แนะนำ 10 หนังเดอะร็อคแสดง (Dwayne “The Rock” Johnson) น่าดูสนุกๆ ที่แฟนๆ ห้ามพลาดเด็ดขาด
เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงมากความสามารถ ที่โด่งดังไปทั่วโลกจากการผันตัวเองบนสังเวียนมวยปล้ำ และมาโลดแล่นในฮอลลีวูดจนกลายเป็นนักแสดงหลัก ที่ทำรายได้สูงสุดและใครๆ ก็อยากจะติดตามดูหนังของเดอะร็อค (Dwayne “The Rock” Johnson) กันทั้งนั้น ซึ่งตัวของเดอะร็อคนั้นก็ไม่ได้จำกัดการแสดง ว่าจะต้องเล่นบทบู๊เพียงอย่างเดียว เพราะว่ายังมีอีกหลายๆ เรื่องที่เป็นหนังดราม่า หนังผจญภัย และหนังตลก ที่เดอะร็อคนั้นได้แสดงนำอยู่ด้วย จึงไม่แปลกใจที่หลายคนจะชอบหนังของเดอะร็อคแสดง เพราะความเก่งในการแสดงของเขานั่นเอง สำหรับใครที่เป็นแฟนหนังหรือว่าชอบหนังของเดอะร็อค และยังไม่รู้ว่าจะเลือกดูเรื่องไหนดี เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ 10 หนังเดอะร็อคแสดง (Dwayne “The Rock” Johnson) น่าดูที่มีเนื้อหาสนุกครบรส ทั้งหนังบู๊และแบบอื่นๆ มาฝากกัน ใครที่เป็นแฟนหนังหรืออยากจะดูหนังของเดอะร็อคห้ามพลาดเด็ดขาด ไปลุยกันเลย
10 หนังเดอะร็อคแสดง (Dwayne “The Rock” Johnson) น่าดูที่ห้ามพลาด
สำหรับหนังทั้ง 10 เรื่องที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ จะมีทั้งหนังใหม่และหนังเก่า แต่อาจจะไม่ได้เก่ามาก โดยเนื้อหาจะมีทั้งหนังบู๊ หนังผจญภัย หรือหนังตลกรวมๆ กันไป จะได้มีความหลากหลายและเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่อยากจะดูในแบบอื่นๆ ที่อาจจะไม่เคยดูมาก่อน ซึ่งหนังทุกเรื่องที่เอามาแนะนำ จะเลือกมาจากความฮิตและความดังของหนังเรื่องนั้นเป็นหลัก และทุกเรื่องแอดได้ดูหมดแล้ว รับรองได้เลยว่าทุกเรื่องสนุกจริงจัง พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยว่ามีเรื่องไหนน่าสนใจบ้าง
1. Jungle Cruise
เริ่มกันที่หนังเดอะร็อคเรื่องแรกที่เพิ่งจะเข้ามาฉายบน Disney+ Hotstar ได้ไม่นานมานี้เอง โดยเรื่องนี้จะเป็นทั้งหนังผจญภัยและมีความตลกปนอยู่ด้วย เนื้อเรื่องหลักๆ จะพูดถึง ดร.ลิลี่ สาวนักสำรวจด้านวิทยาศาสตร์ ที่ต้องการเดินทางเข้าไปยังป่าอเมซอนกับน้องชายของเธอคือ แม็กเกรเกอร์ เพื่อเข้าไปตามหาต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งต้นไม้นี้เธอต้องการที่จะนำพัฒนาในด้านการแพทย์ และได้จ้างคนนำทาง กัปตันแฟรงก์ วูล์ฟ (The Rock) เป็นคนนำทางและพาเธอเข้าไปตามหาต้นไม้นี้นั่นเอง แฟรงค์ได้พาเธอไปด้วยเรือ La Quila เรือคู่ใจของเขา และเมื่อเข้าไปยังป่า ทั้งหมดก็ค่อยๆ เจอกับเรื่องราวที่เหนือธรรมชาติ และเมื่อเข้าใกล้ต้นไม้แห่งชีวิตมากขึ้น ทั้งหมดก็ยิ่งต้องเจอกับเรื่องราวแปลกๆ ขึ้นทุกที ใครที่ชอบหนังแนวผจญภัยรับรองว่าเรื่องนี้สนุกมาก สามารถเข้าไปดูได้ที่ Disney+ Hotstar เลย
