10 ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมทั้งแบบมีสายและแบบพกพา (Pocket WiFi) ราคาถูก ยี่ห้อไหนดี 2022
การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันนี้ถือว่ามีความจำเป็น และค่อนข้างจะสำคัญมากในทุกการทำงานเลย ถึงแม้ว่าบางที่อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่อง IT โดยตรง แต่ก็จำเป็นต้องเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อติดต่อ ค้นคว้า หรือว่าใช้เพื่อทำสิ่งต่างๆ อยู่ดี รวมไปถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตในบ้าน หอพักแบบส่วนตัว หรือว่าการใช้งานนอกสถานที่ ที่ต้องการใช้เน็ตความเร็วแรง แต่ว่าถ้าหากจะให้ปล่อยสัญญาณจากมือถือเป็น Hotspot ไปบ่อยๆ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีต่อมือถือของเราแน่นอน เพราะถ้าใช้ Hotspot จากมือถือบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้แบตเสื่อม และยังเปลืองเน็ตที่ต้องใช้กับมือถือด้วย ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการเลือกใช้ Router แบบใส่ซิม หรือว่า Pocket WiFi เอาไว้พกพาออกไปใช้งานข้างนอกได้อย่างสะดวก และยังได้เน็ตความเร็วตามต้องการอีกด้วย (ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจเน็ตของซิมด้วย) สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวปล่อยสัญญาณ WiFi ที่ใส่ซิมได้เพื่อใช้งานในหอพัก หรือว่าอยากได้แบบพกพา วันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ 10 ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมทั้งแบบมีสาย และแบบพกพา (Pocket WiFi) ที่มีราคาไม่แพงมาก ยี่ห้อไหนดีที่น่าใช้งานกันบ้างในปี 2022 นี้
- 5 ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมแบบมีสาย (Router)
- 5 ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมแบบพกพา (Pocket WiFi)
Router แบบใส่ซิมและแบบพกพา (Pocket WiFi) คืออะไร แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง?
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าตัวปล่อยสัญญาณ WiFi ที่ใส่ซิมได้หรือว่า Router แบบใส่ซิม และแบบพกพาได้ (Pocket WiFi) กันคร่าวๆ เบื้องต้นก่อนว่ามันคืออะไร โดยถ้าพูดให้เข้าใจแบบง่ายๆ เลยก็คือ อุปกรณ์ที่ช่วยขยายสัญญาณ WiFi โดยใช้ความเร็วเน็ตจากซิมการ์ดของค่ายโอเปอรเรเตอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AIS, Truemove H หรือว่า dtac แล้วแต่ว่าเราจะใช้ของค่ายไหนและแพ็กเกจอะไร และไม่จำเป็นต้องต่อสายสัญญาณเหมือนเน็ตบ้านทั่วไป ซึ่งสัญญาณที่ได้นั้นจะเร็วแรงและไกลกว่าการแชร์ Hotspot บนมือถือด้วย และก็ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องแบต เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแบบเสียบปลั๊กใช้ไฟบ้านโดยตรงไปเลย ส่วนแบบไร้สายหรือ Pocket WiFi นั้นจะเป็นแบบพกพาติดตัวไปไหนมาไหนได้สะดวกกว่า เพราะมีขนาดที่เล็กและไม่ต้องพกสายไปเสียบให้วุ่นวาย
