Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Phone Review»รีวิว Redmi 12C ตัวเริ่มต้นราคากลางๆ ที่มาพร้อมจอใหญ่ 6.71 นิ้ว Helio G85 ความจุสูงสุด 128GB แบตเตอรี่ 5,000 mAh
    Phone Review

    รีวิว Redmi 12C ตัวเริ่มต้นราคากลางๆ ที่มาพร้อมจอใหญ่ 6.71 นิ้ว Helio G85 ความจุสูงสุด 128GB แบตเตอรี่ 5,000 mAh

    ACHI-SPBy ACHI-SP15 มีนาคม 2023
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email
    Redmi 12C

    Redmi 12C สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นจาก Xiaomi ประจำปี 2023 ที่เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นคือหน้าจอใหญ่ ชิปแรง กล้องความละเอียดสูง และแบตเตอรี่อึด ในราคาที่ไม่ได้แพงจนเกินไป สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นจอใหญ่ๆ แบตอึดๆ มาใช้งาน Redmi 12C ก็อาจจะกลายเป็นตัวเลือกหนึ่งได้ เพียงแต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าตัวเครื่องจะเป็นอย่างไร เราจะมาทำการรีวิว Redmi 12C รุ่นนี้ให้กับเพื่อนๆ กัน

    • สเปค
    • ดีไซน์
    • ระบบปฏิบัติการ
    • การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
    • การเล่นเกม
    • การถ่ายภาพ
    • สรุปการรีวิว

    สเปคของ Redmi 12X

    • หน้าจอ : Dot Drop Display (IPS-LCD), ขนาด 6.71 นิ้ว, ความละเอียด 1650 x 720 พิกเซล (HD+), อัตราส่วนหน้าจอ 20.6:9, ความสว่าง 500 nit
    • ชิปประมวลผล : MediaTek Helio G85
    • แรม : 4GB / 6GB แบบ LPDDR4x รองรับ Memory extension สูงสุด 5GB
    • ความจุ : 64GB / 128GB แบบ eMMC 5.1
    • กล้องหลัง :
      • ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.8 (wide)
      • ตัวที่ 2 : Auxiliary lens
    • กล้องหน้า : 5MP, f/2.2 (wide)
    • แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับการชาร์จ 10W
    • ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 13
    • การเชื่อมต่อ :
      • 4G LTE
      • Wi-Fi 5
      • Bluetooth 5.1
      • GPS, Glonass, Galileo, Beidou
      • ช่องหูฟัง 3.5 มม.
      • MicroUSB
    • เซ็นเซอร์ :
      • Fingerprint Sensor (ด้านหลังเครื่อง)
      • Accelerometer
      • Virtual Proximity
    • ขนาด : 168.76 x 76.41 x 8.77 มม.
    • น้ำหนัก : 192 กรัม
    • สี : Graphite Gray, Ocean Blue, Mint Green, Lavender Purple
    • ราคา :
      • 4GB / 64GB : 4,499 บาท
      • 6GB / 128GB : 5,499 บาท

    ดีไซน์ตัวเครื่อง

    ในเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องนั้นที่ด้านหลังตัวเครื่องมีการออกแบบให้พื้นผิวด้านหลังเป็นลอนคลื่นเพื่อลดความลื่นเวลาจับถือ และยังมีการลงสีสลับเข้ม-อ่อน เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับตัวเครื่องอย่างมีสไตล์ โดยดีไซน์นี้จะมีในทุกสีไม่ว่าจะเป็น Graphite Gray, Ocean Blue, Mint Green หรือ Lavender Purple ซึ่งเครื่องของเราเป็นสี Graphite Gray ที่ดูให้ความรู้สึกมีความดุดันแบบมีสไตล์ ที่ตัวโมดูลกล้องนั้นจะมาในรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ภายในมีการแบ่งครึ่งเป็นฝั่งเลนส์กล้องและฝั่งที่สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งตัวเลนส์กล้องนั้นจะมีทั้งหมด 2 เลนส์ วางในแนวตั้ง ที่ด้านข้างจะมีโลโก้ Redmi และที่สแกนลายนิ้วมืออยู่

