เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S24 Ultra vs S21 Ultra รุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ล่าสุดต่างกันแค่ไหน ได้เวลาเปลี่ยนรุ่นใหม่แล้วหรือยังปี 2024
ตั้งแต่มือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung กับ Samsung Galaxy S24 Series เปิดตัวออกมาในวันที่ 18 มกราคม 2024 ที่ผ่านมา และเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ พร้อมวางขายจริงในวันที่ 31 มกราคมนี้เป็นต้นไป โดยเราก็ได้ลองเปรียบเทียบกับสเปค Samsung Galaxy S24 Ultra กับหลายๆ รุ่นที่เป็นตัวท็อป แต่ว่ารุ่นเก่าที่เนิ่นนานอย่าง Samsung Galaxy S21 Ultra ที่เป็นซีรีส์แรกที่ใช้ปากกา S-Pen ได้นอกเหนือจาก Note Series และก็แน่นอนว่าตอนนี้ไม่มีมือหนึ่งวางขายแล้ว ใครที่ใช้งานอยู่ในตอนนี้อาจจะยังคิดอยู่ว่าจะเปลี่ยนรุ่นใหม่ไปเลยคุ้มมั้ย มีอะไรอัพเดทใหม่บ้าง วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S24 Ultra vs S21 Ultra จากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่ล่าสุดนั้นต่างกันแค่ไหน และจะเปลี่ยนในรุ่นนี้คุ้มหรือไม่ในปี 2024
เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy S24 Ultra vs S21 Ultra
- เปรียบเทียบตัวเครื่อง
- เปรียบเทียบหน้าจอ
- เปรียบเทียบชิปประมวลผลและแบตเตอรี่
- เปรียบเทียบกล้องหน้าและกล้องหลัง
- เปรียบเทียบราคา
- สรุป Galaxy S24 Ultra vs S21 Ultra เปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ตอนนี้คุ้มหรือไม่
เปรียบเทียบตัวเครื่อง
มาเริ่มกันที่ตัวเครื่องและการดีไซน์สำหรับการเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S24 Ultra vs S21 Ultra ที่ทั้งสองรุ่นนี้มีการดีไซน์แตกต่างกันเลย เพราะว่า Galaxy S24 Ultra นั้นมีพื้นฐานเดิมที่ได้เปลี่ยนไปตั้งแต่ S22 Ultra แล้ว แต่ว่ารุ่นใหม่นี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้งด้วยการใช้วัสดุเป็นไทเทเนียม ตัวเครื่องโค้งมีด้านบน-ล่างตัดขอบแบน และเปลี่ยนมาเป็นหน้าจอแบน พร้อมกับการปรับรายละเอียดทั้งลำโพง และช่องระบายอากาศใหม่ ตัวโมดูลกล้องดีไซน์ฝังไปกับฝาหลังนูนขึ้นมาแค่ตัวเลนส์เท่านั้น ส่วนหน้าจอป้องกันด้วย Corning Gorilla Armor และมีปากกา S-Pen อยู่ในตัวเครื่องแล้ว ไม่ต้องใช้ร่วมกับเคสหรือซื้อแยกเหมือน S21 Ultra
ส่วนรุ่นเก่าอย่าง Galaxy S21 Ultra นั้นมีตัวเครื่องที่ทำมาจากอะลูมิเนียม ตัวเครื่องมีความโค้งมนทั้งหมด ซึ่งรุ่นนี้ก็เป็นรุ่นที่มีดีไซน์เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนหน้าเช่นกัน แต่ก็มาได้แค่ซีรีส์เดียวและเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ไปเลย ด้านหน้านั้นป้องกันด้วยกระจก Gorilla Glass Victus ตัวโมดูลกล้องนั้นมีกรอบสี่เหลี่ยมที่นูนขึ้นมาตรงมุมซ้ายบนของฝาหลังเป็นชิ้นเดียวกัน แต่ออกแบบเป็นคนละสีเพื่อความสวยงาม และมีเลนส์กล้องอยู่ด้านใน ซึ่งรุ่นนี้ก็รองรับ S-Pen เหมือนกันแต่ว่าต้องใช้ร่วมกับเคส และต้องซื้อแยกต่างหาก โดยทั้งคู่กันน้ำกันฝุ่นได้ที่ IP68 เหมือนกัน