ส่วนเรื่องของความเหมาะสมในการใช้งานของทั้งสองตัวนี้ ถ้าหากใครที่ต้องการใช้งานเน็ตแบบส่วนตัว หรือว่าใช้งานภายในห้องพัก คอนโด การเลือกใช้ Router แบบใส่ซิมจะเหมาะสมกว่า และที่บอกว่าต้องใช้แบบส่วนตัวก็เนื่องจากการแชร์เน็ตมาจากซิมโดยตรงนั้น จะมีความเร็วเน็ตที่ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจที่เลือกใช้ ยิ่งแชร์ไปหลายเครื่องก็ยิ่งดึงเน็ตกันและเน็ตที่ได้ก็จะไม่เร็วแรงเต็มที่นั่นเอง แต่ถ้าใครเน้นพกพาและต้องออกไปนอกสถานที่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเที่ยวหรือทำงาน แนะนำว่าให้เลือกใช้เป็น Pocket WiFi จะเหมาะกว่ามาก เพราะพกพาได้สะดวกกว่า และใช้งานได้ทั้งแบบส่วนตัวหรือว่าแชร์ให้คนอื่นใกล้ๆ ก็ได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเร็วเน็ตของซิมเป็นหลัก ถ้าอยากใช้แบบไม่จำกัดแนะนำว่าให้ซื้อซิมรายปีจะคุ้มที่สุด (ดูซิมเน็ตรายปีที่นี่)
10 ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมทั้งแบบมีสายและแบบพกพา (Pocket WiFi)
สำหรับตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมทั้ง 10 แบบที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ เราจะขอแบ่งเป็นแบบมีสาย 5 รุ่น และแบบพกพา (Pocket WiFi) อีก 5 รุ่น เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการใช้งานแบบใดแบบหนึ่ง โดยแต่ละรุ่นนั้นสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าออนไลน์ ที่ต้องไปซื้อซิมเพิ่ม หรือว่าจากค่ายโอเปอร์เรเตอร์โดยตรงๆ ที่มาพร้อมกับแพ็กเกจซิมคุ้มๆ ไปเลย ส่วนราคานั้นจะอยู่ในช่วงเรทใกล้เคียงกันคือ 1,000-3,000 บาทอยู่ที่ฟีเจอร์การใช้งานของแต่ละรุ่น ไปดูกันเลยว่ามีตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมตัวไหนยี่ห้อไหนน่าใช้งานบ้าง
ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมแบบมีสาย (Router)
1. TP-LINK 300 Mbps Wireless N 4G LTE Router (TL-MR100): ราคา 1,590 บาท
เริ่มต้นกันด้วยตัวแรกจาก TP-LINK ที่ชื่อนี้หลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ถ้าหากเคยซื้อเครื่อง Router กันมาบ้าง โดยรุ่นนี้จะเป็นตัวที่มีดีไซน์ค่อนข้างสวยทีเดียว ตัวเครื่องจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก มาพร้อมกับเสาสัญญาณกระจาย WiFi 2 เสา สามารถกระจายสัญญาณและเชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 32 อุปกรณ์เลยทีเดียว ความน่าสนใจของตัวนี้ก็คือความง่ายในการใช้งาน ที่เราสามารถใส่ซิมเข้าไป ก็จะสามารถกระจายสัญญาณ WiFi ได้ทันที โดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรเยอะเลย รุ่นนี้สามารถต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสุดที่ 150 Mbps และถ้าใครไม่อยากใช้ความเร็วเน็ตจากซิม ก็สามารถต่อสาย LAN/ WAN ได้โดยตรงอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความง่ายในการใช้งาน และใช้งานได้หลากหลาย กดซื้อที่นี่
2. D-LINK 4G/LTE Wireless N300 Router (DWR-M920): ราคา 1,499 บาท