    ในส่วนของหน้าจอนั้นเป็นหน้าจอ Dot Drop display ซึ่งเป็น IPS ทำให้มีขอบจอที่ค่อนข้างกว้าง ขนาดหน้าจอแสดงผลจะอยู่ที่ 6.71 นิ้ว มีความละเอียดระดับ HD+ โดยที่ตัวหน้าจอแสดงผลนี้จะมีความสว่างอยู่ที่ 500 นิต ซึ่งเรียกได้ว่าค่อนข้างสว่างเลยถึงจะสู้แสงแดดไม่ค่อยได้เท่าไรก็ตาม ในติ่งรูปหยดน้ำจะมีกล้องหน้าอยู่ภายใน

    ที่รอบตัวเครื่องนั้น ทางด้านบนจะมีช่องเสียงหุฟังขนาด 3.5 มม. อยู่ ปุ่มทั้งหมดไม่ว่าจะปุ่มปรับระดับเสียงหรือปุ่มเปิด-ปิดก็จะอยู่ที่ฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นช่องใส่ซิมแบบ Triple-slot ส่วนด้านล่างจะมีลำโพงตัวเครื่อง, รูไมโครโฟน และพอร์ตแบบ MicroUSB อยู่

    สำหรับสิ่งที่ให้มาในกล่องนั้นนอกจากตัวเครื่อง, คู่มือ และเข็มจิ้มซิมแล้ว ก็จะมีอะแดปเตอร์ชาร์จขนาด 10W (5V/2A) และสายชาร์จแบบ USB-A to Micro อยู่ ในกล่องไม่มีเคสแถมมาให้นะเออ


    ระบบปฏิบัติการ

    ในส่วนของระบบปฏิบัติการนั้นเป็น MIUI 13 แต่ทว่าเป็น MIUI ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 12 ไม่เหมือน MIUI 13 ปกติที่มีพื้นฐานมาจาก Android 13 ซึ่งเหตุที่เป็น Android 12 ก็เนื่องมาจากการที่ทาง Xiaomi ต้องการ MIUI รุ่นใหม่ที่กินสเปคน้อยกว่าสำหรับใช้ในสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นนั่นเอง ดังนั้น MIUI 13 ใน Redmi 12C เครื่องนี้นั้นจะมีฟีเจอร์ที่น้อยกว่า MIUI 13 ปกตินั่นเอง แต่ถ้าพูดถึงการใช้งานทั่วไปและความลื่นไหลแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร นอกจากนี้ทาง Xiaomi ยังมี Store แยกสำหรับเอาไว้ใช้ดาวน์โหลดธีม, วอลเปเปอร์ และฟอนต์ ให้เอาไว้ใช้ปรับแต่เครื่องได้อีกด้วย


    การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ

    ในเรื่องของการใช้งานนั้นสำหรับการจับถือนั้นต้องบอกว่าไม่เลวทีเดียวทั้งขนาดและน้ำหนักกำลังพอดีมือไม่ใหญ่เกินไปและไม่หนักเกินไป แถมด้วยการออกแบบพื้นผิวหลังเครื่องให้เป็นลอนคลื่นก็ช่วยให้ตัวเครื่องไม่ลื่นหลุดจากมือง่ายอีกด้วย สำหรับการเล่นโซเชียลนั้นก็ต้องบอกเลยว่าลื่นไหลดี แถมด้วยหน้าจอขนาด 6.71 นิ้ว ก็ช่วยให้เห็นภาพได้เต็มตาอีกด้วย ในส่วนของความบันเทิงนั้นอันนี้ก็ต้องบอกว่าสมราคาแล้ว ตัวเครื่องรองรับ Widevine ระดับ L3 ทำให้รองรับการสตรีมมิ่งสูงสุดแค่ระดับ SD เท่านั้น ทำให้อาจเสียอรรถรสในการรับชมไปพอสมควร แต่ก็จะมีข้อดีตรงที่ว่าไม่เปลืองค่าเน็ต แถมยังสามารถโหลดข้อมูลได้รวดเร็วอีกด้วย ตัวลำโพงเองก็เป็นลำโพงเดี่ยวที่เสียงไม่ได้ดังมากมายนัก อาจจะไม่สามารถใช้งานในที่ๆ มีเสียงดังมากๆ ได้ แต่ข้อดีของเครื่องนี้ก็คือยังมีการใส่ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้ ทำให้ไม่เรื่องมากในการหาหูฟังนั่นเอง