ข้อมูล\ รุ่น Galaxy S24 Ultra Galaxy S21 Ultra ขนาด 162.3 x 79 x 8.6 มม. 165.1 x 75.6 x 8.9 มม. น้ำหนัก 232 กรัม 227 กรัม S-Pen รองรับมีในตัวเครื่อง รองรับ ต้องซื้อแยก สี Titanium Black, Titanium Gray, Titanium Violet, Titanium Yellow
สีพิเศษ:
Titanium Blue, Titanium Green, Titanium OrangePhantom Black, Phantom Silver
สีพิเศษ:
Phantom Titanium, Phantom Navy, Phantom Brown
เปรียบเทียบหน้าจอ
สำหรับหน้าจอของ Samsung Galaxy S24 Ultra vs S21 Ultra ทั้งสองรุ่นนี้ก็มีจุดที่คล้ายและต่างกันอยู่ด้วย นั่นก็คือหน้าจอของ Galaxy S24 Ultra รุ่นใหม่จะเป็นหน้าจอแบนถูกใจแฟนๆ หลายคน อีกทั้งยังมีความสว่างหน้าจอสูงสุดถึง 2,600nits เพราะว่ารุ่นที่ผ่านๆ มารวมถึง Galaxy S21 Ultra นั้นเป็นหน้าจอโค้ง และรุ่นเก่านี้ก็มีความสว่างสูงสุดเพียง 1,500nits เท่านั้น เวลาออกแดดกลางวันยังสู้ไม่ได้
ในส่วนอื่นๆ ที่เหมือนกันก็คือใช้รูปแบบหน้าจอเป็น Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด Quad HD+ เหมือนกันแต่พิกเซลต่างกัน กว้าง 6.8 นิ้วพร้อมรองรับ HDR 10+ สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอได้ กับมีรูกล้องหน้าแบบ Infinity O เหมือนกัน นอกจากนี้ยังรองรับปากกา Stylus จาก S-Pen ที่รุ่นใหม่นั้นมีอยู่ในเครื่อง แต่ว่ารุ่นเก่านั้นต้องซื้อแยกพร้อมเคส กับจุดที่ต่างอีกอย่างก็คือ S24 Ultra มี Refresh Rate 1-120Hz แบบ Adaptive ในขณะที่ S21 Ultra นั้นมี Refresh Rate 10-120Hz ความลื่นจึงต่างกันเล็กน้อย
ข้อมูล\ รุ่น Galaxy S24 Ultra Galaxy S21 Ultra หน้าจอ จอแบน
Dynamic AMOLED 2X
(S-Pen) กว้าง 6.8 นิ้วจอโค้ง
Dynamic AMOLED 2X
(S-Pen) กว้าง 6.8 นิ้วความสว่าง 2,600nits 1,500nits ความละเอียด QHD+
(3088×1440)QHD+
(3200×1440)Refresh Rate 1-120Hz 10-120Hz รูกล้องหน้า Infinity O Infinity O
เปรียบเทียบชิปประมวลผลและแบตเตอรี่
มาดูการเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S24 Ultra vs S21 Ultra ในจุดสำคัญที่ทั้งสองรุ่นนี้ไม่น่าจะเทียบกันไหวแล้ว เพราะว่ารุ่นเก่าอย่าง S21 Ultra นั้นเปิดตัวออกมาตั้งแต่ปี 2021 ห่างกันถึง 3 ปีทำให้ประสิทธิภาพของชิปนั้นไม่น่าจะสู้กันไหวแล้ว นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการระบายความร้อนที่ต่างกันแน่นอนอยู่ด้วย โดยตัว S21 Ultra นั้นได้ใช้ชิปของ Samsung เองอย่าง Exynos 2100 ที่มาพร้อมกับ RAM12/16GB สามารถใช้งาน 5G ได้ เล่นเกมได้ไหลลื่นแต่ถ้าปรับกราฟสุดอาจมีอาการเครื่องร้อน ตั้ง fps ได้ต่ำกว่าด้วย ถ้าใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมปกติก็ยังพอไหว รุ่นนี้มีแบตมาให้ที่ความจุ 5,000mAh ชาร์จไวได้ 25W