อีกหนึ่งยี่ห้อที่เคียงคู่กันมาก็คือ D-LINK ที่มีคุณสมบัติพร้อมฟีเจอร์การใช้งานที่ครบถ้วน แถมยังมีราคาที่ไม่แรงมากอีกด้วย ซึ่งตัวนี้จะเป็นตัวที่สามารถใส่ซิมและใช้งานได้เลยเหมือนกัน บนความเร็วสูงสุด 150 Mbps และก็ยังสามารถต่อเน็ตด้วยสาย LAN 3 ช่อง แบบ 10/100 Mbps กับช่องเสียบสาย WAN 1 ช่อง ถ้าใช้งานทั้งสองแบบพร้อมๆ กันแล้วเน็ตจากสาย LAN หลุด ก็จะสามารถเปลี่ยนไปเป็นเน็ตจากซิมให้โดยอัตโนมัติ โดยรุ่นนี้จะมีเสารับสัญญาณ 3G/4G 2 เสาและเสากระจาย WiFi อีก 2 เสา (ไม่สามารถถอดได้) ใช้อุปกรณเชื่อมต่อได้สูงสุด 32 ผู้ใช้งานเหมือนกัน เหมาะกับการใช้งานในคอนโดหรือว่าบ้านก็ได้ เพราะตัวนี้ใช้งานได้หลากหลายไม่แพ้กันเลยในราคาที่ใกล้เคียงกันมาก กดซื้อได้ที่นี่
3. 4G Router 300 Mbps: ราคา 959-969 บาท
มากันที่ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมตัวเร็วแรงทะลุกำแพงบ้านได้สบายๆ ที่มีตัวปล่อยสัญญาณแบบใส่ซิมที่รองรับสัญญาณ 4G ซึ่งมีราคาอยู่ที่ประมาณ 9xx กว่าบาทขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้า แต่ไม่เกินพันแน่นอน สามารถใส่ซิม 4G ได้และมีความเร็วแรงที่คุ้มมากๆ เพราะใช้ได้ทั้งซิม AIS, truemove H, dtac และ NT ได้ทั้งซิมรายปีและรายเดือน อีกทั้งยังเปิดใช้งานได้ง่ายๆ เพียงเสียบปลั๊ก ใส่ซิมเข้าไป และสามารถเชื่อมต่อเพื่อใช้งานได้ทันที โดยมีฟีเจอร์การใช้งานหลักๆ คือใช้ 4G ย่านความถี่ 900/ 1800/ 2100MHz ทะลุดำแพงได้ โดยมีความเร็ว LTE สูงสุด 150Mbps/50Mbps และเชื่อมต่อพร้อมกันได้ถึง 32 อุปกรณ์ พร้อมทั้งสามารถใช้ LAN ที่มี 2 พอร์ตเชื่อมต่อสายตรงเข้าเครื่องเพื่อความสะดวกและรวดเร็วได้เลย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีราคาประหยัด แต่ใช้งานได้ดีคุ้มค่าแน่นอน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อที่นี่
4. AIS 4G Hi-Speed Home WiFi: ราคา 1,590 บาท
ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมจาก AIS อีกหนึ่งตัวที่มีราคาเบาๆ เข้าถึงง่าย พร้อมการรองรับ 4G LTE ดาวน์โหลดได้ด้วยความเร็วสูงสุดจาก AIS เพียงใส่ซิมเสียบปลั๊กก็ใช้งานได้ทันที ซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้จะเป็นตัวกระจายสัญญาณ WiFi เป็นหลักเลย โดยตัวเครื่องจะมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เหมาะกับการใช้งานในที่ที่ไม่สามารถต่อสายไปได้ อย่างเช่นหอพัก หรือว่าการทำงานนอกสถานที่ เพราะว่าเครื่องนี้สามารถใช้งานได้ง่ายมาก เพียงแค่เสียบซิมเข้าไปก็จะสามารถใช้งานได้ทันที แถมตัวเครื่องยังมีแบตในตัวมาให้ถึง 2,000 mAh เผื่อในกรณีที่ต้องพกพาออกไปนอกสถานที่ รุ่นนี้ยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อได้ถึง 32 อุปกรณ์เลยด้วย ใครมองหาตัวกระสัญญาณแบบขนาดกะทัดรัด พกพาได้หรือวางต่อสายก็ได้รุ่นนี้น่าสนใจมาก แถมยังมาพร้อมกับแพ็กเกจของ AIS เลย กดซื้อที่นี่
5. TRUE IoT Router WiFi: ราคาเริ่มต้น 1,990 บาท