    สำหรับตัวแบตเตอรี่นั้นตัวเครื่องมีแบตเตอรี่อยู่ 5,000 mAh ซึ่งถ้าพูดถึงการใช้ทั่วๆ ไป ไม่ได้เล่นเกม เล่นแต่โซเชียล ตัวแบตเตอรี่สามารถอยู่ถึงวันที่ 2 ได้สบายๆ เลย แต่ถถึงจะมีการเล่นเกมด้วยก็สามาถรอยู่ครบวันได้สบายๆ เพียงแต่ในเรื่องของการชาร์จนั้นเครื่องนี้มาพร้อมระบบชาร์จแบบ 10W หรือ 5V/2A ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการชาร์จนานพอสมควรเลยทีเดียว อย่างน่อยๆ ต้องมี 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย และยิ่งถ้ามีการเล่นไปด้วยชาร์จไปด้วยก็จะยิ่งนานขึ้นไปอีก ดังนั้นหากคิดว่าไม่น่าจะสามารถรักษาแบตเตอรี่เอาไว้ได้ก่อนหมดวัน แนะนำให้เสียบสายชาร์จตั้งแต่ตอนที่แบตเตอรี่เหลือแบตเตอี่อย่างน้อย 30% จะได้สามารถยืดเวลาใช้งานออกไปได้


    การเล่นเกม

    ในเรื่องของการเล่นเกมนั้นด้วยการที่ตัวเครื่องมาพร้อมชิป MediaTek Helio G85 ที่เป็นชิปเกมมิ่งราคาประหยัดทำให้สามารถเอามใช้เล่นเกมได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่สามารถปรับกราฟิกให้สูงๆ และไม่เหมาะกับการเล่นเกมกินสเปคหนักๆ อย่าง Gemshin Impact ได้ โดยที่เราได้ลองนั้นจะมีเกม RoV และ Free Fire Max ซึ่งก็สามารถเล่ไนด้ลื่นดี ไม่ว่าจะปรับกราฟิกให้สูงสุดเท่าที่จะสามารถปรับได้แล้วก็ตาม แต่สิ่งที่เราพอก็คือความร้อนที่ขึ้นค่อนข้างไว และต้องใช้เวลาพอสมควรนกว่าความร้อนจะคลายจนหมด ซึ่งความร้อนที่เกิดขึั้นนั้นจะหนักไปทางส่วนบนของเครื่อง ทำให้เวลาจับถือไม่ค่อยสบายมือเท่าไร แถมด้วยการที่ช่องหูฟังอยู่ที่มุมเครื่องด้านล่างเวลาถือแนวนอน ทำให้หากต่อหูฟังเล่นเกมอาจจะจับไม่ถนัดมือเท่าไรนัก วิธีแก้ก็จะมีแค่ 2 รูปแบบก็คือหมุนเครื่องไปถือเล่นอีกด้านไม่ก็ใช้หุฟังไร้สายเอาเท่านั้น


    การถ่ายภาพ

    ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้นตัวเครื่องมาพร้อมเลนส์กล้องหลังทั้งหมด 2 เลนส์ แต่ที่ใช้จริงๆ จะมีแค่เลนส์เดียว เป็นเลนส์หลักที่มีความละเอียด 50MP ส่วนกล้องหน้าจะเป็นกล้องความละเอียด 5MP ซึ่งจากทีไ่ด้เอาไปลองถ่ายมาทั้งในสภาพแสงปกติและแสงน้อยแล้ว ผลก็เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ ก็คือในสภาพแสงปกติ ทั้งรายละเอียดต่างๆ และการละลายหลังสามารถทำออกมาได้ดี อาจจะมีบ้างที่เกิดสภาพแสงโอเวอร์ในส่วนของฉากหลัง แต่ก็ยังนับว่าดีที่ไม่ได้ทำให้แสงที่ตัวแบบโอเวอร์ไปด้วย แต่ในการถ่ายภาพกลางคืนหรือในที่แสงน้อยนั้นบอกเลยว่าค่อนข้างลำบาก ถึงแม้ในเรื่องของการเก็บรายละเอียดจะทำออกมาได้ดีเช่นกัน แต่จะมีปัญหาเรื่องที่ว่าเวลาถ่ายมือต้องนิ่งมากๆ เพราะหากไม่นิ่งสนิท ภาพที่ถ่ายออกมาจากมีอาการภาพสั่นเล็กน้อยเสมอ อีกทั้งเวลาถ่ายแสงไฟก็จะมีบางครั้งที่แสงนั้นจะโอเวอร์ขึ้นมาจนไปกลบรายละเอียดอื่นๆ ของภาพ บอกได้เลยว่าในการถ่ายกลางคืนนั้นไม่ค่อยเหมะเท่าไรนัก ซึ่งก็ถือเป็นเรืองปกติของมือถือระดับเริ่มต้นแล้ว