2. Red Notice
หนังเดอะร็อคอีกหนึ่งเรื่องที่เพิ่งจะได้เข้ามาฉาย Netflix ในเดือนนี้ ที่ต้องบอกว่าสนุกมากๆ ได้ทั้งอารมณ์หนังบู๊และตลกไปพร้อมๆ กัน แถมเรื่องนี้ยังได้ ไรอัน เรย์โนลด์ กับ แกล กาด็อต มาร่วมแสดงด้วย ทำให้หนังเรื่องนี้มีความสนุกมากขึ้นไปอีก โดยเรื่องนี้ได้พูดถึง หมายแดง (Red Notice) ที่เป็นชื่อเรียกสำหรับตำรวจ เอาไลล่าจับตัวอาชญกรที่ทั่วโลกต้องการตัว หนึ่งในทีม FBI จอห์น ฮาร์ตลีย์ ที่ต้องการจับตัว โนแลน บูธ ที่หวังจะขโมยไข่ในตำนาน แต่กลับต้องพลาดเป็นตัวเขาเองที่เข้าไปมีส่วนพัวพันกับเรื่องนี้ ทำให้ทั้งสองจำเป็นต้องร่วมมือกัน เพื่อตามหาตัว เดอะบิชอป ที่ทั่วโลกต้องตัวมากที่สุด แต่การร่วมมือก็ต้องเจอกับอุปสรรคอีกมากมาย พร้อมกับเรื่องน่าตื่นเต้นไปกับการตามล่า แถมยังมีเรื่องเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นอีก ใครชอบแนวนี้ห้ามพลาดเลย
3. Jumanji: Welcome to the Jungle & The Next Level
หนังที่ห่างหายไปยาวนานเกือบ 20 ปี และได้กลับมารีเมคใหม่อีกครั้ง ถ้าใครที่เกิดทันได้ดูเรื่องแรกที่ทำขึ้นมาก็จะรู้ว่ามันสนุกมากอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ที่ทำใหม่ก็ไม่ได้ลดความสนุกลงไปเลย แถมยังได้เพิ่มความน่าสนใจไปที่กฎการเข้าไปยังตัวเกมและการเล่นเกมในจูแมนจี้แบบใหม่ด้วย และได้ทำต่อเนื่องกันมาถึง 2 ภาค แต่ใน Netflix มีแค่ภาคแรกเท่านั้นนะ เรื่องราวของเด็ก 4 คนที่ต้องไปทำความสะอาดชั้นใต้ดิน แต่ดันไปพบเข้ากับเกม Jumanji ที่ต้องเลือกตัวละครแทนตัวเองคนละ 1 ตัว และเกมนี้เองที่พาทุกคนเข้าไปยังโลกของเกมในป่าแห่งหนึ่ง โดยสเปนเซอร์ได้เลือกเป็นชายกล้ามโต ดร.สโมลเดอร์ เบรฟสโตน (The Rock) ฟริดจ์เลือกเป็นมูส ฟินบาร์ชายร่างเล็ก เบธานีเลือกเป็นเชลลี่ โอเบรอน (ที่เป็นผู้ชาย) และสุดคือมาร์ธาที่ได้เป็นนักรบรูบี้ ราวด์เฮ้าส์ ซึ่งทุกคนทำทำภารกิจและตามหาจูแมนจี้ถึงจะออกจากเกมได้ จึงเกิดเป็นเรื่องราวการผจญภัยพร้อมกับความฮาจัดเต็มสุดๆ ซึ่งภาค 2 ที่ทำต่อก็เป็นการผจญภัยที่กว้างใหญ่กว่าเดิมด้วย
4. Fast & Furious (ภาค 5-8) และ Hobbs & Shaw
