Vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ติดอันดับแบรนด์สมาร์ตโฟนยอดขายสูงสุดอันดับ 5 ของโลก ข้อมูลจากยอดขายสมาร์ตโฟนล่าสุดประจำปี 2563 ของไอดีซี[1] (Internet Data Center – IDC) องค์กรผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 8.6% และยอดจัดส่งเกิน 110 ล้านเครื่อง เติบโตจากปีที่แล้วมากกว่า 1% โดย Vivo นับเป็น 1 ใน 5 แบรนด์สมาร์ตโฟนที่สามารถคงระดับการเติบโตของยอดจัดส่งแม้ตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกโดยรวมจะหดตัวลง พิสูจน์คุณภาพที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลกด้วยกลยุทธ์และเทคโนโลยีระดับโลกที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ในทุกช่วงวัย
ในปีที่ผ่านมา Vivo ได้ขยายตลาดออกไปนอกเหนือทวีปเอเชีย โดยประกาศวางจำหน่ายสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ในทวีปยุโรป ด้วยกลยุทธ์ “More local, more global” หรือยิ่งเข้าใจท้องถิ่นที่เข้าไปทำธุรกิจมากเท่าไหร่ ยิ่งก้าวสู่ความเป็นบริษัทระดับโลกมากขึ้นเท่านั้น พร้อมประกาศความร่วมมือกับสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรปหรือยูฟ่า (UEFA) สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปประจำปี 2020 และ 2024 โดยบทบาทของ Vivo คือการเป็นโกลบอล สมาร์ตโฟน (Global Smartphone) ของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ก้าวสู่แบรนด์ระดับโลกอย่างแท้จริง สอดคล้องกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลกของแบรนด์
ด้านนวัตกรรมใหม่ Vivo ได้รับการยอมรับในระดับสากลจากดีไซน์กล้องถอดได้บนคอนเซ็ปต์สมาร์ตโฟน Vivo IFEA ที่ คว้ารางวัลดีไซน์คอนเซ็ปต์ยอดเยี่ยมจาก Red Dot Award 2020 ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกในฐานะของรางวัลออสการ์แห่งโลกดีไซน์ โดย Vivo IFEA จะมอบประสบการณ์ถ่ายภาพและวิดีโอในยุค 5G ที่อิสระมากขึ้น หลุดจากกรอบของกล้องมือถือเดิมๆ
สำหรับประเทศไทย แบรนด์ Vivo ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคดีขึ้นและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยบริการและเทคโนโลยีที่โดนใจผู้บริโภค ขึ้นแท่นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 1 ของไทย ในไตรมาสที่ 2 (ปี 2563) กวาดส่วนแบ่งการตลาดไปถึง 19.5% (ที่มา IDC[2]) และยังคงเป็นแบรนด์ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องยืนยันด้วยสถิติอันดับ 1 แบรนด์สมาร์ตโฟนที่มียอดจัดส่งถึง 21% ในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ 19% ในประเทศไทย สูงสุดต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา (จัดอันดับโดย Canalys[3]) ซึ่งสุดยอดเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ Vivo นำสู่ตลาดสมาร์ตโฟนเพื่อมอบประสบการณ์และตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคชาวไทยตลอดทั้งปี 2563 มีดังนี้
รองรับเทคโนโลยี 5G
ผ่านสมาร์ตโฟนเรือธงทั้งสองรุ่นอย่าง Vivo V20 Pro 5G และ Vivo X50 Pro 5G เพิ่มประสิทธิภาพทั้งการอัปโหลดและดาวน์โหลดข้อมูลที่เร็วและแรงที่สุดในยุคนี้
เทคโนโลยีกล้องกันสั่นแบบ Gimbal
บน Vivo X50 Pro สมาร์ตโฟนเครื่องแรกของโลกที่มีเทคโนโลยีกล้องกันสั่นแบบ Gimbal ช่วยให้ทุกภาพถ่ายคมชัดทุกการเคลื่อนไหว ให้คุณได้บันทึกภาพในทุก ๆ ช่วงเวลาแห่งความสุขของชีวิตได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด
ระบบโฟกัสด้วยสายตา (Eye Autofocus)
โฟกัสดวงตาได้ชัดไม่มีหลุดที่มีบนสมาร์ตโฟน Vivo V20 ซีรีย์ และ Vivo X50 Pro สามารถเคลื่อนไหวและแสดงอารมณ์ได้อย่างเต็มที่ ระบบจะโฟกัสติดตามดวงตาของคุณอย่างแม่นยำ ให้คุณไม่พลาดทุกช่วงเวลาที่น่าจดจำ
เซลฟีและถ่ายภาพได้ทุกเวลาด้วย Super Night Mode / Super Night Selfie
ไร้อุปสรรคในการถ่ายภาพและถ่ายเซลฟีแม้ในที่แสงน้อยบนสมาร์ตโฟน Vivo V20 ซีรีส์ และ Vivo X50 Pro ด้วยโหมด Super Night Selfie และฟีเจอร์ Selfie Softlight Band มอบอุณหภูมิสี ที่สมบูรณ์แบบ และให้โทนสีผิวที่เป็นธรรมชาติ รวมทั้งถ่ายภาพกลางคืนผ่านกล้องหลังได้อย่างคมชัดสวยงาม
[1]ข้อมูลอ้างอิงจาก IDC: https://www.idc.com/getdoc.jsp?containerId=prUS47410621
[2] ข้อมูลอ้างอิงจาก IDC: https://www.idc.com/getdoc.jsp?containerId=prAP46922420
[3] ข้อมูลอ้างอิงจาก Canalys บริษัทวิเคราะห์ตลาดเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก: ลิงก์ข้อมูล