Galaxy Z Flip 3 vs Galaxy Z Flip 4 ปลายปีนี้ซื้อตัวไหนดี เนื่องด้วยมือถือพับได้ตระกูล Z Flip ในปัจจุบันนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมพอตัวเลยด้วยสเปคที่แรง และขนาดที่กระทัดรัด ทำให้ถูกใจใครหลายๆ คนที่ไม่ค่อยชอบพกมือถือใหญ่ๆ หนักๆ ซึ่งมือถือพับได้ในตระกูล Z Flip นั้นได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่ Galaxy Z Flip 3 จนล่าสุด Samsung ได้ออก Galaxy Z Flip 4 ออกมาพร้อมสเปคที่ดียิ่งขึ้น เพียงแต่สำหรับมือถือในคลาสเรือธงนั้นไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นใหม่มาใช้เสมอไป วันนี้เราเลยจะมาเทียบสเปค Galaxy Z Flip 3 vs Galaxy Z Flip 4 ว่ามีตรงไหนที่แตกต่างกันบ้าง แล้วจะเลือกซื้อตัวไหนถึงจะคุ้มที่สุด
เทียบสเปค Galaxy Z Flip 3 vs Galaxy Z Flip 4
ขนาด, น้ำหนัก และวัสดุ
Galaxy Z Flip 3 | Galaxy Z Flip 4 | |
---|---|---|
ขนาดเมื่อพับ | 72.2 x 86.4 x 15.9 มม. | 84.9 x 71.9 x 17.1 มม. |
ขนาดเมื่อกาง | 166 x 72.2 x 6.9 มม. | 165.2 x 71.9 x 6.9 มม. |
น้ำหนัก | 183 กรัม | 187 กรัม |
วัสดุ | หน้า : พลาสติก หลัง : กระจก โครง : อลูมิเนียม | หน้า : พลาสติก หลัง : กระจก โครง : อลูมิเนียม |
สี | Cream, Phantom Black, Green, Lavender, Gray, White, Pink | Bora Purple, Graphite, Pink Gold, Blue, Bespoke Edition |
มาตาฐานกันน้ำ-กันฝุ่น | IPX8 (ลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที) | IPX8 (ลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที) |
ในส่วนขนาดตัวเครื่องนั้นไม่ว่าจะดูจากเลขสเปคหรือของจริงนั้นเรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างกันเท่าไร จุดที่จะพอสังเกตุก็น่าจะมีเพียงแค่ข้อพับของหน้าจอด้านในที่ Galaxy Z Flip 4 นั้นสามารถงอได้มากกว่านิดหน่อย ทำให้ช่องว่างที่เกิดขึ้นตอนพับจอมีขนาดที่เล็กว่าเล็กน้อย ในส่วนของน้ำหนักนั้นทาง Galaxy Z Flip 4 จะมีน้ำหนักที่มากกว่าเล็กน้อย ทั้งนั้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมานั้นมาจากตัวแบตเตอรี่ที่มากขึ้น ถ้าให้สรุปก็คือทั้งขนาด, น้ำหนัก รวมถึงวัสดุตัวเครื่องแทบไม่ได้แตกต่างกันจนเห็นได้ชัด แต่สิ่งที่แตกต่างกันและน่าจะเป็นจุดที่หลายๆ คนมองเลยก็คือสีตัวเครื่อง โดยถ้าพูดถึงสีพื้นฐานแล้วในปัจจุบันนี้ Galaxy Z Flip 3 จะมีสีให้เลือกเยอะกว่า แต่ๆ ทาง Galaxy Z Flip 4 จะมี Bespoke Edition มาเป็นจุดเด่นแทน โดยตัว Bespoke Edition คือการที่เราสามารถเลือกตกแต่งสีสันเองได้ตามที่ต้องการ (Galaxy Z Flip 3 เมื่อก่อนก็มี Bespoke Edition แต่ตอนนี้ยกเลิกไปแล้ว)