ถ้าพูดถึงหนังเดอะร็อคในยุคใหม่ๆ จะไม่พูดถึงหนังภาคต่อสุดมันกับการแข่งรถจนมากลายเป็นเนื้อเรื่องการปล้น การล้างแค้น และการช่วยเหลือบุคคล ที่ผสมผสานจนแทบจะไม่รู้ว่ามาถึงขนาดนี้ได้ยังไงกับเรื่อง Fast & Furious ตั้งแต่ภาค 5 – 8 รวมไปถึงภาคแยกของเดอะร็อคกับเจสันคือ Hobbs & Shaw (มีฉายบน Netflix) ซึ่งเนื้อหาของหนังในภาคที่เดอะร็อคเข้าไปแสดงด้วยนั้น เขาได้เข้าไปเป็น ฮ็อบส์ ตำรวจที่ตามจับดอม โทเร็ตโตกับพวก เนื่องจากเหตุการ์ปล้นในภาคก่อนหน้าและยังไม่มีใครตามจับได้ (ขึ้นรถเมื่อไหร่ก็คือจับไม่ได้แล้ว) จากการเป็นศัตรูคู่แค้นกันในภาค 5 แต่ภาคต่อๆ มาฮ็อบส์ก็ได้เข้าร่วมช่วยเหลือดอม และร่วมตามจับชอวที่เป็นอาชญากรตัวเป้งอีกคน และก็แน่นอนว่าจากที่ตามจับกัน ก็มาร่วมมือกันในภาคแยกอย่าง Hobbs & Shaw อีกอยู่ดี ใครที่ชอบหนังภาคต่อของเรื่องนี้อยู่แล้ว และชอบเดอะร็อคด้วยก็สามารถเข้าไปติดตามดูกันได้เลย
5. San Andreas
มีหนังบู๊กับหนังผจญภัยพร้อมความฮากันไปแล้ว มาที่หนังแนวดราม่าจริงจังของเดอะร็อคอีกหนึ่งเรื่อง ที่ได้รับบทบาทเป็น เรย์ นักกู้ภัยทางอากาศผู้เป็นพ่อที่มีปัญหากับภรรยา เนื่องจากเธอจะไปคบคนใหม่ แต่ว่าลูกสาวอย่างเอมมา นั้นอยากให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่จู่ๆ ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้น 9.5 ริกเตอร์จากรอยเลื่อนของ San Andreas และด้วยเหตุการณ์สั่นไหวที่หนักมา จึงทำให้ตึกถล่ม แผ่นดินและถนนแยกตัว พร้อมกับสัญญาณการสื่อสารที่หายไปทั้งหมด เรย์นั้นเป็นนักกู้ภัยทางด้านอากาศอยู่แล้ว จึงตัดสินใจขับเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปช่วยภรรยาเขาที่ลอสแองเจลลิส แต่กลับติดต่อลูกตัวเองไม่ได้ รู้เพียงว่าอยู่ที่ซานฟรานซิสโก เขาจึงบินตามไปช่วยพร้อมกับภรรยาเขา โดยการตามหาในครั้งนี้ก็ทำให้ทั้งสองได้เปิดใจคุยกันมากขึ้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรสามารถเข้าไปติดตามดูกันได้ใน Netflix เลย
6. Central Intelligence
หนังแนวคอมเมดี้เต็มๆ ของเดอะร็อคอีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับบทคู่กับ Kevin Hart ที่ไปเล่นด้วยกันต่ออีกสองเรื่องคือ Jumanji ทั้งสองภาค โดยในเรื่องนี้เขาได้รับบทเป็น บ๊อบ สโตน อดีตเด็กอ้วนที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นแถมโดนแกล้งอยู่บ่อยๆ สมัยเรียน แต่เมื่อโตขึ้นกลับกลายเป็นเจ้าหน้าที่ CIA กล้ามแน่น ซึ่งเขาได้กลับไปยังงานคือสู่เหย้าที่โรงเรียนอีกครั้ง เพื่อไปตามหา เคลวิน จอยเนอร์ อดีตนักเรียนสุดฮอตที่สุดในโรงเรียนสมัยนั้นเพื่อให้เขาช่วยคดีลับ และช่วยกอบกู้โลกจากคนที่ขโมยรหัสลับเพื่อไปขายในตลาดมืด แต่ในขณะเดียวกันตัวเขาเองก็โดน CIA ตามล่าตัวอยู่เช่นกัน ทั้งคู่เลยต้องเอาตัวรอดจากการสืบคดี และยังต้องหนีจากซีไอเออีก จนสุดท้ายก็เกิดเป็นความฉายาวตลอดทั้งเรื่อง ดูผ่อนคลายได้ดีเลยเรื่องนี้ มีฉายบน Netflix ด้วย
