทียบการถอดเสียงการสอนในชั้นเรียนในโน้ตที่จด และเพิ่มประเด็นสำคัญที่อาจพลาดไป ผู้ใช้สามารถแตะเข้าไปใน ChatGPT เพื่อมอบการตอบกลับที่แสดงบนคำสั่งลัด

คุณสมบัติใหม่ๆ เพิ่มเติม
Apple Intelligence ยังผสานรวมอยู่ในแอปและประสบการณ์ต่างๆ ที่ผู้ใช้ต้องใช้ทุกวันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
- และสามารถระบุการดำเนินการที่เกี่ยวข้องมากที่สุดในอีเมล เว็บไซต์ โน้ต หรือเนื้อหาอื่นและจัดหมวดหมู่โดยอัตโนมัติในเตือนความจำ
- Apple Wallet สามารถระบุและสรุปรายละเอียดการติดตามคำสั่งซื้อจากอีเมลที่ส่งมาจากผู้ขายหรือบริการขนส่ง ซึ่งสามารถใช้งานได้กับทุกคำสั่งซื้อของผู้ใช้ มอบความสามารถในการเห็นรายละเอียดคำสั่งซื้อแบบเต็ม การแจ้งเตือนความคืบหน้า และอีกมากมายในที่เดียว
- ผู้ใช้สามารถสร้างโพลสำหรับทุกสิ่งได้ในแอปข้อความ และด้วย Apple Intelligence แอปข้อความสามารถตรวจจับเมื่อโพลอาจมีประโยชน์และแนะนำให้ใช้ นอกจากนี้ ภาพพื้นหลังในแอปข้อความทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการแชทที่มีดีไซน์น่าตื่นตา และผู้ใช้สามารถสร้างภาพพื้นหลังที่ไม่ซ้ำใครที่เข้ากับเรื่องที่คุยอยู่ด้วย Image Playground



คุณสมบัติเหล่านี้ต่อยอดจากความสามารถอันหลากหลายของ Apple Intelligence ซึ่งมีพร้อมสำหรับผู้ใช้ ได้แก่
- เครื่องมือการเขียนสามารถช่วยผู้ใช้ปรับการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปข้อความที่ได้เขียนไว้ และด้วย Describe Your Change ผู้ใช้สามารถอธิบายได้อย่างเจาะจงว่าต้องการปรับเปลี่ยนข้อความอย่างไร อย่างเช่นการปรับคำเชิญมาร่วมปาร์ตี้ดินเนอร์ให้ฟังดูเหมือนกลอน
- Clean Up ในแอปรูปภาพทำให้ผู้ใช้สามารถลบสิ่งรบกวนสายตาออกไปโดยไม่ส่งผลต่อภาพต้นฉบับในแบบที่ผู้ใช้ต้องการถ่ายทอด
- ระบบอัจฉริยะด้านภาพสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Apple Intelligence และช่วยให้ผู้ใช้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุและสถานที่รอบตัวได้ในทันที
- Genmoji ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างอิโมจิของตัวเองได้เพียงแค่พิมพ์คำอธิบาย และยังสามารถเพิ่ม Genmoji แทรกในบรรทัดของข้อความได้เหมือนอิโมจิ หรือแชร์เป็นสติกเกอร์หรือการโต้ตอบใน Tapback ก็ได้
- Image Playground มอบวิธีสร้างภาพสนุกๆ ตามช่วงเวลาด้วยแนวคิดอย่าง ธีม เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ และสถานที่ และยังสามารถเพิ่มคำอธิบายของตัวเอง และยังสร้างภาพเหมือนของสมาชิกครอบครัวหรือเพื่อนได้ด้วยโดยใช้ภาพถ่ายจากในคลัง
- Image Wand สามารถเปลี่ยนภาพสเก็ตช์คร่าวๆ ให้กลายเป็นรูปภาพที่สวยงามดูดีเพื่อประกอบโน้ตของผู้ใช้
- การสรุปเนื้อหาอีเมลมอบวิธีดูรายละเอียดสำคัญของอีเมลหรือข้อความยาวๆ เพียงแตะหรือคลิกสรุป
- Smart Reply เสนอแนะคำตอบสั้นๆ ง่ายๆ ในแอปเมลและแอปข้อความ
- Siri ทำงานเป็นธรรมชาติมากขึ้นและมีประโยชน์มากยิ่งขึ้นกว่าที่เคย ด้วยตัวเลือกพิมพ์โต้ตอบกับ Siri และใช้ประโยชน์จากความรอบรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในด้านคุณสมบัติและการตั้งค่าบนผลิตภัณฑ์ของ Apple และ Siri ยังสามารถตามทันถึงแม้ผู้ใช้จะพูดตะกุกตะกัก และสามารถรักษาบริบทของคำขอก่อนหน้าแล้วนำไปปรับใช้คำขอถัดไป