ปิดท้ายตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมแบบ Router จากทางฝั่งของ Truemove H กันบ้าง ที่ตัวนี้จะมีการวางขายพร้อมแพ็กเกจจาก Truemove H ราคา 300 บาท/ เดือนอยู่ด้วย หรือว่าถ้าต้องการซื้อเครื่องเปล่าจะมีราคา 2,990 บาท แต่ก็ต้องใช้งานกับซิมของ Truemove H อย่างเดียวเท่านั้น รุ่นนี้สามารถรองรับได้ตั้งแต่คลื่นความถี่ 2G-4G และรองรับความเร็วเน็ตดาวน์โหลด 150Mbps กับความเร็วเน็ตอัพโหลด 50Mbps และยังสามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันทีเดียว 10 อุปกรณ์ มาพร้อมช่องต่อสาย LAN อีก 4 ช่อง สามารถใส่ซิมแล้วเปิดใช้งานได้ทันที สะดวกรวดเร็ว เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่สายเข้าไม่ถึง หรือว่าต้องการใช้งานแบบส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นหอพัก ร้านอาหาร หรือว่าคอนโดก็ใช้ได้ดีเลย ยิ่งถ้าซื้อพร้อมแพ็กเกจเน็ตก็ยิ่งคุ้ม กดซื้อได้ที่นี่
ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมแบบพกพา (Pocket WiFi)
1. Pocket WiFi #903, #M3: ราคา 750-799 บาท
เริ่มต้นกันด้วย Pocket WiFi จากร้านค้าออนไลน์ที่มียอดขายไปแล้วมากกว่าหมื่นเครื่อง ที่สำคัญคือตัวนี้มีราคาคุ้มมากเลยทีเดียวเพราะมีราคาที่ไม่เกินหนึ่งพันบาทก็ซื้อมาใช้งานได้แล้ว โดยตัวเครื่องของรุ่นนี้จะมีขนาดกำลังดีพกพาสะดวกน้ำหนักเพียง 50 กรัม สามารถใช้งานกับซิมได้ทุกค่ายแบบซิมใหญ่ใส่แล้วใช้ได้ทันที มีดีไซน์ที่สวยงามพร้อมกับจอ 1.7นิ้วพร้อมไฟ LED บอกสถานะการใช้งานต่างๆ ครบถ้วน รองรับการใช้งานบนความถี่สูงสุด 4G และเน็ตดาวน์โหลดกับอัพโหลดสูงสุดที่ 150Mbps/ 50Mbps สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์ ด้วยระยะการกระจายสัญญาณสูงสุด 10 เมตร กับแบตที่มีความจุ 1,900 mAh เปิดใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ ถึงแม้ว่าจะเดินทางไกลก็สามารถใช้ได้ตลอด ถ้าไม่ได้ใช้งานก็ปิดการเชื่อมต่อ ยืดเวลาการใช้งานได้ได้อีก กดสั่งซื้อได้ที่นี่
2. TP-Link 4G LTE Mobile Wi-Fi (M7350): ราคา 3,590 บาท
มาต่อกันที่ตัวปล่อยสัญญาณ wifi แบบใส่ซิมแบบ Pocket WiFi ของ TP-Link กันบ้างที่ตัวนี้ทำออกมาเพื่อให้ใช้งานกับมือถือโดยเฉพาะเลย จะเอาไว้ใช้เชื่อมต่อทำงาน หรือว่าจะดูหนังแบบ HD ก็ยังได้ ด้วยการเชื่อมต่อที่ความเร็วสูงสุดแบบ 4G พร้อมเน็ตดาวน์โหลดและอัพโหลดสูงสุด 150 Mbps/50 Mbps แถมตัวหน้าจอยังมีการบอกถึงความเร็วเน็ตขณะที่ใช้งานอยู่ด้วย อันนี้ทำออกมาได้ดีมาก จะได้ไม่ต้องมาคอยเช็คความเร็วว่าเร็วแค่ไหน หรือจะดูสถานะอย่างอื่นก็ยังได้ ซึ่งรุ่นนี้ก็สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 10 อุปกรณ์เช่นเดียวกัน มาพร้อมกับความจุแบต 2,000 mAh ใช้งานแบบเชื่อมต่อได้ต่อเนื่องยาว 8 ชั่วโมง และชาร์จแบตด้วยช่องต่อ Micro USB เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ อย่างการไปเที่ยวไกลๆ หรือว่าต้องนั่งทำงานระหว่างวันได้ดีเลย กดซื้อได้ที่นี่
3. TP-Link 4G LTE Mobile Wi-Fi (M7000): ราคา 1,390 บาท
ตัวปล่อยสัญญาณ wifi แบบใส่ซิมแบบ Pocket WiFi ที่น่าใช้งานของ TP-Link อีกหนึ่งรุ่น ซึ่งตัวนี้จะมีราคาที่ถูกกว่าตัวข้างบนครึ่งนึงเลย ซึ่งความต่างของทั้งสองรุ่นนี้จะมีเพียงการดีไซน์ ที่รุ่นนี้มีขนาดเล็กกว่า พกพาได้สะดวกมากกว่า แต่ก็จะไม่มีหน้าจอบอกสถานะมากเท่ากับรุ่นด้านบน รุ่นนี้จะเหมาะกับการพกพาไปเที่ยว หรือว่าออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่มากกว่า ส่วนด้านการใช้งานนั้นก็เพียงแค่ใส่ซิมเข้าไป และเชื่อมต่อก็จะใช้งานได้ทันทีบนความถี่ 4G กับความเร็วดาวน์โหลดและอัพโหลด 150 Mbps/50 Mbps และยังสามารถเชื่อมต่อได้สูงสุด 10 อุปกรณ์เหมือนกันด้วย ส่วนแบตก็จะมีความจุ 2,000 mAh เชื่อมต่อได้ยาวๆ 8 ชั่วโมงเหมือนกันหมด อีกทั้งยังควบคุมการใช้งานได้ผ่านแอพ tpMiFi โดยตรง ทำให้ง่ายต่อการใช้งานขึ้นไปอีกขั้น กดซื้อได้ที่นี่