หน้าจอ
Galaxy Z Flip 3 | Galaxy Z Flip 4 | |
---|---|---|
พาแนล | จอใน : Dynamic AMOLED 2X จอนอก : Super AMOLED | จอใน : Dynamic AMOLED 2X จอนอก : Super AMOLED |
กระจก | Gorilla Glass Victus | Gorilla Glass Victus+ |
ขนาดหน้าจอ | จอใน : 6.7 นิ้ว จอนอก : 1.9 นิ้ว | จอใน : 6.7 นิ้ว จอนอก : 1.9 นิ้ว |
ความละเอียด | จอใน : 2640 x 1080 พิกเซล จอนอก : 260 x 512 พิกเซล | จอใน : 2640 x 1080 พิกเซล จอนอก : 260 x 512 พิกเซล |
Refresh Rate | จอใน : Adaptive 120Hz (10~120Hz) จอนอก : 60Hz | จอใน : Adaptive 120Hz (1~120Hz) จอนอก : 60Hz |
ในส่วนของหน้าจอนั้นทั้ง Galaxy Z Flip 3 และ Galaxy Z Flip 4 นั้นใช้หน้าจอด้านในเป็น Dynaic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ส่วนหน้าจอนอกเป็น Super AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว เหมือนๆ กัน ความละเอียดเท่ากัน แต่ๆๆ สิ่งที่ต่างกันหลักๆ เลยก็คือค่า Refresh Rate เนื่องด้วยถึงแม้ทั้งคู่จะมาพร้อมค่า Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz เช่นเดียวกัน แต่ค่า Refresh Rate ต่ำสุดนั้นแตดต่างกันเล็กน้อย โดย Z Flip 3 จะต่ำสุดที่ 10Hz ส่วน Z Flip 4 จะต่ำสุดที่ 1Hz ซึ่งส่วนต่างนี้จะส่งผลไปยังการบริโภคพลังงานเวลาใช้งานด้วย เนื่องจากยิ่งค่า Refresh Rate สูงก็ยิ่งกินแบตเตอรี่นั่นเอง ดังนั้นการที่สามารถลงไปถึง 1Hz ได้ก็ช่วยให้สูญเสียพลังงานน้อยลงด้วยเช่นกัน (Adaptive Refresh Rate หมายถึงระบบจะตัดสินใจให้ว่าการใช้งาน ณ ตอนนั้นต้องใช้กี่ Hz) นอกจากนี้อีกสิ่งที่แตกต่างกันคือกระจกรอบตัวเครื่องนั่นเอง ซึ่งถึงแม้ทั้งคู่จะใช้ Gorilla Glass Victus เช่นเดียวกัน แต่ทาง Z Flip 4 จะเป็น Victus+ ซึ่งเป็นตัวต่อยอดจาก Victus ให้ทนรอยขีดข่วนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถ้าถามว่าตัวไหนดีกว่า ก็ต้องตอบว่า Galaxy Z Flip 4 ที่ใช้ Victus+ นั้นดีกว่าแน่นอน แต่ถ้าพูดถึงความจำเป็นจริงๆ แล้วแค่ Victus ของ Galaxy Z Flip 3 ก็เกินพอแล้ว
ชิปประมวลผล
Galaxy Z Flip 3 | Galaxy Z Flip 4 | |
---|---|---|
ชิปประมวลผล | Qualcomm Snapdragon 888 (5nm) | Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 (4nm) |
CPU | Cortex-X1 @2.84GHz x1 Cortex-A78 @2.42GHz x3 Cortex-A55 @1.8GHz x4 | Cortex-X2 @3.19GHz x1 Cortex-A710 @2.75GHz x3 Cortex-A510 @1.8GHz x4 |
GPU | Adreno 660 | Adreno 730 |
แรม | 8GB (LPDDR5) | 8GB (LPDDR5) |
