เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมาทาง Samsung ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรี่ส์เรือธงอย่าง Samsung Galaxy S24 Series ที่มีจุดเด่นในเรื่องของ AI ไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตอนนี้ Samsung Galaxy S24 Ultra ที่เป็นรุ่นท๊อปสุดของซีรี่ส์ก็ได้มาอยู่ในมือทีมงาน Specphone แล้ว ถึงจะแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ทำให้ไม่สามารถทำเป็นรีวิวเต็มได้ก็ตาม ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาทำการพรีวิวความน่าสนใจของ Galaxy S24 Ultra เครื่องนี้ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันก่อน
- สเปค
- ดีไซน์
- กล้อง
- Galaxy AI
สเปคของ Samsung Galaxy S24 Ultra
- หน้าจอ : Dynamic AMOLED 2X, ขนาด 6.8 นิ้ว, ความละเอียด 3120 x 1440 พิกเซล (QHD+), Refresh Rate 1-120Hz, รองรับการแสดงผล HDR10+, ความสว่างสูงสุด 2600 nits, รองรับปากกา S Pen, ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Armor
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 For Galaxy
- แรม : 12GB ชนิด LPDDR5x
- ความจุ : 256GB / 512GB / 1TB ชนิด UFS 4.0
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 200MP, f/1.7, OIS, Laser AF (wide)
- ตัวที่ 2 : 12MP, f/2.2, 120˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3 : 10MP, f/2.4, OIS, 3x optical zoom (telephoto)
- ตัวที่ 4 : 50MP, f/3.4, OIS, 5x optical zoom (periscope telephoto)
- กล้องหน้า : 12MP, f/2.2 (wide)
- แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับการชาร์จแบบมีสายมาตราฐาน PD 3.0 สูงสุด 45W, รองรับการชาร์จไร้สายมาตราฐาน Qi สูงสุด 15W และรองรับการชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับ 4.5W
- ระบบปฏิบัติการ : One UI 6.1 บน Android 14
- การเชื่อมต่อ :
- 5G Sub-6GHz
- Wi-Fi 7
- Bluetooth 5.3
- GPS, Glonass, Beidou, Galileo, QZSS
- NFC
- Ultra-Wideband
- Samsung DeX, Wireless DeX
- USB Type-C 3.2 Gen 1
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- Barometer
- Fingerprint Sensor (Ultrasonic)
- Gyro Sensor
- Geomagnetic Sensor
- Hall Sensor
- Light Sensor
- Proximity Sensor
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP68
- ขนาด : 162.3 x 79.0 x 8.6 มม.
- น้ำหนัก : 232 กรัม
- วัสดุ :
- กรอบไทเทเนียม
- กระจกหลัง Gorilla Glass
- สี :
- สีพื้นฐาน : Titanium Gray, Titanium Black, Titanium Violet, Titanium Yellow
- สีพิเศษ : Titanium Blue, Titanium Green, Titanium Orange
- ราคา :
- 12GB / 256GB ราคา 46,900 บาท
- 12GB / 512GB ราคา 52,900 บาท
- 12GB / 1TB ราคา 62,900 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องของ Galaxy S24 Ultra นั้นจะมีความคล้ายกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Galaxy S23 Ultra แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กน้อย โดยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนแล้วตัวกล้องหลังจะมีความนูนออกมามากกว่าและขอบเครื่องที่มนน้อยกว่านั่นเอง สำหรับการจัดวางกล้องหลังนั้นก็จะยังคงใช้ดีไซน์เดิมคือไร้โมดูล มีแค่ฝาหลังเรียบๆ กับเลนส์กล้องที่นูนขึ้นมาเท่านั้น สำหรับสีตัวเครื่องนั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 7 สี แบ่งเป็นสีพื้นฐาน 4 สี และสีพิเศษ 3 สีดังนี้
