Apple Music ราคาเท่าไหร่? ดีไหม สมัครแบบไหนคุ้มสุดในปี 2022 ราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 33 บาทเท่านั้น
ถ้าพูดถึงวงการฟังเพลงในยุคสมัยนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนที่มีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเองส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้นิยมโหลดเพลงมาเก็บไว้ในมือถือตัวเองเหมือนสมัยก่อนเท่าไหร่นัก ไม่ใช่เพียงเรื่องของข้อจำกัดในการเก็บข้อมูลเพลงเท่านั้น แต่การเลือกฟังเพลงแต่ละเพลงในตอนนี้ ก็มีหลายแพลทฟอร์มที่ทำออกมารองรับ อย่างแอพสตรีมมิ่งเพลงที่มีอยู่หลายแอพนั่นเอง และสำหรับใครที่ใช้ iPhone หรือว่าอุปกรณ์ของ Apple ก็น่าจะรู้จัก Apple Music กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะว่าเป็นแอพที่ติดมากับตัวเครื่องตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่ได้เข้าไปใช้งาน หรือว่ายังไม่รู้ว่าจะซื้อแพ็กเกจไหนดี แต่ละแบบมีราคาเท่าไหร่บ้าง รวมไปถึงยังไม่รู้ว่ามันมีอะไรให้ใช้งานบ้าง เดี๋ยวันนี้ทาง Specphone จะมาบอกกันว่า Apple Music ราคาเท่าไหร่ ทั้งราคาปกติและราคานักศึกษา ดีไหมถ้าใช้งาน และสมัครแบบไหนคุ้มสุดในปี 2022 ซึ่งเราจะไม่ได้นำมาเปรียบเทียบกับแอพอื่นนะ แค่เพียงมาแนะนำว่าสมัครแบบไหนคุ้ม และมีอะไรน่าสนใจบ้าง
สมัคร Apple Music ฟรีสูงสุด 6 เดือนกับ AIS หรือสมัครใหม่กับ AirPods, HomePod mini, Beats
Apple Music คืออะไร? ใช้งานดีไหมและมีอะไรน่าสนใจบ้าง
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า Music ของ Apple คือรูปแบบการสตรีมมิ่งแบบหนึ่งที่มีเพลงให้ฟังมากกว่า 90 ล้านเพลง และเรายังสามารถฟังได้ทั้งออนไลน์ หรือว่าจะฟังแบบออฟไลน์ผ่านการโหลดเก็บไว้ฟังในแอพก็ได้ ส่วนเพลงในแอพก็จะมีเพลงที่อัพเดทเพลงใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ และมีเนื้อเพลงแบบเรียลไทม์ให้ฟังด้วย ใครอยากจะสร้างลิสต์เป็นของตัวเองเพื่อฟัง หรือว่าจะเลือกฟังจากที่แอพคัดมาให้แล้วมากกว่า 30,000 เพลย์ลิสต์ก็ยังได้ นอกจากนี้ยังมีการรองรับระบบเสียงตามตำแหน่งพร้อม Dolby Atmos หรือดูวิทยุรายการสด และคอนเสิร์ต กับคอนเทนต์พิเศษได้หมดเลย ไม่ว่าจะใช้งานอุปกรณ์อะไรหรือระบบไหนก็สามารถใช้งานได้หมด ที่น่าสนใจก็คือเวลาเราฟังเพลงไหนก็ตาม 1 เพลงแต่ไม่ได้เลือกเพลงอื่นฟัง ทางแอพก็จะหาเพลงมาใส่ต่อเนื่องในรูปแบบเดียวกันได้เรื่อยๆ เรียกว่า Infinity Playlist ไม่ต้องมากดเปลี่ยนบ่อยๆ หรือหาให้เสียเวลานั่นเอง โดยอุปกรณ์ที่รองรับได้แก่
- iPhone
- iPad
- Watch
- Apple TV
- Mac
- CarPlay
- สมาร์ททีวี (Samsung, LG)
- คอนโซลเกม (PlayStation 5)
- Roku
- Android (โหลดที่นี่)
- PC (โหลดที่นี่)
Apple Music ราคาเท่าไหร่บ้าง?