- ความสามารถในการเข้าถึง ChatGPT ได้รับการผนวกรวมกับเครื่องมือการเขียนและ Siri มอบตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงความสามารถในการเข้าใจภาพของ ChatGPT และเอกสารโดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างเครื่องมือต่างๆ
- การค้นหาด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติในแอปรูปภาพทำให้ผู้ใช้สามารถหารูปภาพหรือวิดีโอได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นเพียงแค่อธิบายสิ่งที่ต้องการค้นหา
- ผู้ใช้สามารถสร้างภาพยนตร์ความทรงจำในแอปรูปภาพโดยพิมพ์คำอธิบาย
- สรุปการถอดเสียงในโน้ตจะถูกสร้างโดยอัตโนมัติเพื่อแสดงข้อมูลสำคัญเพียงแค่เหลือบมอง
- ผู้ใช้สามารถสร้างสรุปการถอดเสียงสายโทรเข้าเพื่อไฮไลท์ข้อมูลสำคัญได้
- Priority Messages ส่วนหนึ่งที่ด้านบนของอินบ็อกซ์ที่จะแสดงอีเมลที่ด่วนที่สุด อย่าง อีเมลเชิญร่วมรับประทานอาหารกลางวันในวันเดียวกันหรือบอร์ดดิ้งพาส
- Priority Notificationsจะปรากฏอยู่ด้านบนสุดของรายการที่ซ้อนกันอยู่ เพื่อให้คุณรู้ว่าควรสนใจการแจ้งเตือนไหน
- สรุปการแจ้งเตือนมอบวิธีให้ผู้ใช้สแกนการแจ้งเตือนยาวๆ หรือที่ซ้อนกันอยู่โดยการแสดงรายละเอียดสำคัญบนหน้าจอล็อค
- แสดงตัวอย่างในแอปเมลและแอปข้อความแสดงสรุปข้อมูลสำคัญสั้นๆ ให้กับผู้ใช้โดยไม่ต้องเปิดข้อความ
- ลดการรบกวนเป็นโหมดโฟกัสแบบใหม่หมดที่จะแสดงการแจ้งเตือนที่คุณอาจจำเป็นต้องโต้ตอบในทันที
ความเป็นส่วนตัวใน AI ที่ปฏิวัติวงการ
Apple Intelligence ออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ในทุกขั้นตอนโดยใช้การประมวลผลบนอุปกรณ์ ซึ่งหมายความว่าหลายๆ โมเดลที่ขับเคลื่อนการทำงานของ Apple Intelligence จะทำงานทั้งหมดบนอุปกรณ์ และสำหรับคำขอที่ต้องเข้าถึงโมเดลขนาดใหญ่ขึ้น Private Cloud Compute หรือการประมวลผลบนคลาวด์แบบส่วนตัวจะขยายขอบเขตความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของ iPhone ไปยังระบบคลาวด์เพื่อปลดล็อคความอัจฉริยะที่มากยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้น ข้อมูลของผู้ใช้จะไม่ถูกจัดเก็บหรือแชร์กับ Apple และใช้ตามวัตถุประสงค์ของพวกเขาเท่านั้น โดยผู้เชี่ยวชาญอิสระสามารถตรวจสอบโค้ดที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ Apple Silicon ได้ตลอดเวลาเพื่อยืนยันว่ามีการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาด้านความเป็นส่วนตัว ซึ่งได้เริ่มมีการดำเนินการตรวจสอบแล้ว ก้าวสำคัญสำหรับความเป็นส่วนตัวใน AI
ความพร้อมใช้งาน