- สีพื้นฐาน : Titanium Gray, Titanium Black, Titanium Violet, Titanium Yellow
- สีพิเศษ : Titanium Blue, Titanium Green, Titanium Orange
ซึ่งตัวที่เราได้มานั้นจะเป็นสีพื้นฐานอย่าง Titanium Gray แต่ก็เป็นสีที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามด้วยเช่นกัน
ในส่วนของหน้าจอนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยในการเปลี่ยนแปลงหน้าจอนั้นก็คือความโค้งของขอบหน้าจอที่ตอนนี้จะโค้งแค่ตรงมุมเท่านั้น ตรงส่วนหน้าจอกลับมาใช้แบบแบบตรงเช่นเดิม ซึ่งในจุดนี้นั้นมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ อีกทั้งยังเพิ่มความสว่างหน้าจอขึ้นเป็น 2600 nits อีกด้วย แต่สิ่งที่เรียกได้ว่าน่าสนใจก็คือกระจก Gorilla Glass Armor ที่ช่วยลดแสงสะท้อยลงไปได้มากทีเดียว
สำหรับรอบๆ ขอบตัวเครื่องนั้นเรียกได้ว่าการวางตำแหน่งไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก แต่จะมีจุดที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด 3 จุดเด่นๆ เลยก็คือ ไมโครโฟนรับเสียงย้ายไปอยู่ข้างบน 1 ตัว ออกแบบช่องลำโพงใหม่ที่จะช่วยให้เสียงออกมาดียิ่งขึ้น และมีการดีไซน์ที่กดปากกา S Pen ใหม่ให้มีเรียบไปกับตัวเครื่องมากยิ่งขึ้น
กล้อง
ในส่วนของกล้องนั้นจะยังมาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัวและกล้องหน้า 1 ตัวเช่นเกม แต่จะมีการเปลี่ยนเซ็นเซอร์กล้องซูมไป 1 ตัว โดยตัวที่เปลี่ยนไปก็คือเลนส์ Periscope Telephoto ที่แต่เดิมจะมีความละเอียด 10MP ที่ซูมแบบ Optical ได้ 10x กลายเป็นเซ็นเซอร์ความละเอียด 50MP ที่ซูมแบบ Optical ได้ 5x แทน แถมยังใส่กันสั่น OIS มาให้อีกด้วย ซึ่งการเปลี่ยนเซ็นเซอร์ตัวนี้ใหม่ทำให้การถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K@30fps สามารถถ่ายที่ระยะ 5x ได้ด้วย
สำหรับกล้องตัวอื่นๆ นั้นจะประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 200MP กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP และกล้อง Telephoto 3x ความละเอียด 10MP ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 12MP สำหรับตัวอย่างรูปที่ถ่ายมาได้ลองดูได้ที่ข้างล่างนี้เลย
Galaxy AI
เนื่องจากในปี 2024 นี้จะเป็นยุคที่เรียกได้ว่าเป็นยุคแห่ง AI แบบเต็มตัวแล้ว ทาง Samsung ก็เลยใส่ AI เข้ามาใน Galaxy S24 Series ด้วยเช่นกันในชื่อว่า Galaxy AI และนั่นทำให้มันกลายเป็นจุดเด่นชูโรงของซีรี่ส์เลย ซึ่งจากที่ได้เอาไปลองคร่าวๆ บอกเลยว่า Galaxy AI จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นอีกเยอะเลย
มาที่ฟีเจอร์แรกและน่าจะเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าจะได้ใช้บ่อยๆ กับ Circle search โดยฟีเจอร์ตัวนี้นั้นจะช่วยเราค้นหาคำตอบให้เราจากภาพในจุดที่เราวงแบบทันที เป็นอะไรที่สะดวกต่อชีวิตมาก เวลาจะหาของหรือหาสถานที่ๆ เราไม่รู้จัก แต่มีภาพให้เห็น (โดยเฉพาะตอนค้นที่เที่ยงนี่น่าจะได้ใช้มากที่สุด)
มาสู่ฟีเจอร์ที่สอง แต่งรูปด้วย AI ที่แต่เดิมก็มีอยู่แล้วใน Samsung Gallery แต่คราวนี้ Galaxy AI จะมาช่วยให้มันเทพยิ่งขึ้นไปอีก โดยตอนที่กดแก้ไขจะมีปุ่มพิเศษเพิ่มขึ้นมา 1 ปุ่ม ซึ่งเมื่อกดเข้าไปแล้วเราก็สามารถเลือกลบ, ย้าย, ขยาย, สร้างวัตถุ ฯลฯ ไม่ว่าจะอะไรก็สามารถทำได้ด้วยการช่วยเหลือจาก AI