สำหรับคนที่สนใจอยากจะสมัครใช้งานกับ Apple Music นั้นโดยหลักๆ แล้วจะมีแบบแผนให้เลือกอยู่ 3 แบบ ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะใช้งานแบบไหนตามข้อจำกัดของ Apple ที่มีอยู่ โดยทุกแบบแผนเราสามารถ “ทดลองใช้ได้ฟรี 1 เดือน” ทุกแบบแผน แต่การสมัครแต่ละแบบจะต้องตั้งค่า หรือดูเงื่อนไขของแต่ละแบบด้วย แต่ละแบบแผนมีรายละเอียดดังนี้
1. สมัครแบบบุคคล ราคา 129 บาท/ เดือน: แบบแรกนี้เป็นการสมัครที่ง่ายที่สุดแล้ว เพราะว่าถ้าเข้าไปยังแอพก็จะมีให้เลือกสมัครแบบแผนนี้เลย เมื่อสมัครแล้วก็จะสามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบ ยกเว้นแต่ว่าแชร์กับคนในครอบครัวไม่ได้
2. แบบนักศึกษา ราคา 79 บาท/ เดือน: แบบแผนนี้จะสามารถสมัครและใช้งานได้เต็มรูปแบบเหมือนบุคคลเช่นกัน เพียงแต่ว่ามีราคาที่ถูกกว่าเยอะพอสมควรเลย แต่การสมัครนั้นจะมีเงื่อนไขของทาง Apple อยู่ด้วยนั่นก็คือ จะต้องเป็นนักศึกษาที่ได้ลงทะเบียนในมหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยที่มอบใบปริญญา ผ่านการยืนยันตัวจาก UNiDAYS ถ้าหากเข้าเงื่อนไขก็จะสามารถใช้งานได้สูงสุด 48 เดือน (4 ปี) และถ้าสมัครสมาชิก Music แบบนักศึกษา จะได้รับ Apple TV+ ในระยะเวลาจำกัดเพิ่มอีกด้วย ดูเงื่อนไขเพิ่มเติมและสมัครที่นี่
3. แบบครอบครัว ราคา 199 บาท/ เดือน: แบบแผนสุดท้ายนี้เป็นแบบแผนที่มีราคาคุ้มที่สุดแล้ว เพราะเราสามารถแชร์กับคนในครอบครัวได้อีก 5 คน (รวมตัวเองอีก 1 คนเป็น 6) ก็จะหารกันในราคาเพียง 33.1 บาท/ เดือนเท่านั้น โดยการสมัครแบบแผนนี้เราจะต้องเข้าไปตั้งค่า “การแชร์กันในครอบครัว” ในหน้า Apple ID ก่อนถึงจะสมัครและเชิญเพื่อน หรือคนในครอบครัวเข้ามาเป็นสมาชิกในแบบแผนได้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้ที่นี่ ส่วนใครที่ยังตั้งค่าการแชร์กันในครอบครัวไม่ได้ เข้าไปดูวิธีการตั้งค่าที่นี่เลย
ตารางเปรียบเทียบการใช้งานแต่ละแบบแผน
ข้อมูล | แบบนักศึกษา | แบบบุคคล | แบบครอบครัว |
ทดลองใช้ฟรี 1 เดือน | ได้ | ได้ | ได้ |
ฟังเพลงได้มากกว่า 90 ล้านเพลง | ได้ | ได้ | ได้ |
เข้าถึงคลังเพลงทั้งแบบออนไลน์ หรือออฟไลน์ | ได้ | ได้ | ได้ |
สตรีมเพลงแบบไม่มีโฆษณา | ได้ | ได้ | ได้ |
รายการต้นฉบับ คอนเสิร์ต และคอนเทนต์พิเศษ วิทยุรายการสดและแบบออนดีมานด์ซึ่งจัดโดยศิลปิน | ได้ | ได้ | ได้ |
ใช้งานได้กับทุกระบบ | ได้ | ได้ | ได้ |
ระบบเสียงตามตำแหน่งพร้อม Dolby Atmos | ได้ | ได้ | ได้ |
เนื้อเพลง | ได้ | ได้ | ได้ |
เพลงทั้งแค็ตตาล็อกในแบบ Lossless | ได้ | ได้ | ได้ |
ใช้งานได้ไม่จำกัด สำหรับสมาชิกสูงสุด 6 คน | – | – | ได้ |
คลังเพลงแบบส่วนตัว สำหรับแต่ละคนในครอบครัว | – | – | ได้ |
คำแนะนำเพลง สำหรับแต่ละคนในครอบครัว | – | – | ได้ |
วิธีชำระเงินสำหรับ Apple Music
การจ่ายเงินหรือชำระเงินเพื่อซื้อแบบแผนของ Apple นั้นสามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบแผนของ Music หรือว่ารูปแบบอื่นๆ ทั้ง Apple TV+, Apple One นั้นสามารถทำได้ง่ายมากๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น โดยช่องทางการชำระจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ช่องทางคือ
- eWallet -> truemoney wallet
- เก็บค่าบริการโทรศัพท์มือถือ -> AIS, truemove H และ dtac
- บัตรเครดิตหรือเดบิต
