เปรียบเทียบ Xiaomi Pad 6S Pro vs Samsung Galaxy Tab S9 FE+ สเปคต่างกันแค่ไหน ซื้อรุ่นไหนดีในปี 2024
สำหรับแท็บเล็ต Android ตัวแรงที่เปิดตัวออกมาใหม่อย่าง Xiaomi Pad 6S Pro ในราคาไม่เกิน 20,000 บาทก็มีหลายคนให้ความสนใจกันเยอะเลยทีเดียว ด้วยสเปคและฟีเจอร์การใช้งานที่คุ้มค่า หน้าจอสวยงามขนาดใหญ่ มีสเปคที่เร็วแรงเล่นเกมหรือว่าทำงานต่างๆ ไหลลื่น ถ้าให้เทียบกับแท็บเล็ต Samsung ที่มีความคล้ายและใกล้เคีงยกันมากที่สุดทั้งขนาดหน้าจอ และราคาเริ่มต้นใกล้เคียงกันเลยก็คือ Samsung Galaxy Tab S9 FE+ แต่ทั้งสองรุ่นนี้จะมีจุดเด่นและรายละเอียดสเปคต่างกันแค่ไหน เปรียบเทียบสเปค Xiaomi Pad 6S Pro vs Samsung Galaxy Tab S9 FE+ กันดูว่ามีสเปคต่างกันแค่ไหน และซื้อรุ่นไหนดีในปี 2024
ตารางเปรียบเทียบสเปค Xiaomi Pad 6S Pro vs Samsung Galaxy Tab S9 FE+
- เปรียบเทียบตัวเครื่องและหน้าจอ
- เปรียบเทียบชิปประมวลผลและการเชื่อมต่อ
- เปรียบเทียบกล้องหน้าและกล้องหลัง
- เปรียบเทียบแบตเตอรี่และราคา
สรุป Xiaomi Pad 6S Pro vs Samsung Galaxy Tab S9 FE+ จะเลือกซื้อรุ่นไหนดีในปี 2024
ตารางเปรียบเทียบสเปค Xiaomi Pad 6S Pro vs Samsung Galaxy Tab S9 FE+
| ข้อมูล\ รุ่น | Xiaomi Pad 6S Pro | Samsung Galaxy Tab S9 FE+ |
| ขนาด | 278.7 × 191.58 × 6.26 มม. | 285.4 x 185.4 x 6.5 มม. |
| น้ำหนัก | 590 กรัม | 627 กรัม |
| สี | Graphite Gray | Gray, Mint |
| หน้าจอ | IPS LCD กว้าง 12.4 นิ้ว | TFT LCD กว้าง 12.4 นิ้ว |
| ความละเอียด | 3K (3048 x 2032) | WQXGA (2560 x 1600) |
| Refresh Rate | 144Hz AdaptiveSync | 90Hz |
| ความสว่าง | 900 nits | 720 nits |
| ปากกา | Xiaomi Focus Pen (ซื้อแยก) | S Pen |
| ชิปประมวลผล | Snapdragon 8 Gen 2 | Exynos 1380 |
| RAM | 8GB | 8GB |
| ROM | 256GB | 128GB |
| การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 7, BT5.3, NFC, USB-C 3.2 Gen 1 | 5G/ Wi-Fi 6, BT5.3, NFC, USB-C 2.0, Dex Mode |
| กล้องหน้า | 32MP | 12MP |
| กล้องหลัง | 50MP + 2M | 8M + 8MP |
| กันน้ำกันฝุ่น | – | IP68 |
| แบต | 10,000 mAh, 120W | 10,090 mAh, 45W |
| ราคา (เริ่มต้น) | 18,990 บาท | 19,900 บาท |
เปรียบเทียบตัวเครื่องและหน้าจอ
เริ่มต้นการเปรียบเทียบ Xiaomi Pad 6S Pro vs Samsung Galaxy Tab S9 FE+ กันด้วยเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องที่ทั้งสองรุ่นนี้มีขนาดที่ใกล้เคียงกันเลย แต่ว่า Xiaomi Pad 6S Pro จะมีความบางและน้ำหนักที่เบากว่า มีดีไซน์แบบขอบแบนและสีเรียบๆ วัสดุอะลูมิเนียม มีให้เลือกสีเดียวคือสีเทา (Graphite Gray) ส่วนโมดูลกล้องหลังเป็นแบบสี่เหลี่ยมและเลนส์กล้องด้านใน ส่วน Samsung Galaxy Tab S9 FE+ นั้นมีดีไซน์ขอบแบนเหมือนกันแต่ว่าโมดูลกล้องเป็นแบบฝังไปกับตัวเครื่อง มีให้เลือก 2 สีคือสีเทาและสีมินต์ สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ที่ระดับ IP68