คุณสมบัติทั้งหมดนี้พร้อมให้ทดสอบแล้วเริ่มตั้งแต่วันนี้ผ่านทาง Apple Developer Program ที่ developer.apple.com และจะสามารถใช้งานรุ่นเบต้าสำหรับบุคคลทั่วไปผ่านทาง Apple Beta Software Program ในเดือนหน้าที่ beta.apple.com/th ผู้ใช้ที่เปิดใช้งาน Apple Intelligence บนอุปกรณ์ที่รองรับซึ่งตั้งภาษาที่รองรับเป็นภาษาเดียวกันจะสามารถเข้าใช้งานได้ภายในปลายปีนี้ รวมถึง iPhone 16 ทุกรุ่น, iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max, iPad mini (A17 Pro) และ iPad และ Mac รุ่นต่างๆ ที่มีชิป M1 และใหม่กว่าที่มี Siri ซึ่งตั้งค่าเป็นภาษาเดียวกับภาษาที่รองรับคือภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, โปรตุเกส (บราซิล), สเปน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, หรือจีน (ตัวย่อ) และจะมีให้ใช้งานในภาษาอื่นๆ เพิ่มเติมภายในปีนี้ ได้แก่ ภาษาเดนมาร์ก, ดัตช์, นอร์เวย์, โปรตุเกส (โปรตุเกส), สวีเดน, ตุรกี, จีน (ตัวเต็ม) และเวียดนาม คุณสมบัติบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในบางภาษาหรือในบางพื้นที่ และความพร้อมใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามกฎหมายและข้อกำหนดในท้องถิ่น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ apple.com/th/apple-intelligenceเกี่ยวกับ Apple Apple ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีส่วนบุคคลด้วยการเปิดตัว Macintosh สู่ท้องตลาดตั้งแต่ปี 1984 ในวันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac, AirPods, Apple Watch และ Apple Vision Pro แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ทั้ง 6 แพลตฟอร์มของ Apple ได้แก่ iOS, iPadOS, macOS, watchOS, visionOS และ tvOS มอบประสบการณ์การใช้งานอย่างต่อเนื่องบนอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple ทั้งหมด พร้อมเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้คนด้วยบริการที่ก้าวล้ำอย่าง App Store, Apple Music, Apple Pay, iCloud และ Apple TV+ พนักงานของ Apple กว่า 150,000 คนทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดระดับโลก และทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นกว่าเดิม
- Genmoji และ Image Playground พร้อมให้ใช้งานในภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, โปรตุเกส (บราซิล), สเปน และญี่ปุ่น
- คุณสมบัติ Live Translation ในแอปข้อความรองรับภาษาอังกฤษ (สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร), ฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส), เยอรมัน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี, โปรตุเกส (บราซิล), สเปน (สเปน) และจีน (ตัวย่อ)
- คุณสมบัติ Live Translation ในแอปโทรศัพท์และ FaceTime สำหรับการโทรแบบตัวต่อตัวมีให้ใช้งานในภาษาอังกฤษ (สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร), ฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส), เยอรมัน, โปรตุเกส (บราซิล) และสเปน (สเปน)
- ความสามารถในการเพิ่มกิจกรรมในปฏิทินด้วยระบบอัจฉริยะด้านภาพมีให้ใช้งานในภาษาอังกฤษบน iPhone 16 รุ่นต่างๆ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max
- Workout Buddy จะมีให้ใช้งานบน Apple Watch Series 6 หรือใหม่กว่า, Apple Watch SE (รุ่นที่ 2) และ Apple Watch Ultra และ Ultra 2 พร้อมกับ iPhone ที่รองรับ Apple Intelligence โดยเริ่มมีให้ใช้ในภาษาอังกฤษ