ส่วนวิธีการตั้งค่าเพื่อชำระเงินนั้น ให้เราเข้าไปยังการตั้งค่า (Settings) และเลือกไปที่ Apple ID ของเราด้านบนสุด จากนั้นเลือก “การชำระเงินและการจัดส่ง” ที่เราจะต้องเข้าสู่ระบบก่อน จากนั้นเลือก “เพิ่มวิธีการชำระเงิน” และเลือกช่องทางการชำระเงินของตัวเองได้เลยแบบง่ายๆ
นอกจากนี้เรายังสามารถเปลี่ยนแบบแผนที่เคยสมัครไปแล้วได้ด้วย ไม่ว่าจะเคยสมัครแบบไหนไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม เราก็สามารถเข้าไปเปลี่ยนรูปแบบที่เคยสมัครไว้ผ่าน Apple ID ได้เลย ดูวิธีการเปลี่ยนแบบแผนได้ที่นี่
สมัคร Apple Music ฟรีสูงสุด 6 เดือนกับ AIS หรือสมัครใหม่กับ AirPods, HomePod mini, Beats
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า AIS สามารถรับฟัง Apple Music ฟรีได้สูงสุดถึง 6 เดือนเลยทีเดียว โดยสิทธิพิเศษนี้จะเป็นสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าแบบรายเดือน และเติมเงิน ไม่ว่าจะใช้ระบบ iOS หรือ Android ก็สามารถรับสิทธิได้เช่นกัน โดยมีเงื่อนไขในการรับสิทธิคือ
- เป็นลูกค้าเอไอเอส ปัจจุบัน
- เป็นลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่
- เป็นลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม
- เป็นลูกค้าเปลี่ยนจากเติมเงินมาเป็นรายเดือน
- เป็นลูกค้า Apple Music ปัจจุบัน หรือยกเลิกแล้ว รวมทั้งเคยรับสิทธิ์ฟรีจาก Apple ก็สามารถรับได้
- ต้องยืนยัน Apple ID ภายใน 30 วันเพื่อเริ่มใช้งาน
- 1 หมายเลข/ Apple ID เท่านั้น
- หลังจากครบช่วงทดลองฟรี 6 เดือน จะคิดค่าบริการอัตโนมัติเดือนละ 129 บาท
วิธีการรับสิทธิคือให้เรากดหมายเลข *651# แล้วโทรออก หรือกดที่นี่ รวมไปถึงสแกน QR Code ได้จากด้านล่างนี้เลย หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
แต่สำหรับใครที่ซื้ออุปกรณ์จากทาง Apple ใหม่ที่เข้าร่วมรายการกับ Apple และสามารถจับคู่อุปกรณ์กับ iPhone หรือ iPad ภายใน 90 วันหลังจากจับคู่อุปกรณ์ครั้งแรกเพื่อรับสิทธิ์ฟรี 6 เดือน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ โดยอุปกรณ์ที่ได้รับสิทธิ์ได้แก่
- AirPods Pro
- AirPods (AirPods (รุ่นที่ 2), AirPods (รุ่นที่ 3))
- AirPods Max
- Beats (Beats Studio Buds, Powerbeats, Powerbeats Pro, Beats Solo Pro, Beats Fit Pro)
- HomePod (HomePod, HomePod Mini)
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลของ Apple Music ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ สำหรับใครสนใจที่จะใช้งาน Music ของ Apple แต่ว่ายังไม่รู้ว่ามีดีอะไรบ้าง และถ้าสมัครไปแล้วจะคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน แนะนำว่าให้ทดลองใช้งานไปก่อน 1 เดือนในแบบแผนไหนก็ได้ หากไม่ชอบก็สามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าชอบแล้วอยากสมัครแบบคุ้มที่สุด แนะนำว่าให้สมัครใช้งานแบบครอบครัวจะดีที่สุดแล้ว เพราะเฉลี่ยราคาต่อเดือน 6 คนจะเหลือเพียงคนละ 33 บาทเท่านั้น แต่ถ้าใครเป็นนักศึกษาอยู่ก็มีราคาแบบแผนคุ้มๆ จากทาง Apple อยู่เหมือนกัน หรือใครที่อยากจะใช้งาน Apple ทั้ง Music, Apple TV+, iCloud+ และ Apple Arcade ก็แนะนำว่าให้สมัคร Apple One ไปเลยทีเดียวจบได้ครบทุกอย่าง แถมยังสมัครแบบแผนครอบครัวได้ด้วยนะ แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