ทางด้านหน้าจอของ Xiaomi Pad 6S Pro vs Samsung Galaxy Tab S9 FE+ ทั้งสองรุ่นนี้มีขนาดหน้าจอที่เท่ากันเลย โดยรุ่น Xiaomi Pad 6S Pro จะมีหน้าจอเป็น IPS LCD ความละเอียด 3K ขนาด 12.4 นิ้วรองรับ Refresh Rate 144Hz เล่นได้ลื่นกว่า และสว่างได้มากถึง 900nits ด้านความบันเทิงรองรับ HDR 10 และ Dolby Vision พร้อมการขีดเขียน หรือวาดรูปทำงานได้ด้วยปากกา Xiaomi Focus Pen (ซื้อแยก) และหน้าจอของ Samsung Galaxy Tab S9 FE+ นั้นจะเป็นแบบ TFT LCD ความละเอียด WQXGA กว้าง 12.4 นิ้วเช่นกัน แต่ว่ามี Refresh Rate 90Hz เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุด 720nits ด้วย Vision Booster และรองรับปากกา S Pen ที่มีมาให้เลย ใช้ขีดเขียนวาดรูปได้สบายๆ
เปรียบเทียบชิปประมวลผลและการเชื่อมต่อ
มาดูที่การเปรียบเทียบ Xiaomi Pad 6S Pro vs Samsung Galaxy Tab S9 FE+ ด้านชิปประมวลผลกันบ้างที่ของ Xiaomi Pad 6S Pro นั้นใช้ชิปตัวเรือธงอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 เล่นเกมหรือทำงานต่างๆ ได้อย่างไหลลื่นแน่นอน มาพร้อมกับ RAM 8GB/ ROM 256GB ทำงานบนระบบ HyperOS บน Android 14 แบ่งหน้าจอทำงานได้ มีโหมดตัดต่อและ AI ใช้งานได้สะดวก มีลำโพงให้ถึง 6 ตัวรองรับ Dolby Atmos ให้เสียงกระหึ่มรอบทิศทางดูหนังฟังเพลงได้ดีเยี่ยม แต่ว่าจะมีขายเพียงรุ่นที่ใช้ WiFi ได้เพียงอย่างเดียว
ส่วนของ Samsung Galaxy Tab S9 FE+ จะใช้ชิปเป็น Exynos 1380 ที่มี RAM 8/ ROM 128GB เพิ่มความจุได้สูงสุด 1TB ใช้ทำงานทั่วไป ออกแบบวาดรูปได้ดีปกติในแอพ Samsung Notes และ GoodNotes สามารถเพิ่มความจุได้อีกเยอะ พร้อมรองรับโหมด DeX ที่เปลี่ยนหน้าจอเป็นแบบ PC ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นในการพิมพ์งาน ที่สำคัญก็คือรุ่นนี้มีรองรับทั้งรุ่น WiFi และใส่ซิมแบบ 5G แต่ด้วยความที่ชิปนั้นความเร็วแรงต่างกันมาก (Benchmarks) อาจทำให้การใช้งานจริงๆ ตัวใหม่ของ Xiaomi Pad 6S Pro นั้นย่อมแรงกว่า
เปรียบเทียบกล้องหน้าและกล้องหลัง
