ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้งาน Netflix ในไทยก็พบกับระบบใหม่กันไปแล้ว นั่นคือระบบการตรวจจับจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ตว่ามีการใช้งานบัญชีต่างสถานที่กันเกินไปหรือไม่ ล่าสุด Disney+ ก็เริ่มนำระบบ Extra Member ที่มีลักษณะคล้ายกันนี้มาใช้ด้วยแล้วเช่นกัน จุดประสงค์หลักคือเพื่อกำจัดเทคนิคการแชร์รหัสผ่านร่วมกัน การสร้างบ้านแชร์บัญชีหลาย ๆ คน ซึ่งแม้ระบบนี้จะมีผู้ใช้งาน Netflix จำนวนมากไม่พอใจ แต่ในแง่ของผลประกอบการนั้นก็เป็นบวกขึ้นจริง ๆ
หนึ่งในประเทศที่เริ่มเปิดใช้งานระบบนี้แล้วก็คือในสหรัฐอเมริกา ที่เมื่อระบบตรวจพบว่ามีการใช้งานที่ดูน่าจะเป็นคนละสถานที่กับจุดที่คาดว่าเป็นบ้านหลักของผู้ใช้งานบัญชี จุด ๆ นั้นจะถูกมองว่าเป็นการใช้งานโดยสมาชิกที่เพิ่มมาพิเศษ (Extra Member) ซึ่งถ้าตัวเจ้าของบัญชีหลักต้องการเพิ่ม extra member เข้ามาจริง ๆ ก็จะต้องเสียเงินเพิ่มเข้าไปจากค่ารายเดือนปกติ แบ่งเป็นสองราคาตามแพ็ครายเดือนดังนี้ (เป็นราคาในสหรัฐฯ)
- แพ็คเกจ Basic ต้องจ่ายเพิ่ม $6.99 ต่อเดือน (ประมาณ 230 บาท)
- แพ็คเกจ Premium ต้องจ่ายเพิ่ม $9.99 ต่อเดือน (ประมาณ 330 บาท)
โดยจะมีข้อจำกัดคือแต่ละบัญชีผู้ใช้งาน จะสามารถเพิ่ม extra member ได้แค่ 1 บัญชีเท่านั้น รวมถึงผู้ที่จะใช้งานระบบนี้ จะต้องเป็นการสมัครสมาชิกผ่าน D+ โดยตรงเท่านั้น กรณีที่สมัครผ่านผู้ให้บริการอื่น ๆ จะไม่สามารถเพิ่ม extra member ได้
ส่วนกรณีที่เจ้าของบัญชีตัวจริงต้องไปเปิด D+ ที่อื่นนอกเหนือจากบ้านหลักชั่วคราว เช่นตอนไปพักโรงแรม เมื่อระบบตรวจพบก็จะมีข้อความแจ้งว่าสถานที่ปัจจุบันไม่ใช่บ้านหลักของบัญชีนี้ ซึ่งผู้ใช้งานก็จะสามารถเลือกได้ว่าเป็นการใช้งานนอกสถานที่ชั่วคราว หรือจะเลือกเปลี่ยนตำแหน่งบ้านหลักเลยก็ได้เช่นกัน โดยถ้าเป็นข้อหลัง ก็จะมีการให้เจ้าของบัญชีกรอกรหัส OTP ที่จะส่งเข้ามาทางอีเมลได้เลย นอกจากนี้ยังมีระบบถ่ายโอนประวัติการรับชมจาก profile เดิมที่แชร์กันอยู่ไปยัง extra member ได้อีกด้วย คล้ายกับใน Netflix ที่หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยใช้งานกันมาแล้ว
ระบบการเพิ่ม Extra member ของ Disney+ ได้เริ่มเปิดใช้งานแล้วในสหรัฐฯ แคนาดา คอสตาริกา กัวเตมาลา ทวีปยุโรป และแถบประเทศในเอเชียแปซิฟิก ส่วนของในไทยมากับ Hotstar ยังไม่มีประกาศครับ แต่ดูแล้วคาดว่าน่าจะมาแน่
ที่มา: 9to5Mac