ความจุ | 128GB / 256GB (UFS 3.1) | 128GB / 256GB / 512GB (UFS 3.1) |
การเชื่อมต่อ | 5G (SA / NSA / Sub6) Wi-Fi 6 Bluetooth 5.1 GPS NFC USB-C 2.0 | 5G (SA / NSA / Sub6 / mmWave) Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 GPS NFC USB-C 2.0 |
ในส่วนของชิปประมวลผลนั้น Z Flip 3 ใช้เป็น Snapdragon 888 ส่วน Z Flip 4 ใช้เป็น Snapdragon 8+ Gen 1 ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องความแรงแล้ว Snapdragon 8+ Gen 1 ย่อมออกมาดีกว่าอยู่แล้ว ด้วยเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า ขนาดที่เล็กกว่า รวมถึงยังมีการแก้ปัญหาความร้อนไประดับหนึ่งแล้วด้วย ในส่วนของแรมและความจุนั้นทั้งคู่มีแรมขนาด 8GB แบบ LPDDR5 เหมือนกันและมีความจุ 128GB / 256GB แบบ UFS 3.1 เหมือนๆ กัน แค่ Z Flip 4 จะมีความจุ 512GB มาให้เลือกเพิ่มด้วย ซึ่งถ้าพูดถึงความเร็วในการอ่านเขียนก็ต้องบอกเลยว่าไม่แตกต่างกันเพราะใช้ชิปตัวเดียวกัน เรียกได้ว่าในส่วนนี้เทียบยังไง Galaxy Z Flip 4 ก็เหนือกว่าเห็นๆ แต่ทว่าถ้าพูดถึงการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว Galaxy Z Flip 3 เองก็ทำได้ดีเช่นกัน แค่อาจจะร้อนกว่าเวลาใช้งานไปนานๆ (ชิประดับเรือธงมันไปไกลเกินกว่าที่แอปฯ ทั่วๆ ไปต้องการแล้ว ดังนั้นเรื่องความลื่นไหลก็หายห่วงได้เลย)
กล้องถ่ายภาพ
Galaxy Z Flip 3 | Galaxy Z Flip 4 | |
---|---|---|
กล้องหลังตัวที่ 1 | Wide : 12MP, f/1.8, OIS, 1.4µm | Wide : 12MP, f/1.8, OIS, 1.8µm |
กล้องหลังตัวที่ 2 | Ultra-Wide : 12MP, f/2.2, 123˚, 1.12µm | Ultra-Wide : 12MP, f/2.2, 123˚, 1.12µm |
กล้องหน้า | Wide : 10MP, f/2.4, 1.22µm | Wide : 10MP, f/2.4, 1.22µm |
การบันทึกวิดีโอ (กล้องหลัง / กล้องหน้า) | 4K@60fps / 4K@30fps HDR10+ | 4K@60fps / 4K@30fps HDR10+ |
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพนั้นจากตารางสเปคแล้วจะเรียกว่าเป็นกล้องชุดเดิมก็ไม่ผิดไปเสียทีเดียว ด้วยกล้องคู่ความละเอียด 12MP เหมือนกัน และมีกล้องหน้า 10MP เหมือนๆ กันอีก แต่สิ่งที่แตกต่างแต่อาจไม่ได้สังเกตุเห็นเท่าไรก็คือขนาดเม็ดพิกเซลที่ Galaxy Z Flip 4 (1.8µm) จะมีขนาดใหญ่กว่า Galaxy Z Flip 3 (1.4µm) เล็กน้อย ซึ่งนั่นจะช่วยให้การเก็บแสงทำได้ดีขึ้น ส่งผลให้การถ่ายภาพในที่แสวน้อย Galaxy Z Flip 4 ทำออกมาได้ดีกว่านั่นเอง ในเรื่องของการบันทึกวิดีโอนั้นทั้งคู่ก็สามารถบันทึกวิดีโอกล้องหลังได้ที่ 4K@60fps เช่นเดียวกัน รองรับการบันทึกแบบ HDR10+ ด้วย ส่วนกล้องหน้าก็วามารถบันทึกได้ที่ 4K@30fps เหมือนกัน และด้วยการที่ทั้งคู่มีกันสั่น OIS เหมือนกัน ทำให้คุณภาพที่ได้ออกมาไม่แตกต่างกันเท่าไร