เปรียบเทียบ Xiaomi Pad 6S Pro vs Samsung Galaxy Tab S9 FE+ จุดต่อมาที่เรื่องของกล้องหน้าและกล้องหลังที่ทั้งสองรุ่นก็มีฟีเจอร์การใช้งานที่ต่างกันอยู่ด้วย โดยรุ่น Xiaomi Pad 6S Pro จะมีกล้องหน้า 32MP พร้อม FocusFrame จัดให้อยู่ตรงกลางเมื่อวิดีโอคอล และมี AI ช่วยให้การประชุมง่ายขึ้น จะส่งออกข้อมูลและทำงานต่อไปก็ได้ กล้องหลังมี 2 ตัวความละเอียด 50MP และ 2MP ที่มี Director Monitor สามารถเชื่อมต่อไร้สายได้ 4 เครื่องเหมือนถ่ายด้วยกล้องในสตูดิโอ ตัดต่อได้เลยอย่างมืออาชีพ ส่วนของ Samsung Galaxy Tab S9 FE+ นั้นมีกล้องหน้า 12MP และกล้องหลัง 2 ตัวความละเอียด 8MP ทั้งสองตัว สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K เท่ากันทั้งสองรุ่น
เปรียบเทียบแบตเตอรี่และราคา
ปิดท้ายด้วยการเปรียบเทียบ Xiaomi Pad 6S Pro vs Samsung Galaxy Tab S9 FE+ แบตเตอรี่และราคาของทั้งสองรุ่นนี้ที่มีความจุแบตใกล้เคียงกันเลย แต่เรื่องการชาร์จไว และชั่วโมงในการใช้งานจริงอาจจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย โดยแบตของ Xiaomi Pad 6S Pro มีความจุ 10,000 mAh ชาร์จไวได้ถึง 120W ชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 35 นาทีเท่านั้น ส่วนของ Samsung Galaxy Tab S9 FE+ นั้นมีแบตความจุ 10,090 mAh ชาร์จไวได้ 45W ดูวิดีโอได้ต่อเนื่องสูงสุด 20 ชั่วโมง ส่วนเรื่องราคาเริ่มต้นนั้นทั้งสองรุ่นต่างกันอยู่ 1,000 บาทสำหรับรุ่น WiFi ดังนี้
Xiaomi Pad 6S Pro รุ่น RAM 8/256GB: ราคา 18,990 บาท สั่งซื้อที่นี่
Samsung Galaxy Tab S9 FE+: สั่งซื้อที่นี่
- รุ่น WiFi RAM 8/128GB: ราคา 19,900 บาท
- รุ่น 5G RAM 8/128GB: ราคา 23,900 บาท
สรุป Xiaomi Pad 6S Pro vs Samsung Galaxy Tab S9 FE+ จะเลือกซื้อรุ่นไหนดีในปี 2024
จากการเปรียบเทียบสเปค Xiaomi Pad 6S Pro vs Samsung Galaxy Tab S9 FE+ ในแต่ละจุดจะเห็นได้ว่าทั้งสองรุ่นนี้มีจุดเด่นที่ต่างกันอยู่เยอะพอสมควรเลย โดยรุ่น Xiaomi Pad 6S Pro นั้นมีทั้งหน้าจอที่คมชัดและดีกว่า มีชิปที่แรงกว่าค่อนข้างเยอะเพราะเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด รองรับความบันเทิงได้ดี เล่นเกมหรือทำงาน และด้านตัดต่อได้ครบ แถมมีชาร์จไวแบบสุดๆ ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่น่าสนใจและน่าใช้งานมากๆ เพราะมีฟีเจอร์ตอบโจทย์ในการทำงานทุกด้าน
ส่วนรุ่น Samsung Galaxy Tab S9 FE+ นั้นก็ไม่ได้แย่นักสำหรับคนที่ต้องแท็บเล็ตไว้ทำงาน ขีดเขียนเพื่อวาดรูป จดบันทึกด้วยปากกา S Pen ที่มีมาให้เลย ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อเพิ่มอีก รองรับโหมด Dex หรือการเชื่อมต่อหน้าจอใหญ่เพื่อใช้งานได้แบบ PC เพิ่มความสะดวกให้สายงานพิมพ์ หรือว่างานที่ต้องพรีเซนต์อยู่บ่อยๆ หรือว่าจะใช้ในการเรียนเพื่อจดเนื้อหา และบันทึกจากไฟล์ PDF และในแอพ Samsung Notes และ GoodNotes ก็ทำได้ง่ายๆ อยู่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการใช้งานแท็บเล็ตแบบไหนมากกว่ากัน
ข้อมูลและรูปภาพจาก Xiaomi, Samsung
