OPPO A98 5G สมาร์ทโฟนตัวท๊อปของ A Series จาก OPPO ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ให้แรงยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีการใส่กล้องจุลทรรศน์ที่ปกติจะอยู่ในรุ่นเรือธงเข้ามาให้ด้วย ซึ่งหากใครที่มองว่าสเปคของ OPPO A78 5G ยังไม่พอหรือ Reno8 T สเปคสูงไป OPPO A98 5G ก็จะมาเป็นคำตอบให้ ด้วยดีไซน์ที่คล้ายกัน สเปคที่ไม่ได้แตกต่างจาก Reno8 T มากนัก แต่ด้วยราคาที่ถูกกว่า ทำให้เป็นรุ่นหนึ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย และจากที่เราได้เอาไปลองใช้งานมานี้เราจะมาเล่าให้ฟังว่าการใช้งานเป็นอย่างไรกันบ้าง
สเปคของ OPPO A98 5G
- หน้าจอ : LTPS LCD, ขนาด 6.72 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 240Hz, 100% DCI-P3, 100% sRGB, ความสว่างสูงสุด 680 นิต, ครอบทับด้วยกระจก Panda 1681 Secondary Tempered Glass
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 695 5G
- แรม : 8GB ชนิด LPDDR4x รองรับ Extended RAM สูงสุด 8GB
- หน่อยความจำ : 256GB ชนิด UFS 2.2
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 64MP, f/1.7, AF (wide)
- ตัวที่ 2 : 2MP, f/2.4 (mono)
- ตัวที่ 3 : 2MP, f/3.3, 20x / 40x Zoom (Microscope)
- กล้องหน้า : 32MP, f/2.4
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC
- ระบบปฏิบัติการ : Android 13 ครอบทับด้วย Color OS 13.1
- การเชื่อมต่อ :
- 5G NR
- Wi-Fi 5 Dual-band
- Bluetooth 5.1
- GPS, AGPS, GLONASS, Galileo, Beidou
- NFC
- ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
- USB Type-C 2.0
- เซ็นเซอร์ :
- Fringerprint sensor
- Geomagnetic induction
- Slit light sensing
- Slit approach
- Acceleration sensor
- Gyroscope
- Step recording function
- ขนาด : 165.6 x 76.1 x 8.2 มม.
- น้ำหนัก : 192 กรัม
- สี : สีดำ Cool Black, สีฟ้า Dreamy Blue
- ราคา : 10,990 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
เริ่มกันที่ดีไซน์กันก่อนเลย โดยดีไซน์ตัวเครื่องจะเป็นแบบ OPPO Glow เหมือน Reno8 T ที่มีฝาหลังโค้งแบบ 3D มีโมดูลกล้องเป็นรูปแคปซูล ฝาหลังมีการไล่เฉดสีที่จะเปลี่ยนไปตามแสงที่กระทบ ช่วยให้ฝาหลังมีความระยิบระยับสวยงาม แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความคงทนต่อรอยขีดข่วนและยังกันรอยนิ้วมือได้อีกด้วย ซึ่งสีตัวเครื่องของ A98 5G นี้จะมีให้เลือก 2 สีคือสีฟ้า Dreamy Blue ที่เราได้มา และสีดำ Cool Black
ในส่วนของหน้าจอนั้นตัวเครื่องจะมาพร้อมหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.72 นิ้ว พาแนล LTPS LCD ซึ่งมีความละเอียดระดับ FHD+ รองรับอัตรารีเฟรชสูงสุดที่ 120Hz และมีอัตราการตอนสนองเร็วถึง 240Hz ตัวหน้าจอเป็นจอแสดงผลแบบ Punch hole ทำให้ขอบจอมีความบางกว่า A Series รุ่นอื่น ๆ โดยที่ขอบบนเยื้องขวาจากตัวรูกล้องจะเป็นจุดรวมเซ็นเซอร์ต่าง ๆ และที่ขอบบนสุดจะเป็นลำโพงที่เอาไว้ใช้สนทนาพร้อมทำหน้าที่เป้ฯลำโพงคู่แบบสเตอริโออีกด้วย
สำหรับขอบเครื่องนั้นจะมาด้วยดีไซน์ขอบเหลี่ยมพื้นผิวด้านตามพิมพ์นิยม โดยที่ฝั่งขวาจะมีปุ่มเปิด-ปิดที่ทำหน้าที่เป็นที่าแกนลายนื้วมือในตัว ส่วนปุ่มปรับเสียงและช่องใส่ซิมจะอยู่ที่ฝั่งซ้าย ด้านยนจะมีรูไมโครโฟนสำหรับตัดเสียง ส่วนที่ด้านล่างจะใีลำโพงตัวเครื่อง พอร์ต USB Type-C รูไมโครโฟน และช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. อยู่
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการทันทีที่เปิดกล่องออกมาจะเป็น Color OS 13.1 ที่เป็น Android 13 โดยตัว UI ออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน มีการตัด AppDrawer ออกไปแล้วรวมทุกอย่างเอาไว้บนหน้าจอ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มแถบข้างมาเพื่อความสะดวกในการใช้งานอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่ง UI ต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นวอลเปเปอร์, ธีม, ฟอนต์, ไอคอน เป็นต้น ให้เป็นไปตามแบบฉบับที่ผู้ใช้ต้องการได้ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มแรมได้สูงสุดถึง 8GB อีกด้วย ทว่าตอนที่เปิดเครื่องครั้งแรกมาจะถูกตั้งไว้ที่ 4GB ถ้าอยากได้แรมเพิ่มก็สามารถไปปรับทีหลังได้
การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
ในเรื่องของการใช้งานนั้นตัวเครื่องที่มาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon 695 5G นั้นเรื่องความลื่นไหลนั้นไม่มีปัญหาอะไร ไม่วาจะไถเร็วแค่ไหนก็ตาม ตัวเครื่องสามารถโหลดได้ทันทั้งหมด (ต้องเน็ตแรงด้วย) ดังนั้นคุณไม่ต้องไปใส่ใจเรื่องนั้นก็ได้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเรื่องความบันเทิงอย่างการดูหนังหรือการฟังเพลงผ่านลำโพงตัวเครื่อง เพราะตัวเครื่องนั้นมากำลำโพงคู่แบบสเตอริโอทำให้ได้พลังเสียงที่ดังเกินพอ รวมถึงคุณภาพเสียงที่ค่อนข้างใช้ได้ เสียงพูดหรือเสียงร้องออกมาชัดเจน แต่เสียงเบสออกจะเบาไปนิด ซึ่งก็ไม่ได้ส่งผลอะไรมาก แค่เวลาดูหนังแนวสงครามเสียงปืดหรือระเบิดอาจจะดรอปไปนิด แต่สิ่งที่ต้องพูดถึงเลยก็คือสีสันหน้าจอ เนื่องจากหน้าจอตัวเครื่องเป็นจอ IPS ทำให้สีสันอาจจะสวยสดสู้จอ AMOLED ไม่ได้ แต่จากที่เห็นสีสันก็ถือว่าสวยในระดับหนึ่งจะบอกว่าเป็นจอ IPS เกรดสูงก็ไม่เกินเลย
สำหรับเรื่องแบตเตอรี่นั้นตัวเครื่องให้มาทั้งหมด 5000 mAh ซึ่งจากที่ได้ลองใช้ในรูปแบบทั่วไปตามชีวิตประจำวันของคนทำงานออฟฟิศนั้นต้องบอกเลยว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่จนหมดวันได้สบาย ๆ แต่ถ้ามีการเล่นเกมบ่อย ๆ ก็อาจจะต้องมาลุ้นกันหน่อยว่าต้องมีการชาร์จระหว่างวันไหม ส่วนการชาร์จนั้นด้วยระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC นั้นเราเริ่มชาร์จตอนแบตเตอรี่เหลือ 1% ใน 10 นาทีแรกจะได้แบตเตอรีเพิ่มขึ้นมาเป็น 21% และจะถึง 50% ภายในเวลา 27 นาที เมื่อรวมเวลาชาร์จจาก 1% – 100% นั้นจะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 60 นาที ซึ่งถือว่าเป็นการชาร์จ 50% ที่ค่อนข้างเร็วเลย แต่ต้องขอบอกเอาไว้หน่อยเรื่องควาร้อนสะสมระหว่างชาร์จนั้น ตอนที่ชาร์จทั้งตัวเครื่องและอะแดปเตอร์ชาร์จจะมีความร้อนสะสมอยู่พอสมควร จึงไม่แนะนำให้เล่นไปชาร์จไปอย่างเด็ดขาด
การเล่นเกม