แบตเตอรี่
Galaxy Z Flip 3 | Galaxy Z Flip 4 | |
---|---|---|
ขนาด | 3,300 mAh | 3,700 mAh |
ระบบชาร์จ | สาย : 15W ไร้สาย : 10W ไร้สายย้อนกลับ :4.5W | สาย : 25W ไร้สาย : 15W ไร้สายย้อนกลับ :4.5W |
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นทาง Galaxy Z Flip 3 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 3,300 mAh มีระบบชาร์จเร็ว 15W และชาร์จไร้สายขนาด 10W ในขณะที่ Galaxy Z Flip 4 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 3,700 mAh มีระบบชาร์จเร็วขนาด 25W และชาร์จไร้สายขนาด 15W ถ้าพูดถึงเรื่องความเร็วในการชาร์จ Galaxy Z Flip 4 ชนะขาดทั้งแบบต่อสายและไร้สายเลยด้วยกำลังไฟที่สูงกว่า ส่วนเรื่องของขนาดแบตเตอรี่นั้นก็จริงที่ความจุเยอะกว่าย่อมต้องใช้งานได้ดีกว่า แต่ทว่าทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเพื่อนๆ เองว่าในแต่ละวันมีการใช้อะไรบ้าง แล้วมีการตั้งค่าแบบไหน
สรุป Galaxy Z Flip 3 vs Galaxy Z Flip 4 ปลายปีนี้ซื้อตัวไหนดี
สรุป Galaxy Z Flip 3 vs Galaxy Z Flip 4 ปลายปีนี้ซื้อตัวไหนดี โดยส่วนตัวของผู้เขียนแล้วถ้าพูดถึงสเปคและระยะเวลาในการใช้งานแล้วต้องบอกว่า Galaxy Z Flip 4 น่าซื้อกว่า เพราะได้ชิปที่ใหม่กว่า แถมพึ่งเปิดตัวมาไม่นานทำให้ยังใช้ต่อไปได้อีกหลายปี เพียงแต่ราคาก็จะโหดตามไปด้วยโดยของใหม่นั้นราคาจะเริ่มต้นที่ 39,900 บาท ส่วนราคามือสองก็จะอยู่ราวๆ 23,900 – 30,000 บาทขึ้นอยู่กับสภาพและความจุ ส่วน Galaxy Z Flip 3 นั้นเป็นมือถือที่ออกมาแล้ว 1 ปี ทำให้ระยะเวลาใช้งานในอนาคตสั้นกว่า Galaxy Z Flip 4 แถมตัวชิปยังเป็น Snapdragon 888 ที่มีปัญหาเรื่องความร้อน ทำให้อายุการใช้งานอาจจะสั้นกว่าปกติก็ได้ แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่สามารถตัดสินใจจ่ายได้ง่ายกว่า โดยตอนนี้ราคาของใหม่อยู่ที่ 27,900 บาท ส่วนราคามือสองจะอยู่ราวๆ 13,000 – 17,900 บาท ซึ่งนับว่าเป็นราคาที่ถูกกว่ามาก (ราคามือ 1 อ้างอิงจากเว็บไซต์ samsung.com)
ถ้าจะให้สรุปสั้นๆ เลยก็คือถ้าต้องการสเปคใหม่ๆ ให้ไป Samsung Galaxy Z Flip 4 แต่ถ้ามีงบไม่เยอะก็ให้หันไปซื้อ Samsung Galaxy Z Flip 3 แทน โดยในที่นี้จะเน้นให้ซื้อมือสองมากกว่ามือ 1 เนื่องจากราคาของทั้งคู่ตกลงมาพอสมควรแล้ว และเมื่อรวมกับสถานกาณณ์ในปัจจุบันนี้หากประหยัดได้ก็ควรประหยัดไว้ (มือ 1 ก็ยังมีขายนะ แต่ราคาพอๆ กับ Galaxy Z Flip 4 มือสองเลย)