7. G.I. Joe: Retaliation
กลับมาที่หนังบู๊สุดตัวของภาคต่อของหน่วย G.I. Joe ที่ต้องกลับมาต่อสู้กับกลุ่ม คอบร้า อีกครั้ง แต่ไม่ใช่แค่ต่อสู้กับคอบร้าเท่านั้น หน่วยของเขายังถูกทรยศ และคนในทีมต้องถูกสังหารไปทีละคนจนสุดท้ายหลงเหลือแค่ 3 คนคือ โร้ดบล็อค (The Rock) ผู้กองดุ๊ค และเลดี้เจย์ ซึ่งคนที่ถูกใส่ร้ายนั้นเป็นสเน็คอายว่าเป็นตัวการของเรื่องนี้ พวกเขาพยายามหาทางช่วยโดยไปพึ่งผู้ก่อตั้งหน่วย G.I. Joe คือโจ โคลตัน หลังจากที่พวกคอบร้าเข้ายึดทำเนียบขาวแล้ว เอาจริงๆ ถ้าใครที่เคยติดตามดูหนัง G.I. Joe ตั้งแต่ต้นหรือในยุคแรกๆ เนื้อหาของหนังนั้นมีความสนุกแบบสแตนดาร์ดอยู่แล้ว ก็คือบู๊กันแบบฉบับหนังต่อสู้นั่นแหละ เรื่องนี้ก็มีความสนุกมากเช่นกัน แถมตอนออกมาฉายก็ได้ทำเป็นแบบ 3D ด้วย ใครที่หาหนังเดอะร็อคดูแบบเพลินไม่คิดไรมาก แนะนำเรื่องนี้เลย มีฉายบน Netflix ด้วยนะ
8. Pain & Gain
หนังเดอะร็อคเรื่องต่อมานี้เป็นหนังที่จะบอกว่าออกแนวตลกก็ได้ แต่ความจริงเนื้อหาก็มีความจริงจัง และมีความรุนแรงในบางฉากด้วย ซึ่งเรื่องนี้ได้ผู้กำกับอย่างไมเคิล เบย์มากำกับด้วย ที่สำคัญคือเรื่องนี้ได้อ้างอิงมาจากเรื่องจริงของชาย 3 คนที่มาสมัครเป็นครูฝึกที่ฟิตเนสในไมอามี ในช่วงปี 1990 โดยหวังว่าจะมีงานทำแบบคนอื่นทั่วไป แต่ว่าลูโก้กลับไม่ได้คิดแบบนั้น เขาอยากที่จะร่ำรวยและมีเงินอยู่สุขสบายเหมือนเศรษฐี แต่เส้นทางชีวิตและที่เป็นอยู่ในตอนนี้มันไม่มีทางที่จำเป็นแบบที่เขาฝันไว้ได้เลย เขาจึงได้ชักชวนเพื่อนเทรนเนอร์อีกสองคน เพื่อวางแผนที่จะรวยทางลัดกัน และทำให้ทั้งหมดเข้าไปพัวพันกับเจ้าพ่อ พร้อมกับการลักพาตัวเพื่อเงิน จนทำให้เรื่องราวนั้นบานปลายขั้นสุดถึงขั้นมีคนตายกันเลยทีเดียว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปดูกันเอาเองแต่บอกได้เลยว่าสนุกบ้าคลั่งมากแต่ละบทบาท ซึ่งเดอะร็อคในเรื่องนี้ดันมีบทออกแนวหน่อมแน้มด้วยซ้ำ
9. Rampage
เห็นภาพหรือโปสเตอร์หนังแล้วใครที่เคยดู อาจจะคิดว่าเดอะร็อคไปต่อยกับลิงหรืออะไร ไม่ใช่แบบนั้นนะอย่างเข้าใจผิด เรื่องนี้ได้พูดถึง ดาวิส โอโคเย (The Rock) เขาเป็นนักวานรวิทยาที่พยายามอยู่ห่างไกลกับผู้คน พร้อมกับเลี้ยงดูปูเสื่อ “จอร์จ” กอริลล่าที่ฉลาดกว่าสายพันธุ์ทั่วไปเยอะมาก แต่ใครจะไปคิดว่าจากที่เชื่องๆ ยีนส์ในตัวของจอร์จกลับกลายพันธุ์เปลี่ยนไป ทำให้กลายเป็นกอริลล่าที่ตัวใหญ่และนิสัยดุร้าย ที่สำคัญคือการกลายพันธุ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับจอร์จเพียงตัวเดียว แต่เกิดขึ้นกับสัตว์ต่างๆ อีกมากมายจนกลายเป็นเรื่องเลวร้าย เมื่อพวกสัตว์เหล่านี้มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองเพื่อไปทำลายล้าง โอโคเยจึงจำเป็นต้องเข้ามาหยุดเรื่องนี้พร้อมกับผู้ช่วยอีกคน เพื่อต่อสู้และหยุดยั้งกับสิ่งที่เขาเคยเลี้ยงมากับมือ เรื่องนี้ดูเพลินๆ พอนะ อย่าคิดเยอะมาก
10. The Rundown
ปิดท้ายกันด้วยหนังเดอะร็อครุ่นบุกเบิกสมัยตัวใสๆ และยังไม่ได้มีกล้ามโตเท่าปัจจุบัน โดยเรื่องนี้เขาได้รับบทเป็น เบ็ค ผู้ที่ต้องทำงานให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม เพียงแค่จ้างเขาและเขาจะไปเอามันมาให้โดยใช้สติปัญญา และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขานั่นเอง และเมื่อเขาต้องการจะสะสางงานสุดท้าย จากผู้ว่าจ้างคนหนึ่งได้จ้างให้เขาเข้าไปยังป่าอเมซอน เพื่อไปตามหา เทรวิส และพาตัวกลับบ้านเท่านั้นเอง เรื่องที่ดูเหมือนง่ายสำหรับเขา แต่พอมาเจอจริงๆ แล้วกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะเทรวิสนั้นเป็นพวกปลิ้นปล้อนและมักจะสรรหาคำพูดมาทำให้ตัวเองรอดอยู่เสมอ แน่นอนว่าเทรวิสไม่อยากกลับบ้าน แต่ยังเพิ่มปัญหามาให้เบ็คอีก เนื่องจากเขามีของบางอย่างที่ใครๆ ก็อยากได้ และยังมีมาเรียน่าสาวพื้นเมืองที่กุมความลับบางอย่างไว้ กับแฮทเชอร์เจ้าของเหมืองสุดบ้าคลั่งที่ตามตัวเทรวิสและไล่ล่าเบ็คไปด้วย เพราะคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน ทั้งหมดจึงต้องช่วยกันสู้ก่อนจะพาตัวเทรวิสกลับบ้าน
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นหนังเดอะร็อคที่เราได้มาฝากกันทั้ง 10 เรื่อง ครบทุกรูปแบบทุกแนวตั้งแต่หนังใหม่ไปถึงหนังเก่าๆ ที่ยังคงมีความสนุกอยู่ทุกครั้งที่ได้หยิบขึ้นมาดู ใครที่ชื่นชอบนักแสดงอย่างเดอะร็อค และยังไม่เคยดูเรื่องไหนก็ลองหามาดูกันได้เลย ส่วนใครที่ดูครบทุกเรื่องแล้วจะย้อนกลับมาดูใหม่ก็ยังสนุกเหมือนเดิมแน่นอน ส่วนหนังเรื่องใหม่ๆ ของเดอะร็อคในตอนนี้เท่าที่รู้ก็จะมีเรื่อง Black Adam ของจักรวาล DC ที่จะเข้ามาปีหน้า และก็อาจมี San Andreas 2, DC League of Super-Pets (พากย์เสียงให้) และคิดว่าจะมีอีกหลายเรื่องที่เขาจะมาแสดงให้เราได้เห็นกันอีกเพียบแน่นอนในปีหน้า ใครที่เป็นแฟนๆ ก็รอติดตามดูกันได้เลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