ในด้านการเล่นเกมนั้นตัวชิป Snapdragon 695 5G นั้นสามารถใช้เล่นได้แทบทุกเกม พร้อมด้วยความจุขนาด 256GB ทำให้สามารถติดตั้งเกมได้เยอะ แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถปรับกราฟิกสูงได้ทุกเกม ซึ่งจากที่ได้ลองนั้นทั้ง RoV, PUBG Mobile และ Dead by Daylight นั้นต้องบอกเลยว่าเล่นได้ลื่น แต่ PUBG Mobile และ Dead by Daylight นั้นไม่เหมาะกับการปรับกราฟิกสูงสึก เพราะจะทำให้มีการกระสะดุดและเครื่องร้อนเร็ว นอกจากนี้อาจจะต้องมีการปรับโหมดเพื่อให้เข้ากับตัวเกมด้วยไม่ว่าจะเป็นโหมดประหยัดพลังงาน, โหมดสมดุล หรือโหมดประสิทธิภาพสูง
การถ่ายภาพ
ในด้านการถ่ายภาพนั้นตัวเครื่องจะมาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 64MP, กล้องโมโนความละเอียด 2MP และกล้องจุลทรรศน์ความละเอียด 2MP ซึ่งตัวกล้องจุลทรรศน์นี้จะสามารถขยายภาพได้สูงสุด 40 เท่า ส่วนกล้องหน้าจะเป็นกล้องความละเอียด 32MP โดยจากที่ได้เอาไปลองถ่ายมานั้นทั้งสีสันและการวัดแสงนับว่าทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะสีสันที่ดูสวยสด รวมถึงการตัดขอบที่พอดี ไม่มีการกินเข้าไปในตัวแบบ นอกจากนี้ยังมีกล้องจุลทรรศน์มาช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการถ่ายรูปได้ด้วย ถึงจะต้องแลกมากับการที่ไม่มีกล้อง Ultra-wide ก็ตาม
แต่จุดที่เรียกได้ว่าน่าเสียดายที่สุดเลยก็คือการที่สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดแค่ 1080p 30fps ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ด้วยความละเอียดที่ให้มาสามารถไปถึง 4K ได้เลย แต่ทั้งนี้ก็เพราะชิปประมวลผลที่ไม่รองรับทำให้ไม่สามารถถ่ายด้วยความละเอียดที่สูงกว่านั้นได้
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปการรีวิว OPPO A98 5G
สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องบอกเลยว่า OPPO A98 5G นั้นเป็นเครื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจ แต่ก็มีจุดที่ต้องแลกกับความน่าสนใจนั้นเช่นกัน ซึ่งถ้าถามว่าเครื่องนี้เหมาะกับใคร ก็ต้องบอกเลยว่าเหมาะกับคนที่ชื่อชอบเครื่องที่ดูสวย ๆ ความจุสูง ๆ รองรับการใช้งานที่หลากหลาย แต่งบมีไม่ถึงขั้นรุ่นเรือธง A98 5G รุ่นนี้เลยเป็นรุ่นที่เรียกได้ว่ามาตอบโจทย์เหล่านั้นได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
จุดเด่น
- ดีไซน์สวย น้ำหนักไม่ได้หนักเกินไป
- ได้หน้าจอใหญ่ถึง 6.72 นิ้ว แถมยังมีอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz
- ชิปประมวลผล Snapdragon 695 5G นั้นช่วยให้ตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ยาวนาน
- ให้ความจุมามากถึง 256GB
- มีกล้องจุลทรรศน์ที่จะเจอได้ใน Find X บางรุ่นเท่านั้น
- มาพร้อมระบบชาร์จเร็ว 67W ที่ใช้เวลาชาร์จรวมไม่ถึงชั่วโมง
- มีลำโพงคู่ที่เสียงดังเอาเรื่อง
ข้อสังเกต
- ชิป Snapdragon 695 5G ไม่แรงพอจะเล่นได้ทุกเกม
- รองรับการบันทึกวิดีโอได้สูงสุดแค่ 1080p 30fps ทั้งกล้องหน้าและหลัง
- ไม่มีกล้อง Ultra-wide
สำหรับคนที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ oppo.com/th หรือไม่ก็สามารถไปซื้อได้ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายต่าง ๆ ได้เลย โดยราคาค่าตัวของ OPPO A98 5G จะอยู่ที่ 10,990 บาท