ส่วนรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง S24 Ultra ก็ได้ชิปเรือธงตัวแรงคือ Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy พร้อม RAM 12GB ซึ่งตัวชิปนี้ก็มีการปรับปรุงสำหรับ Galaxy ให้มีความเร็วแรงขึ้นไปอีกขั้น โดยมีการปรับเพิ่มประสิทธิภาพในทุกด้านไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU และ NPU พร้อมกับแผ่นระบายความร้อนขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า 92% หมดห่วงเรื่องความร้อนไปได้เลย แถมยังเล่นเกมได้สมจริงด้วย Ray Tracing ใหม่ กับตัว Galaxy AI ที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการถ่ายภาพ การปรับแต่ง ค้นหาจากรูป การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ และการบันทึกพร้อมสรุปข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์การใช้งานในทุกๆ ด้าน ส่วนแบตเตอรี่มีให้เท่ากันคือ 5,000mAh แต่รุ่นใหม่ชาร์จไวได้ 45W
ข้อมูล\ รุ่น Galaxy S24 Ultra Galaxy S21 Ultra ชิป Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy Exynos 2100 RAM 12GB 12/ 16GB ROM 256GB/ 512GB/ 1TB 128GB/ 256GB/ 512GB การเชื่อมต่อ 5G/ WiFi6E/ Bluetooth 5.3/ NFC/ UWB/ USB-C
Dual SIM5G/ WiFi6/ Bluetooth 5.2/ NFC/ UWB/ USB-C
Dual SIMแบต 5,000mAh, 45W 5,000mAh, 25W
เปรียบเทียบกล้องหน้าและกล้องหลัง
อีกหนึ่งจุดที่เทียบกันไม่ติดแน่นอนเลยก็คือการเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S24 Ultra vs S21 Ultra ตัวกล้องของทั้งสองรุ่น ด้วยความที่ต่างกันถึง 3 รุ่นจึงทำให้เทคโนโลยีกล้องของ Samsung พัฒนาไปไกลกว่าเดิมเยอะทีเดียว โดยตัวเก่าอย่าง S21 Ultra นั้นมีกล้องหน้าความละเอียด 40MP เซลฟี่ได้ดีในระดับหนึ่ง กล้องหลังมี 4 ตัวที่ความละเอียดหลัก 108MP มีเซ็นเซอร์ Samsung HM3 และ Nona Super-PD ช่วยเพิ่มความสว่างและลดนอยซ์ลงไปอีก กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP กล้อง Telephoto 10MP ซูม Optical 3x กับอีกตัว Periscope Telephoto 10MP ซูม Optical 10x และ Space Zoom 100x พร้อมถ่ายวิดีโอได้ 8K@24fps
ส่วนรุ่นใหม่ล่าสุดคือ S24 Ultra นั้นก็ได้มีการพัฒนาขึ้นไปขั้นจากรุ่นก่อนหน้า โดยมีกล้องหน้า 12MP ที่เซลฟี่ได้คมชัดถึงแม้ว่าจะความละเอียดน้อยกว่า แต่ได้มีการปรับปรุงคุณภาพให้ดีกว่าเดิมแทน กล้องหลังมี 4 ตัวที่ความละเอียดหลัก 200MP มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่พร้อม In-Sensor Zoom 2x กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP กล้อง Telephoto 10MP ซูม Optical 3x และกล้อง Telephoto 50MP ใหม่ที่ซูม Optical 5x หรือซูม In-Sensor Zoom 10x และ Space Zoom 100x โดยมี ProVisual Engine ที่ทำงานร่วมกับ AI ช่วยในเรื่องของการถ่ายภาพและการซูมให้ได้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Optical ซูมและถ่ายได้ดีกว่ารวมไปถึงการถ่ายวิดีโอที่ทำได้ถึง 8K@30fps ด้วย