4. D-LINK N300 POCKET 4G WI-FI (DWR-932C): ราคา 1,550 บาท
Pocket WiFi รุ่นต่อมาของ D-LINK ก็มีความน่าสนใจและน่าใช้งานไม่แพ้กัน ด้วยขนาดตัวเครื่องที่เล็กกะทัดรัด มีน้ำหนักเบามากๆ สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ไม่ว่าจะพกไปเที่ยวหรือว่าทำงานก็ใช้ได้เหมือนกัน โดยสามารถใส่ซิมแล้วเปิดใช้งานได้ทันทีบนความเร็ว 4G และเน็ตดาวน์โหลดกับอัพโหลดที่ความเร็วสูงสุด 150 Mbps/50 Mbps และยังมีระบบความปลอดภัยแบบ WPA/WPA2 และ Firewall สำหรับการป้องกันคนอื่นมาเชื่อมต่อด้วย รุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันสูงสุด 10 อุปกรณ์ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงสถานะต่างๆ แบบ LED และความจุแบต 2,000 mAh ที่ใช้งานได้ต่อเนื่องมากกว่า 5 ชั่วโมง เหมาะกับการใช้งานแบบไม่นานมาก อย่างการไปเที่ยวหรือใช้งานไม่นานมากนัก กดซื้อได้ที่นี่
5. Huawei Pocket WiFi 4G รุ่น E5576: ราคา 1,999 บาท
ผิดท้ายกันด้วยตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมที่เป็น Pocket WiFi จากทางค่าย Huawei ที่ตัวเครื่องนี้จะมีขนาดเล็กพกพาง่ายเช่นกัน โดยมีขนาดพอๆ กับบัตรเครดิตเลย สามารถใช้งานได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นขณะเดินทางบนรถ ทำงานนอกสถานที่ หรือว่าจะเป็นการไปเที่ยว การใช้งานก็สุดจะง่ายเพียงแค่ใส้ซิมแล้วเปิดเครื่อง ก็จะสามารถกระจายสัญญาณ WiFi และเชื่อมต่อได้สูงสุดมากถึง 16 เครื่องเลยทีเดียว ซึ่งความเร็วเน็ตที่เชื่อมต่อก็ได้ถึง 4G บนความเร็วดาวน์โหลดและอัพโหลด 150 Mbps/50 Mbps ถึงแม้ว่าตัวนี้จะมีความจุแบตเพียง 1,500 mAh แต่ก็สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวๆ มากกว่า 4-6 ชั่วโมง หรือถ้าเปิดสแตนบายเอาไว้ก็อยู่ได้ถึง 350 ชั่วโมงเลย กดซื้อได้ที่นี่
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมทั้งแบบมีสายและแบบพกพา (Pocket WiFi) ทั้ง 10 รุ่นที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ทั้งแบบที่มีสาย (Router) และแบบพกพา (Pocket WiFi) อย่างละ 5 รุ่น ซึ่งตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมแต่ละแบบก็จะมีข้อดีที่ต่างกันไป โดยเฉพาะแบบที่ต้องใช้สายจะค่อนข้างกระจายสัญญาณได้ดีกว่า เพราะว่าบางรุ่นมีเสาสัญญาณที่กระจายออกไปได้ไกลกว่า และเสถียรกว่าด้วย จึงเหมาะกับการใช้งานอยู่กับที่อย่างหอพัก หรือว่าคอนโด ไม่ก็ร้านอาหารจะเหมาะที่สุด ส่วนใครที่ต้องเดินทาง หรือว่าออกไปนอกสถานที่บ่อยๆ และต้องการใช้เน็ตที่เร็วแรงกว่ามือถือ ก็แนะนำว่าให้เลือกใช้ Pocket WiFi จะดีกว่าเยอะมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเร็วเน็ตของซิมที่ใช้งาน และพื้นที่รับสัญญาณในแต่ละแห่งด้วย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