    ตัวอย่างภาพถ่าย


    สรุปการรีวิว

    สรุปการรีวิวจากที่ได้เอาไปลองใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องบอกเลยว่า Redmi 12C เป็นมือถือที่เหมาะกับคนที่ต้องการมือถือมาไว้ใช้งานทั่วไปมากกว่า เหมาะจะซื้อมาไว้ให้พ่อ-แม่, ผู้สูงอายุ หรือจะซื้อมาไว้ให้เด็กใช้ก็ยังได้ เพราะตัวเครื่องเองก็สามารถเอามาใช้เล่นเกมได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากคาดหวังถึงภาพคมๆ หรือกล้องดีๆ แล้ว Redmi 12C อาจจะไม่ตอบโจทย์คุณสักเท่าไร

    จุดเด่น

    • ดีไซน์ตัวเครื่องออกแบบมาเพื่อให้ไม่ลื่นหลุดมือเวลาใช้งาน
    • ได้หน้าจอนาดใหญ่ 6.71 นิ้ว
    • ได้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G85
    • รุ่นความจุ 128GB ได้แรมเยอะขึ้นกว่าเดิม
    • แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่อึด ถึก ทน สุดๆ
    • ยังให้ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. มาอยู่

    ข้อสังเกต

    • ชิปประมวลผลด้อยลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
    • ราคาแพงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย
    • ไม่มีชาร์จเร็ว
    • กล้องถ่ายภาพไม่เหมาะกับการเอาไปถ่ายในที่แสงน้อย
    • ไม่มีเคสมาให้ในกล่อง

    สำหรับคนที่สนใจอยากดูรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้ที่ mi.com ซึ่งถ้าซื้อตอนนี้จะมีของแถมมูลค่า 890 บาทให้ด้วย โดยของแถมที่จะได้คือ Redmi 12C Gift Box ที่ประกอบไปด้วย ขาตั้งโทรศัพท์, เคสโทรศัพท์ และฟิล์มกันรอย

    หากต้องการซื้อสามารถหาซื้อได้ที่ Xiaomi Store, Shopee, Lazada และตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ได้ และหากอยากรู้ว่าสเปคของ Redmi 12C เมื่อเทียบกันรุ่นก่อนหรือรุ่นราคาใกล้เคียงเป็นอย่างวไร สามารถเข้าไปดูได้ที่ สรุปสเปค Redmi 12C ก่อนเปิดตัว พร้อมเทียบสเปค

    Redmi 12C Review Xiaomi
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ACHI-SP

    Related Posts

    Xiaomi เผยข้อมูลชิป XRING 01 ที่พัฒนาเองเป็นครั้งแรก เตรียมเปิดตัวปลายเดือนนี้

    16 พฤษภาคม 2025

    รวมโทรศัพท์ติดโปร AIS ล่าสุดทุกรุ่นปี 2568 มีส่วนลดค่าเครื่องติดโปรเท่าไหร่บ้างเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจ

    15 พฤษภาคม 2025

    รวมโทรศัพท์ติดโปรทรูล่าสุดปี 2568 ทุกรุ่นทุกยี่ห้อมีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง เมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจทรู

    14 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    เปลี่ยนหน้าจอไอโฟนราคาเท่าไหร่ปี 2025 และราคาเปลี่ยนกระจกหลังไอโฟนราคาล่าสุดเท่าไหร่บ้าง

    20 พฤษภาคม 2025

    เปลี่ยนแบตไอโฟนราคาเท่าไหร่ในปี 2025 เปลี่ยนแบตไอโฟนทุกรุ่นล่าสุดเท่าไหร่บ้าง เช็คได้เลย!

    20 พฤษภาคม 2025

    แรงกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! realme จับมือ Aston Martin จุดชนวนความเร็วระดับรถแข่ง ในรุ่นพิเศษ “realme GT 7 Dream Edition”

    20 พฤษภาคม 2025

    ลือ Samsung เตรียมอัปเกรดบานพับ Galaxy Z Fold7 และรุ่นพับ 3 ทบให้ทนทานขึ้น

    20 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X