ข้อมูล\ รุ่น Galaxy S24 Ultra Galaxy S21 Ultra กล้องหน้า 12MP 40MP กล้องหลัง หลัก: 200MP
อัลตร้าไวด์: 12MP
เทเลโฟโต้: 10MP
เทเลโฟโต้: 50MPหลัก: 108MP
อัลตร้าไวด์: 12MP
เทเลโฟโต้: 10MP
เทเลโฟโต้: 10MPการซูม 0.6x/ 1x/ 2x / 3x / 5x /10x/ 100x 0.6x/ 1x/ 3x/10x/ 30x/ 100x วิดีโอ 8K@30fps 5G/ WiFi6/ Bluetooth 5.2/ NFC/ UWB/ USB-C
Dual SIM
เปรียบเทียบราคา
ปิดท้ายกันด้วยเรื่องของราคา Samsung Galaxy S24 Ultra vs S21 Ultra ทั้งสองรุ่นนี้ที่จริงๆ แล้วตัว S21 Ultra นั้นไม่มีเครื่องมือหนึ่งวางขายแล้ว จะมีก็เพียงเครื่องมือสองราคาเริ่มต้น 6,000-25,000 แต่ถ้าใครจะเปลี่ยนรุ่นเป็นรุ่นใหม่ในตอนนี้แนะนำว่าให้นำไปเทรดเครื่องกับ Samsung.com เพราะจะได้ส่วนลดทันทีเครื่องละ 6,000 บาทได้สูงสุด 3 เครื่อง (สภาพเครื่องแยกลดเพิ่มอีกราคานึง) ดังนั้นราคาของ Galaxy S21 Ultra นั้นเราขอเอาราคาตอนเปิดตัวมาเทียบกันแทนดังนี้
ข้อมูล\ รุ่น | Galaxy S24 Ultra | Galaxy S21 Ultra |
ราคา | 256GB: 46,900 บาท 512GB: 52,900 บาท 1TB: 62,900 บาท | 128GB: 39,900 บาท 256GB: 41,900 บาท 512GB: 45,900 บาท |
เปรียบเทียบราคา Samsung S24 Ultra vs S21 Ultra
สรุป Galaxy S24 Ultra vs S21 Ultra เปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ตอนนี้คุ้มหรือไม่
จากการเปรียบเทียบสเปคจุดต่อจุดของ Samsung Galaxy S24 Ultra vs S21 Ultra ก็ต้องบอกเลยว่าแทบจะไม่มีจุดไหนที่จะสู้รุ่นใหม่ได้เลย ถ้าไม่นับเรื่องของการดีไซน์ตัวเครื่อง เพราะส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่ในส่วนอื่นๆ นั้นรุ่นเก่ายังไม่สามารถสู้รุ่นใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่มีสเปคเดียวกัน แต่ว่า S24 Ultra เล่นได้ลื่นกว่า มีการรองรับ S-Pen ในตัวพกพาสะดวก ไม่ต้องใส่เคสแยกเหมือน S21 Ultra
ที่สำคัญก็คือเรื่องของชิปและการจัดการเรื่องความร้อนที่ S24 Ultra นั้นทำได้ดีกว่าแน่นอนในส่วนนี้ รวมไปถึงเรื่องของกล้องที่ใครเน้นเรื่องการถ่ายภาพเป็นหลัก หรือการซูมแบบเทพๆ ยังไงรุ่นใหม่ก็ทำได้ดีกว่า แถมยังมี AI ที่เข้ามาช่วยให้ทำงานต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานในทุกๆ ด้านแล้ว ดังนั้นขอสรุปว่าเปลี่ยนใหม่คุ้มกว่าเยอะ ใครสนใจก็สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ที่ Samsung และตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้แล้ววันนี้
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก Samsung