แต่ๆ ต้องแจ้งเพิ่มเติมเอาไว้ด้วยว่าการใช้ AI นั้นจะมีเงื่อนไขอยู่ก็คือต้องล็อคอิน Samsung Account และต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา เพราะเป็นการใช้ AI ผ่านระบบ Cloud นั่นเอง
ต่อกันด้วยฟีเจอร์ที่สายอ่านข่าวหรือทำข่าวน่าจะชอบกับฟีเจอร์ ช่วยสรุปบทความ โดยฟีเจอร์นี้จะให้ AI มาช่วยสรุปข้อความให้จากที่ยาวๆ กลายเป็นสั้นๆ ได้ใจความ หรือไม่ก็ช่วยแปลภาษาแล้วสรุปก็สามารถทำได้ เพียงแต่ในปัจจุบันนี้ฟีเจอร์ ช่วยสรุปบทความนี้จะทำงานบน Samsung Internet ที่เป็นเว็บเบราเซอร์ของทาง Samsung เองเท่านั้น
และอีกฟีเจอร์ด้านข้อความที่สายประชุมหรือสายออฟฟิศน่าจะชอบกับฟีเจอร์ บันทึกการประชุม โดยฟีเจอร์นี้นั้นตัว AI จะเอาไฟล์เสียงที่เราบันทึกได้ระหว่างประชุมไปประมวลผลแล้วแยกเสียงออกมาแบบชัดๆ เลยว่าใครเป็นคนพูด พูดอะไรออกมาบ้าง ราวกับมีเลขาส่วนตัวมาช่วยจดการประชุมเลย
ฟีเจอร์นี้เองก็น่าจะเป็นฟีเจอร์ที่น่าจะมีใครหลายๆ คนต้องการ โดยเฉพาะคนที่ไม่เก่งภาษาแต่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ หรือคนที่ต้องพูดกับชาวต่างชาติที่เราไม่รู้ภาษา กับฟีเจอร์ แปลภาษาแบบเรียลไทม์ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะมีการแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบก็คือแปลมันระหว่างกำลังคุยสายแบบเรียลไทม์ หรือจะเป็นการแปลคุยแบบเจอกันหน้าต่อหน้า ซึ่งตัวฟีเจอร์นี้จะเป็นการใช้ AI ที่ถูกฝังอยู่ในเครื่องแปลภาษาออกมา และตอนนี้รองรับภาษาแล้วทั้งหมด 17 ภาษา (รวมไทยด้วย)
ปิดด้วยฟีเจอร์สุดท้ายที่สาย ART น่าจะชอบกับฟีเจอร์ AI Generate Wallpaper หรือฟีเจอร์ที่ให้ AI สร้าง Wallpaper ที่เราต้องการออกมา
ทั้งหมดที่กล่าวไปนั้นคือความน่าสนใจของ Samsung Galaxy S24 Ultra เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าอยากดูการรีวิวใช้งานแบบเต็มที่คงต้องอดใจรอกันนิดหน่อย เนื่องจากเรามีเวลาจับเครื่องเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น ไว้ได้รับเครื่องมาใช้งานยาวๆ เมื่อไรจะมาทำรีวิวให้ชมกันอีกครั้งหนึ่งนะ
ส่วนผู้ที่สนใจนั้น Samsung Galaxy S24 Ultra สนนราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 46,900 บาท โดยในช่วงที่เขียนบทความนี้นั้นตัวเครื่องยังอยู่ในช่วงสั่งจองล่วงหน้า และจะวางขายตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมเป็นต้นไป เพียงแค่ช่วงแรกๆ อยากจะหาเครื่องหรือหาสีที่ชอบยากหน่อย หากสนใจจริงๆ ก็ไปลองเล่นเครื่องที่หน้าร้านต่างๆ ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจซื้อทีหลังก็ยังได้ สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะเปลี่ยนดีไหม เราได้ทำบทความเทียบสเปคกับสมาร์ทโฟนรุึ่นต่างๆ เอาไว้ให้ดูประกอบการตัดสินใจแล้ว สามารถคลิ๊กลิ้งด้านล่างเพื่อเข้าไปดูได้เลย
เทียบสเปค Samsung Galaxy S24 Ultra vs S24+ vs S24 รุ่นไหนเหมาะกับใครปี 2024
เทียบสเปค Samsung Galaxy S24 Ultra vs S23 Ultra ต่างกันตรงไหน ซื้อรุ่นไหนดีปี 2024
เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S24 Ultra vs S22 Ultra ต่างกันแค่ไหน ซื้อใหม่คุ้มมั้ยปี 2024
เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S24 Ultra vs Note 20 Ultra ต่างกันแค่ไหนในปี 2024
เทียบ Samsung S24 Ultra vs S23 Ultra vs S22 Ultra ต่างกันยังไง ซื้อรุ่นไหนดี 2024
เทียบสเปค Samsung Galaxy S24 Ultra vs iPhone 15 Pro Max ซื้อรุ่นไหนดีปี 2024
เทียบสเปค Samsung Galaxy S24 Ultra vs iPhone 14 Pro Max ต่างกันแค่ไหนในปี 2024